สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 167 อะไรคือการชอบ (1)



ตอนที่ 167 อะไรคือการชอบ (1)

“ท่านหมายถึงคุณเซี่ยเหรอครับ?”

“ไม่ใช่” ไปเยถึงปฏิเสธทันที จากนั้นก็เงียบไปพักใหญ่ แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “ซูเย่ต่างหาก เธอมีแฟนใหม่ แต่อีกฝ่าย… เหมือนสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร จนถึงตอนนี้เธอก็ยัง ไม่โทรหาคนนั้นสักที บอกแค่ไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ ฉันไม่เข้าใจผู้หญิงเลยมาถามนายว่าเรื่องนี้มันปกติไหม

เขาแสร้งทำเหมือนมีเรื่องนี้จริงๆ จนทำให้เหลิงเฟยเชื่อ หมดใจ

“ถ้าเป็นแบบนี้…ความจริงผมก็ไม่รู้ว่ามันปกติหรือไม่ ปกติ” เหลิงเฟยสวมบท พี่ชายที่รู้ใจ อย่างจริงจัง “อาจจะ เพราะคุณเย่ไม่ค่อยชอบอีกฝ่ายหรือเปล่า”

“ไม่ค่อยชอบ? ทำไมถึงไม่ชอบล่ะ?” ไปเย่นิ่งไม่พอใจกับ คำตอบนี้เป็นอย่างมาก “ในเมื่อนายไม่รู้ว่ามันปกติหรือไม่ปกติ จะตอบมั่วทําไม!”

เหลิงเฟยที่ถูกตวาดสั่งสอนงุนงง ไม่เข้าใจอารมณ์ ดุร้ายของท่านประธานาธิบดีว่ามาได้อย่างไร เขาตอบเพียง “ครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจจริงๆ ไม่ตอบมั่วแล้วครับ

ไปเย่นิ่งแค่นหัวเราะ จากนั้นก็ไม่ปริปากอีก
ทว่าสักพักเสียงของเขาก็แว่วดังมาอีกครั้ง เมื่อกี้นาย บอกว่า…ไม่ค่อยชอบ คำตอบนี้มาได้ยังไง”

“ผมพูดได้แล้วเหรอครับ”

ให้พูดก็พูด พูดมากทำไม!

เหลิงเฟยกระแอมไอไปที ยึดตัวนั่งตรง ถึงผมจะไม่ค่อย เข้าใจผู้หญิง แต่ว่าผมไม่เหมือนท่าน ท่านไม่เคยมีแฟนมาก่อน อย่างน้อยผมก็เคยมีมาแล้วสองสามคน

“ตอนนี้นายกำลังเยาะเย้ยฉัน?” น้ำเสียงของเขาเลือก เย็นจนยากจะคาดเดา

“อา ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่แบบนั้น ผมกำลังหมายความว่าท่า นบริสุทธิ์นะครับ!” เหลิงเฟยรีบอธิบาย ตามด้วย “เมื่อก่อนที่ ผมมีแฟน ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแฟนผมก็จะกระวนกระวายแทบ ตาย วันๆ โทรตามเป็นสิบๆ สาย ตอนนั้นยังไม่ได้ทำงานกับ ท่านเลยมีเวลามีแฟนได้ แต่ละคนที่คบตัวติดขึ้นเรื่อยๆ เช้า ขึ้นเรื่อยๆ ตอนผมทนไม่ไหวพวกเธอก็จะบอกว่านั่นคือความรัก คือการแคร์ เพราะงั้นถ้าคุณเย่แคร์แฟนใหม่ตอนนี้จริงๆ ต้อง โทรหาแน่นอนไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม ผมเลยสรุปว่าในโลกนี้ ไม่มีผู้หญิงที่เข้าใจอะไรง่ายๆ มีแต่ผู้หญิงที่ไม่แคร์คุณพอ ก็ เลย…”

“พอ นายหุบปากได้แล้ว”

“ผมแค่รู้สึกน่ะ ว่าในใจคุณเย่อาจมีคนอื่น…
เป็นครั้งแรกที่ไปเย่นิ่งรู้สึกว่าเหลิ่งเฟยช่างพูดมาก รำคาญจนกระชากสายหูฟังออก มองมือถือแวบหนึ่ง ยังคง เงียบสงัดไม่มีแม้แต่ข้อความเดียว

ณ โรงแรม King ไปเฉิงมีเส้นทางพิเศษเพื่อขึ้นไปชั้นที่ 88 ด้านบนสุด เขาสแกนรอยนิ้วมือเสร็จประตูก็เปิดโดย อัตโนมัติ

เขาเดินเข้าไป ภายในห้องไม่มีแสงเลยแม้แต่นิด เขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย เดินเข้าไปในห้องครัวท่ามกลางความมืด ยัง ไม่เปิดไฟแต่อย่างใด ในห้องครัวไม่ได้กลิ่นควันหรือน้ำมันสัก

แปลว่า…

เธอไม่ได้อยู่ที่นี่? เขายืนนิ่งอยู่ในห้องครัวชั่วครู่ หันหลังกลับไปกวาดมอง ห้องที่ว่างเปล่า พลันนึกถึงคำพูดของเหลิงเฟยในรถเมื่อครู่ รู้สึกหงุดหงิดจนกระชากเนกไทออกทิ้งไว้อีกด้านหนึ่ง

หยิบเหล้าจากบาร์มาหนึ่งขวดลวกๆ เปิดฝาแล้วเทใส่แก้ว เดินผ่านห้องโถงกลางไปยังระเบียงด้านนอก

ใจว้าวุ่นเล็กน้อย

ทันใดนั้นมือถือก็แผดเสียงขึ้น แสงจอสว่างโร่ เขาหยิบขึ้น ดูแวบหนึ่ง อาศัยความจำปราดเดียวก็จำได้ว่าเบอร์นี้คือเบอร์ของซ่งเหวย แปลกเหลือเกิน! นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของเขา มี เพียงคนที่บ้านไม่กี่คนที่รู้ ซึ่งเหวยได้เบอร์นี้มาได้อย่างไรกัน คงเป็นเพราะผู้เป็นบิดาอย่างแน่นอน

สีหน้าเรียบนิ่งกว่าเดิม กดรับสายพลางแนบชิดหู เขาไม่ ได้เอ่ยปากทันที ซึ่งเหวย ในอีกฝั่งของสายก็เงียบไปสักพักถึง เอ่ยออกมาช้าๆ “ฉันเองค่ะ

น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความขัดเขินและระมัดระวัง เล็กน้อย

ไปเย่นิ่งไม่พูดอะไร ฝั่งซ่งเหวยจึงยิ่งกระวนกระวาย เข้าไปใหญ่ พักใหญ่ถึงพูดต่อ “ข่าวสองวันนี้ฉันเห็นหมดแล้ว ล่ะค่ะ”

“งั้นเหรอ” เขาดูเฉื่อยชาและไม่จริงจังสักเท่าไร “คุณซึ่ง คิดว่ายังไงบ้างครับ

ทางซึ่งเหวยอีกัดปาก ใจรู้สึกไม่พอใจมากเหลือเกิน แต่ กลับไม่กล้าซักไซ้ กลัวผู้ชายคนนี้รำคาญตน จึงตอบเพียง “คุณ พ่อบอกว่าเราสองคน…ต้องแต่งงานกันเลย เลื่อนวันเข้ามาแล้ว ด้วย”

“แปลว่าคุณอยากแต่งงานกับผมจริงๆ สินะครับ?” ไป เฉิงถาม แววตาล้ำลึกดุจฟ้ายามค่ำคืนด้านนอก นิ้วเรียวได้ เล่นรอบแก้วเหล้า ในยามค่ำคืนนี้ แววตาเขาลึกซึ้งยากจะคาด เดาอารมณ์

ซ่งเหวยอีใจเต้นรัว ตอบรับเสียงเบา ซึม
เขาเอ่ยถามอีก “คุณชอบผมงั้นเหรอ?”

ค่าง่ายๆ ที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า เต็มไปด้วยเสน่ห์หา ในยามค่ำคืนเช่นนี้ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนได้ยินเข้าก็คงจะหน้า แดง ใจเต้น!

ซึ่งเหวย หน้าแดงแปร๊ด ก่อนตอบอย่างลำบากใจ “คุณ เป็นประธานาธิบดีที่ประชาชนรักใคร่ ฉันเชื่อว่าไม่มีใครไม่ชอบ คุณหรอกค่ะ เพราะงั้น…ฉันชอบคุณจากใจจริงค่ะ

ยามที่เธอตอบเช่นนี้ลิ้นแทบพันกันเป็นปม ให้ตายสิ เธอ ไม่เอาไหนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน

“ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้รักคุณ แต่งงานกับคุณตอนนี้ก็แค่ ผลประโยชน์ กำลังหลอกใช้คุณอยู่ คุณยังจะแต่งงานกับผมอีก เหรอ?” ไปเย่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบๆ จนอาจเรียกได้ว่าอ่อน โยน แต่ว่าคำพูดที่ออกมานั้นกลับใจร้ายได้มากเท่าไรก็มากได้ เท่านั้น

แต่ว่าหากเทียบกับคำเสแสร้งไม่จริงใจ ผู้ชายที่พูดตรงไป ตรงมาแบบนี้กลับยิ่งทำให้ซ่งเหวยอชื่นชม เขามีความมั่นใจ มากพอถึงกล้าพูดแบบนี้ได้

ในใจซ่งเหวยอีเกิดความรู้สึกอยากครอบครองครั้งแล้ว ครั้งเล่า “ค่ะ ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงกับฉัน ฉันก็จะแต่งถ้าคุณ อยากหลอก ใช้ฉัน ฉันก็ยอม

ไปเฉิงหัวเราะเสียงต่ำ ทั้งที่เสียงหัวเราะนั่นไพเราะมาก จนอดใจสั่นไม่ได้ แต่ว่าพอซ่งเหวยได้ยินกลับทำให้เธอหวั่นใจ เธอไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้ ไม่รู้ว่าเสียงหัวเราะนั่นหมายความ ว่าอย่างไร

จากนั้นก็ได้ยินเพียงเสียงทุ้มต่ำของเขาดังแว่วมาจากอีก ฝั่งของสาย “ในเมื่อคุณตั้งใจขนาดนี้ งั้นเลื่อนงานแต่งงานมา เป็นอีกห้าวันหลังจากนี้ไหม?

“จริงเหรอคะ?”

“ใช่”

“งั้น…ฉันจะไปคุยกับคุณพ่อเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!” ทางซึ่งเหวย ตื่นเต้นแทบทนไม่ไหว

ไป๋เย่นิ่งไม่ตอบอะไรอีก พลางกดตัดสายทันที เก็บรอยยิ้ม แล้วหรี่มองหน้าจอไปที สีหน้าเย็นชาขึ้นมากในเวลาอันสั้น เขา หยิบมือถือแล้วกดบล็อกเบอร์แปลกนั่นอย่างไม่ลังเลทันที

อีกห้าวันหลังจากนี้ จะเป็นการเปิดฉากละครครั้งใหญ่! ใน เมื่อสองพ่อลูกนั่นอยากเข้าร่วมจนแทบทนไม่ไหว ก็จะให้พวก เขาได้แสดงต่อไป!

เขายกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดถึงเดินกลับห้องโถงแล้วเดิน ตรงไปยังห้องนอน เพลิดเพลินกับความมืด ขณะที่เดินผ่านห้อง โถงก็เผลอเตะมุมโซฟาเข้า โซฟาถูกชนจนเคลื่อนที่ไปเล็กน้อย

เสียงครางอ่อนดังมาจากโซฟา ไปเย่นิ่งนิ่งงัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ