สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 41 ท่านประธานาธิบดีขี้หึง



ตอนที่ 41 ท่านประธานาธิบดีขี้หึง

เซียซิงเฉินตกใจ เมื่อได้สติเธอจึงพยายามชักมือออก แต่มือที่

สวี่เหยียนจับเธอเอาไว้กลับแน่นขึ้น

“สวี่เหยียน?” เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจนัก

สวีเหยียนหมุนตัวกลับมา แววตาซ่อนความดื้อรั้น “ซิงเฉิน อย่าคบกับเขานะ”

“อะไรนะ?”

“คุณเคยรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? ฐานะแบบเขาต่อไปก็ต้อง แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น ถึงเขาจะจริงใจที่จะแต่งงาน กับคุณ แต่ต่อไปอนาคตของพวกคุณก็ยังต้องล้มลุกคลุก คลาน” สวีเหยียนนิ่งไปชั่วขณะ แววตาสลดลงเล็กน้อย โน้ม ศีรษะมองเธอ “ผมไม่อยากเห็นคุณเจ็บ

เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าสวี่เหยียนเป็นห่วงเธอ “คุณวางใจเถอะ ฉัน รู้ตัวเองดี คุณไม่ต้องห่วงฉัน

เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มงดงาม ดึงมือออกจากมือสวี่เหยียนอีก

เมื่อมือเธอหลุดจากอุ้งมือเขา สบู่เหยียนรู้สึกใจหาย จู่ๆ ก็รั้งเธอมากอดไว้

เซี่ยซิงเฉินตกใจ ปลายคางเกยอยู่บนบ่าเขา ฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาแนบอยู่บนเอวเธอ “ชิงเฉิน ผมคิดถึงคุณเหลือ

“ผมนึกว่าผ่านไปตั้งหลายปี ผม…จะไม่รู้สึกอะไรกับคุณอีก แล้ว แต่ว่าผมคิดผิด…

“สวี่เหยียน…” เสียงเขาแฝงความเจ็บปวด ชวนให้ซิงเฉิ

นรู้สึกเศร้าไปด้วย

“ทันทีที่เจอคุณ ผมก็เหมือนคนโรคจิต พอกลับไปแล้วใน สมองก็มีแต่คุณ ซึ่งเฉิน แต่ก่อนพวกเรายังเด็ก ยังไม่รู้อะไร พอ เกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น พวกเราก็เลยหลีกหนีโดยไม่รู้ตัว แต่ว่า ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว…” สวี่เหยียนประคองใบหน้าเธอขึ้น มา มองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง “ให้โอกาสเราอีกครั้งได้ไหม ผม ไม่สนใจเรื่องอดีตแล้วจริงๆ แล้วก็โปรดยกโทษให้กับความไว้ เดียงสา ในอดีตของผมด้วยนะ”

เซียซิงเฉินไม่เคยนึกฝันว่าจะมีวันนี้ ความจริงแต่ก่อนตัว เองก็รู้สึกผิดต่อเขา ทว่าตอนนี้เขากลับเป็นฝ่ายขอโทษก่อน

เธอสายศีรษะ “ฉันไม่เคยโทษคุณเลย เพียงแต่…สวีเห ยียน อย่าคิดมากขนาดนั้น เรื่องอดีตยังไงก็ผ่านไปแล้ว อีก อย่าง….ตอนนี้คุณเป็นคู่หมั้นของซิงคง พวกเราทำแบบนี้ไม่ได้ เข้าใจไหม?”

เธอตั้งใจจะดึงมือเขาออกจากใบหน้า ทว่าสวี่เหยียนกลับ ไม่ยอมแพ้ ระบายความในใจออกมาอย่างอัดอั้น “ผมไม่ได้รักซึ่งคงเลย ผม…จริงๆ แล้วผมแค่มองเขาเป็นเงาของคุณ เท่านั้น!”

เซียงเฉินตกตะลึง

“คุณอาจจะรู้สึกว่าผมทั้งเลวทั้งหน้าด้านที่ทำแบบนี้ แต่ว่า ผมแค่ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ซึ่งเฉิน ผมลืมคุณไม่ลง! ตอนนี้ยิ่งแน่ใจว่าผมไม่เคยลืมคุณได้เลยสักวัน!!

คำสารภาพรักของสวี่เหยียนอยู่เหนือความคาดหมายของ เธอไปมาก ถ้าบอกว่าไม่หวั่นไหวก็คงโกหก

ผู้ชายคนนี้ ถึงอย่างไรก็เคยเป็นความฝันที่งดงามที่สุดที่ ไม่อาจลืมได้ของตัวเอง

ทว่า…

“ขอโทษนะ สวี่เหยียน” เธอกัดฟันปฏิเสธเขา “ตอน นี้…ฉันสับสนมาก ไม่อยากคิดเรื่องพวกนี้

ความปวดร้าวฉายผ่านนัยน์ตาเขา

เขามองเธออย่างผิดหวัง จู่ๆ ก็โน้มศีรษะลงมา ประทับจูบ ลงบนริมฝีปากเธอทันที

ริมฝีปากแนบลงมาอย่างเร่าร้อน เธอเบิกตาโตตกใจ เกือบผลักเขาออกโดยไม่รู้ตัว ทว่าเพียงเอามือดันอกเขา ชาย หนุ่มก็ถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งและปล่อยเธออย่างเป็นสุภาพ

บุรุษ

“อย่าโกรธเลยนะ” สวี่เหยียนมองเธอที่กำลังตกใจอยู่ด้วยความเจ็บปวด แล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ผมแค่อยากเข้าใกล้ คุณอีกนิด ใกล้กว่าหนูเจอหนุน

สวี่เหยียนไปแล้ว

เซี่ยซิงเฉินยังคงมึนงงอยู่ครู่ใหญ่ พอได้สติเตรียมก้าวเท้า ออกไปนั้น ก็รู้สึกว่ามีสายตาเย็นชาทิ่มแทงมายังร่างของเธอ ทั้งเย็นชาและคมกริบราวกับจะมองเธอจนพรุนไปทั้งตัว

เธอชำเลืองมอง ร่างที่ปรากฏสู่สายตาทำเอาเธอตกตะลึง

ไปเย่งกำลังพิงตัวอยู่ใต้โคมไฟสไตล์ย้อนยุคดวงหนึ่ง อย่างเงียบเชียบ นิ้วเรียวยาวคีบบุหรี่ที่กำลังมอดไหม้ ภายใต้ กลุ่มควันลอยวน ใบหน้าหล่อเหลานั้นยิ่งดูเย็นชาเย่อหยิ่ง

ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว?

อีกอย่าง…

เมื่อครู่ คำพูดเหล่านั้นระหว่างเธอกับสเหยียน แล้วก็จูบ นั่นอีก เขาได้ยินหรือเห็นหมดหรือยัง?

พอคิดได้เช่นนี้ ก็รู้สึกร้อนตัวขึ้นมาเสียเฉยๆ ต่อมาก็รู้สึก ว่าตัวเองช่างน่าขันนัก ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย จะร้อนตัวไป ทำไม?

“ท่านประธานาธิบดี” เธอทักทายเสียงเบา โดยไม่ได้เอ่ย อะไรให้มากความ เพียงก้าวช้าๆ ออกไปข้างนอก ทั้งสองคน ห่างเหินกันราวกับต่างฝ่ายต่างเป็นเพียงคนแปลกหน้า
เขากับบุหรี่ด้วยมือเดียวในที่ดับบุหรี่ข้างๆ ท่วงท่าสง่า งาม มีจังหวะจะโคน

ขณะที่เธอเดินสวนออกไป มืออีกข้างของเขาก็ดึงเธอไว้

เรี่ยวแรงมหาศาลราวกับจะบีบให้กระดูกเธอแหลก เซี่ยชิงเฉินตกใจ

วันนี้มันอะไรกันเนี่ย?

เมื่อครู่ก็สวี่เหยียน ตอนนี้ก็กลายเป็นเขา

อีกอย่าง ตอนนี้พวกเขาสองคนยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่ นอกห้องน้ำ หากมีใครมาเห็นเข้า เกรงว่า…

ไม่ปล่อยให้เธอได้ทันนึกอะไร ไปเฉิงก็ลากเธอเข้าไปยัง ห้องน้ำชาย

เรี่ยวแรงเขามหาศาล แต่ละก้าวก็ยาวมาก เซียซึ่งเป็นสาม

รองเท้าส้นสูง ต้องเดินกึ่งวิ่งจึงจะพอตามทัน

“นี่! นี่มันห้องน้ำชาย ฉันไม่อยากไป!” เซี่ยซิงเฉินขัดขืน

ไปเฉิงลากเธอเข้าไป เสียงกระแทกดัง ปัง แล้วล็อก ประตูตาม เปิดก๊อกน้ำเซรามิคสีขาวหยกด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าสูท ชุบน้ำแล้วเช็ดปากเธอโดย ไม่พูดพร่ำทําเพลง

การกระทำป่าเถื่อน ไม่ทะนุถนอมเลยสักนิด

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกแค่ว่าเพียงครู่เดียวริมฝีปากก็ถูกเขาเช็ดจนเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา

“อ๊ะ คุณทำอะไรเนี่ย?” เซียซิงเฉินจะผลักมือเขาออก หว่างคิ้วสวยขมวดมุ่น “เจ็บนะ…

จู่ๆ ไปเปถึงก็โมโห โยนผ้าเช็ดหน้าลงบนซิงค์ล้างหน้า

อย่างแรง

นิ้วเรียวยาวบีบปลายคางเธอดึงให้แหงนขึ้นอย่างเย็นชา ริมฝีปากเขาปิดทับลงมาอย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน อย่างหนัก

จูบนี้ช่างเผด็จการ ป่าเถื่อน ซ้ำยังเต็มไปด้วยความรุกราน ดุจการลงทัณฑ์ ไร้ซึ่งการทะนุถนอม เซี่ยซิงเฉินรู้สึกคับแค้นใจ

ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกับเธอ มีสิทธิ์อะไรมาจูบเธอตามใจ ชอบ? มิหนำซ้ำยังมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษเธอ?

เธอพาล โกรธจนผลักเขา “ไปเยถึง คุณทำอะไร?!

“ใครจะจูบจะกอดคุณก็ได้ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้จะมาทำเป็น หวงตัวอะไรมากมายกับผม?” เสียงเขาแหบพร่า แววตายิ่ง ลีก ภายในดวงตาเต็มไปด้วยร่องรอยประชดประชัน

เซี่ยซิงเฉินไม่นึกว่าเขาจะพูดจารุนแรงเช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เธอเองก็ไม่รู้ว่าไปยั่วให้เขาโกรธตอนไหน คำพูดนี้ทำให้เธออับอายมาก
“ฉันอยากจะให้ใครจูบก็ได้ อยากให้คนอื่นกอดยังไงก็ได้ แต่ที่ฉันไม่อยากให้คุณล่วงเกินก็เป็นสิทธิ์ของฉัน!” เซียซิงเฉิน โพล่งอย่างตรงไปตรงมา ใบหน้าบึ้งตึง “ปล่อยเดี๋ยวนี้!

ล่วงเกิน?

แววตาไปเองเข้มขึ้น นัยน์ตาฉายแววอันตราย “รู้ไหมว่า ล่วงเกินเป็นยังไง?

พูดจบ ร่างของเธอก็ถูกผลักขึ้นไปบนซิงค์ล้างหน้า โดย ไม่ทันตั้งตัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ