ตอนที่ 97-ขอร้องล่ะคืนลูกให้ฉันเถอะ(4)
“ท่านประธานาธิบดี เกิดเรื่องแล้วครับ!” ขณะนั้นประตูห้อง หนังสือก็ถูกทุบรัว คนรับใช้ที่อยู่ข้างนอกร้อนรนจนแทบทนไม่ ไหว ราวกับมีเรื่องวุ่นวายจนทำอะไรไม่ถูก
เซี่ยซิงเฉินได้สติกลับคืนมา สายตาอันเย้ายวนมองไปที่ เขา มือของเขาไม่มีท่าทีชะงักใดๆ ทำเพียงแค่ตะคอกกลับไป ทางบานประตูอย่างดุดัน “ไสหัวไป!”
นี่มันเวลาอะไรกัน จะยอมให้คนอื่นมาขัดได้ยังไง! คนรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอกไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่ข้างนอก
ก็เงียบอยู่เพียงครู่ แล้วจึงได้ยินเสียงเรียบนิ่งของพ่อบ้านดังขึ้น “ท่านครับ คุณชายน้อยไม่สบายครับ หากท่านกำลังยุ่งอยู่ ก็ไม่ รบกวนแล้ว พวกเราจะติดต่อคุณหมอฟูเองครับ”
ต้าไปไม่สบายงั้นเหรอ
พ่อบ้านอาวุโสรับใช้บ้านนี้มาตั้งกี่ปี เขาจึงรู้ดีว่าหาก ไม่ใช่เพราะเด็กน้อยกำลังป่วยหนัก ก็คงไม่มีทางมารบกวน พวกเขาในเวลาเช่นนี้แน่นอน
ซิงเฉินได้สติกลับคืนมาทันที ภายในใจมีแต่ความ กังวล มือของไปเย่นิ่งโอบอยู่ตรงเอวของเธอ กำลังจะเข้าด้าย เข้าเข็ม เธอหายใจอยู่ครู่หนึ่งพร้อมดึงสติกลับมา แล้วกดมือเขาไว้ “รอเดี๋ยว….ต้าไปไม่สบาย พวกเราต้องไปดูเขาก่อน… ให้ตายสิ! ไอ้ตัวเล็กนี่ ต้องเป็นมารผจญของเขาทั้งชีวิต
แน่ๆ
เมื่อกำลังถูกทรมาน ไปเย่นิ่งย่อมอารมณ์ไม่ดี กัดเข้าที่ริม ฝีปากของเธออย่างแรง “คุณรู้ไหมว่าให้หยุดในเวลาแบบนี้ สำหรับผู้ชายแล้ว มันทรมานยิ่งกว่าตายซะอีก
น้ำเสียงแหบพร่าจนหวั่นใจ
เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าเขาทรมาน แต่ตอนนี้ ลูกสำคัญยิ่งกว่า ใน ม่านตาของเธอ มีน้ำใสนขึ้นบางๆ เธอมองไปที่เขาอย่างน่า สงสาร “พวกเราจะไม่สนใจเขาไม่ได้……..
เขาส่งเสียงที่ออกมา “เดี๋ยวออกไปผมจะต้องสั่งสอนเขา สักหน่อยแล้ว เลือกเวลาป่วยได้ถูกจริงๆ!”
เซี่ยซิงเฉินทุนไหล่เขาไปหนึ่งที แล้วพูดปกป้องลูกว่า “ฉัน ไม่ให้คุณสั่งสอนเขานะ แค่ป่วยก็น่าสงสารพอแล้ว”
ไปเฉิงถลึงตามองเธอ ผู้หญิงคนนี้ ลูกก็คือโลกของเธอ เข้าข้างเขาอยู่ได้ อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็กำลังทรมานอยู่นะ ไม่ ได้ดีไปกว่าคนป่วยตรงไหนเลย
แม้จะไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก อีกทั้งร่างกายก็กำลัง ทรมาน แต่ว่า เขาก็ไม่ได้ทำอะไรต่ออีก เพราะไม่รู้ว่าต้าไปเป็น อย่างไรบ้างแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยเธอในทันที ทำเพียงแค่ นอนทับอยู่บนร่างของเธอ แล้วหอบหายใจอย่างหนักหน่วงพยายามหักห้ามความต้องการที่กำลังทรมานเขาอยู่เช่นนั้น
ใบหน้าของเซียงเฉินยังคงแดง ทั่วเรือนร่างกลายเป็น สีแดง เธอเองก็ใช้เวลานี้พยายามสงบสติอารมณ์เหมือนกัน ไม่ นานนัก ก็ยกมือทั้งคู่ไว้ตรงหน้าเขา มองไปที่เนกไทรอบข้อมือ นั่น แล้วถลึงตามองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ยังไม่ปล่อยฉัน อีก”
ไป๋เย่นิ่งกระตุกด้วยนิ้ว เนกไทก็หลุดออกทันที เซียซิงเฉิน บหยิบเนกไทเก็บไว้ เธอตัดสินใจไม่ให้เขาแล้ว!
“คืนผมมาเดี๋ยวนี้!” เขารู้ทันเธอ แล้วพูดสั่ง
“ไม่ให้แล้ว ฉันคิดผิดมากที่เอามันมาให้คุณ!” เพียงนึกถึง เมื่อครู่ เธอทั้งโกรธทั้งอาย ผู้ชายคนนี้ เจ้าเล่ห์รัก
“จะให้หรือไม่ให้” ไปเย่งกดร่างของเธอ แม้จะไม่ได้รุก
อะไรเธอแล้ว แต่สัมผัสนั่นก็ทำให้เธอตกใจจนตัวสั่น
ใบหน้าแดงก่ำ “คุณรีบลุกออกไปเลยนะ ฉันจะใส่เสื้อแล้ว!”
เขาไม่ได้ลุกออกไป ทำเพียงแค่มองไปที่เนกไทเส้นนั้น
ด้วยสายตายียวน เชียซิงเฉินหวาดกลัว ขบริมฝีปากแล้วสวม
เนกไทไว้บนคอของเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาพอใจ และลดการ
คุกคามจากเขาลงได้ เสียงฝีเท้าข้างนอกดังขึ้น เซี่ยซิงเฉินเป็น
ห่วงเด็กชายแทบตาย เธอสบตาไปเฉิง ทั้งสองคนไม่มีกระจิต
กระใจจะหยอกเย้ากันอีกต่อไป
นาทีต่อมา
ประตูห้องหนังสือถูกกระชากเปิดออก
“เป็นยังไงบ้างแล้ว” ไปเย่งเอ่ยถามคนรับใช้ทั้งที่กำลัง เร่งก้าวเท้าไปห้องของลูกชาย เชี่ยซิงเฉินก้าวตามหลังเขา พลางถาม “ติดต่อคุณหมอฟูหรือยังคะ
“เมื่อครูคุณชายน้อยอาเจียนตลอด แถมตอนนี้ก็มีไข้ คุณ หมอบอกว่าอาจเป็นเพราะกินของผิดสำแดงจนอาหารเป็น พิษ”
“อาหารเป็นพิษเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้” เซียซิงเฉิน ได้ยินก็ร้อนใจจนหน้าซีด เธอวิ่งไปยังห้องของเด็กชาย ไปแย่ง สีหน้ามึนตึง “ทำไมถึงอาหารเป็นพิษได้
“พ่อบ้านกำลังตรวจสอบครับ”
ให้เขารีบตรวจสอบมาโดยเร็ว ไม่อย่างนั้น ก็ไสหัวไปให้
หมด!”
“ครับ ท่านประธานาธิบดี!” คนรับใช้ตกใจจนขาสั่น
เมื่อไปเย่นิ่งมาถึงห้องของเด็กชาย เซี่ยต้าไปยังคง อาเจียนอยู่ในห้องน้ำ เด็กน้อยอาเจียนจนใบหน้าซีดเซียว เหมือนพร้อมจะหมดสติอยู่ทุกเมื่อ เซียซิงเฉินกอดเขา ปวดใจ จนเหมือนดวงใจจะสลาย เธอเป็นแม่ ย่อมอยากให้ความเจ็บ ปวดทั้งหมดนี้ตกอยู่ที่เธอแทน
ไป๋เย่นิ่งเห็นเช่นนี้แล้ว ใบหน้ายิ่งเย็นชากว่าเดิม เขาสั่งให้เตรียมรถทันที พลางหยิบเสื้อกันหนาวของเธอมาจากไม้แขวน รอให้เด็กน้อยอาเจียนเสร็จ เขาก็หยิบผ้าขนหนู เช็ดให้เขาด้วย ตัวเองอย่างสะอาด เอื้อมมือไปอุ้มเด็กน้อยเข้าสู่อ้อมกอดด้วย มือข้างเดียว อีกข้างก็ยื่นเสื้อกันหนาวให้เธอ ใส่ซะ ข้างนอก หนาว เราต้องรีบไปโรงพยาบาล
“ค่ะ!” ความจริงเซี่ยซิงเฉินตกใจจนทําอะไรไม่ถูกแล้ว แต่ ว่าโชคดีที่มีเขาอยู่ หัวใจที่เต้นแรงและบีบรัด ถึงได้รู้สึกผ่อน คลายลง
เด็กน้อยฟุบอยู่บนไหล่ของเขา ดวงตากึ่งปิดกิ่งเปิด มอง แล้วดูทรมานมากเหลือเกิน น้ำตาไหลนองหน้าอย่างน่าสงสาร เซี่ยซิงเฉินทำได้เพียงเดินตามอยู่ข้างหลัง คอยเช็ดน้ำตาให้ เขา ตัวเองก็ร้องไห้ตามลูกไปด้วย
ไปเย่นิ่งรู้ว่าเธอปวดใจ จึงยื่นอีกมือที่ว่างอ้อมไปทางด้าน หลัง เซี่ยซิงเฉินใจกระตุก แล้วยื่นมือให้เขาไปอย่างนั้น ฝ่ามือที่ กว้างและหนาของเขาช่างอ่อนโยน เขาจับมือเธอให้มายืนอยู่ ข้างๆ พลางลูบหลังลูกเบาๆ พร้อมพูดกับลูกชายว่า “ลูกผู้ชาย เสียเลือดไม่เสียน้ำตา ห้ามร้องไห้! เจ็บปวดแค่ไหนก็ต้องอดทน ไว้!”
เขาก็ถูกสั่งสอนเช่นนี้มาแต่เด็ก เซียซิงเฉินรู้ว่าเขาก็เป็น ห่วงลูก คำสอนเช่นนี้จะทำให้ลูกเข้มแข็ง แม้เธอจะปวดใจ แต่ก็ ยอมรับ ไม่ได้แย้งเขาแต่อย่างใด ถึงแม้เซี่ยต้าไปจะเป็นเด็กที่ ดื้อรั้นคนหนึ่ง แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว เด็กชายจึงกัดฟันแน่นหลังมือเล็กที่ขาวนุ่มถูกยกขึ้นมาเช็ดน้ำตา เขากลั้นสะอื้นไว้ แล้วหยุดร้องไห้
คั่นด้วย 2 สถานการณ์ที่เด็กน้อยเคยเจอ
หนึ่ง
เมื่อตอนเซียต้าไปอายุสามขวบ เขาได้เรียนห่อเกี่ยวที่ โรงเรียนอนุบาล
วันหนึ่ง
เซียซิงเฉินกลับถึงบ้าน เห็นว่าเขายืนทำเกี้ยวบนเก้าอี้ อย่างขะมักเขม้น วางเต็มอยู่ในจานหลายสิบอัน แม้รูปร่างจะดู น่าเกลียด แถมไส้ทะลักก็มีเยอะ
แต่ว่าภายในใจของเซี่ยซิงเฉินนั้นรู้สึกดี ขณะที่กำลังจะ
เอ่ยปากชม แต่เขาไม่ทันระวัง ทำตกลงพื้นไปหลายอัน
เซี่ยต้าไปรีบก้มตัวเก็บแล้ววางลงบนจานอย่างระมัดระวัง เซี่ยซิงเฉินตกใจ “ลูกรัก ตกพื้นมันสกปรก ใช้ไม่ได้แล้ว”
เขายิ้มตาหยี สีหน้าปกติ “ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อทุกวันก็ ตกพื้นมาแล้วทั้งนั้น”
สอง
เมื่อตอนที่เซี่ยตาไปฝึกเล่นเปียโน แล้วไป๋เฉิงต้องการแสดงถึงความรักของพ่อ จึงไปส่งเขาที่โรงเรียนสอนเปียโน ด้วยตัวเอง แม้จะสวมผ้าปิดปากทุกครั้ง แต่ก็ทำให้คุณครูสอน เปียโนหลงจนหัวปักหัวป่า
วันหนึ่ง
ไป๋เย่นิ่งไปส่งเซี่ยต้าไปที่โรงเรียนอีกครั้ง เขาไปพูดคุยกับ คุณครูด้วยตัวเอง คุณครูนั่งอยู่หน้าเปียโน เล่นบทเพลงแสน หวานให้ทั้งคู่ฟัง พร้อมส่งสายตาหว่านเสน่ห์ไปยังบางคน
เมื่อไปเฉิงออกไป คุณครูก็เอ่ยปากถามต้าไป “ทำไมถึง เป็นคุณพ่อที่มาส่งเธอทุกทีเลยล่ะ ไม่เคยเห็นคุณแม่เธอเลย พ่อ แม่เธอไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ”
“ครับ ตอนนี้ยังไม่
“ถ้าอย่างนั้น….ต้าไป เธอเอาเบอร์มือถือคุณพ่อเธอให้ คุณครูหน่อยได้ไหม คุณครูจะสอนเพลงที่ไพเราะที่สุดให้เธอ ดี ไหม”
เด็กน้อยยิ้มตาหยี “คุณครูครับ ครูยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อ ผมตอนถอดผ้าปิดปากออก ก็จะจีบพ่อผมแล้วเหรอ”
“หน้าตาไม่สำคัญสักหน่อยนี่นา คุณครูถูกใจสิ่งที่อยู่
ภายในมากกว่า”
“อืม ถ้าพ่อผมได้ยินต้องดีใจมากแน่ๆ แต่ว่า ผมต้องให้ คุณครูดูรูปของพ่อผมก่อน!” เซียต้าไปเตรียมพร้อมมาดี จึง หยิบรูปภาพใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้ววางตรงหน้าคุณครูในรูปนั้น คือไปเปถึงจริงๆ แต่ว่าใบหน้าที่ไม่ได้สวมผ้าปิดปาก กลับเต็มไปด้วยรอยแผล ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
คุณครูตกใจจนแทบปล่อยรูปใบนั้นทิ้ง ดวงใจแหลก สลายทันที
หลังจากนั้น ยามที่ไป๋เย่นิ่งไปส่งเซี่ยต้าไปไปเรียน คุณครู เปียโนกลับกลายเป็นมีท่าที่เย็นชา ไม่ชายตามองเขาอีกเลย
ที่ รูปภาพใบเดียวที่ผ่านการติดต่อ ก็ช่วยหมาจัดการ ศัตรูหัวใจได้อีกหนึ่งคน so easy จริงๆ!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ