ตอนที่ 121 ของขวัญสุดพิเศษ (2)
อีกยี่สิบวันจะมีงานหมั้นหมายระหว่างเธอกับท่าน ประธานาธิบดี ถึงเวลานั้น ของขวัญที่ผมจะเตรียมให้บ่าวสาว คือเพชรเม็ดนี้…
ผ่านไปสักพักแล้ว แต่ในหัวของเซียซิงเฉินก็มีแต่ประโยค นี้ของซ่งถั่วเหยาดังก้องอยู่ เธอนิ่งค้างอยู่ตรงนั้น มือที่กำมือถือ ก็แข็งทื่อ ปลายนิ้วเย็นเฉียบ ไปเยเหลือบมองมาทางเธอเล็ก น้อย แววตาลึกล้ำ ยากที่จะคาดเดา
เมย์อยากจะพูดบางอย่าง เซี่ยซิงเฉินที่ได้สติกลับมาก็โบก มือเบาๆ จากนั้นก็ไม่ปริปากพูดอะไรอีก
เธอกลับมานั่งเก้าอี้อีกครั้ง เผลอมองเห็นสีหน้าได้ใจของ
ซึ่งเหวย ในใจรู้สึกเพียงว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ
ที่ตนมาแย่งชิงเพชรเม็ดนี้ ความจริงมันไม่มีความหมาย อะไรเลย
นี่คือเป้าหมายจริงๆ ที่ซึ่งถั่วเหยาเชิญเธอมาสินะ อย่าง แรกก็เพื่อให้เธอตระหนักถึงสถานะของตนที่เทียบไม่ได้กับกลุ่ม คนตรงนี้ สองก็เพื่อให้เธอรู้ถึงวันแต่งงานของไปเย่นิ่งกับซึ่ง เหวยอี
“ยังไหวไหม” ไปเย่หันหน้ามามองเธอที่หนึ่ง
เซียซิงเฉินเหยียดปากฝืนยิ้มบางๆ แสร้งเอ่ยอย่างสบายๆ ว่า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะประมูลเพชรเม็ดนี้มาเพื่อประดับผ้า ม่านสองร้อยหยวนผืนนั้นของฉันไม่ได้เด็ดขาด” เช่นเดียวกัน ไม่สามารถเรียกร้องอะไรที่น่าขำอย่างให้เขาทำอะไรที่มันเป็น ไปไม่ได้
ไปเย่แอบฉงนใจต่อคำพูดแปลกๆ ของเธอ เหมือนไม่ เข้าใจบางส่วน แต่ว่าเธอรู้ดี ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก เซียซิง เฉันเป็นคนฉลาด หัวใจราวกับกระจกใส เธอรู้ว่าความหมาย ของงานแต่งงานนี้รวมถึงสถานะของเขาที่เป็นประธานาธิบดี บนบ่านั้นแบกรับภาระหน้าที่อันหนักหน่วงอยู่
จากนั้นเซี่ยซิงเฉินก็ไม่ถูกจับฉลากโดนอีกเลย ส่วนมือถือ ก็ไม่มีข้อความของเขาส่งมาอีก ใจของเธอไม่ได้อยู่ในงาน ประมูลนี้อีกต่อไป
“พี่เย่ ฉันขอไปห้องน้ำหน่อยนะคะ” ยามที่อัดอั้นในอก จนแทบทนไม่ไหว เธอก็บอกกับไปเยเสียงเบาไปประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ไม่ว่าอย่างไร การแสดงของเธอก็จบ ลงแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับเธออีก ส่วนรองรัฐมนตรีก็มี ล่ามอยู่ข้างกายตลอด เห็นที่เธอคงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะ
เมื่อเธอลุกออกไป เมย์ก็ได้รับสายสายหนึ่ง จึงไม่ได้ตั้งไว้
อีก
ยามนี้
ภายในห้องชุดสุดหรูชั้นบน ชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงนอก ระเบียง คอยมองสถานการณ์ชั้นล่างอยู่ สายตาของเขา สามารถมองเห็นงานชั้นล่างได้ทั้งหมด ส่วนคำพูดของซึ่งนิ้ว เหยาเมื่อครู่ แน่นอนว่าเขาไม่พลาดฟัง เงาร่างของเซียซิงเฉินที่ เดินออกไปก็อยู่ในสายตาเขาด้วยเช่นกัน
เหลิงเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ เหลือบมองสีหน้าเขา แสงยาม ค่ำคืนสะท้อนสีหน้าของเขาให้ดูลึกล้ำ จนยากจะคาดเดาความ คิดในใจของเขาได้
“ท่านครับ วันแต่งงานนี้ เหลิงเฟยที่ครุ่นคิดถ้วนดีแล้ว เอ่ยถามออกมา เมื่อพูดถึงตรงนี้ก็หยุดชะงักไปที
ไปเย่นิ่งเปิดปากพูดเสียงเรียบ “ฉันกับเขาตกลงกันเอง”
พูดถึงตรงนี้เขาก็ชะงักเล็กน้อย หันมองเหลิงเฟยไปที่ “ใน เมื่อรองประธานาธิบดีซึ่งยอมจ่ายหนักให้เพชรทรงหยดน้ำ งั้นฉันก็ต้องให้ของขวัญที่ดีกว่ากลับคืนไปใช่ไหม
“ความหมายของท่านคือ…” เหลิงเฟยมองด้วยสายตา หยั่งเชิง จากนั้นก็เข้าใจความหมายทันที “ท่านวางใจเถอะ ผม จะเตรียมให้อย่างดีเลยครับ
อีกด้านหนึ่ง เซี่ยชิงเฉินเพิ่งเดินออกจากงานประมูล รถยนต์หรูหราหลายคันกำลังพุ่งตรงมาทางนี้ ประตูทุกด่าน ไม่มีผลต่อรถเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย ไม่มีใครไปกล้าขวาง
เธอเผลอหยุดเดิน พลางยืนตัวตรง ภายในใจก็คิดแค่ว่า น่าจะเป็นคนสำคัญอะไรอีกเป็นแน่ ภาพแบบนี้ก็เคยพบปะมา มากพอ เธอเลยไม่ได้สงสัยอะไรอีก เพียงแต่ว่าก็ยังต้องเอ่ย ทักทายเสียหน่อย
เธอรอให้รถขับเข้ามาใกล้ เพียงแค่แวบเดียวเซียซิงเฉิน ดูรถแอสตัน มาร์ตินคันนั้นออก เมื่อสังเกตดูอีกที ก็เห็นว่าเป็น รถของหนูเจอหนุนอย่างที่คิด เพียงแต่ที่นั่งข้างคนขับกลับมีคุณ หญิงที่ดูสง่าผู้หนึ่งนั่งอยู่ เซี่ยซิงเฉินแอบรู้สึกคุ้นตา เธออาจจะ เคยเห็นในข่าวระหว่างประเทศ
รถยนต์เทียบจอด ขายาวของหยูเจ๋อหนันก้าวลงจากรถ เดินไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูข้างคนขับ พยุงคุณหญิงคนนั้นให้ลง จากรถ ท่าทีนอบน้อมและจริงจังของเขา เซียซิงเฉินรู้สึกว่า พบเห็นได้ยากเหลือเกิน น่าจะเกี่ยวกับคุณหญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ
ด้วยแสงไฟจากด้านนอก เซียซิงเฉินถึงมองเห็นทั้งสองคน ได้ชัดเจน
หญิงวัยกลางคนสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวแบรนด์ chanel เส้นผมถูกรวบเกล้าไว้หลังศีรษะ ท่วงท่างดงามสง่า เพียงพอที่จะเทียบกับออดรีย์ เฮปเบิร์นในสมัยก่อนได้ ใบหน้า ที่ทำให้รู้ว่าผ่านการดูแลรักษามาอย่างดีนั้นเผยยิ้มบางเบา ทุก อย่างดูพอเหมาะพอดี เซียซิงเฉินที่มองอีกฝ่ายอยู่นั้นกลับรู้สึก ถึงความใกล้ชิดอย่างบอกไม่ถูก
รอจนทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ เซียซิงเฉินก็ค่อยๆ หันตัวหลบไปยืนอยู่ด้านข้าง ก้มหัวเล็กน้อย
“ซิงเฉิน” หยูเจ๋อหนันตะลึงอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ เมื่อ กวาดสายตามองเธอในค่ำคืนนี้อีกครั้ง อาการตกตะลึงก็แล่น ผ่านแววตาไปชั่วขณะ
เซียซิงเฉินเงยหน้าขึ้นพูด “บังเอิญจัง” จากนั้นก็หันไป ทักทายคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หยูเนื้อหนันอย่างมีมารยาท “คุณหญิง สวัสดีค่ะ”
เธอดูออกแล้ว! คนคนนี้ก็คือคุณหญิงหลันถึงผู้โด่งดังใน สหประชาชาติ แต่ว่าเธอไม่ได้กลับประเทศมาหลายปีแล้ว คืนนี้ ปรากฏตัวที่นี่ได้ อาจจะเป็นเพราะถูกใจสินค้าบางอย่างในงาน ประมูล
“สวัสดี” คุณหญิงหลันถึงแย้มยิ้มเล็กน้อยพร้อมทั้งมอง ประเมินเซี่ยซิงเฉินด้วยท่าทางเป็นกันเอง แล้วก็หันไปมองชาย หนุ่มข้างตนอีกครั้ง ไม่พลาดที่จะเห็นอาการตกตะลึงในแววตา ของเขา…ที่ราวกับเจือไปด้วยความไม่มั่นใจ เธอหัวเราะแล้ว ตบเข้าหลังมือหยูเจ๋อหนันเบาๆ “ไม่แนะนำให้ฉันรู้จักหน่อยเห รอ”
เธอคิดแค่ว่าหนูเจ๋อหนันมีใจต่อหญิงสาวผู้นี้ เขาถึงได้ ประหม่าเช่นนี้
หยูเจ๋อหนันหลุดจากภวังค์ เหลือบมองเชียซิงเฉินไปที แล้วก็หันมามองคุณหญิงหลันถึง ขานรับในลำคอพร้อมเอ่ย “นี่ คือคุณเซียครับ เซี่ยซิงเฉิน เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายแปลคนหนึ่งในประเทศ S ของเรา และเป็นเพื่อนให้ผมแนะนำแล้วสินะ คุณจะเคยเห็นในทีวีมาก่อน
เซียซิงเฉินพยักหน้ายิ้มรับ พลางจับของคุณหญิง หลันถึงยื่นมาอย่างเซียซิงเฉินรู้สึกว่าเบื้องลึกของหัวใจอบอุ่นอย่างบอก ถูก เมื่อก่อนยามที่อยู่หน้าจอทีวี เห็นเธอยามกล่าวปราศรัย ด้วยท่าทางรู้จักกันจริงถึง ทั้งหมดนั่นเป็นเพียงการเข้าใจผิดไปเอง
“นานๆ ที่หญิงจะกลับประเทศ ต้องเที่ยวประเทศ S ของ
“ฉันอยาก แต่เสียดายที่ตารางเวลาแน่นไป อยู่ไม่
เอง เวลาแค่สองวัน เซียที่ๆ หรืออะไรอร่อย
แนะนำไหม”
“ในเมื่อมีเวลาแค่สองวัน ท่านลองเจอหนันท่านไปบริเวณเมืองหลวงสักหน่อยไหมคะ ตอนเมืองหลวงเปลี่ยนไป เยอะทราบว่าท่านชอบอาหารรสแบบไหนน่ะ”
ฉันค่อนข้างประเทศ ก็ของรสชาติดั้งเดิมแบบเมือง หลวงนี้ยากแล้ว ไม่ได้มาตั้งหลายปี ที่ฉันคิดถึงที่สุดก็ คือรสชาติหม่านี่แหละ
เซี่ยซิงเฉินหัวเราะ “บังเอิญจังเลยค่ะ รสชาติอาหารที่ดิฉัน ชอบเหมือนกับท่านเลย หม่าล่าดั้งเดิมที่ว่านั่นดิฉันพอจะรู้จัก อยู่หลายร้าน ถ้าอย่างนั้นรอให้ท่านว่างก่อน แล้วค่อยแนะนำ ให้ท่านดีไหมคะ”
หยูเจอหนันมองสองคนข้างกาย บทสนทนาของพวกเธอ ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติเหลือเกิน ใบหน้าของทั้งสองคน ประดับไปด้วยรอยยิ้ม ราวกับได้เจอเพื่อนเก่า
นี่มัน…
หรือว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดมันมหัศจรรย์ขนาดนี้
จริงๆ
[1] หม่าล่า รสชาติอาหารที่ให้ความรู้สึกเผ็ดๆ ชาๆ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ