ตอนที่ 126 ชอบกับรักมันต่างกัน (3)
เชี่ยชิงเฉินเผยยิ้มบางๆ “นอกจากอยากนอนกับฉัน ความจริง คุณก็รู้สึกดีกับฉันอยู่บ้าง ใช่ไหมคะ”
ไปเย่นิ่งมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง ไม่ได้เอ่ยอะไร
เธอจึงพูดต่อ “แต่ว่า…ท่านประธานาธิบดี ความรู้สึกดีๆ เล็กน้อยนั่นไม่ใช่ความรักหรอกนะคะ ก็เหมือนที่ฉันรู้สึกกับ คุณ…”
“คุณรู้สึกกับผม…ยังไง” ไปเฉิงจดจ้องเธอด้วยสายตา เฉี่ยวดุจเหยี่ยว
แพขนตาของเซี่ยซิงเฉินหลุบมอง ไม่ได้มองเขาอีก กลีบปากขยับเล็กน้อย พลางเอ่ยเสียงเบา “ฉันก็แค่คนธรรมดา เลยชื่นชอบการกระทำของคุณ สยบต่อความกล้าหาญของคุณ หรือกระทั่งเป็นเพราะคุณเคยช่วยฉันจากอันตราย ฉันเลย ชื่นชมคุณ พึ่งพาคุณ หรือบางทีเห็นคุณวุ่นกับงานก็จะปวด ใจ…”
สีหน้าไปเยถึงค่อยๆ คลายตัวลง ยกยิ้มมุมปาก แต่ว่ารอย ยิ้มนั่นอยู่ได้แค่เพียงชั่วพริบตา เมื่อได้ยินคำพูดของเธอใน วินาทีต่อมา รอยยิ้มก็เหือดหาย สีหน้าเรียบนิ่งทันที
“แต่ว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความรัก ถือเป็นแค่ความรู้สึกดีหรือ ความสนใจที่ฉันมีต่อคุณเท่านั้นเอง หลังจากวันนี้ถ้าเราหายไปจากชีวิตกันและกันอย่างสิ้นเชิง อาจไม่ต้องใช้เวลาถึงเดือน พวกเราก็จะไม่คิดถึงกันและกันอีก…
เธอชอบตอนที่ได้อยู่กับเขาจริงๆ ทั้งสบายใจและเงียบ สงบ บางครั้งตอนที่มีลูกอยู่ด้วย แม้แต่ตัวเธอเองยังรู้สึกอบอุ่น จนแทบทำให้เธอถลำลึกไปกับมัน แต่ว่าคำพูดของซ่งถั่วเหยา ในวันนี้ทำให้เธอคิดได้ เธอรู้ว่าพวกเธอสองคนควรถอนตัวให้ เร็วที่สุด หากยังเล่นเกมที่คลุมเครือต่อไป ก็มีแต่จะเจ็บตัวและ ปวดใจ
กลีบปากบางของเขาเม้มแน่น “แล้วยังไงล่ะ”
ก่อนหน้านี้ไปเช่นิ่งอย่างเขาไม่เคยรักผู้หญิงเลยแม้แต่คน เดียว แม้กระทั่งความรู้สึกดีๆ ต่อผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยมี แต่ ว่าความรักคืออะไร เขาก็พอรู้อยู่บ้าง
มันทำให้กระวนกระวายอยู่ไม่สุข ทั้งอยากได้และกลัวสูญ เสีย จนไม่เป็นอันกินอะไร ตอนนี้สำหรับความรู้สึกที่เขามีต่อเธอแล้ว เป็นความกังวล
ที่ยากจะสงบ แต่ถึงขั้นไม่เป็นอันกินเลยเหรอ เห็นที่ยังไม่ใช่
ดังนั้นคำพูดของเธอคงไม่ผิดนัก แต่ว่าผู้หญิงคนนี้มี เหตุผลชะมัดเลย!
พอได้ยินเธอบอกว่าไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะไม่นึกถึงเขาอีก ก็ รู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์ขึ้นมา
“เพราะงั้นแล้วต่อจากนี้ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญมากเราควรเลี่ยงที่จะเจอกันเถอะค่ะ เรื่องเมื่อคืนยิ่งเกิดขึ้นไม่ได้อีกเด็ด
ขาด…” พอพูดถึงท้ายประโยค เสียงของเธอก็แผ่วเบาลงเรื่อยๆ แต่ชัดว่าเธอได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว น้ำเสียงก็หนักแน่น
สีหน้าไปเย่นิ่งดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ ตามคำพูดของเธอ แววตาก ยิ่งเย็นซากว่าเดิม
“ตัดสินใจจะใช้เวลาหนึ่งเดือนลืมผมให้ได้ ใช่ไหม” ไป เฉิงจ้องมองเธอด้วยแววตาขุ่นมัว
แพขนตาของเซี่ยซิงเฉินกะพริบเบาๆ แม้จะไม่ได้เอ่ยอะไร ออกไป แต่ความเงียบของเธอก็เป็นการยอมรับกลายๆ เธอไม่ เพียงแต่หวังว่าตนจะสามารถลืมเขาได้ภายในหนึ่งเดือน แต่ เธอยิ่งหวังให้ลืมผู้ชายคนนี้ได้อย่างหมดใจภายในยี่สิบวัน ทางที่ดีที่สุดคือไม่ต้องนึกถึงอีกตลอดชีวิต
“ถ้าอีกหนึ่งเดือน ปรากฏว่าลืมไม่ลงล่ะ”
“ไม่มีทางหรอก อีกหนึ่งเดือนจะเป็นแค่สิ่งยืนยันว่าฉัน สามารถลืมได้ ส่วนคุณ…” เสี่ยชิงเฉินเพิ่งเงยหน้าขึ้นมองเขา “อีกหนึ่งเดือน คนที่ใจคุณควรจะนึกถึงก็คือซ่งเหวย คนที่คุณ อยากนอนด้วยก็ต้องเป็นซ่งเหวยอี
ไปเยฉิงมองเธอด้วยสายตากดดัน “ถ้าอีกหนึ่งเดือน คนที่ ผมอยากนอนด้วยยังเป็นคุณล่ะ!?”
เธอกะพริบตาปริบ แววตาเจ็บปวด ในความมืดมัวนั้น ดวงตากลับแดงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “ฉันก็คงพูดได้แค่ว่าขอโทษค่ะ ฉันไม่มีเหตุผลที่ต้องทำร้ายตัวเองด้วยการไปเป็นมือที่สาม ต่อให้คุณเป็นประธานาธิบดี ฉันก็ยังมีศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่
เขารู้สึกเจ็บแปลบที่อก เพราะความใจร้ายและเยือกเย็น
ของเธอ
ดวงตาไปเฉิงฉายแววความมืดหม่นอย่างอันตรายชั่วครู่ หนึ่ง จู่ๆ ก็กระชากตัวเธอเข้ามา เธอใช้สองมือขึ้นตัวไว้ แต่กลับ ถูกเขาที่ไวกว่าเอื้อมมือไปทางด้านหลังเพื่อกักตัวไว้ ตามด้วย มืออีกข้างที่สอดผ่านกลุ่มผมเธอ หรืออาจบอกได้ว่าประคอง ต้นคอเธอไว้ จูบที่แสนเอาแต่ใจและร้อนแรงถูกประทับลงมา จูบนี้ เหมือนต้องการประทับลมหายใจทั้งหมดของเขาไว้ใน โพรงปากและความทรงจำของเธอ จึงเป็นจูบที่ทั้งดุดันและหนัก หน่วง ไม่นานเซียซิงเฉินก็รู้สึกว่าริมฝีปากตนถูกเขาครอบครอง จนชาไปหมด เรี่ยวแรงก็ถูกจูบของเขาสูบไปจนหมดสิ้น จากนั้น แม้แต่แรงขัดขืนก็ค่อยๆ เหือดหายไปจนไม่เหลือ
น้ำตาหนึ่งหยดค่อยๆ ไหลจากหางตาไปที่ริมฝีปากของทั้ง คู่ แผ่ซ่านความขมขื่นและเจ็บปวดไปทั่วช่องปาก
งานหมั้นหมายของเขาต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว นั่นเป็นเรื่อง ใหญ่โตระหว่างผู้ชายอย่างพวกเขา ไม่มีใครเปลี่ยนมันได้ และ เธอก็ไม่ได้โง่ถึงขั้นคิดว่าตนสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ด้วย
ในที่สุดไปเฉิงก็ไปเสียที เซี่ยซิงเฉินยังยืนนิ่งอยู่ตรงทาง เดินอีกสักพัก เธอรู้สึกเพียงหนาวอย่างบอกไม่ถูก มุมข้าง กำแพงมีถุงที่ใส่ชุดราตรีและเครื่องประดับวางอยู่ เขาไม่ได้เอาไปด้วย ของที่แพงขนาดนั้นเธอไม่มีทางทิ้งไปได้แบบนี้จริงๆ
หรอก
สูดจมูกเข้าไปที่ พยายามกลั้นความแสบที่ปลายจมูกนั้น ลง ถือของเดินเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
เมื่อไปเย่นิ่งกลับถึงทำเนียบประธานาธิบดี ปรากฏว่า เซียต้าไปยังไม่นอน พอได้ยินเสียงเขาก็รีบวิ่งออกมาจากห้อง นอนเสียงตึงตัง
เสียงใสเอ่ยเรียกเขา “เสี่ยวไป์”
เขาขมวดคิ้ว เงยหน้ามองเด็กน้อยอยู่บนโซฟา “ทำไมยัง
ไม่นอน”
“รอพ่อไง” เซี่ยต้าไปวิ่งลงมาจากชั้นบนแล้วนั่งลงตรงหน้า เขา เท้าเล็กที่ขาวนิ่มนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟา ไปเยถึงปราย ตามองแวบหนึ่ง ทำแค่นั่งหลังตรงแล้วเอ่ยถาม “มีเรื่องอะไร
“เมื่อไหร่พ่อจะรับหม่ามี้เรากลับมาล่ะ”
ไป๋เยฉิงขมวดคิ้วจนเจ็บแปลบ ตอบกลับเด็กน้อยไปอย่าง เย็นชาว่า “ไม่รับ!”
คิ้วบางของเซี่ยต้าไปขมวดขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ กับคำพูดแสนเย็นชาและห้วนของเขามากๆ สักพักก็มีท่าทาง เป็นผู้ใหญ่ ทำสีหน้าพร้อมจะเอ่ยสั่งสอน “เสี่ยวไป รู้รึเปล่าว่า พ่อทำอย่างนี้มันเป็นการกระทำที่ไม่มีความรับผิดชอบ จะสอนให้ลูกเสียคนได้นะ! พ่อนอนกับหม่ามีเราแล้ว พ่อจะไม่รับแม่
กลับมาได้ยังไง”
เสียงเซี่ยต้าไปไม่เบานัก คนรับใช้ทั้งห้องได้ยินคำพูดของ เด็กน้อยกันถ้วนหน้า พอคำแบบนั้นออกมาจากปากของเด็ก น้อย ฟังอย่างไรก็รู้สึกน่าขำ พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงแทบกลั้น ไว้ไม่อยู่
ใจของไปเฉิงสับสนวุ่นวายมากกว่าเดิม เขากระชากเนก ไทออก พลางโยนทิ้งไว้ข้างๆ “ลูกอย่าพูดมาก รีบขึ้นไปนอนได้ แล้ว”
“พ่อเปลี่ยนใจแล้วใช่ไหม”
เซี่ยต้าไปไถตัวลงจากโซฟา ดวงตาคู่โตจ้องมองเขาด้วย ท่าทางซักถาม
“เปลี่ยนใจอะไร แม่ของลูกบอกเป็นคนบอกก่อนเองว่าจะ ลืมพ่อน่ะ ถ้าลูกอยากจะถามก็ไปถามเธอสิ
“ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อรังแกหม่ามีเรา หม่ามีจะพูดได้ยังไงว่า จะลืมพ่อน่ะ” เซียต้าไปพูดตอบ
ไปเย่นิ่งปิดหูขาวนิ่มของเด็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ ไม่กล้าออกแรงจริงจัง “ลูกสองมาตรฐานไปรึเปล่า เธอเป็นแม่ ของลูก แต่พ่อก็ยังเป็นพ่อของลูกนะ!”
เจ้าเด็กตัวแสบ ลำเอียงเกินไปแล้ว!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ