ตอนที่ 32 ว่าด้วยงานของเธอ
“ยกขึ้นมานิดเดียวก็พอค่ะ” เซียซิงเฉินไม่ได้มองเขา เธอเอาแต่ ก้มหน้าราวกับกำลังจดจ่อกับการช่วยเขาใส่เสื้อผ้า “อิ่ม แบบนี้ แหละค่ะ…เรียบร้อยแล้ว เอามือลงเถอะค่ะ”
หลังจากสวมเสร็จเรียบร้อย เธอก็พยายามติดกระดุมเสื้อ แทนเขาทีละเม็ดๆ กระดุมฝังเพชรเม็ดเล็กๆ ส่องประกาย แวววาว สะท้อนเข้าตาของเธอ
เธอหยิบเนคไท เขย่งปลายเท้าขึ้นช่วยผูกให้เขา เธอท่าทางคล่องแคล่ว ชำนาญมาก
แววตาของไปเย่นิ่งมองไปที่นิ้วมือที่คล่องแคล่วของเธอ ครั้ง ในที่สุดก็อดถามไม่ได้ว่า “ทำบ่อยเหรอ?”
“?” เซี่ยซิงเฉิน เหลือบตามองเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ
เขาพยักหน้าเลียนแบบการเคลื่อนไหวมือของเธอ หว่าง คิ้วขมวดเล็กน้อย “ผูกเนกไท
ท่าทางของเธอคล่องแคล่วเช่นนี้ เคยผูกให้ผู้ชายคนไหน
มาก่อน?
“เอ๋? อ้อ” เซี่ยซิงเฉินเพิ่งเข้าใจ จึงตอบเขาว่า “ใช่ ตอนที่ ต้าไปไปเรียนอนุบาลต้องผูกเนกไทเล็กๆ ก็เลยผูกเป็น ทำไมเห รอคะ?”
อย่างนี้นี่เอง
“ไม่มีอะไร” ใบหน้าของไปเย่นิ่งไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร ออกมาเท่าไรนัก ทําเหมือนเป็นการถามทั่วๆ ไปเท่านั้นเอง แต่ หว่างคิ้วกลับคลายออกโดยไม่รู้ตัว
สีหน้าก็ดีขึ้นมากเช่นกัน
เหลิงเฟยมองอยู่ข้างๆ อดชมไม่ได้ว่า “คุณเซีย ดูไม่ออก จริงๆ ว่าคุณเป็นแม่ศรีเรือน มิน่าล่ะท่านประธานาธิบดีถึงไม่ เชื่อใคร ได้รับบาดเจ็บจนเลอะเลือน แต่ก็ยังเชื่อคุณเท่านั้น”
ไป๋เย่ฉิงถลึงตาใส่เหลิ่งเฟย เขาพูดมากจริงๆ
เซี่ยซิงเฉินพูดว่า “คุณอย่าล้อฉันเล่นเลย ถ้าฉันเป็นแม่ศรี เรือนจริงๆ ทำไมตอนนี้ถึงยังไม่มีแฟนล่ะ?”
“ใครได้แต่งงานกับคุณถือว่าเป็นโชคดีของเขา ถ้าคุณ
อยากมีแฟนล่ะก็ ผมแนะนำให้คุณได้ตลอดนะครับ”
“จริงเหรอ?” เซี่ยซิงเฉินเลี้ยวหน้ามองเขาด้วยแววตายิ้มๆ พลางล้อเล่น “ดีเลย ถ้าอย่างนั้นเรื่องแต่งงานฉันยกให้คุณ จัดการเลยแล้วกัน”
“คุณวางใจได้ ผมจัดการให้ ถ้าพบคนที่เหมาะสม แน่นอนว่า…”
“เลขาเหล่ง เริ่มทำงานพิเศษเป็นแม่สื่อตั้งแต่เมื่อไหร่?” เสียงแผ่วเบาแทรกคำพูดของเหลิงเฟย
แววตาเย็นยะเยือกของชายหนุ่มส่งผ่านไปยังเหลิงเฟยและเซี่ยซิงเฉินอย่างรวดเร็ว แหลมคมดุจลูกธนู เหลิงเฟยสะดุ้ง รีบหุบปากทันที
ตอนแรกก็รู้สึกว่าระหว่างท่านประธานาธิบดีและคุณเซียมี อะไรแปลกๆ ตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่าแปลกมากๆ
เซี่ยซิงเฉินคิดแต่เพียงว่าการทำเป็นหน้าที่ของเหลิงเฟย ทำให้ท่านประธานาธิบดีไม่พอใจ ก็เลยไม่ได้พูดอะไรอีก เอาแต่จดจ่ออยู่กับเรื่องของตัวเอง
ผ่านไปครู่หนึ่ง “เรียบร้อยแล้วค่ะ”
หลังจากสวมเสื้อกั๊กและสูทเสร็จแล้ว เธอค่อยๆ ถอยออก มาก้าวหนึ่ง
เขาที่แต่งตัวด้วยชุดเป็นทางการกับเขาที่ได้รับบาดเจ็บ และใส่ชุดผู้ป่วยนอนบนเตียงในช่วงสองสามวันนี้ ดูราวกับเป็น
คนละคน
ตอนที่นอนอยู่ตรงนั้น ต้องการให้เธอดูแล ดูแล้วเข้าถึง
ง่ายกว่าเยอะ
ตอนนี้ ท่าทางเขาเปลี่ยนไปแล้ว คนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือลูก
รักของพระเจ้าอีกแล้ว
ความเด็ดขาดในการปกครองประเทศแผ่รังสีออกมารอบ ตัวเขา ทำให้รู้สึกว่าเป็นยอดเขาสูงที่ยากแก่การปีนป่าย อดไม่ ได้ที่จะคลานอยู่แทบเท้าเขา
ลักษณะเช่นนี้ ถึงจะเป็นท่านประธานาธิบดีประเทศ 5 ของพวกเขา ไปเยถึงตัวจริง
แต่เธอ ในฐานะที่เป็นคนธรรมดา สิ่งที่ทำได้ก็คือแหงน
หน้ามอง
“คุณเซีย ท่านประธานาธิบดีอาการดีขึ้นมากแล้ว ตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไป คุณกลับไปทำเนียบประธานาธิบดีได้แล้วครับ” เสียงของเหลิ่งเฟยขัดจังหวะความคิดของเธอ
เธอเงยศีรษะ ไปเย่งเดินออกจากห้องนอนแล้ว “จะกลับวันนี้เหรอ” เซี่ยซิงเฉินไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ มอง ไปที่แผ่นหลังนั้นโดยอัตโนมัติ “ถ้าหมอจะเปลี่ยนยา
แม้แต่แผ่นหลังยังตั้งตรงราวกับเต็มไปด้วยพละกำลัง
“ขอแค่วันนี้ ท่านปิดบังสื่อต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ต่อไป การเปลี่ยนยาเหล่านี้ก็จะไม่เป็นปัญหาอีก
“งั้นก็ดีแล้ว” เซี่ยซิงเฉินพยักหน้า “เดี๋ยวฉันเก็บของเสร็จ แล้วก็จะไป
“ยังไงคนขับรถจะรอคุณอยู่ข้างนอก ถ้าอย่างนั้นพวกเรา
ไปก่อนนะครับ” “ไปเถอะ” เซียซิงเฉินนึกอยู่ครู่หนึ่ง อดกำชับไม่ได้ว่า
“บาดแผลเขายังสาหัสอยู่ อย่าให้หักโหมเกินไปนะ เหลิงเฟยยิ้มน้อยๆ “จะทำตามที่คุณบอก
รอยยิ้มของเขาดูเหมือนรู้ทุกอย่างอย่างชัดเจน กลับทำให้เซียซิงเฉินรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาเล็กน้อย ที่เหลิงเฟยไม่ได้อยู่ต่อ คนทั้งหมดออกไปอย่างเร่งรีบ
มองดูรถยนต์เหล่านั้นค่อยๆ หายไปจากสายตา ในใจเซีย ซิงเฉินรู้สึกอ้างว้างขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
จะกลับไปแล้ว จะได้เจอเซียต้าไป ตัวเองควรจะดีใจ
บนรถ
ไปเย่นิ่งถามขึ้น “เรื่องงานของเธอ ทำไมไม่บอกฉัน?” เหลิงเฟยตอบว่า “ท่านไม่ได้ถาม ผมก็เลยไม่ได้พูด
เรื่องงานของคุณเซีย ถ้าเปรียบกับเรื่องของประเทศชาติ แล้วถือเป็นเรื่องเล็กมากจริงๆ เรื่องแบบนี้ เขาจะเลือกพูดตอน นี้ได้อย่างไรล่ะ?
“ใช้ชื่อใครก็ได้ ไปถามไถ่ฝั่งนั้นดูหน่อย” น้ำเสียงของไป เย่งเย็นชา แววตาอยู่ที่นอกหน้าต่าง
เหลิงเฟยถามว่า “จะให้คุณเซียกลับไปที่กระทรวงการต่าง ประเทศใหม่อีกครั้งเหรอครับ?”
“แค่ต้องการให้โอกาสเธอสอบใหม่อีกครั้งเท่านั้นเอง”
สำหรับการสอบนั้น เธอเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ดังนั้น เขาอยากให้เธอมีพื้นที่ในการแสดงออกเพื่อพิสูจน์ความ สามารถที่แท้จริงของตัวเอง
เหลิงเฟยรู้อยู่เต็มอก เหลือบมองท่านประธานาธิบดี อยากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็อีกอัก
ไปเย่นิ่งหันหน้ามามองเขาแวบหนึ่ง “มีอะไรก็พูดมา
“ท่านกับคุณเซีย…
“ไม่สบายใจเรื่องอะไร?”
“จริงๆ ก็ไม่ได้ถือว่าไม่สบายใจ เพียงแต่ช่วงนี้คุณซึ่งได้ โทรหาผมหลายครั้ง เธอเป็นห่วงท่านมาก ผมมองออกว่าเธอ สนใจเรื่องการแต่งงานเพื่อดองกันมาก
ไปเยถึงนิ่งไปพักใหญ่ สีหน้าเคร่งขรึมจนดูไม่ออกว่าเขา กำลังคิดอะไร สุดท้ายเขาก็ค่อยๆ พยักหน้า “ฉันรู้ดี
ได้ฟังเขาพูดเช่นนี้ เหลิงเฟยก็เลยไม่พูดอะไรอีก
คนที่ทำงานใหญ่ แยกแยะได้ชัดเจนมาตลอดอยู่แล้วว่าสิ่ง ไหนสำคัญหรือไม่สำคัญ ต่อหน้าประเทศชาติและอำนาจ ความ รักเป็นเพียงเครื่องสังเวยเท่านั้น
นี่เป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจสูงสุดทุกคนต่างก็เข้าใจชัดเจน
ตลอดทาง ไปเย่นิ่งไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลย ทำเพียง แต่พลิกดูรายงานสถานการณ์ตรวจสอบการระเบิดของพระราช วังไปยวที่เหลิงเฟยส่งมาให้เท่านั้น
ฟูอี้เฉินมาฉีดยาแก้ปวดให้เขาแต่เช้า พอจะระงับอาการ เจ็บแผลได้บ้าง ตอนนี้ก็ยังพอทนไหว
อีกด้านหนึ่ง
ห้องหนังสือที่ปิดอย่างมิดชิดของรองประธานาธิบดีห เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา” เสียงของหนูเจ๋อเหยาดังมาจากในห้องหนังสือ อาเซียนผลักประตูเปิด เอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “คุณท่านครับ คุณชายรองมาถึงแล้ว
“ให้เขาเข้ามา
หยูเจ๋อหนันเดินเข้ามา เปิดประตูแล้วพูดว่า “พี่ครับ เรื่องที่ ผมโทรบอกพี่ครั้งก่อนให้ช่วยจัดการให้ พี่ช่วยผมจัดการแล้ว ยัง?”
“ให้เซี่ยซิงเฉินกลับไปที่กระทรวงการต่างประเทศน่ะเห
“ใช่ครับ! เป็นยังไงบ้าง?
“วางใจเถอะ ฉันจะจัดการให้วันนี้” หยูเจ๋อเหยาหยิบ รีโมท เปิดหน้าจอยักษ์ในห้องหนังสือ ข่าวในโทรทัศน์ปรากฏ ขึ้น
“งั้นก็ดีแล้ว” หยูเจ๋อหนันยักคิ้วสวยได้รูปของเขา “อยาก ให้ผมจีบผู้หญิงติด พี่ก็ต้องจัดการให้ผมให้เรียบร้อย ไม่อย่าง นั้นผมขายหน้าแย่เลย แต่ว่าผมยังไม่ได้ถามพี่เลย!
หยูเจ๋อหนันเดินเข้าไปใกล้พี่ชาย เขาเห็นพี่ชายกำลังจดจ่ออยู่กับข่าวในโทรทัศน์
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ