ตอนที่ 65 ประธานาธิบดีคิดไม่ซื่อ
“ตื่นแล้วเหรอ?” เขาเผยอเปลือกตาขึ้นมามองเธอด้วยท่าที เฉยเมย และก้มหน้าจดจ่อไปที่โน้ตบุ๊กอีกครั้งด้วยท่าทีเฉยเมย เช่นกัน
ในใจของเธอตอนนี้มีแต่ความกังวลเรื่องอาการป่วยของ เขาจนลืมเรื่องเมื่อคืนและความกระอักอ่วนใจไปเสียสนิท
เธอเดินเข้าไปและเอามือน้อยๆ ของเธอแตะไปบนหน้า ผากของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
อุณหภูมิที่ร้อนระอุนั้นทำให้เธอตกใจ “คุณไข้สูงมากเลย “ยังโอเคอยู่” เขาตอบอย่างไม่ยี่หระ
“เดี๋ยวคุณหมอก็มาแล้ว ฉันว่า…” เซี่ยซิงเฉินมองเขา และเดินไปคลี่ผ้าห่มที่เตียง เธอยืนอยู่ข้างๆ เตียงและบอกเขา ว่า “คุณนอนพักก่อนดีกว่า สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย
ไปเย่นิ่งจึงต้องเงยหน้ามองไปที่เธออีกครั้ง ทั้งสองสบตา กัน ความกังวลใจและความห่วงใยในดวงตาของเธอสะท้อน ชัดเข้าไปในดวงตาของเขา
เขาหรี่ตาลง ดวงตามีสีเข้มขึ้น พริบตาต่อมาเขาก็ยก โน้ตบุ๊กที่ตั้งอยู่บนขาออกและพูดกับเธอว่า “เข้ามาใกล้ๆ
น้ำเสียงคำสั่งเหมือนเช่นเคย เขาเคยชินกับท่าทีแบบนี้ไปเสียแล้ว
การอยู่ในทำเนียบนานๆ ก็ทำให้เซียซิงเฉินเองเริ่มคุ้นชิน ด้วยเช่นกัน เธอเดินไปหาเขาอย่างว่าง่ายโดยไม่รู้สึกอะไรเลย
ทันใดนั้นเขาก็รวบเอวของเธอเอาไว้ เชียซิงเฉินตกใจ ภาพจูบแสนเร่าร้อนของคนสองคนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแวบเข้ามา ราวกับถั่วที่แตกออกดัง โป๊ะ หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น หน้าแดง กําจนอยากถอยหนี
ไปเย่นิ่งไม่ยอมปล่อยเธอไป เขากางขาที่เรียวยาวทั้งสอง ข้างออกและออกแรงที่ฝ่ามือเล็กน้อย ทำให้ตัวเธอโน้มเข้ามา ใกล้และถูกหนีบไว้ระหว่างขาสองข้างของเขา
มือทั้งสองของเธอยันโซฟาที่อยู่ทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ เป็นพัลวัน เธอจึงไม่ล้มลงไปบนตัวเขาให้กระอักกระอ่วนใจ
ช่วงเวลานั้น สายตาของทั้งสองคนก็เกือบจะอยู่ในระดับ เดียวกัน
ขนตาของเธอกระพือไหวราวกับปีกผีเสื้อ ลมหายใจติดขัด อุณหภูมิร่างกายของเขาสูงมาก ฮอร์โมนเพศชายทะลักหลั่ง ออกมาพร้อมกับไอร้อน ทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
การเข้าใกล้ตัวเขานี่อันตรายจริงๆ…
“ตื่นเต้นอะไร?” เขามองเธอและถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ หาก เปรียบเทียบกับความตื่นเต้นของเธอแล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ สึกอะไรเลย
ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
“คุณ…คุณจะทำอะไร?” เขายื่นมือออกมา แต่เซียซิงเฉิน เบือนหน้าหนี เธอตกใจจนลิ้นใกล้จะพันกันเป็นปม
“หันหน้ามานี่!”
“…ไม่!!
เธอขยับตัวเล็กน้อยและพยายามยืนตัวตรงอีกครั้ง ฝ่ามือ ของไปเฉิงยังคงนาบไปที่เอวของเธอและรักเธอแน่นขึ้นอย่าง รู้ทัน
“หันหน้ามา ไม่งั้นผมอาจอดใจไว้ไม่อยู่และทำเรื่องบาง เรื่องที่เราชอบมากๆ อีกก็ได้…” น้ำเสียงของเขาทั้งบีบบังคับ และคลุมเครือจนน่าตกใจ
“ใครว่าฉันชอบ?” เซียซิงเฉินหันหน้ากลับมา เธอเถียงเขา
ด้วยใบหน้าและใบหูที่แดงก่ำ “ฉันไม่ได้ชอบสักหน่อย!!
ไป๋เย่นิ่งเหลือบมองเธอและยื่นมือไปสำรวจอุณหภูมิตรง หน้าผากของเธอพลางเอ่ยปากพูดเบาๆ ว่า “ไม่ชอบ? แล้วเมื่อ คืน ใครกันล่ะที่เล่นด้วย”
เชียซิงเฉินเงียบ ใบ้กิน
อืม ยังดีที่อุณหภูมิกลับมาเป็นปกติแล้ว เขาเอามือลงและ ถามต่ออีก “ใครจูบที่คอผม?”
“ใครกอดผม ไม่ยอมให้ผมไป
“” เซี่ยซิงเฉินอยากจะบอกให้เขาหุบปาก
เธออายจนอยากจะขุดหลุมฝังตัวเอง
แต่คนคนนี้มาหาเรื่องเธอก่อนชัดๆ แล้วทำไมถึงกลาย เป็นความผิดของเธอไปได้ล่ะ?
เธอรู้อยู่ว่าจริงๆ เขาคิดไม่ซื่อ เขาต้องมาฉีกหน้าเธอใน ตอนเช้าแน่ๆ!
“ก็ฉันป่วยนี่ค อีกอย่างฉันกินยาไปเยอะขนาดนั้น มันก็ ต้องมีมึนๆ งงๆ กันบ้าง…” เธอแก้ตัว “นี่ถ้าคุณไม่พูด ฉันก็ไม่รู้ หรอกว่าไอ้บ้ากามที่เข้าห้องฉันเมื่อคืนก็คือคุณ ถ้าเกิดเป็นคน อื่นล่ะก็….
“ถ้าเป็นคนอื่น แล้วจะยังไง?” น้ำเสียงของเขาแฝง อันตราย สายตาที่มองเธอก็ดูไม่ปลอดภัย
เหมือนกำลังเตือนเธอให้ระวังตัว หากพูดผิดไปประโยค เดียว ผลลัพธ์คงร้ายแรงไม่ใช่น้อย!
เซี่ยซิงเฉินขยับริมฝีปาก ขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยปากนั้น ประตูของห้องนอนก็ถูกผลักให้เปิดออกจากด้านนอก
“ฟู่อี้เฉินสวมชุดกันเชื้อโรคพร้อมผ้าปิดปากเดินเข้ามา ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม เมื่อเห็นภาพด้านในเขาก็เอ่ยปากพูด เบาๆ “สภาพจิตใจของทั้งสองท่านไม่เลวเลย ถึงขนาดนี้แล้วยัง มีอารมณ์สุนทรีย์มาพลอดรักกันอีก”
ถ้าเป็นคนอื่น คงร้องไห้เป็นเผาเต่าไปนานแล้ว!
ไปเยถึงเหลือบมองเขา ส่วนเซียซิงเฉินก็อึ้งจนทำตัวไม่ถูก
เธอรีบแกะมือของเขาออกและถอยห่างจากตัวเขา เขาเองก็ไม่ได้รบเร้าอะไรต่อ ปล่อยให้เธอถอยไปอยู่หลัง
ฟู่อี้เฉิน
“คุณเซีย ผมได้ข่าวว่าคุณไข้ลดแล้ว” ฟู่เฉินพูดกับเซียซึ่ง เฉิน พลางเรียกทีมรักษาคนอื่นๆ ให้เข้ามา
“ใช่ค่ะ”
“ดูเหมือนวันนี้จะดูสดชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก ไม่มีอะไรต้อง กังวลแล้วครับ อาจเป็นแค่หวัดเล็กๆ น้อยๆ
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” เซี่ยซิงเฉินมองคนบางคนที่นั่ง
อยู่บนโซฟา “แต่ดูเหมือนเขาจะไข้สูงเหมือนกัน”
ฟูอี้เฉินตรวจร่างกายของเขา เซียซิงเฉินยังคงไม่ไปไหน เธอรออยู่ตรงอีกฟากของห้องอย่างเป็นกังวล
“ดูเหมือนการแพร่กระจายของไวรัสในร่างกายของคุณ เซียจะรุนแรงมาก ปกติท่านร่างกายแข็งแรงมาก ไวรัสทั่วไปไม่ น่าจะแพร่กระจายได้เร็วขนาดนี้” เฉินมีสีหน้าครุ่นคิด เขา สงสัยว่าจะเป็นการระบาดของโรค WIS
“หรืออาจจะไม่ใช่โรคติดต่อ”
“ไม่งั้น? ท่านก็เป็นหวัด?” เพราะตั้งเล็กจนโตเขาก็ออก กำลังอย่างบ้าเป็นหลัง ปกติร่างกายของเขาจะแข็งแรงอย่างกับมนุษย์เหล็ก
บาดแผลจากการระเบิดคราวก่อน เขาก็ยังกัดฟันอดทน จนผ่านมันมาได้
“อืม ไข้หวัดทั่วไป” ไปเย่นิ่งนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “อาบ น้ำเย็นๆ ตอนกลางดึก ก็ไม่แปลกหรอกที่จะเป็นหวัด
“ตอนนี้อุณหภูมิอากาศช่วงกลางดึกลดลงเหลือไม่กี่องศา ทำไมยังไปอาบน้ำเย็นอีกล่ะคะ?” เซี่ยซิงเฉินถาม
“…” ไปเย่นิ่งเหลือบมองเธอ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ
ฟู่เฉินดูจะเข้าใจเขาที่สุดแล้ว “ดูเหมือนอารมณ์สุนทรีย์ ของท่านจะเยอะกว่าที่ผมคิดไว้
เขาหงุดหงิด “ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะ
“ดูจากร่างกายของท่านแล้ว ท่านคงไม่ได้อาบน้ำเย็นไป แค่ครั้งเดียวใช่ไหม 10 ครั้งได้ไหม?”
“ผมดูผิดมนุษย์ขนาดนั้นเลยหรือไง?” ไปเย่นิ่งจ้องเขา
“ไม่ถึง 10 ครั้ง งั้นก็คงไม่น้อยกว่า 7 หรือ 8 ครั้งใช่ไหม?”
“คุณหมอฟู นี่คุณว่างถึงขนาดมายุ่งเรื่องอาบน้ำของผม ได้ตั้งแต่เมื่อไร? ครั้งหน้าคุณมาอาบน้ำให้ผมเองเลยไหม
“ขอบคุณท่านที่ให้เกียรติ แต่ผมว่าผมเป็นหมอตามเดิมจะดีกว่า”
ทั้งสองคนตอบโต้กันไปมา เซี่ยซิงเฉินที่อยู่ข้างๆ ฟังแล้วก็ไม่เข้าใจ อย่างแรกคือเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องอาบน้ำเย็น ตอนกลางดึกหลายครั้ง นี่เป็นการทำร้ายตัวเองไม่ใช่เหรอ? ต่อ ให้ร่างกายสมบูรณ์ดีขนาดไหน มันก็ไม่สมควรทำแบบนี้ อย่าง ที่สองคือเธอไม่เข้าใจว่าการอาบน้ำเย็นกับความผิดมนุษย์นั้น มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ในตอนบ่าย เซี่ยงคงกำลังจัดสัมภาระอยู่ วันนี้เธอมี กำหนดการต้องตามท่านทูตไปแสดงที่ฝรั่งเศส เพื่อกระชับ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ แต่ขณะที่เธอกำลังจะปิด กระเป๋า เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากคณะเต้นรำ
“คุณว่าอะไรนะ?” เซี่ยงคงไม่อยากเชื่อคำพูดของอีกฝ่าย “จะมาบอกว่าไม่ให้ฉันไปแบบนี้ก็ได้เหรอ? ฉันอุตส่าห์วางแผน เอาไว้แล้ว ตั๋วเครื่องบินก็จองไว้แล้วด้วย คุณเข้าใจอะไรผิด หรือเปล่า? ฮัลโหล? ฮัลโหล!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ