ตอนที่ 290 จริงจังกับความรัก (10)
ไปเฉิงหันมองหญิงสาวข้างกายแวบหนึ่ง เธอก็เหลือบมองเขา แวบหนึ่ง ดวงตาวาวใสสั่นไหว เผยรอยยิ้มให้เขาเล็กน้อย ท่าทางน่าหลงใหลนั่นสะท้อนเข้าตาเขา เขาเพียงใจเต้นรัว อย่างรุนแรง
แต่งงาน…
กลายเป็นครอบครัวเดียว ยิ่งกว่าดี อย่างแท้จริง เป็นเรื่องที่ดีเสีย
ทั้งสองยังไม่ทันตอบอะไร เซียต้าไปที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ถาม ขึ้น “คุณป้า คุณป้าหมายถึงเรื่องอะไรครับ?”
ไปเยู่หัวเราะ ลูบใบหน้าเล็กของเขาที่ “เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กๆ ไม่เข้าใจหรอก
“เรื่องนี้เรากำลังคุยกันอยู่” ไปเย่นิ่งตอบ
“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม” ไปเยกล่าว “เพิ่งผ่าน พ้นงานแต่งงานกับซ่งเหวยไปไม่เท่าไร ผู้คนเลยยังจับจ้อง เรื่องนี้อยู่ ตอนนี้แกยังจะมีข่าวเรื่องชู้สาวไม่ได้เด็ดขาด ฉะนั้น ถ้าพวกเธอสองคนจะแต่งงานกันจริงๆ อย่างน้อยก็ต้องรอปี หน้า แต่ว่าคุยกันก่อนก็ได้อยู่
เซียซิงเฉินยืนอยู่ข้างๆ ไม่ตอบรับคำ คุยเรื่องการแต่งงานกับครอบครัวเขา เธอรู้สึกว่าราวกับเป็นเรื่องใน จินตนาการ ราวกับไม่ใช่ความจริง แต่รู้สึกสุขสมในใจอยู่ เล็กๆ
ไปเฉิงตอบรับ คิดเผื่อเรื่องนี้ไว้แล้ว เขาส่งเด็กน้อยให้ เซียซิงเฉิน ทำหน้าจริงจังแล้วถามไปเย่ “ได้ยินว่าพี่เข้าใกล้ กับเย่เซียวมาก”
เอ่ยถึงคนคนนั้นรอยยิ้มบนหน้าของไปเก็นิ่งค้าง
แต่เป็นแค่ความผิดปกติเพียงชั่วพริบตา เธอนั่งลงบน โซฟาแล้วแกะเปลือกอมยิ้มออกมาหนึ่งวัน พลางยื่นส่งให้ เซียต้าไป แสร้งตอบด้วยท่าทีสบาย “แกรู้ดีไม่ใช่เหรอ? ฉัน คอยจับตามองเขาอยู่ตลอดเพื่อกันเขาไม่ให้ใกล้ชิดกับซึ่งกั่ว เหยามากเกินไป
ไปเย่นิ่งหลุบตามองเล็กน้อย เลื่อนสายตาไปที่ลำคอ ของเธอ ใต้ผ้าพันคอนั่นมีรอยแดงชัดเจน เขารู้อยู่แก่ใจ
“ครั้งก่อนพี่บอกว่าจะให้ผมเจอคุณชายอวิ๋นไม่ใช่เหรอ คิดจะพาผมไปเจอเมื่อไรล่ะ?” ไปเยถึงถามอย่างแนบเนียน
“ตอนนี้แกยุ่งมากไม่ใช่เหรอ? ไหนจะเรื่องของคุณลุงอีก อีกไม่กี่วันก็จะไปประชุมสัมพันธมิตร รอแกกลับมาจากที่นั่น ค่อยพาไปเจอก็ไม่สาย
“พวกพี่สานต่อความสัมพันธ์ไหม?”
ไปเย่เงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังครุ่นคิด สักพักเธอก็เงยหน้าขึ้น “ความจริงไม่คิดสานต่อกับเขาหรอก แต่ตอนนี้ฉัน เปลี่ยนใจแล้ว
ประโยคนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เต็มไปด้วยความ โศกเศร้า
แม้แต่เซียซิงเฉินที่กำลังเล่นกับเด็กน้อยอยู่ข้างๆ ยังรู้สึก ได้ อดเงยหน้ามองไปเย่แวบหนึ่งไม่ได้
ถึงได้สังเกตว่าไปเย่ในวันนี้แตกต่างจากอย่างเคยเล็ก น้อย ปกติเธอมักมีมาด มั่นใจ สดใสและมีเสน่ห์ แต่เธอใน วันนี้กลับดูโทรมไปมาก แถมยังมีเรื่องหนักใจอยู่เต็มอก
ไปเยจิงหยักหน้าเล็กน้อย เงียบไม่พูดอะไร เรื่องความ รู้สึก คนรอบข้างไม่มีสิทธิ์พูดแทรกอะไรอยู่แล้ว มีเพียงใจตัว เองที่รู้ดีที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงหัวสมองปราดเปรื่องอย่างเ เธอต้องรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
อีกฝั่งหนึ่ง คุณหญิงไปโทรแจ้งความ ทั้งเอ่ยๆ ใน สายว่าให้ตำรวจรีบมาทันทีที่ทานอาหารค่ำเสร็จ หลังวางสาย ก็ไม่ได้ไปห้องโถงทันที แต่ลอบมองไปที่ห้องโถงจากห้อง รับรองข้างๆ จนคุณท่านก็อดยื่นคอมองไม่ได้
คุณหญิงไปหันหน้ากลับมาเขาก็รีบยืดตัวให้ตรง ยกแก้ว น้ำชาขึ้นดื่ม
น้าหลินกล่าว “คุณหญิง ท่านไม่ไปนั่งกับคุณเซียสักครู่เหรอคะ?”
“ดูสถานการณ์ก่อน
คุณหญิงไปจ้องเซี่ยซิงเฉิน คอยดูเธอเล่นกับเด็กน้อยพาน รู้สึกว่าดูแล้วสบายตา
น้าหลินพูด “คุณเซียไม่ใช่ลูกสาวของผู้หญิงคนนั้น พอ เห็นแล้วก็ดูสบายตาดีนะคะ
“อืม!” คุณหญิงไปพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับคำพูดของ น้าหลิน “ใบหน้าเล็กสวยดี รูปร่างก็ไม่แย่ ไม่ใช่ประเภทผอม เหมือนไม้ไผ่ แม้จะคลอดต้าไปแล้วก็ยังดูแลดีไม่โทรม
“อายุยังน้อยนี่นา พอมีลูกตอนอายุยังน้อยก็ฟื้นฟูได้ไว
“ทุกท่วงท่าไม่รีบร้อนไม่ชักช้า ไม่หงุดหงิดและไม่ ประมาท” คุณหญิงไปพูดวิจารณ์
“ดูออกว่าไม่มีนิสัยแย่ๆ ฉันเคยดูมือของเธอดีๆ แล้ว เรียวยาวสวย ต้องไม่สูบบุหรี่แน่นอน” น้าหลินพูดต่อ “เมื่อกี้ เห็นเธอเก็บของก็เป็นระบบระเบียบ ดูท่าปกติทำงานบ้านเป็น อยู่แล้ว”
“อีกอย่าง ก็มีแค่เธอที่เลือดเข้ากับกรุ๊ปเลือดบ้านเรา เป็น ประเด็นสำคัญที่สุดเลย!” คุณหญิงไปกล่าว “วันหลังถ้าเรา อยากได้หลานชายหรือหลานสาว ก็ต้องวานเธอคนเดียวแล้ว สินะ? ตอนนี้ตระกูลไปมีแค่เฉิงที่จะสืบทอดต่อไปแล้ว จะว่า ไป คุณเซียเป็นคนนำโชคให้ตระกูลไปเราจริงๆ”
น้าหลินก็พยักหน้า “ความจริงฉันก็คิดแบบนี้มาตลอดเลย เธอคลอดคุณชายเล็กมาก็ถือว่าเป็นผู้มีบุญคุณของตระกูลไป คนหนึ่ง
คุณท่านนั่งฟังอยู่ด้านหลังจนหน้าเริ่มตึง มุมปากกระตุก ใช้ไม้เท้าเคาะลงพื้นไปที่ “พวกเธอทั้งสองคน มีความคิดหน่อย ได้ไหม? ทำไมเหมือนหญ้าตามฝาผนังเลย คนที่บอกว่าเธอแย่ ก็พวกเธอนั่นแหละ! ตอนนี้พอเจ้าตัวมา พวกเธอก็พูดเยินยอไม่ หยุด!
พอคุณท่านพูดเช่นนั้น คุณหญิงไปก็กระแอมเสียงไอ “ฉัน ก็คิดเผื่อตระกูลไปของคุณไม่ใช่หรือไง? เหอะ มีลูกมีหลาน คุณไม่อยากมีเหรอ? มีหลานสาวให้คุณอีกคน คุณไม่อยากได้ เหรอคะ?”
เดิมทีคุณหญิงไปแค่ไม่อยากผูกญาติมิตรกับคนอย่างหลี่ หลิงอี
แต่ตอนนี้มารดาเธอไม่ใช่หลี่หลิง แต่เป็นคนที่เคยเจอที่ โรงพยาบาลคนนั้น คุณหญิงไปย่อมไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้อง คัดค้าน
คุณท่านถูกประโยคนี้ดอกกลับก็พูดไม่ออก เงียบไปพัก หนึ่งถึงกล่าวออกมา “ไม่ว่ายังไงผู้หญิงที่ถูกซื้อด้วยเงิน ผมไม่ เห็นดีด้วยหรอก! วันนี้ถูกคุณซื้อไปมีลูกได้ อีกวันถ้าคนอื่นให้ เงินเธอสิบล้าน เธอก็คงทำได้เหมือนกัน!
คุณหญิงไปย่นจมูก “คุณนึกว่าเงินสิบล้านจะตกลงมาจากฟ้าเหรอ คิดว่าใครก็มีเงินสิบล้านมาไว้ตรงหน้าเธอเพื่อขอให้ เธอมีลูก ให้เหรอ?”
W คุณท่านเงียบ “นี่ใช่ประเด็นไหม?! ผมหมายถึง สมมติ! สมมติ
“ไม่มีสมมติอะไรทั้งนั้น! ถ้ามีสมมติ ลูกชายคุณก็คงบีบ คอเขา ให้ตาย! อีกอย่างคุณคงรู้แล้วนะว่าเงินสิบล้านหายาก แค่ไหน? ถ้าฉันเป็นเธอ ให้เงินสิบล้านเพื่อมีลูก ฉันก็ยอม!
“คุณ…” คุณท่านโกรธจนหน้าได้เลือดฝาด “คุณนี่มันไม่รู้ จักแยกแยะจริงๆ ผมขี้เกียจพูดกับคุณแล้ว!”
“ฉันก็ไม่อยากพูดกับคุณแล้ว เขาอาจจะมีความลำบากใจ บางอย่างก็ได้ อีกอย่างถ้าจะว่าผิดก็คุณนั่นแหละผิด! ใครให้ คุณเสนอความคิดที่เอาเงินสิบล้านไปแลกหลานชายล่ะ? อ่อ พอเขาทำตามหน่อย มีหลานชายให้คุณแล้ว คุณก็กลับมาก ล่าวหา? ฉันบอกคุณไว้เลยนะ วิธีทำของคุณมันใช้ไม่ได้ ไม่ ยุติธรรมเลย!”
คุณหญิงไปกลับกล่าวโทษคุณท่านขึ้นมาเสียอย่างนั้น ย่อมจำคำพูดที่ตัวเองเคยกล่าวไว้ทั้งหมดไม่ได้แล้ว
คุณท่านโกรธจนพ่นลมถี่รัวพร้อมถลึงตามองจนแทบกุม อกเป็นลมหมดสติไป
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ