สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 48 รักษาระยะห่างจากเขา



ตอนที่ 48 รักษาระยะห่างจากเขา

ท่าทางเธอเช่นนี้ชวนให้ความคิดถึงของเขาสั่นไหวรุนแรงไปชั่ว ขณะ สายตากวาดผ่านดวงตาเธอ จากนั้นไล่ลงไปที่จมูกเรียว งาม

าลงมาอีก…

คือริมฝีปากอ่อนนุ่มแดงระเรื่อที่ขมุบขมิบเล็กน้อย… พอเลื่อนไปถึงตรงนั้น เขาก็หยุดนิ่ง ขยับไปไหนไม่ได้เลย

สายตาพลันเข้มลึกขึ้น แผ่รังสีอันตรายออกมา

เซียซิงเฉินปะทะเข้ากับแววตาเขา ลำคอหดเกร็ง คิดหนี ตามสัญชาตญาณ ทว่ายังไม่ทันรอปฏิกิริยาตอบรับจากเธอ จูบ แสนเอาแต่ใจของชายหนุ่มก็ประทับลงมาอีกครั้ง

แม้จะถูกเขาจูบเป็นครั้งที่สี่แล้ว แต่เซี่ยซิงเฉินยังคงไม่อาจ ข่มความหวั่นไหวได้ ลมหายใจสะดุดลง มือข้างหนึ่งที่ยังว่าง ผลักไหล่เขา เขาไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อย จูบเขาเต็มไปด้วย ความเอาแต่ใจที่อยากครอบครองจนเธอยากที่จะต้านทานไหว

ขณะกำลังจูบ ฝ่ามือใหญ่ของเขาก็ค่อยๆ เลื่อนขึ้นจากเอว

เธออย่างซุกซน

ความอันตรายนั้นทำให้เซี่ยซิงเฉินสงบนิ่งลงทันที แววตา ที่เคยเลื่อนลอยตอนนี้กลับแจ่มชัดขึ้น
เธอลุกขึ้นจากตักเขาอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาเยิ้มพร่า เลื่อนดุจกวางน้อยแบมบี้กำลังมองเขาอย่างตื่นตะลึง

มือตะครุบคอเสื้อชุดนอนไว้โดยไม่รู้ตัว จนถึงตอนนี้นิ้วมือ ยังคงสั่นระริก ราวกับความร้อนและแรงสัมผัสจากปลายนิ้วเขา ยังคงอยู่บนหน้าอกเธอ

ในที่สุดเธอก็แทบจะหนีเตลิดออกมาจากห้องเขา บอกว่า จะมาเอาเงินจากเขา แต่สุดท้ายก็โยนเรื่องเงินทิ้งไปเสียไกลลิบ ตั้งนานแล้ว

กลับถึงห้อง ครูใหญ่แล้วเธอก็ยังจำคำพูดที่เขากรอกอยู่ ข้างหูอย่างหนักแน่นตอนตามออกมาครั้งล่าสุดได้ “อยู่ห่างๆ จากหยูเจ๋อหนันไว้!”

เธอถามเสียงสั่น “ทำไม?”

เขาตอบอย่างเต็มปากเต็มค่าโดยไม่สะทกสะท้าน “ผมไม่ชอบ”

ผู้ชายคนนี้เผด็จการสุดๆ จริงๆ!

สายตายามนั้น ยิ่งเหมือนจะแผดเผาเธอ แผดเผาให้กลาย

เป็นจุณ

ในสมองเซี่ยซิงเฉินซื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง ก็เลยไม่ได้ตอบรับและปฏิเสธ ได้แต่ผลักไสเขาอย่างเสียขวัญ แล้ววิ่งออกมา
ความรู้สึกในตอนนั้นชวนให้เธอรู้สึกว่า หากตัวเองช้าอีก เพียงนิดเดียวก็อาจถูกเขาฉีกกินลงท้องไปแล้ว

อันตรายสุดๆ!

อันตรายถึงขั้นทำให้ใจเธอเต้นไม่เป็นตลอดทั้งคืน เธออดไม่ได้ที่จะตำหนิตัวเองอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เพิ่งถูกเขา ลวนลามไปแท้ๆ ทำไมไม่รู้จักจำไว้เป็นบทเรียน คิดไม่ถึงว่าจะ ถูกเขา…

เธอกัดริมฝีปาก ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงอย่างหงุดหงิด บังคับตัวเองไม่ให้คิดอะไรอีก

วันต่อมา

เซี่ยต้าไปเพิ่งออกมาจากห้องอย่างสะลึมสะลือก็ถูกอุ้มขึ้น

ทั้งตัว

หันหน้ากลับไปมองก็เจออีกฝ่าย มือเล็กป้อมสองข้างโอบ กอดคออีกฝ่ายไว้ “พ่อครับ เมื่อวานไปรับหม่ามกลับมาแล้ว

ยัง?”

“พ่อเก่งมาก จุ๊บเป็นรางวัลให้หนึ่งที” ปากเล็กยื่นมา จุ๊บ เสียงดังบนใบหน้าของพ่อหนึ่งทีโดยไม่สนว่าเขาจะเต็มใจหรือ ไม่ ความผูกพันระหว่างพ่อลูกดีขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ได้ อยู่ด้วยกัน แม้ว่าบางครั้งทั้งสองคนไม่ลืมที่จะโต้เถียงกันอยู่บ้าง

“ถ้าลูกไม่อยากให้แม่ไม่กลับมานานๆ แบบนี้อีก เดี๋ยว

ตอนกินข้าวเช้าพ่อพูดอะไรลูกแค่พยักหน้าก็พอ เซี่ยต้าไปฟังด้วยความไม่เข้าใจ “งั้นเดี๋ยวพ่อจะพูด

อะไร?”

“เดี๋ยวลูกก็รู้เอง”

“ตกลงครับ”

ผ่านไปครู่หนึ่ง มื้อเช้า

พอเชียซิงเฉินออกมา เสี่ยต้าไปก็ซุกเข้าไปในอ้อมแขน เธออย่างออดอ้อน เธออุ้มเขาขึ้นมาหอมแก้มไปสองที

“หม่า ลูกคิดถึงจังเลย” แขนเล็กๆ ของเซียต้าไปโอบ กอดเธอไว้ แล้วเหลือบมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังนั่งอย่างสง่า งามอยู่ที่โต๊ะอาหารตอนนี้ “พ่อก็คิดถึงแม่มากเลย

เซี่ยซิงเฉินมองไปเย่นิ่งแวบหนึ่งโดยไม่รู้ตัว พอนึกถึงเรื่อง ระหว่างทั้งสองคนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนใบหน้าก็เริ่มฉายแววอึดอัด

ตอนแรกคิดว่าเขาจะต้องปฏิเสธคำพูดของต้าไปแน่นอน ทว่าเขากลับไม่ทํ

แต่หันไปกำชับพ่อบ้านอยู่สองสามประโยค

เซี่ยซิงเฉินอดไม่ได้ที่จะมองเสี้ยวหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่ง ในใจคิดว่าเขาคงไม่ได้ยินคำพูดของเจ้าหนูนี่กระมัง

เธอสายศีรษะเล็กน้อยไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านอะไรกับเขา อีก ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คำพูดเมื่อครู่ของลูกเป็นเพียงแค่การพูดเล่น ถ้าเธอเก็บเอามา ใส่ใจก็อาจจะดูไม่ฉลาดนัก

ส่วนเรื่องพวกนั้น

คราวก่อนเขาแสดงออกชัดเจนว่ารังแกเธอ

แต่เมื่อคืน…

เธอทำได้เพียงเข้าใจว่าเพราะฮอร์โมนเป็นเหตุ

ชายหญิงโสดในวัยกลางคน โดยเฉพาะพวกเขาเคยมี ความสัมพันธ์แบบนั้นมาแล้ว แม้จะไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน ร่างกายก็ตอบสนองได้ง่าย

เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดเพ้อเจ้ออีก เธอจึงอุ้มลูกนั่งบนเก้าอี้ เด็ก ยื่นมือมาวัดอุณหภูมิที่หน้าผากเขาพลางถาม ว่า “ตอนนี้ รู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้างไหม?

เขาส่ายหน้า “ไม่ว่าตรงไหนก็สบายมากครับ!”

เซียซิงเฉินยิ้มอย่างสบายใจ “หมอรักษาเก่งมาก ว่าแต่ หมอสั่งยาให้ลูกกินหรือเปล่า?”

“ทำไมผมต้องกินยาด้วยล่ะ?” เซียต้าไปยิ่งฟังยิ่งสับสน

“เมื่อคืนลูกเป็นหวัดตัวร้อน” คนที่ต่อบทสนทนาคือไปเฉิง เขาชุดซุปอย่างไม่รีบร้อน แววตามองปราดไปที่ลูกชาย อย่างมีนัยยะ

“ลืมแล้ว?”

“อ๋อ…ผมนึกออกแล้ว…ใช่ครับหม่าม ผมเป็นหวัด แม่กับ พ่อไม่อยู่กันหมด ผมน่าสงสารจังเลย” เซียต้าไปสบโอกาสน ข้อเสนอ “หม่า ต่อไปอย่าออกจากบ้านนานขนาดนี้อีกได้ไหม ครับ?”

เซียซิงเฉินสงสารลูก คำขอเช่นนี้ของเขาเธอยังจะคิดอะไร ได้อีก? ได้แต่พยักหน้ารัวๆ พร้อมรับรองว่า “ตกลง หม่ามี รับปากลูก ต่อไปจะไม่มีแบบนี้อีก

เซี่ยต้าไปยักคิ้วให้บางคนที่อยู่ข้างๆ อย่างภาคภูมิใจ

ไป๋เย่งอารมณ์ดีทีเดียว ใบหน้าที่ไม่แสดงออกมาตลอด ยามนี้กลับปรากฏรอยยิ้มจางๆ อยู่หลายส่วน

ทานอาหารเช้าเสร็จ เซี่ยซิงเฉินหิ้วกระเป๋าเตรียมออกจาก บ้าน เดินมาถึงหน้าประตูก็กำชับสารพัดให้พ่อบ้านอย่าลืมเช็ กอุณหภูมิร่างกายต้าไปอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็ยัง ไม่วางใจเลย

ทว่า งานก็จําเป็นต้องทำ

“ลูกรัก แม่ไปแล้วนะ หอมที่นั่ง” เธอย่อตัวลงเล็กน้อย

เขยิบเข้าไปตรงหน้าลูกชาย
เซียต้าไปเขย่งปลายเท้าขึ้นประทับรอยจูบบนใบหน้าเธอ พลันโอบรอบคอเธอไว้แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “หม่า จริงๆ แล้วผม ไม่ได้ช่วยอะไรเลย…

“หา?”

“พ่อหลอกแม่ จริงๆ แล้วพ่อแค่อยากรับแม่กลับมา” เสียง เขาเบาเหลือเกิน เบาจนได้ยินกันแค่สองคนแม่ลูก

นิ้วมือเล็กกดริมฝีปากเสียซิงเฉินไว้ “จิ๋ว! แม่อย่าบอก เสียวไปนะ เสี่ยวไปรักศักดิ์ศรีขนาดนั้น ถ้ารู้ว่าผมแฉเขาก็จะ ต้องมาขู่ผมอีกแน่

เซียซิงเฉินมึนงง จริงเหรอเนี่ย?

เธอไม่ทันได้ถามลูกชายอย่างละเอียด ตอนนี้เองไปเฉิงก็ ออกมาพอดี เซียต้าไปรีบคลายมือที่โอบเซียซิงเฉินอยู่แล้วถอย ห่างออกมา

อาจเป็นเพราะความหวาดกลัว ร่างเล็กก็เลยยืนตัวตรงนิ่ง แล้วเอ่ยเสียงดังฟังชัดว่า “แล้วเจอกันครับพ่อ!!

ไป๋เย่นิ่งจ้องมองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้ระแคะระคายอะไร เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วก้าวเท้าหนักๆ ออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ