ตอนที่ 4 พ่อเสียชีวิตแล้ว
เซียซึ่งเป็นกำลังจะถลาเข้าไป กำแพงมนุษย์ก็ขวางเธอไว้ ชาย ชุดสองคนยื่นมือสองข้างมากั้นตรงหน้าเธอ เอ่ยด้วยสีหน้า ไร้อารมณ์ว่า “คุณครับ กรุณาถอยไป นั่นไม่ใช่ที่ที่คุณเข้าไป ใกล้ได้
“ลูกชายฉันถูกพวกแกลักพาตัวไปใช่ไหม? ทำไมพวกแก ต้องลักพาตัวลูกชายฉันไป?”
ฉันขอเตือนพวกแกให้รีบปล่อยลูกฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉัน จะแจ้งความทันที!
เซียซิงเฉินพูดพลางล้วงโทรศัพท์ออกมา คู่สนทนาทั้ง สองกลับไม่ยอมอ่อนลงแม้แต่น้อย “ท่าน….คุณเขาพาลูกชาย ตัวเองไป ไม่ได้ทำผิดกฎหมายข้อไหน
“ลูกชายตัวเอง?” เซี่ยซิงเฉินมึนงงไปชั่วขณะ
หรือว่า…
นี่เป็นคนที่พ่อของต้าไปส่งมา
เซียงเฉินชำเลืองไปทางเบนท์ลีย์สีดำคันที่สาม กระจก รถเลื่อนลงไม่สุด เธออยู่ไกลจากรถ มองเห็นว่าเบาะหลังรถมี ชายคนหนึ่งนั่งอยู่
ใบหน้าด้านข้างนิ่งสงบ ลำตัวยึดตรง ราวกับจะได้ยินการเคลื่อนไหวทางของเธอ ศีรษะนั้นหันกลับมาเล็กน้อย สายตา ลึกลับคู่นั้นดูเฉียบแหลมและเข้มงวด เปี่ยมด้วยพลังที่ใช้สอบ ผู้คน ในชั่ววินาทีเซียซิงเฉินก็ถูกสะกดไว้ตรงนั้น รู้สึกหายใจไม่ ค่อยออก จนรถทั้งขบวนค่อยๆ ขับออกไป ชายคนนั้นหายลับ ไปจากสายตา พอชายชุดดำคนอื่นๆ ขึ้นรถคันหลังขับออกไป แล้ว สติของเธอก็กลับคืนมาทันที
เขา…ก็คือพ่อของต้าไป
“ต้าไป!
“เซียต้าไป!”
เธอไล่ตามไปอย่างลนลาน รู้ดีแก่ใจว่าตามไม่ทันแล้ว แต่ กลับเขวี้ยงรองเท้าส้นสูงทิ้ง วิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
ไม่! เขาจะเอาตัวลูกเธอกลับไปอย่างโหดร้ายเช่นนี้ไม่ได้ แม้กระทั่งถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร
กันแน่!
ซิงเฉิน ไม่ต้องตามแล้ว! เขาหายไปแล้ว! รีบไปหาตำรวจ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดดีกว่า!”
“จริงด้วย ไม่เคยเห็นโจรปล้นที่อลังการขนาดนี้มาก่อน เลยจริงๆ คุณไม่ได้ไปทำผู้มีอิทธิพลขุ่นเคืองใจใช่ไหม?
พวกเพื่อนบ้านต่างก็วิจารณ์กันไม่หยุดปาก เซียซึ่งเป็นคร นคิดอย่างสับสนไปหมด เธอเคยหวังว่าพ่อของลูกจะโผล่ออก มา อย่างน้อยก็ทำให้เธอมีโอกาสได้พบหน้าคืน ทว่าตอนนี้
เขาปรากฏตัวแล้ว แต่ไม่ต้องลงแรงสักนิดก็แย่งต้าไปของ เธอไป สูงส่งเช่นนี้ เปิดเผยและมีคุณธรรมเช่นนี้ มีเหตุมีผลเช่น นี้ สารเลวเอ๊ย!ไอ้บ้านี่เป็นเทพหรือผีกันแน่?
เซียซิงเฉินสบถออกมาประโยคนึงด้วยความโกรธ คว้า รองเท้าส้นสูงขว้างสุดแรงไปยังทิศทางที่รถขบวนนั้นหายลับไป อย่างบ้าคลั่ง แต่ความโกรธก็ไม่ได้คลายลง รอให้ได้เจอเขา จริงๆ ก่อนเถอะ เธอจะจัดการเขาให้น่าดูเลย!
อีกด้านหนึ่ง
ภายในคฤหาสน์ บรรยากาศเงียบเย็น
บนโซฟาหนังแท้หรูหรา ชายคนหนึ่ง กับเด็กชายคนหนึ่ง นั่งเผชิญหน้ากัน ดวงตาโตจดจ้องที่ดวงตาเล็กต่างฝ่ายต่าง มองสํารวจกัน
“มองพอแล้วยังถ้ามองพอแล้วก็ขอให้พวกคุณส่งผมกลับ ไปซะที” คนที่เอ่ยปากก่อนคือเซียตาไป เขานิ่งสงบมาก นั่งตัว ตรงอยู่ที่นั่น ไม่ได้หวาดกลัวจากการถูกลักพาตัวเลยสักนิด “ถ้าวันนี้ผมไม่ถึงบ้าน หม่ามีเซียจะเสียใจมาก ถ้าหม่ามีเซีย เสียใจขึ้นมา ผลที่ตามมาก็จะร้ายแรงน่าดู!
เขาอาจถูกทำโทษให้นั่งคุกเข่าขยี้เสื้อผ้า! ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ ทำให้เขาอับอายขายหน้ามาก
จะ
คิ้วเข้มดูดีของไปเฉิงขมวดขึ้นอย่างเคร่งขรึม เขาไม่ส่งเสียง เพียงเหลือบมองไปที่เลขาเหลิงเฟยซึ่งอยู่ด้านหลัง
เหลิงเฟยก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว เอ่ยอย่างนอบน้อม “คุณชายน้อย นับจากวันนี้ ที่นี่คือบ้านของคุณครับ
เซียตาไปมองไปรอบๆ ทำที่เป็นผงกศีรษะเล็กๆ อย่าง จริงจัง “ก็ดีสิ หม่ามีเซียของเรากำลังกลุ้มใจเรื่องหาเงินซื้อบ้าน ให้ผมไม่ได้ ซื้อบ้านไม่ได้ก็หาภรรยาไม่ได้ มีบ้านใหญ่หลังนี้ต่อ ไปผมมีภรรยาสิบคนก็ยังอยู่กันได้
ภรรยาสิบคน?
เหลิงเฟยนึกขำ ภรรยาสิบคน เขาตัวเล็กแค่นี้จะเอาอยู่
ไหม?
ไปเฉิงที่ปิดปากเงียบมาตลอดส่งเสียงออกมาค่ หนึ่ง “ตัวเล็กแต่อุดมการณ์ยิ่งใหญ่
“แน่นอน ให้ภรรยา10คนมาคอยรับใช้หม่ามีเซียของเรา
“” แน่ใจนะว่าที่พูดไม่ได้หมายถึงคนรับใช้
เหลิงเฟยไม่ขัดจังหวะ เพียงแต่พูดต่อว่า “คุณชายน้อย นับจากวันนี้ คุณต้องเปลี่ยนเป็นแซ่ไป
“ไปข้าไป? ไม่เพราะเลย ผมไม่ยอมเปลี่ยนแซ่หรอก สีห น้าเซียต้าไปยุ่งเหยิงแสดงถึงความรังเกียจ
“จะว่าไปแล้ว ทำไมผมต้องเปลี่ยนแซ่ด้วย?
“ท่านเป็นคุณพ่อของคุณ ท่านแต่ไป คุณก็ต้องไข่แซ่ไปตามท่าน
ต้าไปคิดทบทวนคำสองพยางค์ที่ไม่คุ้นเคย เอียงศีรษะมองอีกฝ่ายที่หน้าตาดีมาก ผู้ชายที่มีลักษณะคล้าย ตนเองอยู่บ้าง ทว่าแสนเย็นชาจนไม่น่าเข้าใกล้ “คุณแน่ใจนะ ว่าเป็นพ่อผม?”
คุณพ่อ”
เป็นอะไรกัน?
“ฉันนี่แหละใช่” คำพูดชายหนุ่มน้อยยิ่งกว่าน้อย แต่ละตัว
อักษรล้วนทรงอำนาจและหนักแน่น ไม่อนุญาตให้ใครพูดแทรก
“งั้นก็แปลกนะ หม่ามีเซียบอกว่าพ่อผมเสียชีวิตแล้ว คุณ
เป็นผีเหรอ?”
“” ชายหนุ่มหรี่ตา ใช้นิ้วเคาะบนที่เท้าแขน โซฟาเล็ก น้อย บรรยากาศในห้องโถงเย็นลงหลายองศาทันที
ผู้หญิงคนนี้ สอนลูกชายเขาอย่างนี้เหรอ?
เหลิงเฟยเหงื่อออกเย็นวาบทั่วแผ่นหลัง “คุณชายน้อย เรื่องแบบนี้เอามาพูดมั่วๆ ไม่ได้นะครับ ทีหลังอย่าพูดอย่างนี้ อีกเด็ดขาด!”นี่ไม่ใช่การแข่งประธานาธิบดีประเทศอย่าง โจ่งแจ้งเหรอ? ต้องรับโทษหนักเลยนะ!
“เค้าไม่ได้พูดมั่วๆนะ! หม่ามีเซียพูดก็ต้องจริงสิ เธอไม่เคย
โกหกผมเลย!
ตอนนี้ผมจะกลับแล้ว พวกคุณพาผมมาก็ต้องรับผิดชอบ ส่งผมกลับ” เขาพูดจบ แขนเล็กเท้าโซฟาไว้ขาเล็กขยับสองทีไถลลงมาจาก โซฟา สองมือไขว้หลังเดินไปข้างนอก โดยไม่ สนใจใครเหมือนนายท่านเงียบ
มองภาพแผ่นหลังนั้น เหลิงเฟยอดยิ้มไม่ได้สมแล้วที่เป็น ลูกนายท่าน เชื้อนี่แรงจริงๆเลย! เหมือนมาก
ไป๋เย่จิ้งมองภาพแผ่นหลังนั้นเช่นกัน แววตาเข้มลึกขึ้น พร้อมปรากฏแสงลึกลับแวบผ่านไป
ลูกชายเขาสี่ขวบแล้ว!
มาก!
เห็นชัดๆว่าผู้หญิงคนนั้นต้องมีส่วนในเรื่องนี้ด้วย
“พ่อบ้าน น่าตัวเขาขึ้นไป” พอเขาออกคำสั่ง เจ้าหนูที่ กำลังเดินไปข้างนอกก็ถูกคนหิ้วปีกขึ้นทันที ไม่ว่าขาเล็กสั้นของ เขาจะเตะถีบอย่างไร ก็ดิ้นไม่หลุด
“ไอ้คนเลว! พวกแกไอ้พวกคนเลว! ปล่อยฉันลงนะเน้น เกลียดพวกแก” ยังคงได้ยินเสียงตะโกนลั่นอย่างเจ็บใจของ เด็กอยู่นานทีเดียว
ไปเยฉงนั่งบนโซฟา มองที่ชั้นบนแวบหนึ่ง ครุ่นคิดอย่าง
เงียบเชียบ
“นายท่าน จะทํายังไงต่อครับ?” เหล่งเฟยก้าวออกมาข้าง หน้าก้าวหนึ่งพร้อมเอ่ยถาม
ไปเย่งกำชับ “จัดตารางเรียนให้เขา เริ่มตั้งแต่มารยาท
พื้นฐานก่อน”
“ครับ”
“แล้วแม่ของคุณชายน้อย คุณเซียซิงเฉิน…
“ฉันจะจัดการทีหลัง
เซียซึ่งเป็นกำลังจะบ้าตาย วันนั้นท่ามกลางสายตาผู้คน รถขบวนยาวขนาดนั้นขับผ่านย่อมปิดใครไม่มิดอยู่แล้ว แต่เมื่อ เธอไปที่สถานีตำรวจ ตำรวจกลับบอกว่าไม่มีบันทึกอะไรเลย
เธอเหมือนแมลงวันหัวขาด ท่ามกลางผู้คนมากมาย สุดท้ายก็ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน
ตอนนี้เธอยังคงเป็นเด็กฝึกงานของกระทรวงการต่าง ประเทศ สำหรับทางนั้นเธอจำเป็นต้องลาหยุดชั่วคราว แม้การ หยุดจะไม่เป็นผลดีต่อเธออย่างมาก แต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือก อื่น
แต่ไม่ว่าเธอจะระดมผู้คนเท่าไหร่ไปตามหา แม้เรียกว่า เพิ่งจะอาศัยตำแหน่งนายกเทศมนตรีออกหน้าด้วยตัวเอง ชาย คนนั้นและลูกก็ไม่ทิ้งร่องรอยและสัญญาณไว้แม้แต่น้อย ราวกับ
ได้ระเหยเป็นไอท่ามกลางผู้คน วันนั้นเชียซิงเฉินเพิ่งเดินออกมาจากสถานีตำรวจด้วย ความหดหู รถสีดำห้าคันค่อยๆขับตรงมา และจอดสนิทตรงหน้าเธอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ