สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 338 หัวใจแกร่งดั่งผาหินที่ไม่มีวันสั่นคลอน



ตอนที่ 338 หัวใจแกร่งดั่งผาหินที่ไม่มีวันสั่นคลอน

พักใหญ่ถึงได้ยินเสียงแผ่วเบาของเธอ “ฉันไม่กลัว แค่…ฉันไม่รู้ ว่าเราจะทำยังไงได้บ้าง แล้วควรทำยังไง ฉัน…ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่ฉันจริงๆ เหรอคะ?

ถามถึงประโยคสุดท้ายเธอก็เริ่มสะอื้น ความจริงที่ยากจะ ยอมรับได้ หากเธอจําเป็นต้องรับรู้จริงๆ เธอก็ยอมที่จะให้เขา เป็นคนบอกตน!

ไปเย่นิ่งดีใจที่วันนี้เธอไม่ได้หนีตน แต่ส่งมือมาให้เขาและ เลือกที่จะจากมาพร้อมกับเขา

เขาก้มหน้ามองเธอ ขยับปากเล็กน้อยพอผ่านไปสักครู่ก็ อ้าปากพูด “คุณเป็น…ลูกสาวของคุณหญิงและคุณอาของผมที่ กำลังตามหาจริงๆ ก่อนหน้านี้ไม่นานผมให้เฉินตรวจ DNA ของพวกคุณทั้งสามคนแล้ว

ความจริงง่ายๆ แต่กลับเสียแรงไปมากกว่าจะเอ่ย

ออกปากได้

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ แต่พอได้ยินว่าแม้แต่ DNA เขาก็ตรวจเสร็จสรรพ ยิ่งไม่เปิดโอกาสให้เรื่องราว เปลี่ยนไป ร่างก็สั่นสะท้านพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างอดไม่ได้

เธอไม่อาจยอมรับที่จู่ๆ พ่อแม่ตนก็กลายเป็นเพียงพ่อแม่ที่ รับเลี้ยง ยิ่งไม่อาจยอมรับว่าจู่ๆ ตนก็กลายเป็นลูกพี่ลูกน้อง ของเขา…

นี่เหมือนเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นชัดๆ!

“ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วหลังจากนี้เราจะทำยังไงคะ?” เซี่ยง เฉินเงยหน้าขึ้นจากลาดไหล่ของเขาด้วยใบหน้าที่มองด้วย น้ำตา “ถ้ารู้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องแบบนี้ เมื่อฉันไม่น่าดึงคุณไป ถ่ายรูปเลย

เธอเสียใจมาก กลัวว่าหากพลาดครั้งนี้ไปก็ไม่มีครั้งหน้า อีกแล้ว เมื่อครู่น่าจะผิดให้ถึงที่สุดจนทำให้ทุกคนไม่มีช่องว่าง ให้ตอกกลับได้

แววตาไปเยฉิงฉายแววอุ่นใจ จ้องมองเธอนิ่ง “ช่างมัน มี ครั้งนี้ได้ก็ต้องมีครั้งหน้า อีกอย่างในความคิดผม ทะเบียน สมรสก็แค่กระดาษแผ่นหนึ่งที่มีลายเซ็นแล้ว โชว์ให้คนอื่นดู ใน สายตาผมคุณเป็นภรรยาของผมไปเฉิงตั้งนานแล้ว ต่อให้วัน นี้คุณอยากหนีก็หนีไม่พ้นหรอก!

เซี่ยซิงเฉินทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ “จริงเหรอคะ?”

“ผมเคยพูดเล่นซะเมื่อไร?

เธอดึงมือเขามากุมไว้พลางเงยหน้ามองเขาด้วยน้ำตา “ถ้าอย่างนั้นต่อให้ตอนนี้ฉันเป็น
ลูกพี่ลูกน้อง คำนี้ทำให้เธอยากจะเอ่ยปาก เธอหลีก เลี่ยงจะพูดถึงมัน “ทั้งกฎหมายและศีลธรรมไม่อนุญาตให้เรา คบกัน คุณก็ไม่สนใจเหรอคะ?”

ถ้าเขาสนใจ วันนี้จะทำอย่างนั้นไปทำไมกัน

หากสนใจแล้วทำไมถึงต้องปิดบังความจริงเธอมาโดย ตลอด?

เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าตนถามคำถามโง่ๆ ไป ผู้ชายคนนี้หากดื้อ รั้นขึ้นมาก็เหมือนโขดหินท่ามกลางคลื่นทะเล ปล่อยให้ลมพัด และคลื่นซัดไปก็ไม่ขยับแต่เพียงน้อย

แต่เธอกลับไม่สามารถทำได้อย่างเขา ด้วยสายตาของคน ภายนอก การหักห้ามของพ่อแม่รวมถึงการขัดขวางของเหล่าผู้ อาวุโสทำให้เธอยากจะรับมือไหว แต่เขาจะทำอย่างไรล่ะ?! เขาไม่เหมือนตน เขาต้องเผชิญกับนักการเมืองทั้งประเทศรวม ถึงประชาชนที่คอยปกป้องเขาอยู่ทั้งประเทศ

ต่อหน้าประชาชนการกระทำของเขาเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อย่างชัดเจนที่แต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องตัวเอง หากเรื่องนี้ถูก เปิดโปง แค่คิดก็รู้สึกน่ากลัวมากแล้ว

ภายในบ้านของไปชิงรั่ง ทั้งคุณท่าน คุณหญิงไปรวมถึง ไปชิงรั่งเองต่างก็นั่งเรียงเป็นแถว ตรงข้ามคือเงินหมิ่นที่ร้องไห้ ไม่เป็นท่า
มองจี้หยกนั่นรวมถึงภาพถ่ายผ้าอ้อมแล้วต่อให้ไม่อยาก ยอมรับก็จำต้องพยักหน้ายอมรับ

“คุณท่าน คุณหญิง

น้าหลินเดินเข้ามาจากด้านนอกแล้วกล่าว “คนจากข้าง นอกบอกมาว่า…ที่ทำเนียบประธานาธิบดีกับห้องเช่าของคุณ เซีย ไม่เจอพวกเขาทั้งสองเลย

คุณท่านแผ่นเสียงไปที่ “เจ้าหมอนี่ ต้องพาไปที่ที่ไม่มีคนรู้ แน่ๆ!”

กล่าวจบก็หันไปปลอบน้องชายตน “แกก็อย่าใจร้อนมาก ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงฉันจะให้เจ้าหมอนี่มาสารภาพกับแกให้ได้

“ซิงเฉินเป็นเด็กดีมาโดยตลอด ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่ เคยทำเรื่องที่ออกนอกกรอบ ฉันคิดว่าเรื่องนี้คงทำให้เธอ เสียใจไม่น้อย ถ้าจะตามไล่ขนาดนั้นปล่อยให้พวกเขาสงบสติ อารมณ์หน่อยคงจะดีกว่าค่ะ” เงินหมิ่นในฐานะแม่ที่เลี้ยงดูมาก็ อดจะพูดแทน ลูกสาว ตนไปไม่ได้ “พวกเขาทั้งคู่รักกันมานาน ขนาดนี้ ฉันก็เห็นมาโดยตลอด อีกอย่างตอนนี้ก็มีลูกแล้ว….

กล่าวถึงตรงนี้เงินหมิ่นก็ถอนหายใจไม่หยุด

“แม้สุดท้ายพวกเขาจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ก็ให้เวลา พวกเขาหน่อยเถอะ ให้พวกเขาได้สงบสติอารมณ์สักนิด

“รู้ว่าหนทางตรงหน้าเป็นไปไม่ได้ ถ้ายังให้พวกเขาอยู่ ด้วยกัน ฉันกลัวว่า…จะมีแต่เจ็บหนักกว่าเดิม” คุณหญิงไปตอบรับคำพร้อมถอนหายใจไปตามๆ กัน อีกอย่างฉันรู้นิสัยเจ้า ลูกชายของฉันดี ครั้งนี้แต่งงานไม่สำเร็จ ก็ต้องมีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ถ้าเราไม่แยกพวกเขาโดยเร็ว กลัวก็แต่จะพลาดไป ถึงขั้นที่สายเกินไป

หากเรื่องราวระเบิดถึงขั้นที่ไม่อาจรับมือไหว จะทำอะไรก็ คงไม่ทันเสียแล้ว

ในแวดวงพวกเขานั้นอ่อนไหวต่อเรื่องอื้อฉาวที่สุด ต่อให้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวเพียงเล็กน้อยก็ไม่วายแพร่ กระจายไปทั่วบ้านทั่วเมือง อีกอย่างตอนนี้อาจจะถูกข้อหาพี่ น้องรักกัน

ต่อให้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่เอ่ยเรียก “คุณอา มา ตลอดยี่สิบกว่าปีก็ใกล้ชิดสนิทสนมยิ่งกว่าสายเลือดเดียวกัน เสียอีก

คุณท่านกล่าว “มันอย่าได้คิดจดทะเบียนสมรสอีกเลย! ฉัน จะสั่งให้คนคอยจับตาดูที่ทุกสำนักงานเขตไว้ ถ้ามีความ เคลื่อนไหวอะไรฉันจะทำลายความคิดมันทันที

“กลัวก็แต่สองคนนี้ไม่กลัวฟ้ากลัวดิน….ไม่ว่ายังไงก็จะอยู่ ด้วยกัน ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอะไรพวกเขาได้ล่ะ?” น้ำเสียงไป ชิงรั่งแสดงถึงความเอือมระอาและอ่อนแรงถึงที่สุด

“ถ้าชิงเฉินไม่กลัวจริงๆ ก็ได้เจ้าหมอนั่นสอนผิดๆ ไปนั่น แหละ!” คุณท่านก่นด่า “ตั้งแต่เล็กจนโตมันก็เป็นใหญ่เป็นโต ครั้งนี้จะปล่อยให้มันทำตามใจได้ก็ต่อเมื่อมันจะพลิกฟ้าได้เจ้าบ้าเอ๊ย!”

กลางคืน

เซี่ยซิงเฉินอาบน้ำเสร็จก็นั่งเป็นเพื่อนเด็กน้อยทำการบ้าน จากนั้นก็ยืมโทรศัพท์รุ่ยสั่งโทรหามารดา

เงินหมิ่นนั่งรถไฟกลับเมืองเหลียงไปตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว เวลานี้ก็นอนอยู่บนเตียงแต่กลับพลิกตัวไปมานอนไม่หลับเสียที พอได้ยินเสียงของลูกสาวก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา ทันใดนั้นถึง เข้าใจว่าคราวนี้ตนไม่หลงเหลืออะไรอีก สามีและครอบครัว ไม่ใช่ของตนมาเนิ่นนาน ตอนนี้แม้แต่ลูกสาวยัง

ได้ยินมารดาไห้อยู่ทางนั้นเซียซิงเฉินก็ยิ่งเจ็บปวดใจ ผ่านไปพักใหญ่ที่ทั้งสองถือโทรศัพท์ไว้โดยไร้บทสนทนา

จนกระทั่งเสินหมิ่นชิงเปิดปาก ปิดบังลูกมาหลายปีขนาดนี้เหรอ?”

“ซิงเฉิน ลูกไม่โทษแม่ที่

เธอสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะกลืนก้อนสะอื้นเข้าไป

ถึงกล่าวตอบ “แต่ลูกกลับอยากให้แม่ปิดบังลูกไปตลอดชีวิต…”

“ความจริงอาจโหดร้ายไปหน่อย แต่สุดท้าย…มันก็คือความจริง”

แต่ความจริงแค่เพียงโหดร้ายเหรอ? นั่นมันเหี้ยมโหด มากต่างหาก ฉีกทิ้งหัวใจเธอจนเกิดบาดแผลนับไม่ถ้วน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ