สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 92 ความรักที่เก็บซ่อนถูกเปิดเผย(2)



ตอนที่ 92 ความรักที่เก็บซ่อนถูกเปิดเผย(2)

เซี่ยซิงเฉินมองไปยังแผ่นหลังอันดื้อรั้นนั่น พลันรู้สึกแสบที่ นัยน์ตา หากซ่งเหวยเข้ามาในบ้านหลังนี้ ถึงตอนนั้นสถานะ ของเขาคงจะน่าอึดอัดมาก เธอกลัวลูกลำบาก

“นี่ยังไม่ไปอีกเหรอ ผมบอกให้ออกไปไง!” เซียต้าไปเงี่ยหู รอฟังอยู่ เมื่อไม่ได้ยินเสียงอะไรก็แอบหันหลังมามอง ใช้แสง อันน้อยนิดมองไปที่บานประตู เห็นเพียงขาคู่หนึ่ง ก็อดโวยวาย ขึ้นมาไม่ได้

“อยากกินน่องไก่ที่แม่ทำใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลุกขึ้น นอนอยู่อย่างนั้นน่ะไม่ได้กินแน่นอน” ในที่สุดเฮียซิงเฉินก็พูด ออกมา

เซี่ยต้าไปคิดว่าตัวเองได้ยินเสียงหลอน ดวงตากลมโตที่ เอ่อล้นด้วยน้ำตากะพริบไปที วินาทีต่อมาก็รีบลุกขึ้นจากโซฟา ทันทีที่เห็นเธอยืนอยู่หน้าประตู ปากเล็กเบะออกแล้วก็ร้องไห้โฮ ออกมา “หม่ามี้!”

สภาพแบบนี้ ดูเหมือนเขาถูกปฏิบัติด้วยไม่ดีอย่างยิ่ง เซี่ย ซิงเฉินรู้สึกปวดใจอย่างมาก เธอวางของหวานลง พลางอุ้มเด็ก น้อยจากบนพื้นขึ้นมา

“หิวหรือเปล่า” เซี่ยซิงเฉินเอ่ยถาม หัวเล็กๆ ของเขาพยักหน้าหัว “หิว หิวมากเลย

“คราวหลังห้ามทำอย่างนี้อีก หิวก็ต้องกินข้าว ระวังอด ข้าวแล้วจะไม่สูงนะ”

“โทษพ่อที่ใจร้ายที่สุด!” เซียต้าไปบ่นอุบอิบ เซียซึ่งเ นอุ้มเด็กน้อยเดินลงบันได ในห้องทานอาหาร พ่อบ้านสั่งให้คน รับใช้จัดวางอาหารรออยู่แล้ว เซียต้าไปอยากกินน่องไก่ แถม ยังเป็นฝีมือของเธอ เซี่ยซิงเฉินย่อมยินดีที่จะทำ

เธอเดินเข้าห้องครัวอีกครั้ง เทียบกับบ้านหลังเล็กที่เธอ อาศัยอยู่ตอนนี้แล้ว ช่างใหญ่โตจนเกินไปจริงๆ เธอผูกผ้ากัน เปื้อน พลางจัดการน้องไก่อย่างชำนาญมือ เหมือนเซียต้าไปจะ กลัวเธอจากไปอีก เลยยืนกอดถ้วยเล็กของตัวเองอยู่ข้างเธอ ราวกับเป็นหางเล็กๆ ของเธอ เธอกลัวเขาจะถูกควันรมเข้าเลย บอกให้ออกไปอยู่หลายครั้ง เขาก็ไม่ยอม สุดท้ายเธอจึงต้อง

ปล่อยเลยตามเลย

ขณะที่เธอกำลังวุ่นวายอยู่ในห้องครัวนั้น ไปเย่นิ่งก็กลับ มาแล้ว เขากำลังเดินเข้ามาในบ้าน พูดคุยเรื่องสำคัญกับเห ลิ่งเฟยไปพลาง เหลิ่งเฟยพูด “ท่านครับ แล้วฝั่งคุณส่ง

ยังไม่สิ้นประโยค สายตาของไปเย่นิ่งก็สะดุดเข้ากับถุง ของขวัญบนโต๊ะเล็กนั่นเสียแล้ว เขาไม่ได้ฟังว่าเหลิงเฟยพูด อะไรอีกต่อไป เพียงแต่เดินไปที่โต๊ะนั่นอย่างไม่รีบร้อน แล้วดึง เนกไทในถุงออกมา
ชายหนุ่มนิ่งไป

หันมองรอบด้านอย่างไม่รู้ตัว พ่อบ้านที่ยืนมองอยู่ข้างๆ พลันเข้าใจในทันที เขายิ้มและทำมือชี้ไปทางห้องครัว แววตา ของไปเฉิงหม่นลงเล็กน้อย เขาถือเนกไทไว้ในมือ แล้วเดินไป ตามทางที่พ่อบ้าน แต่เมื่อเดินได้ก้าวเดียวก็นึกอะไรได้ จึงหัน กลับมามองเหลิงเฟย “เรื่องอื่นค่อยว่ากันพรุ่งนี้ ให้ทุกคนกลับ ไปได้เลย”

“ครับท่าน” เหลิงเฟยรับคำ เหลิงเฟยยังคงยืนมองอยู่ตรง นั้น เมื่อเจ้านายของเขาเดินหายไปในครัว ในใจอดรู้สึกกังวล ไม่ได้ เห็นอย่างนี้แล้ว ท่านประธานาธิบดีคงจะหวั่นไหวกับคุณ เซียจริงๆ เสียแล้ว แต่ว่าหวั่นไหวก็ส่วนหวั่นไหว งานแต่งงานก็ ส่วนงานแต่งงาน ทั้งสองเรื่องนี้ต้องแยกกัน เขาเพียงแต่สงสัย ว่า หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ท่านประธานาธิบดีจะยังคงแบ่งแยก มันได้ชัดเจนไหม

ไปเย่นิ่งยังไม่ทันเดินเข้าห้องครัวก็ได้ยินเสียงเด็กน้อยแว่ว มาจากข้างใน “หม่ามี้ดูสิ ผมกินข้าวหมดไปหนึ่งถ้วยแล้วล่ะ!

“อื้ม เป็นเด็กดีจริงๆ ลูกออกไปรอแม่ข้างนอกนะ อีกเดี๋ยว น่องไก่ก็เสร็จแล้ว” เสียงอันอ่อนโยนของเธอดังแว่วออกมาจาก ห้องครัว เพียงแต่ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า น้ำเสียงของเธอ วันนี้ฟังดูแล้วเหมือนมีความเศร้าปนอยู่

“ไม่เอา ผมจะอยู่เป็นเพื่อนตรงนี้นี่แหละ เสี่ยวไปร้ายที่สุด ถ้าเสี่ยวไปกลับมาแล้วไล่แม่ แกล้งแม่ ผมจะปกป้องแม่เอง
ไปเฉิงที่ยืนอยู่ข้างนอกหน้าตึง ไอ้เด็กนี่เฉีกหน้า พ่อตัวเองนี่เชี่ยวชาญเหลือเกินนะ

เขาทำหน้านิ่งแล้วเดินเข้าไป

เซี่ยต้าไปถึงความโกรธที่มีอยู่เต็มอกของตัวเองออกมา ไม่ง่ายเลยที่จะได้ฟ้องต่อหน้าหม่า ขณะที่เขากำลังพูดอย่าง เมามัน จู่ๆ ปกคอเสื้อด้านหลังกลับถูกใครสักคนดึงไว้เสีย อย่างนั้น

“ใครอ่ะ! ใคร” สองมือตะเกียกตะกายอยู่กลางอากาศ ข้างหนึ่งถือถ้วย อีกข้างกำซ้อนของเขาไว้ หัวเล็กๆ นั่นหันกลับ ไปมองข้างหลัง เมื่อเห็นใครคนหนึ่ง สีหน้าก็แย่ลง

เซี่ยซิงเฉินได้ยินเสียงนั้นก็หันกลับมาเช่นกัน เมื่อเห็นว่า เป็นเขา ใจพลันกระตุกวูบ มือกตะหลิวแน่นอย่างไม่รู้ตัว เด็ก น้อยถูกเขาถึงลากกิ่งอุ้มออกไป จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้ามาใน ห้องครัวอีกครั้ง คนรับใช้ที่อยู่ในห้องครัวก็ไม่รู้ว่าเขาสั่งให้ ออกไปตั้งแต่เมื่อไร เอาเป็นว่าในตอนนี้ห้องครัวเหลือเพียงแค่ เธอและเขาสองคนเท่านั้น

เซี่ยซิงเฉินพยายามจดจ่อสมาธิตัวเองกับน่องไก่ที่กำลัง ทอดตรงหน้า ไม่อยากยุ่งกับคนคนนี้อีก แต่ว่าบางคนก็มีความ สามารถที่เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ทำอะไร ไม่พูดอะไร ก็ทำให้ ใจคนว้าวุ่นไม่สงบได้

“กลับมาตั้งแต่เมื่อไร”

ก่อนคือไปเย่นิ่ง

คนที่เปิดปากทำลายความเงียบ
“สักแป๊บนึง” เซี่ยซิงเฉินตอบกลับเขา แล้วก็อธิบาย “คน ขับรถบอกว่าตาไปไม่ยอมกินข้าว ให้ฉันกลับมาดูสักหน่อย ฉัน ก็เลยมา รอเขากินข้าวเสร็จ ส่งเขาเข้านอน แล้วฉันจะไปเอง ค่ะ”

ไป๋เย่นิ่งไม่ชอบประโยคสุดท้ายที่เธอพูดขึ้นมาเลย ชาย หนุ่มซุกสองมือลงในกระเป๋ากางเกง จึงตัวกับตู้เย็นข้างๆ สายตาเรียบนิ่งมองมายังเธอโดยไม่กะพริบตา “ถ้าพรุ่งนี้เขา ดื้อจะอดอาหารอีกล่ะ

“งั้นคุณก็อย่ากักบริเวณเขาสิ ให้เขาไปหาฉัน ฉันย่อมมีวิธี ที่จะทำให้เขาไม่ต้องอดอาหาร

“ไม่ได้” ไปเฉิงปฏิเสธทันที “ในเมื่อผมบอกแล้วว่าก บริเวณก็คือกักบริเวณ คำสั่งที่ผมสั่งไปจะเปลี่ยนในอีกวันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะยังมีความน่าเชื่อถืออะไรอีก

นี่คือที่เขาว่ากันว่า “กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ” หรือ?

น่องไก่ทำเสร็จแล้ว เซี่ยซิงเฉินปิดไฟแล้วหันหลังกลับมา

มองเขา แต่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมคุณต้องกักบริเวณเขา

เขายังเป็นแค่เด็ก คิดถึงแม่แล้วผิดอะไร เขาเกิดมาจากท้อง

ของฉัน ฉันเป็นคนเลี้ยงดูจนเขาโตขนาดนี้ คุณมีสิทธิ์อะไรมา

แยกพวกเรา แบบนี้ไม่ว่าจะกับเขาหรือฉัน มันก็โหดร้ายมาก

เลยไม่ใช่หรือไง!”

ขณะที่เซี่ยซิงเฉินพูดอยู่ จู่ๆ อารมณ์ก็พุ่งสูง สายตาที่ต้อง มองเขา เพียงครู่เดียวก็มีน้ำใสบางๆ ตื้นขึ้นมา
ไปเฉิงนิ่งงันไป สายตาเรียบนิ่งมากขึ้น เธอรู้สึกตัวแล้ว ว่าเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จึงละสายตาจากเขา หันหลัง เพื่อที่จะออกไป ไปเฉิงยื่นแขนออกไปฉุดจนตัวเธอหมุนไปอยู่ ในอ้อมแขนของเขา และถูกกอดไว้อย่างนั้น

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกไม่เป็นธรรมเลย ในหัวมีแต่บัตรเชิญสีแดง ที่หนูเจอหนุนให้เธอดู แล้วในใจก็รู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก เธอดิ้น ขลุกขลักอยู่สักพัก ก็ถูกไปเยถึงกระชับแขนกอดแน่น กอดแน่น ยิ่งกว่าเดิม หัวนิ่งอยู่ตรงไหล่เธอ ตอนนี้ความรู้สึกในก้นบึ้งของ หัวใจที่เธอพยายามซ่อนไว้ถูกความอ่อนโยนของเขาทำลาย สิ้น เธอหยุดดิ้น แล้วทำนบน้ำตาก็พังทลายลงมาทันที

ไปเยฉิงรับไม่ไหวกับน้ำตาของเธอ เห็นเธอร้องไห้แล้วใน ใจว้าวุ่นไปหมด มีเพียงแขนข้างเดียวที่โอบกอดเธอ “ห้าม ร้องไห้

เธอพูดเสียงสะอื้น “ทำไมคุณถึงชอบรังแกเราแม่ลูกนัก เห็นเราน่ารังแกมากใช่ไหม

ไป๋เย่นิ่งจับเข้าที่คางของเธอ เชยคางเธอขึ้น “คุณลอง บอกมาว่าคุณน่ารังแกที่ไหนกัน ทีม ในเมื่อคุณชอบหนีออก จากบ้านมาก ก็เลยให้คุณออกไป คงจะให้เด็กติดนิสัยแย่ๆ แบบนี้ของคุณไม่ได้หรอกนะ

เซียซิงเฉินปิดปากเงียบ สายตาขุ่นเคืองจ้องมองไปที่เขา “ตอนนั้นคุณเป็นคนไล่ฉันออกไปเอง ทำไมถึงกลายเป็นว่าฉัน หนีออกจากบ้านล่ะ
นี่เขาโยนความผิดเก่งมากจริงๆ

มือข้างหนึ่งของไปเย่นิ่งวางอยู่บนเอวของเธอ อีกข้างก็ ขวางกั้นอยู่ด้านข้าง กักตัวเธอให้อยู่ระหว่างอกของเขาและ เย็นนั่น เขามองเธอด้วยสายตาอันลึกซึ้ง เซี่ยซิงเฉินรู้เพียงว่า นั่นเป็นเหมือนหลุมกับดัก ที่เพียงเผลอมองเข้าก็จะถูกดูดเข้าไป อย่างง่ายดาย

เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ จนปากแทบจะชิดกับริมฝีปากของ เธอ พูดเสียงต่ำ “ผมสั่งให้คุณไป คุณก็เลยไป นี่คุณเชื่อฟังคำ สั่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ