สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 110 คิดถึง (2)



ตอนที่ 110 คิดถึง (2)

เซียต้าไปชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุด พอได้ออกมาก็เหมือนได้ ปลดปล่อยอย่างไรอย่างนั้น เขากระโดดโลดเต้นไปมาอย่างมี ความสุข

“ต้าไป อย่าเดินไปเองนะ จับมือแม่ไว้

พอเธอพูด เซี่ยต้าไปก็เดินย้อนกลับมาอย่างเชื่อฟัง จับมือ

นิ่มไปกับมือของเธอ

“หม่า คราวหน้าเราพาเสียวไปมาด้วยกันเถอะ! เสี่ยวไป ต้องไม่เคยมาที่แบบนี้แน่ๆ เลย!” หัวเล็กๆ นั้นเงยหน้าขึ้นมอง ปากที่กัดถังหูลู่[1]อยู่ก็พูดกับเธออย่างดีอกดีใจ

ความเศร้าหมองปรากฏในแววตาเซียซิงเฉินชั่วครู่ เธอ กวาดสายตามองไปยังฝูงชนที่วุ่นวายแล้วส่ายหัว “เขาไม่ค่อย เหมาะกับที่แบบนี้หรอก

ช่วงนี้เขาคงยุ่งมากแน่ๆ ผ่านมาตั้งนานแล้ว ในข่าวก็ไม่มี การเคลื่อนไหวของเขาเลย ไม่รู้ว่าเขากำลังยุ่งอะไรอยู่

ถ้าไม่ใช่เพราะมีลูก ในหลายครั้งเธอแอบรู้สึกว่าการที่ได้ รู้จักกับเขาเหมือนเป็นความฝัน ตอนนี้ตื่นจากฝันแล้ว เขาก็ต้อง หายไปจากโลกของเธออย่างสิ้นเชิง หายไปอย่างไม่เหลือ แม้แต่ร่องรอย
“อย่างนั้นเหรอ! พ่อมาที่แบบนี้ ต้องถูกรุมแน่ๆ เลยใช้ เปล่าครับ คุณอาเหลิงเฟยก็จะปวดหัวอีกแล้ว” เสียงของเซียต้า ไปดึงสติของเธอให้หลุดจากภวังค์

เชียซิงเฉินหัวเราะ ยิ่งเดินไปเรื่อยๆ คนยิ่งเยอะ เธออุ้ม เด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน เซียต้าไปกอดคอเธอไว้ พลางพูด “หม่ามี ยืมมือถือหน่อยสิ”

“ลูกจะโทรหาใครเหรอ”

“ผมอยากวิดีโอคอลกับเสี่ยวไป”

“ตอนนี้เหรอ” เซี่ยซิงเฉินหันมองรอบข้าง “ตอนนี้คนเยอะ ขนาดนี้ คงไม่สะดวกเท่าไรมั้ง “ก็เพราะคนเยอะเลยจะวิดีโอคอลกับเสี่ยวไปไง” เซียต้า ไปแย้ง “ที่สนุกขนาดนี้ เสี่ยวไปคงไม่เคยมา น่าสงสารออก ไม่ใช่เหรอ พวกเราถ่ายให้เขาดูกันนะ จะได้เหมือนว่าเขาได้มา

แล้วยังไงล่ะ”

เซี่ยซิงเฉินส่งมือถือให้เขา

เขาเฟสไทม์ไปทันที ได้ยินเสียงกำลังต่อสาย ในใจของ เซี่ยซิงเฉินก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ไม่ได้เจอกัน สักพักแล้ว เธอไม่แน่ใจว่าพวกเธอสองคนจะกลายเป็นคน แปลกหน้ากันไปหรือยัง

“ฮัลโหล” เสียงของไปเยถึงดังมาจากอีกด้าน

เพียงแค่คำเดียว ใจเธอก็กระตุกวูบไปที่เผลอเงยหน้ามองไปบนจอโดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้านั้นจึงปรากฏในสายตา ของตัวเอง เขาเองก็เห็นเธอแล้วเช่นกัน

สายตาทั้งคู่ประสานกัน ต่างก็นิ่งงันไปชั่วครู่

เซี่ยซิงเฉินนิ่งไปสักพักถึงได้สติกลับมา แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ต้าไปเป็นคนโทรหาคุณค่ะ”

เธอเสหน้าหันออกไป บอกกับเด็กน้อยว่า “ลูก

คุยกับเขา

จากนั้นเธอก็ไม่ได้หันไปมองจออีกแม้แต่ครั้งเดียว ได้แต่ ก้มหัวลงแสร้งทําเป็นของเล่นสองข้างทาง ในตลาดกลางคืน อย่างใจจดใจจ่อ บางทีก็แอบรู้สึกถึงสายตาอันร้อนแรงที่ เหมือนจะมองทะลุจอมายังตัวเอง

ข้างหู คือเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อย

“เสี่ยวไป ดูสิ ที่นี่น่าสนุกมากเลยใช่ไหม”

“อืม” น้ำเสียงของเขายังคงเรียบนิ่ง สุขุมเหมือนเดิม

แต่ไม่สามารถดับความกระตือรือร้นของเซี่ยต้าไปได้เลย แม้แต่น้อย เด็กน้อยยังคงพูดโอ้อวดไม่หยุดหย่อน “ของที่นี่ อร่อยมากเลย! ถังหูลู่ก็ดีมาก พ่ออยากชิมไหม

“ไม่อยาก! ทำไมแม่ลูกให้กินอะไรชั่วอีกแล้ว บทเรียนที่ เข้าโรงพยาบาลไปคราวก่อนยังไม่พอหรือไง”

เซี่ยต้าไปทำปากพองลม “เสี่ยวไป รู้ตัวเปล่าว่าทำมันขัด อารมณ์นะ! ผมกำลังอยู่ช่วงวัยกำลังโต ไม่กินให้เยอะๆ จะสูงได้ยังไงล่ะ”

“จะกินก็ไม่ใช่กินของพวกนี้ ส่งมือถือให้แม่ลูกเลย!”

เซี่ยซิงเฉินเตรียมใจสําหรับโดนว่าไว้แล้ว เหมือนเธอจะ ชอบลืมความเจ็บหลังจากที่แผลหายดีแล้วจริงๆ รู้ทั้งรู้ว่ากระ เพาะของต้าไปไม่ค่อยดี แต่พอเขากะพริบตาขอร้องไปมาด้วย ดวงตากลมโต ใสแจ๋ว เธอก็พูดปฏิเสธไม่ออกจริงๆ เธอไม่เห มือนไปเนิ่งที่สีหน้าไร้อารมณ์แข็งกระด้างอย่างนั้น สั่งห้ามไม่ ให้เขากินอาหารไม่มีประโยชน์ก็คือห้าม ต่อให้เด็กน้อยกอดขา ขอร้องอ้อนวอนก็ไม่ยอม

เธอกำลังจะรับมือถือไปคุยต่อ คิดไม่ถึงว่าเซียต้าไปจะไม่ ให้โอกาสทั้งคู่ได้คุยกันเลยสักนิด “เสี่ยวไป ตอนนี้หม่ามียัง มาก ไม่ว่างรับสายพ่อหรอกนะ! ผมวางสายล่ะ เรากำลังจะไปดู หนังที่โรงหนังไดร์ฟอิน[2]แล้ว พ่อก็ตั้งใจทำงานของพ่อไป เถอะ พวกเรารักพ่อน้ามัวะ ”

เขาพูดจบไม่รอให้คนข้างๆ ได้พูดอะไร นิ้วเล็กก็กดปุ่มตัด สายอย่างรวดเร็ว บนจอนั้น ค้างภาพใบหน้าหล่อเหลาที่เงียบ ขรึมเพียงครู่ จากนั้นก็หายไป

เขาไม่ปล่อยให้มีโอกาสบ่นหม่ามีที่ยอมซื้อขนมให้เขาได้

หรอก!

มือที่กำลังรอรับมือถือของเซี่ยซิงเฉินค้างกลางอากาศ มองไปยังจอมือถือที่ดับไปแล้ว แววตาฉายแววขุ่นมัวเพียงครู เซี่ยต้าไปถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่งเสียงร้อง “อ้า เบาๆ “หม่ามให้ผม…โทรไปอีกไหม

“ไม่ต้องหรอก” เซี่ยซิงเฉินส่ายหัว พลางเก็บมือถือคืน “ดี ที่ลูกวางสายไปก่อน แม่จะได้ไม่ต้องโดนว่า”

เซี่ยต้าไปยิ้มร่า พูดชมตัวเอง “ผมฉลาดใช่ไหมล่ะ แม่ต้อง ให้รางวัลผมนะ ให้กินปลาหมึกเล็กได้ไหม”

“…ไม่ได้ แม่จะไม่ใจอ่อนอีกแล้ว”

“แค่ตัวเดียวเอง”

“ครึ่งตัวก็ไม่ได้ ถ้าเกิดอะไรกับลูกอีก พ่อของลูกคงไม่ อนุญาตให้แม่มาหาอีกแล้วล่ะ”

ใบหน้าเล็กของเซียต้าไปงอ น้ำตาคลอ ส่งเสียงสะอื้น ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ตัวเองไม่ควรวิดีโอคอลไปหาพ่อเลย จริงๆ! เกลียดเสี่ยวไปที่สุดเลย!

เพราะคำขอร้องของเซียต้าไป เชียซิงเฉินจึงพาเขาไปที่ โรงหนังไดร์ฟอิน แต่เพราะเธอไม่มีรถยนต์ เลยเช่ารถโฟล์ค สวาเก้นเก่าๆ ตรงแถวนั้นมาคันหนึ่ง

ภายในที่สำหรับจอดรถไม่มีรถเยอะเท่าไร กลับสงบมาก หนังที่กำลังฉายคือ Transformer4 ซึ่งเซียซิงเฉินเคยดูมา นานแล้ว เลยไม่ค่อยรู้สึกสนุกเท่าไร ได้แต่เหม่อมองลูกชายที่ กำลังเคี้ยวแผ่นมันฝรั่งทอดอยู่

เขาดูสนุกมาก มือไม้ขยับไปมาไม่หยุด พอเห็นรอยยิ้มแสนบริสุทธิ์ของเขา เซี่ยซิงเฉินก็อดยิ้มตามไม่ได้ เธอรู้สึกว่านั่ง มองลูกชายยังสนุกกว่าดูหนังเป็นไหนๆ

ถ้าไปเย่นิ่งไม่กักบริเวณ ยอมให้เขามาหาเธอได้ตลอด เวลาที่อยากมา เธอก็คงไม่ต้องไปขอร้องเขา และไม่ต้องดึงดัน จะเอาตาไปมาอยู่เคียงข้างตัวเอง อยู่แบบตอนนี้ก็ดีไม่หยอก

เธอคิดอะไรเหลวไหลไปทั่ว เอนตัวพิงกับเบาะคนขับ จน กระทั่งเปลือกตาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเธอแทบจะหลับไปแล้ว นั้น จู่ๆ ก็มีแสงไฟสว่างจ้าส่องมาจากด้านหลัง ตกกระทบ กระจกมองหลัง สว่างจนเธอแสบตาไปหมด เธอเผลอยกแขน ขึ้นบัง พลางหันกลับไปมอง หนังเริ่มตั้งนานแล้ว ทำไมถึงยังมี รถเข้ามาอีกล่ะ อีกทั้งไม่ใช่แค่คนเดียวที่เข้ามา

เธอก็แค่มองคร่าวๆ และไม่ได้สังเกตละเอียดอีก แสงไฟ สว่างเกินไป ทำให้เธอมองไม่ชัดทั้งรถและคน

“หม่ามง่วงนอนเหรอ” เซียต้าไปเขยิบหน้ามาถาม

“อืม นิดหน่อยน่ะ…”

“แม่จะไปนอนเบาะหลังหน่อยไหมล่ะ รอให้หนังจบ เดี๋ยว ผมปลุกเอง”

เซี่ยซิงเฉินลูบใบหน้าเขาอย่างรู้สึกผิด “แม่ไม่อยู่เป็น เพื่อน ลูกจะโกรธเปล่า”

“ไม่หรอกครับ ผมอยู่คนเดียวก็โอเคอยู่ ไปนอนเถอะนะ เด็กดี” เซี่ยต้าไปลูบใบหน้าของเธอ เหมือนกำลังกล่อมเด็กอยู่ทําให้ใจของเซี่ยซิงเฉินวุ่นวาบ

[1] ถังหูลู่ ผลไม้เคลือบน้ำตาลที่เสียบไม้ไว้

[2] โรงหนังไดร์ฟอิน คือ ลานกว้างๆ ที่มีจอฉายอยู่ เสมือนเป็นโรงหนังทั่วไป แต่ให้ขับรถเข้าไปดู แล้วนั่งดูหนังในรถ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ