ตอนที่ 49 ว่าที่สามีของเธอ
ไปเย่งจ้องมองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้ระแคะระคายอะไร เพียงแค่ พยักหน้าเล็กน้อยแล้วก้าวเท้าหนักๆ ออกไป ขณะเดินผ่านเซีย ซิงเฉินก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าลง
เธอมึนงงเล็กน้อย กำลังนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของลูกชาย
พอตั้งสติได้ก็เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา ตอนแรกเธอ อยากถามดูว่าได้พูดกับลูกอย่างนั้นหรือเปล่า แต่เซียต้าไปถูมือ ไปมาโค้งให้เธออยู่ข้างหลังเป็นการขอไม่ให้เธอเปิดโปงตัว เอง เธอ ใจอ่อน เรื่องที่อยากถามออกไปก็เป็นอันต้องล้มเลิก
ขณะตามหลังเขา เธอเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังกว้างใหญ่ หลายต่อหลายครั้ง เกิดความรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก
เธอเดินอย่างเหม่อลอยจนกระทั่งเหลิงเฟยเปิดประตูรถให้ เขา เขาขึ้นรถแล้ว เหลิงเฟยก็เอ่ยเรียก “คุณเซีย” ด้วยรอยยิ้ม เธอจึงได้สติขึ้นมาทันที
เซ็งชะมัด
จู่ๆ ก็เดินตามเขามาถึงแล้ว!
“sorry” เซี่ยชิงเฉินเอ่ยเสียงแผ่ว รู้สึกเสียหน้าเป็นอันมาก เธอไม่กล้ามองไปเย่นิ่งที่อยู่ในรถเลยแม้แต่น้อย ร่างบางหมุน ตัวเตรียมเดินกลับไปหาคนขับรถที่รอเธออยู่ในทำเนียบแล้ว
ทว่าได้ยินเหลิ่งเฟยเอ่ยขึ้นเสียก่อน “ช่วงนี้ยุ่งมากเลย ไม่ทันได้กล่าวแสดงความยินดีกับคุณเซีย”
เซียซิงเฉินซ้อนสายตาขึ้นมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ มี
เรื่องอะไรต้องแสดงความยินดีกับฉันเหรอ?” “ก็ต้องเป็นเรื่องงานน่ะสิครับ ยินดีด้วยครับคุณเซียที่สอบ ผ่าน ได้เข้ากระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ” เซียซิงเฉินกล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาท “ไม่นึกว่าคุณยุ่งขนาดนี้ยังทราบเรื่องงานของฉันได้ ช่างเอาใจ ใส่จริงๆ”
“ถ้าพูดถึงเรื่องเอาใจใส่ ควรจะเป็นท่านมากกว่าครับ
“เขา?”
เซียซิงเฉินมองเข้าไปในรถแวบหนึ่ง โดยไม่รู้ตัว
เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?
เหลิงเฟยเอ่ยขึ้นราวกับล่วงรู้ความคิดในใจเธอตอนนี้ “ท่านโทรติดต่อไปที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะ ให้ พวกเขา…”
“เลขาเหลิ่ง ว่างมากเหรอ?”
เสียงเยือกเย็นลอยมาขัดจังหวะคำพูดต่อไปของเหลิงเฟย
กระจกรถค่อยๆ เลื่อนลง ใบหน้าอันหล่อเหลาของชาย หนุ่มโผล่ออกมา เขามองปราดไปที่เหลิงเฟย “เมื่อก่อนไม่ยักรู้ว่าคุณพูดมากขนาดนี้
” เหล่งเฟยสะดุ้งเฮือก ไม่กล้าต่อความอีก เพียงแค่ พยักหน้าส่งสัญญาณให้เธอแล้วหมุนตัวเตรียมออกไป คิ้วเรียวงามของเซี่ยซิงเฉินขมวดเล็กน้อย มองไปเยถึง
แวบหนึ่งแล้วเอื้อมมือไปถึงเหลิงเฟยไว้โดยอัตโนมัติ เลขาเห
ลิ่ง พูดให้จบก่อนแล้วค่อยไป
“ผมปากมากเกินไปแล้ว คุณเซีย ถ้าคุณอยากถามอะไรก็ ไปถามท่านเอาเองเถอะครับ
เหลิงเฟยไม่กล้ารีรออีก เซียซิงเฉินก็เลยรั้งเขาไว้ไม่อยู่ ขบวนรถแผดเสียงก้องก่อนจากไป
เธอยืนอยู่ที่นั่น เฝ้าดูท้ายรถที่ค่อยๆ หายลับไปอยู่ครู่ใหญ่ พอนึกขึ้นได้ก็หมุนตัวกลับเข้าทำเนียบทันที
“ต้าไป์” เธอเรียกลูกชาย
“เอ๋? ทำไมแม่ถึงกลับมาอีกล่ะ?”
เซียซิงเฉินหยิบมือถือตัวเองออกมาจากกระเป๋า แล้วถาม ว่า “ลูกมีเบอร์ส่วนตัวของพ่อไหม
“มีสิครับ ผมกับพ่อเป็นอะไรกันล่ะ” เจ้าหนูน้อยโอ้อวด
เบอร์ส่วนตัวของพ่อมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ ชั่ววินาทีถัดมาก็มองไปที่เธออีก “หม่า ไม่ใช่ว่าจนป่านนี้
แล้วแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของเสี่ยวไปก็ยังไม่มีหรอกใช่มั้ย?”
“อืม ไม่มี”
“เสี่ยวไปไม่ได้ให้เบอร์แม่เหรอ?”
“ไม่ได้ให้
“จ๊ะ พ่อนี่ไม่ได้ความเลย อยากจะจีบสาว แม้แต่เบอร์ โทรก็ไม่ยอมให้ จะจีบยังไงล่ะ” เขาทำหน้ารังเกียจ
เซี่ยซิงเฉินรู้สึกเซ็งเล็กน้อย “ลูกอย่าเพ้อเจ้อ เร็วเข้า รีบ เอาเบอร์โทรพ่อให้แม่เถอะ แม่มีเรื่องจะถามเขา
เซียต้าไปหยิบมือถือเธอขึ้นมา นิ้วเล็กขาวนุ่มจิ้มบนหน้า จอสองทีก็บันทึกเบอร์โทรไปเย่นิ่งลงไป พอเชียซิงเฉินเห็นชื่อที่ เขาบันทึก ก็ตบศีรษะเล็กๆ ของเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “วุ่นวาย จริง”
เจ้าตัวเล็ก จู่ๆ ก็บันทึกชื่อให้เธอว่า “ว่าที่สามี!! ช่างคิด ออกมาได้!
เธอรีบเปลี่ยนทันที ทว่าสุดท้ายไม่ว่าจะทำอย่างไร ม แก้ไขก็ไม่ขยับเลย
“เกิดอะไรขึ้น?”
หรือว่าเครื่องค้าง?
“ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว อันนี้เหมาะที่สุด” เซียต้าไปยิ้มอย่าง เฉลียวฉลาด “แต่ว่าดูจากไอคิวของหม่าม ถึงอยากจะเปลี่ยน เปลี่ยนไม่ได้หรอก”
เซียซิงเฉินเข้าใจทันที “ลูกตั้งค่าระบบในมือถือแม่ใช่
ไหม?”
“ก็ไม่โง่นี่นา ก็ใช่ ถ้าโง่จริงๆ คงจะคลอดเด็กมีพรสวรรค์ มาก
ที่ฉลาดแบบผมออกมาไม่ได้หรอก” เซียต้าไปหลงตัวเองอย่าง
เขาวิ่งตึงตั้งขึ้นชั้นบนไปอีกครั้ง โดยไม่แก้ระบบคืนให้เธอ
มีลูกชายไอคิวสูง เซี่ยซิงเฉินไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองควร ร้องไห้หรือหัวเราะ
เพราะงั้น ตอนนี้มันอะไรกัน แม้แต่เด็กคนหนึ่งก็ยังรังแก
เธอได้?
พวกเขาสองคนพ่อลูกปรึกษากันมาก่อนใช่ไหม?
เซี่ยซิงเฉินลองโทรหาเบอร์ส่วนตัวของเขา เมื่อมองอักษร สี่ตัวที่เขียนว่า “ว่าที่สามี กะพริบบนหน้าจอ เธอยังคงรู้สึกกลืน ไม่เข้าคายไม่ออก กลัวจะมีคนเห็น ตอนกำลังโทรศัพท์ก็ใช้มือ หนึ่งกุมหน้าจอไว้แน่นอยู่ตลอด ถ้าให้เขารู้เรื่องนี้เข้า ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาจะคิดกับเธออย่างไร
เซี่ยซิงเฉินนึกถึงประโยคนั้นที่เขาพูดกับตัวเองเมื่อคืนขึ้น มาได้ ดูตัวก็ต้องดูคู่นัดดูตัวด้วย หยูเจ๋อหนันจะแต่งงานกับเธอ งั้นเหรอ? ขนตาหลุบลงเล็กน้อย แววตาสลดลงอย่างมาก นึกๆ ดูแล้วก็เข้าใจว่า ในสายตาเขาอักษรตัวนี้ต้องน่าขบขันเป็นแน่
โทรศัพท์ไปเย่นิ่งไม่มีใครรับสายเลย
เซี่ยซิงเฉินโทรไปทั้งหมดสองสาย ตอนเช้าไม่ได้รับ ตอน ทานมื้อกลางวันเธอก็โทรอีกครั้ง แต่ผลที่ได้รับก็ยังคงเหมือน เดิม
เขายุ่งมาก
เธอไม่ได้เอาแต่โทรโดยไม่รู้กาลเทศะ แต่ก็ยังจ้องมือถือ อยู่บ่อยครั้ง รอเขาโทรกลับ
ขณะที่เวลาพักกำลังจะหมด ราวบ่ายโมงกว่านั้น มือถือ เซียซิงเฉินก็ดังขึ้นกะทันหัน
เธอเกือบจะหยิบมือถือออกมาในทันที ทว่าชื่อที่กะพริบบน หน้าจอไม่ใช่ไปเย่นิ่ง แต่เป็นหลี่หลิงอี
น่าแปลกมาก
ปกติถ้าไม่มีเรื่องใหญ่โต เธอไม่เคยติดต่อตนเอง พราเพรื่อ
คิดๆ ดูแล้วก็หยิบมือถือมารับสาย วางแนบหู
“ซิงเฉิน เกิดเรื่องขึ้นกับพ่อเธอแล้ว!” น้ำเสียงหลี่หลิงใน สายดูวิตกกังวล เพียงเอ่ยปากก็แทบจะสะอื้น
เซี่ยซิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย หัวใจเหมือนถูกบีบรัดตาม
ไปด้วย ทว่าได้แต่เอ่ยถามอย่างใจเย็น “เกิดอะไรขึ้น?
“พ่อเธอเขา…เป็นไข้เมื่อสองวันก่อน วันนี้คนในแผนก ป้องกันโรคระบาดมารับตัวเขาไป บอกว่า…บอกว่ายืนยันว่า ติดเชื้อโรคระบาด Wis แล้ว”
คำพูดในสะอื้นของหลี่หลิงดังขึ้น ใจเซียซิงเฉินดัง ตึก ตัก มือ มือถือแน่น โดยไม่รู้ตัว
ปัจจุบันโรคระบาด Wis กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก อัตราการเสียชีวิตและการแพร่เชื้อล้วนค่อนข้างสูง และในโลก นี้ยังไม่มีผลวิจัยว่ามียารักษาและยาป้องกันที่ใช้ได้ผล
ดังนั้นเมื่อป่วยเป็นโรคนี้ โดยมากก็เท่ากับโดนตัดสินโทษ ประหาร หากกล่าวว่าเท้าหน้าเหยียบเข้าไปในประตูนรกแล้วก็ ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
เนื่องจากงานป้องกันโรคระบาดภายในประเทศทำได้ดีมา โดยตลอด ดังนั้นขอบเขตการแพร่กระจายจึงไม่กว้างนัก ทว่า เธอเองก็นึกไม่ถึงเลยว่าโรคนี้จะกระทบถึงคนในครอบครัวตัว เอง
“หนูจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ” เซี่ยซิงเฉินเองก็ร้อนใจ
“เธอกลับมาจะมีประโยชน์อะไร ตอนนี้พ่อเธอไม่ได้อยู่ที่ บ้านแล้ว เธอรีบลองดูดีกว่าว่ามีใครรู้จักคนใหญ่คนโตใน กระทรวงการต่างประเทศที่สามารถคิดหาวิธีให้พวกเราไปหา พ่อเธอได้ เราถูกตัดการติดต่อแล้ว ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นยังไง บ้าง…” พอพูดถึงตรงนี้ หลี่หลิงอีกสะอึกสะอื้นขึ้นมาอีกครั้ง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ