ตอนที่ 119 การโต้กลับของเซี่ยซิงเฉิน(3)
“เธอ! กล้านักนะ!” ซึ่งเหวยที่ได้สติกลับคืนมา กัดฟันกรอด ยกมือขึ้นหมายจะตบเซียซิงเฉิน แต่เหมือนว่าเซียซิงเฉินจะเดา ทางเธอออก ก่อนที่เธอจะตวัดฝ่ามือลงมา ก็จับแขนเธอไว้แล้ว สะบัดออกไป
เหตุการณ์ไม่ได้ดีขึ้น ความเดือดพล่านของซ่งเหวยอีก ยากที่จะดับ เธอสะบัดหน้าไปตะโกนเสียงดังใส่พนักงาน บริการที่ยืนดูนิ่งอยู่ข้างๆ “จะยืนเฉยทำไม รีบเรียกรปภ.มาลาก ยัยผู้หญิงบ้าคนนี้ออกไปเดี๋ยวนี้!
ไปเย่เพิ่งเดินเข้าประตูมา ด้วยอุปนิสัยตามสายงานที่ ทำให้เธอต้องกวาดมองสำรวจไปทั่วงานตั้งแต่ก้าวเข้ามา ฉะนั้นแล้ว ในสถานการณ์ที่คนรอบข้างต่างไม่ได้สนใจ ฉาก ต่อกรระหว่างหญิงสาวสองคนตรงมุมห้องเมื่อครู่ เธอกลับเห็น ได้อย่างชัดเจน คิ้วงามขมวดเล็กน้อย สายตาตกอยู่ที่ใบหน้า ของเซียซิงเฉิน หลังจากประเมินสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่งก็พูด เสียงเบากับเพื่อนที่อยู่ข้างๆ สองสามประโยค จากนั้นก็ค่อยๆ เดินเข้าไปในกลุ่มหญิงสาวเหล่านั้นทันที
“แกหูหนวกหรือไง ฉันบอกให้แก่ลากมันออกไปไง!” ซึ่งเหวยอีตวาดเสียงต่ำ
อีกฝ่ายดูลำบากใจมาก ไม่กล้าทำอะไร ช่วงนี้รอง ประธานาธิบดีได้กําชับเป็นพิเศษว่าห้ามตามใจความเอาแต่ใจ ของคุณหนูอีกแล้ว คราวก่อนมีพี่น้องต้องสังเวยชีวิตไป พวก เขาก็ล้วนจดจำได้ดี ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริง ของเซียซิงเฉิน อย่างน้อยเธอก็มีบัตรเชิญ แถมยังสวมชุดราตรี และเครื่องประดับราคาหลายร้อยล้าน สถานะแบบนี้ถ้าไม่ใช่ คนมีฐานะก็คือคนใหญ่คนโต แล้วจะกล้าล่วงเกินได้อย่างไร หากรองประธานาธิบดีคาดโทษขึ้นมา พวกเขาคงรับผิดชอบไม่ ไหว
“ตอนนี้แม้แต่คำพูดของฉันพวกแกก็ไม่ฟังแล้วใช่ไหม พวกไร้ประโยชน์!” ซึ่งเหวยที่ไม่อาจอดกลั้นอารมณ์โกรธได้ อีก ยกมือหมายจะตวัดลงใบหน้าอีกฝ่าย
“เหวยอี” มือยังไม่ทันได้ประทับลง เสียงอันคุ้นเคยที่แฝง ด้วยความเฉยชาตามปกติก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ
มือของเธอค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ
กลุ่มหญิงสาวที่ล้อมเป็นวงอยู่เมื่อครู่ เมื่อเห็นคนที่เดินเข้า มา แต่ละคนก็รีบแหวกทางเดินให้โดยอัตโนมัติ
“รัฐมนตรีไป
“รัฐมนตรีไป สวัสดีค่ะ”
แต่ละคนที่เมื่อครู่ยังมีสีหน้าเ** ยมโหดต่อเซี่ยซิงเฉินกลับเปลี่ยนเป็นหน้า
เซียซิงเฉินทักทายเสียงเบา “รัฐมนตรี
ไม่คนนอกกันทั้งนั้น เรียกฉันว่า พี่เยพอน้ำ เสียงของไปเย่ราบเรียบ
ประโยค กลับสร้างความตกใจแก่คนทั้งหมดอีกครั้ง นิสัยเย็นชาของเย่เป็นเลื่องลือ งานวันถ้าไม่เรียก เธอว่า คุณไป” ต้องเรียกว่า รัฐมนตรีไปแล้วตกลงผู้หญิง คนคือใครสามารถเรียกรัฐมนตรีไปว่า พี่ได้คราว นี้
ความจริงการให้เรียกว่า “เย่ เซียซิงเฉินเองก็แอบ ตกใจเหมือนกัน แต่เธอกลบหน้านั้นทำเพียงยิ้ม ขอบคุณ ให้ซูเย่ที เธอว่าไปสถานการณ์นี้โดยเฉพาะ
ซิงเฉินสวมชุดราตรี แล้วก็ใส่เครื่องประดับเพชร อารมณ์จนต้องเธอออกเลยเหรอเจาะจงซ่งเหวยอีเพียงคนเดียว แต่ตวัดสายตาเย็นชาไปยัง คนรอบข้าง
คราวคนเหล่าขอโทษ รัฐมนตรีไป๋ พวก…
พอเถอะ ฉันมีเวลาว่างฟังพวกเธออธิบาย แล้วเลิกตรงสักทีไปเรียบนิ่ง ไม่เพียงพนักงานบริการข้างๆ ว่า มัวทำผ้ามาเช็ดหน้าให้คุณส่ง
“ครับ รัฐมนตรี
คำของเย่แม้เหมือนจะหาทางไม่เธอแย่ แต่ได้ว่าเข้าข้างเซียซิงเฉิน ซึ่งเหวยตระหนักอยู่ในใจดี ต่อหน้าไปเย่ เธอไม่อาจเอาแต่ใจมากนี้ ทำเพียง กล้ำกลืนปมที่โดนรังแกครู่ไป ยอมรับว่าตัวเองโชคร้าย เอง
นานก็คนส่งผ้ามาให้ทันที ไปพลางเช็ดหน้า ซ่งเหวย ด้วยตัวเอง ดูอ่อนโยนมาก คราวนี้เหวยถึงได้ อารมณ์ลงเล็กน้อย หน้าก็ดีเป็นกอง ไปเอ่ยขึ้น เธอชุดราตรีกับเพชรเธอชอบแน่
“ฉัน…ความจริงไม่ได้ชอบ” ซึ่งเหวยหน้าแดงเรื่อ ไม่ อยากไปเย่รู้สึกว่าตนเป็นคนใจแคบ
เอาล่ะ รีบเปลี่ยนชุดเถอะ อนาคตเป็นถึงว่าภรรยา ประธานาธิบดีซ่งเหวยอีเบา
ว่าภรรยาประธานาธิบดี คำพูดทำให้ซ่งเหวยเปลี่ยน หน้าเริงร่าทันที
ใจเซี่ยซิงเฉินอยู่ด้านข้างกระตุกไปเธอพยายามกลบสีหน้าเหมือนไม่สนใจอย่างไรอย่างนั้น พลางยกแก้วน้ำผล ไม้ข้างๆ ขึ้นจิบเล็กน้อย
ในที่สุดซ่งเหวยอีก็ไปเสียที
ไปเย่ค่อยๆ เดินเข้ามาหา แล้วมองเซียซิงเฉินพร้อมกับ
“ขอบคุณที่ช่วยฉันค่ะ รัฐมนตรีไป
ไปเยยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้น “เรียกฉันว่า “พี่เย” เถอะ เธอ เป็นแม่ของหลานฉันนะ พวกเราไม่ใช่คนนอกกันสักหน่อย
เซี่ยซิงเฉินจึงเอ่ยเรียก พี่เย” ไปที ไปเยหัวเราะเอ่ยต่อ “คิดไม่ถึงว่าที่แท้เธอก็ไม่ยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ นะเนี่ย”
“ฉันอดไม่ไหวน่ะค่ะ” เซี่ยซิงเฉินตอบ “ไม่รู้ว่าจะเพิ่ม
ปัญหาให้ท่านประธานาธิบดีรึเปล่า แต่ว่าถ้าฉันยอมให้เธอ
รังแก คราวหน้าเธอก็จะยิ่งไม่มีขอบเขต
เรื่องคราวก่อน หากไม่ใช่เพราะไป๋เย่นิ่งมาถึงก่อน เธอ อาจจะถูกพวกผู้ชายเหล่านั้นรุมโทรมแล้วก็ได้ ต่อให้สุดท้าย เธอจะยอมถอย แต่ว่าก็ไม่อาจหลบหนีจากการคุมคามของพวก เขาได้เลย
เพียงแค่นึกถึงเรื่องนี้ พออยู่ต่อหน้าซึ่งเหวย แน่นอนว่า เธอไม่สามารถสงบลงได้จริงๆ
ไม่มีน้ำกรดอย่างที่ว่าจริงๆ ก็ถือว่าเกรงใจมากแล้ว
“เรื่องของเธอคราวก่อน ฉันก็ได้ยินมาบ้าง การลงโทษเล็กๆ น้อยๆ ก็ถือว่าสมควรแล้วล่ะ” ไปเพูดจบ ก็กวาด สายตาประเมินเซี่ยซิงเฉินไปที
ชุดราตรีสีฟ้าครามขับสีผิวขาวผ่องของเธอให้ขาวซีดยิ่ง กว่าเดิม รูปร่างสูงเพรียว หุ่นเอวเอสก็ดูดีไม่หยอก บนคอที่ ประดับด้วยสร้อยคอมรกต โดดเด่นต้องตา ทำให้ทั้งตัวเธอดู ทั้งสง่าและงดงาม
“ก็ว่าทำไมซ่งเหวยถึงอิจฉาเธอขนาดนี้” ไปเพูดขึ้น “ชุดนี้ ต่อให้มีคนมากมายยอมจ่ายมากเท่าไรก็ไม่มีทางได้มา หรอกนะ นี่เป็นของที่คุณพ่อฉันแอบประมูลมาให้คุณแม่ฉันใน วันเกิดครบรอบ 60 ปี ไม่คิดเลยว่าตอนนี้ไปเฉิงจะเอามาให้ เธอเสียอย่างนั้น”
เซี่ยซิงเฉินไม่คิดเลยว่าของบนตัวเธอจะมีความหมายมาก ขนาดนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา รีบเอ่ย “ฉันไม่รู้เรื่องพวกนี้ เลย ถ้าอย่างนั้น ฉัน…
ไปเย่รู้ความคิดเธอ รีบเอ่ยขัดขึ้นมา “ไม่ต้องรู้สึกกังวล ไป ชุดนี้คุณแม่ฉันให้เฉิงไปนานแล้ว ว่ารอให้ถึงวัน แต่งงาน ก็มอบให้เจ้าสาวของเขาใส่ในคืนงานเลี้ยง แต่ตอนนี้ เห็นที…”
“ไปเย่นิ่งไม่ได้มีความคิดที่จะมอบให้เจ้าสาวของเขาเลย เมื่อพูดถึงประโยคนี้ ไป๋ซู่เย่ก็จ้องมองไปที่เขี่ยซิงเฉิน
เซี่ยซิงเฉินเข้าใจความหมายของเธอ ความตื่นเต้นและ เขินอายแล่นผ่านหัวใจของเธอ นิ้วเรียวแตะเข้าที่อัญมณีนั่นรู้สึกถึงเพียงปลายนิ้วที่เย็นเฉียบ
หมายความว่า…
ชุดที่ตนใส่คืนนี้ เดิมที่ควรจะเป็นของซ่งเหวย เธอก็ไม่ เข้าใจว่าเหตุใดไปเย่นิ่งถึงได้มอบให้ตัวเองเสียอย่างนั้น…
“พอเถอะ ไม่พูดเรื่องน่าเบื่อนี้แล้ว ในเมื่อคืนนี้มาแล้วก็ขอ ให้สนุกนะ” ไปเยส่งยิ้มบางๆ วางแก้วน้ำผลไม้ลง แล้วพูดต่อ “น่าจะไม่มีใครกล้ามาแกล้งเธออีกแล้วล่ะ ถ้าซ่งเหวยมาหา เรื่องเธออีก ก็อย่าลืมมาหาฉันล่ะ”
เซี่ยซิงเฉินยิ้มตอบบางเบา แล้วพูดตอบกลับไปว่า “ค่ะ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ