ตอนที่ 311 เตรียมการงานแต่งงาน (3)
ท่านประธานาธิบดีนี่นา! ปกติสวมแต่ชุดสูทเป็นพิธีการ ชาย หนุ่มที่ดูมั่นคงเคร่งขรึมอยู่เสมอ ตอนนี้กลับสวมชุดนอนลาย
โดราเอม่อนอยู่
“ฉันน่าจะถ่ายรูปไว้แล้วลงอินเตอร์เน็ตสักหน่อย ทุกคน ต้องตะลึงแน่ๆ” เซียซิงเฉินหัวเราะยกใหญ่ พูดแล้วก็กดเปิด โทรศัพท์มือถือ ท่าทางของเขาในเวลานี้แม้สีหน้ายังคงเรียบ นิ่งดั่งเดิมแต่กลับดูอ่อนเยาว์ขึ้น เหมือนวัยรุ่นอายุยี่สิบต้นๆ
เซี่ยซิงเฉินกดถ่ายรูปแล้วเก็บไว้ในโทรศัพท์ รูปความลับ ขั้นสุดยอดแบบนี้จะเผยแพร่ลงอินเตอร์เน็ตไม่ได้อยู่แล้ว
เธอดูโทรศัพท์แล้วก็หันข้างไปมองชายหนุ่มอีกครั้ง พูดได้ เลยว่าเขาไม่ใช่แค่ตัวจริงที่ดูดี แม้แต่ตอนขึ้นกล้องก็ยังดูหล่อ เหลา หาที่ติไม่ได้
อีกทั้งต่อให้สวมชุดนอนข้างทางราคาหลักร้อย พอสวม อยู่บนตัวของเขาแล้วก็รู้สึกว่า….อืม ดูมีราคาขึ้นมาทันตา
คนทั่วไปมักบอกว่าคนจะดูดีอยู่ที่การแต่งตัว แต่ตอนนี้ เธอกลับรู้ซึ้งกับคําพูดที่ว่าบางทีเสื้อผ้าจะดูดีก็ขึ้นอยู่กับตัว บุคคลด้วยนั้นไม่ผิดทีเดียว ต้องดูว่าใครเป็นคนสวมมัน
เซี่ยซิงเฉินลอบเก็บรูปไว้ด้วยท่าทีดีอกดีใจ เดิมทีคิดว่ารูปน่าเกลียดแบบนี้เขาต้องสั่งให้ตนลบอย่างแน่นอน แต่พอหัน กลับไปกลับเห็นเขาที่ไม่ได้สนใจโทรศัพท์ตัวเองเลยสักนิด หากแต่กำลังจดจ่อกับโทรทัศน์ตรงหน้า
เขากำลังดูข่าวทั่วไปในโทรทัศน์
นี่เป็นรายการเล็กๆ ของช่องฟาง ปกติยามไปเย่งมี
เวลาว่างก็ดูเป็นบางครั้ง
เห็นว่าเขากำลังดูอย่างจดจ่อ เธอก็อดเบนสายตาไปตาม ทิศทางของเขาไม่ได้ ในข่าวมีแต่ข่าวแปลกใหม่ทั้งนั้น ตอนนี้ กำลังเล่าเรื่องลูกพี่ลูกน้องคู่หนึ่งที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแต่ เจอพ่อแม่ทั้งคู่คัดค้านอย่างรุนแรง จึงหนีไปด้วยกันไม่สนใจ อะไรทั้งสิ้น
ความจริงข่าวหนีไปด้วยกันแบบนี้มักเห็นบ่อย แต่เรื่อง ลูกพี่ลูกน้องที่มีความสัมพันธ์กันแบบนี้กลับมีน้อย
อีกอย่างเธอไม่คิดว่าไปเย่นิ่งจะสนใจข่าวทะเลาะวิวาท ของครอบครัวทั่วไปอย่างนี้
“สนุกเหรอคะ? ดูไม่ละสายตาเลย” เซี่ยซิงเฉินถามเขา
เขาหันข้างมองเธอแวบหนึ่งด้วยสายตาล้ำลึก ไม่ได้พูด อะไรตอบโต้แต่เพียงยื่นมือตนไปกุมมือเธอไว้ เซี่ยซิงเฉินไม่รู้ ว่าเขา ในตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่เห็นนิ้วเรียวยาวของเขาที่ กระชับมือเธอไว้แน่นก็รู้สึกอิ่มเอมใจ
เผลอตวัดนิ้วประสานกับนิ้วเขาไว้
“ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไง?” จู่ๆ เขาก็ถาม
เซียซิงเฉินนิ่งไปพักหนึ่ง คำถามฉับพลันของเขาทำให้เธอ ตั้งตัวไม่ทัน “อะไรคือถ้าเป็นฉันคะ?”
ไปเย่นิ่งพยักพเยิดคางไปทางโทรทัศน์ แต่สายตาจ้องเธอ ไม่ห่าง “จะสานต่อหรือยอมแพ้
“คุณหมายถึงถ้าฉันรักลูกพี่ลูกน้องของฉันเข้าเหรอคะ… เซียซิงเฉินรู้สึกว่าเป็นคำถามที่ดูตลก
แววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย “ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้อง ธรรมดา แต่เป็นลูกของคุณลุงคุณ
“แต่ฉันไม่มี
“สมมติไง!”
เซี่ยซิงเฉินตั้งใจครุ่นคิดสักพักก็ล้มเลิก “ความจริงฉัน สมมติเรื่องแบบนี้ไม่ได้เลยจริงๆ ตอนนี้ในหัวฉันมีแต่เรื่อง ของ…”
“คุณ” คำคำนี้แทบจะหลุดปากออกไป แต่ก็ตะครุบปากไว้ทน
ไปเย่นิ่งไล่ถาม “ที่คิดได้มีแต่อะไร?
เซี่ยซิงเฉินเผลอมองลูกชายข้างกาย เซียต้าไปกำลังใช้
ดวงตาคู่โตจ้องเธออย่างสงสัย เธอเขินจนหน้าขึ้น ยิ่งพูดไม่ออก
“ไม่คุยกับพวกคุณแล้ว พวกคุณก็ดูทีวีไปเถอะ ฉันจะไป อาบน้ำ” เธอพูดเสร็จก็ดันไปเฉิงออกเพื่อลุกขึ้นยืน มือใหญ่ ของเขาคว้าข้อมือเธอไว้แล้วกระชากตัวเธอกลับมา สบสายตา เธอแล้วมองด้วยท่าที่จริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ซิงเฉิน ถ้า ผมหมายถึงถ้า…”
เขาเอ่ยเน้นย้ำ
ชะงักไปครู่ก็เริ่มกล่าวต่อ “ถ้าเราเป็นความสัมพันธ์อย่าง พวกเขา เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คุณจะเลือกยังไง!
ไม่ได้ตอบกลับในทันที เธอทำเพียงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้ว มองเขาอย่างฉงนใจ “ทำไมถามแบบนี้คะ?”
ไป๋เย่นิ่งก็รู้สึกว่าการที่ตนถามแบบนี้มันไร้ความหมาย ท้ายสุดก็ปล่อยแขนเธอ “ช่างเถอะ ผมแค่ถามไปอย่างนั้น คุณ ไปอาบน้ำเถอะ”
พูดจบมือใหญ่ก็เลื่อนออกจากข้อมือของเธอ แต่ชั่วขณะที่ ปลายนิ้วของเขากำลังจะผละห่างเธอไป ก็ถูกเธอจับนิ้วชี้ไว้ ดวงตาใสของเธอมองเขา “คุณถามแบบนี้เพราะยังไม่มั่นใจใน ตัวฉันใช่ไหม?”
ไปเย่นิ่งไม่ตอบ
เซี่ยซิงเฉิน โน้มตัวลงในฉับพลันแล้วจุ๊บลงแก้มของเขาไป ที ขณะที่เขากำลังนิ่งอึ้งเธอก็โน้มกายกระซิบข้างหูเขา “ขอแค่ คุณไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเกิดผลยังไงฉันก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ
เสียงเบาหวิวแต่กลับแน่วแน่
หัวใจของไปเฉิงสั่นไหวพร้อมแววตาที่วูบไหว ฉายแวว
อบอุ่นขึ้น เซียซิงเฉินถึงยอมปล่อยมือเขาแล้วลุกขึ้นยืน ก้ม หน้ามองเขา “ฉันไปอาบน้ำแล้วนะคะ เขาตอบกลับเสียง “อืม” และกำลังย้อนนึกถึงคำพูดเมื่อครู่
ของเธอ
จู่ๆ เซียต้าไปก็โพล่งถามขึ้นมาเสียงหนึ่ง “ลูกพี่ลูกน้อง แต่งงาน หมายความว่า…ถ้าวันหลังคุณป้ามีลูกสาว ผมก็ แต่งงานกับลูกสาวของคุณป้าได้สิ
“ไม่ได้” เซียซิงเฉินรีบเอ่ยแย้งพลางหยิกแก้มนุ่มของ เซี่ยต้าไปเป็นเชิงตักเตือน “ลูกของคุณป้าสวยแค่ไหนลูกก็ห้าม สนใจ”
เซียต้าไปปาก “ทำไมล่ะ?”
“มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดก็แต่งงานกันไม่ได้ นี่มัน
ผิดศีลธรรม”
“อะไรคือศีลธรรม?
“รอให้ลูกโตก็รู้เอง”
“ก็ได้ หม่ามีบอกยังไงก็อย่างนั้น ผมจะเชื่อฟัง!”
ทั้งสองคนพูดตอบโต้กันไปอย่างออกรส แต่ทั้งสองกลับ ไม่ทันระวังถึงอีกคนข้างกายที่เริ่มมีสีหน้าซีดลงเรื่อยๆ
ถ้าเขาไม่ยอมแพ้เธอก็ไม่ยอม
แต่หากเป็นการผิดกฎธรรมชาติ แล้วยังผิดศีลธรรมแบบ นี้ล่ะ? เธอจะยังมั่นคงอยู่เช่นเดิมไหม?
วันรุ่งขึ้น
วันอาทิตย์
ผู้ใหญ่สองคนพร้อมเด็กหนึ่งคนเดินทางกลับเมืองหลวง
พร้อมกัน
ตลอดทางไปเยฉิงเป็นคนขับรถ เซียซิงเฉินนั่งข้างคนขับ เซียต้าไปนั่งอยู่เบาะหลังที่มีเก้าอี้สำหรับเด็ก ขึ้นรถก็หลับใน ทันที
ระยะเวลาเจ็ดชั่วโมง เหนื่อยล้าจริงๆ
ไปเย่นิ่งมองหญิงสาวข้างกายแวบหนึ่ง “นอนพักหน่อย ตื่นมาก็ถึงแล้ว”
เซี่ยซิงเฉินสายศีรษะ “ฉันจะอยู่คุยกับคุณ กลัวคุณขับรถ คนเดียวจะเผลอหลับ
ไปเย่นิ่งยื่นมือไปกำมือเธอไว้แน่น เชียซิงเฉินที่กำลังเบื่อ หน่ายก็บีบเล่นปลายนิ้วของเขาไปมา
บางครั้งเขาก็จะหันข้างมามองเธอ จนสบสายตาเข้ากับ เธอ ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะ หัวใจฟูเพราะความสุข
เซียซิงเฉินกล่าว “ฉันลืมถามคุณเลยว่าทำไมถึงให้รถฉัน ฉันนั่งรถคุณไปทำงานมีอะไรไม่เหมาะสมเหรอคะ?
ไปเย่งเขม่นมองเธอแวบหนึ่ง “ช้าเร็วก็ต้องบอกทุกคนว่า
คุณเป็นภรรยาผม มีอะไรที่ไม่เหมาะ
คำว่า “ภรรยา ทำให้เธอเลิกคิ้วขึ้นในทันที
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ