ตอนที่ 36 เสี่ยวไปชอบหม่าม
เซียต้าไปเงยหน้ามองเธอ และมองไปยังพ่อที่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดี นัก “ถ้างั้นแม่ก็ไม่ต้องการพ่อแล้ว ใช่ไหม?”
เขา?
เซี่ยซิงเฉินนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ถึงจะไม่ได้ชำเลืองมองเขา แต่ เธอก็รู้สึกได้ว่าสายตาของเขายังคงมองมาที่ตัวเธอ
“หยุดถามได้แล้ว กินข้าวไปเถอะ” เซียซิงเฉินเปลี่ยน หัวข้อสนทนา เธอไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร จะ ว่าไปแล้ว ที่จริงเขากับตัวเธอก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน จะมาใช้ คำว่าต้องการหรือไม่ต้องการได้อย่างไร?
เซี่ยต้าไปจิ้มหัวตะเกียบไปที่ปลายคาง ตั้งใจขบคิดอย่าง จริงจัง “ยังไงพ่อก็ไม่ยอมแต่งงานกับแม่อยู่แล้ว คงจะไม่ เสียดายอยากได้หม่ามี้แล้วแน่ๆ ต่อไปถ้าแม่ได้แต่งงานกับคุณ อาคนอื่น ไม่ต้องการพ่อมันก็ถูกต้องแล้ว”
ตรงข้ามกัน สีหน้าบางคนเย็นชาลงอย่างชัดเจน จ้อง มองลูกชายแวบหนึ่ง เซี่ยต้าไปหยิบชีสเค้กสองก้อนขึ้นมาบัง ดวงตากลมโตทั้งสองข้างไว้ มองไม่เห็น! มองไม่เห็น! ยังไงก็ มองไม่เห็น!
เซียงเฉินไม่รู้เลยว่าที่พ่อลูกมีปฏิกิริยาแบบนี้มาจาก สาเหตุใด แค่รู้สึกว่าทั้งสองคนทำตัวแปลกมากๆ
“ตามพ่อออกมา!” คนบางคนวางตะเกียบที่อยู่ในมือลง อย่างแรง นิ้วยาวๆ ยกขึ้น เคาะไปบนโต๊ะ
“อ๋” เซียต้าไปทำสีหน้ากลัดกลุ้ม หนีบชายเสื้อของเชีย ชิงเฉินไม่ยอมขยับ ท่าทางของเสียวไปดูน่ากลัว คงไม่ใช่จะ เขาหรอกนะ? ฮือๆ เขาไม่อยากโดนตีนะ!
ไปเฉิงหันกลับมา เห็นว่าลูกชายไม่ได้ตามมา กลับขดตัว อยู่ในอ้อมแขนเซียซิงเฉินอย่างหวาดหวั่น เขาไม่ค่อยจะ แสดงออกถึงความเป็นพ่อที่อ่อนโยนซักเท่าไหร่ “พ่อจะไปส่ง ลูกที่โรงเรียน”
ท่าทางแบบนี้ ยิ่งทำให้ต้าไปกลัว หลังจากนั้นก็เป็นไปดัง คาด ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขากำชับขึ้น “พ่อบ้าน ไปเอาตัว เขามา!”
“หม่ามี้! หม่า! ลูกไม่อยากให้พ่อไปส่ง
พอถูกพ่อบ้านอุ้ม เด็กน้อยก็ดิ้นรนสุดฤทธิ์ ใบหน้าเล็ก ขาวๆ นุ่มๆ ย่นลงจนแทบจะกลายเป็นซาลาเปา
เซี่ยซิงเฉินรู้สึกขบขัน “พอได้แล้ว รีบไปเถอะ ถ้ายังไม่รีบ ไปทุกคนจะสายกันหมดนะ
เซี่ยต้าไปรู้สึกว่าตัวเองโดนลักพาตัวอย่างแท้จริง! ซ้ำยัง เป็นอำนาจชั่วร้ายที่ลักพาตัวเขาเสียด้วย
รถยนต์ แล่นเอื่อยๆ ไปบนถนน
เขานั่งงอนแก้มป่องอยู่ในรถ
ฝั่งตรงข้าม ไปเปถึงนั่งไขว่ห้าง ดวงตาอันลึกล้ำจ้องมาที่
ลูกชายตัวเอง
“รู้ว่าทำอะไรผิดหรือยัง?”
เซี่ยต้าไปส่ายหัวอย่างแรง “ผมทำอะไรผิด?”
“พ่อให้ลูกพูดอะไร แล้วที่ลูกพูดมันคืออะไร?
“พ่อให้ผมพูดว่าไม่ให้หม่ามีของเราไปดูตัว ผมก็พูดตาม นี้แล้วนี่!” เขาทำเป็นไม่รู้อิโหน่อิเหน่
“แต่พ่อไม่ได้ให้ลูก… ไปเฉิงพูดได้แค่นี้ก็ชะงัก ความไม่ สบายใจเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขาเหลือบมองลูกชาย จอมดื้อของเขา กระแอมขึ้นมาทีหนึ่ง พลางยกมือขึ้นปลด กระดุมเสื้อที่หน้าอกออก พอรู้สึกสบายตัวขึ้นอีกครั้งก็พูดต่อ “พ่อไม่ได้ให้ลูกพูดประโยคสุดท้ายนั่น!”
“อ๋อ ที่แท้พ่อก็ไม่ชอบที่ผมพูดว่า “ให้หม่ามีไม่ต้องการพ่อ แล้ว’ เหรอ?”
เขาทำเสียง แสดงว่าคร้านที่จะสนใจลูกชายแล้ว เซี่ยต้าไปคลี่ยิ้ม เอียงคอ ราวกับเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็ก “เสี่ยว
ไป พ่อชอบเขี่ยหม่ามีของเรา ถูกไหม?”
ไปเย่งเม้มปาก “ไร้สาระ
“ก็ดี พ่อไม่ชอบก็ไม่ต้องชอบ ยังไงผู้ชายที่ชอบหม่ามีของเรามีเยอะแยะ! ถึงตอนนั้น ผมก็ไปเลือกๆ เอา ถูกชะตาใครก็ เรียกคนนั้นว่าพ่อ” เด็กน้อยแกว่งขาทั้งสองไปมาอย่างภาค ภูมิใจ
ไปเย่นิ่งรู้สึกจุกแน่นที่กลางอก “เรื่องประกอบปืน ไว้ค่อย คุยกัน!
“ก็ได้” เซียต้าไปกลับไม่หงุดหงิด ทั้งยังเอากระเป๋าใบ ใหญ่ที่เหมือนกระเป๋าใส่วัตถุระเบิดจากด้านหลัง เปิดออกมา หยิบอมยิ้มออกมาดูดในปากอย่างสบายใจ “ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยว ผมก็จะบอกหม่ามีของเราว่า เรื่องที่พูดว่าวันนี้ไม่ต้องไปดูตัว เสียวไปเป็นคนสอนผม อีกไม่กี่วัน ไม่ใช่ว่าแม่จะต้องไปเจอคุณ อาที่ดูตัวคราวที่แล้วเหรอ ผมจะไปเจอด้วยพอดี ถ้าเขาเหมาะ สม ผมก็จะเรียกเขาว่าพ่อไปเลย”
ไปเฉิงหมดค่จะพูด ใบหน้าดำคล้ำเหมือนปกคลุมด้วย ถ่านหิน เจ้าเด็กเหลือขอนไปได้เชื้อของใครมา
เซียซิงเฉินนั่งแท็กซี่ไปกระทรวงการต่างประเทศคนเดียว เธอเข้าไปถึงฝ่ายแปลเอกสาร ทุกคนพากันมองเธอด้วย แววตาซับซ้อน มีทั้งอิจฉา ทั้งชิงชัง
เธอรับไม่ค่อยได้กับสายตาพวกนี้ เมื่อครั้งที่ทำงานอยู่ กระทรวงการต่างประเทศ เธอยังเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน ทํางานของตัวเองไปอย่างเงียบๆ เหมือนเป็นของโปร่งใสเล็กๆสักอย่าง แทบไม่มีใครสนใจ
เธอรู้แน่ล่ะว่าครั้งนี้เป็นเพราะอะไร
ฉือเว่ยยังลากเธอเข้ามาในห้องนั่งเล่น “ซิงเฉิน เธอนยอด จริงๆ เลย! เมื่อวานฉันได้ยินว่ากระทรวงการต่างประเทศจะ เรียกเธอกลับมาใหม่ ฉันแทบไม่อยากเชื่อ ไม่คิดว่าจะเป็น ความจริงด้วยซ้ำ! เร็ว รีบเล่ามา เรื่องเป็นมายังไง?
เซี่ยซิงเฉินเองก็จับต้นชนปลายไม่ถูก “จริงๆ แล้วเรื่องเป็น มายังไงฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก”
“ไม่เอาน่า เมื่อวานฉันแอบได้ยินเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลบอก ว่าเธอสนิทสนมกับท่านประธานาธิบดี
ท่านย้ายเธอกลับมาด้วยตัวเอง
ที่พูดมา ไม่ถูกต้องเลยสักนิด
ข้อแรก ความสัมพันธ์ของเธอกับไปเย่นิ่งไม่ดีเลยจริงๆ ข้อ สอง เขาก็ไม่น่าจะประกาศออกมาเช่นนี้เพื่อตัวเธอ
“เธอเชื่อคำพูดนี้ด้วยเหรอ?” เซี่ยซิงเฉินไม่ตอบแต่กลับ
ย้อนถาม
“ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะ แต่ว่าพอเธอมาครั้งนี้ฉันก็ เลยเชื่อ” ฉือเว่ยยังโอบไหล่เธอ เธอสวยขนาดนี้ การที่ท่าน ประธานาธิบดีจะชอบเธอ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา!
“พอได้แล้ว เธอพูดเบาๆ หน่อย ถ้ามีคนอื่นมาได้ยิน คง หัวเราะจนฟันร่วงแน่!” เซี่ยซิงเฉินเอามือปิดปากถือเว่ยยังไว้
แต่เซียวซินที่ถือแก้วชาเข้ามาก็ได้ยินเข้าจนได้ อีกฝ่าย หัวเราะออกมา “ชิงเฉิน จริงๆ แล้วเธอก็รู้ตัวเองดี
“นี่! เธอหมายความว่ายังไง?” คือเว่ยยังต้องฝ่ายตรงข้าม
เขม็ง
“ก็หมายความตามตัวอักษรไม่ใช่เหรอ? ท่าน ประธานาธิบดีเป็นใคร ถึงจะได้ให้คนอย่างพวกเธอเอาไปมโน กัน?”
“อ้าว ที่ไม่ให้พวกเรามโน หรือว่าจะให้เธอมโนแทนล่ะ? ถึงซิงเฉินของเราจะไม่ได้เรื่องสักแค่ไหน แต่พอนึกอยากกลับ มากระทรวงการต่างประเทศก็ยังกลับมาได้ ไม่งั้น เธอไปลอง ดู? ซิงเฉิน วันหลังเธอแนะนำท่านประธานาธิบดีให้พวกเรารู้จัก บ้างสิ”
เซี่ยซิงเฉินกล่าว “ปกติเขาก็งานยุ่งจะตายอยู่แล้ว โอกาส ที่จะได้พบกับเขาจริงๆ ก็…
พูดถึงตรงนี้ เซี่ยซิงเฉินก็ชะงักไปทันที
เมื่อครู่เผลอโพล่งออกมาตามปากของฉือเว่ยยังแท้ๆ เลย พอพูดออกมาได้ครึ่งหนึ่งถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองได้หลุดปากไปแล้ว
ฉือเว่ยยังเข้าใจเธอ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเธอทันที
ยังดีที่เซียวซินแค่คิดว่าเซี่ยเฉินคุยโวโอ้อวด หัวเราะห์ “โม้ต่อสิ ทำไมไม่โม้ต่อล่ะ? คนทั้งประเทศเราต่างก็รู้ว่าท่าน ประธานาธิบดียัง ต้องให้เธอมาบอกหรือไง!
ถือเว่ยยังนิสัยมุทะลุ กำลังจะตอกกลับเธออีก แต่เซียซึ่ง เฉินห้ามไว้เสียก่อน “ช่างเถอะ เว่ยยัง อย่าไปเสียแรงพูดได้ สาระกับเธอเลย
เธอก้มมองดูเวลา “ได้เวลาสอบแล้ว ฉันต้องไปก่อนล่ะ รอ ฟังข่าวดีจากฉันนะ!”
“จ้ะ เธอต้องทำได้” เว่ยยังเอาใจช่วยเธอ เหล่ตาพูดเสริม อีกประโยคว่า “เธอรู้ใช่มั้ยเดี๋ยวมีอะไรจะต้องเล่าให้ฟัง และ ต้องเล่ามาตามตรงทั้งหมดด้วย
เซียซิงเฉินรู้ดี ตัวเองไม่มีทางปิดบังอะไรเว่ยยังได้แล้ว
ทว่า จริงๆ แล้วถ้าบอกเรื่องนี้กับเธอก็คงไม่เป็นอะไรหรอ กมั้ง! ถึงอย่างไรเธอก็จะช่วยเก็บความลับแทนตัวเธออยู่ดี
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ