สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 251 ความรักที่แท้จริง (1)



ตอนที่ 251 ความรักที่แท้จริง (1)

เธอค่อยๆ เดินฝ่าฝูงชนออกมา พลางพูดเสียงเบา “สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นล่ามภาษาอังกฤษคนใหม่ ชื่อเซี่ยซิงเฉิน

สายตาของเขากวาดมองตัวเธอนานหลายวินาที แต่ สุดท้ายไม่พูดอะไร ปากบางเม้มแน่นแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปใน สํานักงาน

เซี่ยซิงเฉินเดาความคิดเขาไม่ออก และไม่เข้าใจความ หมายของสายตานั่นของเขา หากเธอต้องอยู่ต่อไปแล้วมีเขา ตัดสินใจละก็…แล้ว…เขาจะให้ตนอยู่ต่อเหรอ?

“ตั้งใจทำงานล่ะ คนใหม่แค่วันแรกที่ได้รับความสนใจ จากท่านประธานาธิบดี เป็นลางดีนะ” ทุกคนแยกย้ายกันไป ขณะที่กำลังขึ้นตึก หัวหน้าฝ่ายหูเหยียนตบไหล่เธอเบาๆ เป็น เชิงให้กำลังใจ “พยายามเพื่อให้ท่านประธานาธิบดีเก็บคุณไว้ ล่ะ”

เซี่ยซิงเฉินยิ้มขอบคุณ ขอบคุณค่ะ ดิฉันจะตั้งใจทำงาน “ซิงเฉิน!” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง เซี่ยซิงเฉินหัน กลับไป “สวี่เหยียน

“คุณจริงๆ ด้วย!” การเจอเธออีกครั้ง สวี่เหยียนทั้งตกใจ และดีใจ “ผมเพิ่งไปสัมมนากลับมา เห็นหลังคุณก็ว่าคุ้นๆ กลัวว่าจำผิด คุณมาอยู่นี่ได้ไง?

เซียซิงเฉินหยิบบัตรประจำตัวตรงหน้าอกให้เขาดู “จากนี้ เราคือเพื่อนร่วมงานกันแล้วนะคะ ฝากตัวด้วย “เพื่อนร่วมงาน…” สวี่เหยียนมองแวบหนึ่ง ดวงตาฉาย

แววดีใจมากกว่าเดิม “เราอยู่ฝ่ายเดียวกัน ฉะนั้นโอกาสเจอกันก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ

สวี่เหยียนมองเธอแวบหนึ่ง “ไม่เจอกันนาน เหมือนคุณจะ ผอมลงนะ…”

เซี่ยซิงเฉินยิ้มมุมปาก ทั้งสองคนเดินไปทางลิฟต์พร้อมกัน “หลายวันก่อนเป็นหวัดน่ะค่ะ คงเพราะแบบนั้นเลยผอมลง หน่อย”

“ตอนนี้หายดีแล้วเหรอ?”

“หายแล้วค่ะ”

สวี่เหยียนเหลือบมองเธออีกแวบหนึ่ง คล้ายมีอะไรจะพูด เซียซิงเฉินรู้ดี “คุณอยากถามเรื่องข่าวซุบซิบในหนังสือพิมพ์นั่น เหรอ?”

เซี่ยซิงเฉินหัวเราะ “ฉันกับเขาเป็นเพื่อนกันค่ะ”

“แปลว่าเป็นแค่เพื่อนเหรอ?”
ครั้งนี้เธอไม่ได้ตอบกลับไป ความคิดที่สวี่เหยียนมีต่อตน ใจเธอรู้ดี ความจริงน่าจะปล่อยให้เขาเข้าใจผิดไปทั้งอย่างนั้น จะได้ไม่เกิดความคิดเช่นเดิมอีก

ฝั่งตรงข้าม

ภายในลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนตัว สายตาของไปเย่นิ่งมองไป ยังชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินเคียงข้างกันผ่านบานกระจกใสกัน กระสุน สีหน้ายิ่งเรียบตึงขึ้นเรื่อยๆ

เยี่ยม!

หลังจบกับเขา ชีวิตของเธอช่างเต็มไปด้วยสีสันเสียจริง แค่หยูเจ๋อหนันคนเดียวไม่พอ ตอนนี้มีสวี่เหยียนเพิ่มมาอีก

กลุ่มคนด้านหลังของเขาต่างรู้สึกถึงบรรยากาศเยือกเย็น

ได้ แต่ละคนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

ในที่สุดก็ออกจากลิฟต์ได้ เหลิงเฟยถูกท่านประธานาธิบดี เรียกเข้าห้องทำงานโดยทันที

“ท่านครับ” เหลิ่งเฟยปิดประตูเบาๆ

“ประกาศไปว่าภายในสำนักงาน พนักงานทุกคนห้าม คบหากันเอง ในเชิงชู้สาวเด็ดขาด! หากพบเจอ ไล่ออกให้ หมด!”

เหลิงเฟยชะงักค้าง
“แต่ว่าเมื่อก่อนท่านบอกว่าต้องคิดเผื่อจิตใจของ ประชาชน…

“ตอนนี้ผมเปลี่ยนความคิดแล้ว ความรักในสำนักงานส่ง ผลกระทบต่องานอย่างรุนแรง! ผมไม่ได้ต้องการคนที่กินภาษี แล้วมารักๆ ใครๆ กันที่นี่หรอกนะ!

“…” เหลิงเฟยครุ่นคิดสักครู่ ก็พอเข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ถึงมี กฎระเบียบนี้ขึ้นกะทันหัน

“ใช่แล้วครับท่าน เมื่อครู่สถานทูตของประเทศ Y ส่ง การ์ดเชิญมาให้ท่าน คืนนี้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างลึก ซึ่งระหว่างประเทศ Y กับประเทศเรา ไม่ทราบว่าท่านมีเวลา ออกงานหรือไม่ครับ

“แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมก็ให้รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ไปก็พอแล้ว” ไป๋เย่ฉิงปฏิเสธไปตรงๆ

“ครับ ถ้าอย่างนั้นหากท่านไม่มีอะไรแล้ว ผมขอออกไป ก่อน”

ไปเย่ง โบกมือเป็นเชิงให้เขาออกไป แต่เพิ่งเดินถึงประตู ก็ถูกท่านประธานาธิบดีเรียกตัวไว้

“เมื่อกี้คุณบอกว่าคนที่ส่งการ์ดเชิญมาคือสถานทูต ประเทศ Y เหรอ?”

“ครับท่าน”

สิ่งที่ทำให้เหลิงเฟยตกใจคือคราวนี้ท่านประธานาธิบดีกลับเปลี่ยนใจ “เอาการ์ดเชิญมา! รีบตอบกลับพวกเขาว่าผม จะไปตามเวลาแน่นอน

หม?

เหลิงเฟยไม่เข้าใจแล้ว ทะ…ทำไมท่านประธานาธิบดี เปลี่ยนใจเร็วแบบนี้? แถมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเช่นนี้ พูดตาม ตรง…ไม่ได้สำคัญถึงขั้นต้องให้ท่านประธานาธิบดีออกงานเลย

ไม่นานทั้งสำนักงานของประธานาธิบดีต่างก็ได้รับอีเมล ฉบับหนึ่ง

เนื้อหาทั้งฉบับมีเพียงความหมายเดียวคือห้ามมีความรัก ภายในที่ทำงาน ลงชื่อ ไปเยฉิง” เพราะฉะนั้นหมายความว่า ท่านประธานาธิบดีส่งเองกับมือ

เซี่ยซิงเฉินอ่านจบกลับไม่รู้สึกอะไร ที่กระทรวงการต่าง ประเทศเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด เธอชินแล้ว แต่พนักงานคนอื่น กลับไม่เป็นเช่นนั้น

“ทำไมจู่ๆ ถึงห้ามมีความรักกันเองในนี้ล่ะ? เมื่อก่อนท่าน ประธานาธิบดีไม่เคยสนใจเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”

“หรือว่าเจอคนคบกันแล้วทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดี มากๆ?”

“ไม่รู้สิ แต่ว่านี่เป็นคำสั่งเลยนะ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร เรา แค่ทําตามก็พอ”
เซียซิงเฉินฟังอยู่เงียบๆ ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่ MSN บน หน้าจอกลับสั่นขึ้นมา เป็นข้อความที่สวีเหยียนส่งมา

เธอกดเปิดดู

สวีเหยียนถาม จู่ๆ ท่านประธานาธิบดีก็ออกคำสั่งแบบนี้ คุณว่ามันเป็นเพราะอะไรเหรอ?

เธอตอบกลับ เพราะไม่อยากให้ส่งผลกระทบต่อ

ประสิทธิภาพของงาน ในอีเมลเขียนชัดเจนแล้ว

เซี่ยซิงเฉินคิด เรื่องแบบนี้มันน่าถกเถียงตรงไหน?

สวี่เหยียน แต่ผมรู้สึกว่า….คำสั่งห้ามนี้เหมือนเจาะจงมาที่ เราสองคน ซึ่งเฉิน พวกคุณจบกันจริงๆ แล้วเหรอ?

เพราะพวกเขา? เชียซิงเฉินยิ้มขมขื่น รู้สึกว่าเขาคิดมาก

เกินไป

เธอพิมพ์ตอบกลับไปอีกข้อความ “อย่าคิดมากเลย ไม่

เกี่ยวกับเราหรอกค่ะ

เมื่อกี้ตอนที่ผมคุยกับคุณอยู่ข้างล่าง ผมเห็นสายตาที่ คุณหรือเปล่า?

ท่านประธานาธิบดีมองเรา เหมือนกำลังนึง เขายังไม่ลืม

พักใหญ่ที่เซี่ยซิงเฉินจ้องข้อความที่สวีเหยียนส่งมา ใจสั่นไหวไปเล็กน้อย

หึง? ไม่ลืม?
เป็นไปได้เหรอ?

แต่ว่าระหว่างพวกเขาจู่ๆ ก็จบกันโดยไร้เหตุผล จะคิดไม่ ตกก็อาจเป็นไปได้…

ขณะที่กำลังคิดเช่นนั้น สวี่เหยียนก็ส่งมาอีกข้อความ ซึ่ง เฉิน ถึงตอนนี้คุณไม่ได้คบกับผม แต่เลิกกับท่านประธานาธิบดี แล้ว ผมก็ดีใจแทนคุณด้วย ผมได้ยินมาว่าประธานวุฒิสภา กำลังจับคู่ท่านประธานาธิบดีกับลูกสาวเขาอยู่…ไม่ใช่ว่าผม รู้สึกว่าคุณไม่เหมาะสมกับเขา แต่ผมกลัว…กลัวว่าคุณจะไม่ ตามจนเหนื่อยเกินไป

เซียซิงเฉินแสบจมูก ไม่ได้ตอบกลับสบู่เหยียน เพียงแค่ กดปิดเงียบๆ

ใช่ สถานะระหว่างพวกเขาแตกต่างกันเกินไป กำหนดไว้ แล้วว่าเธอจะเป็นผู้ที่ถูกกระทำเสมอ สถานะตำแหน่งของเขา ทำให้เธอที่ไม่เคยถูกยืนยันสถานะเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย มากจนเกินไป

ตลอดวันนอกจากช่วงเช้า เซียซิงเฉินก็ไม่เคยเห็นไปเย งอีก เขาอยู่ชั้นบนสุด ส่วนเธออยู่ชั้นหก ย่อมไม่มีทางเจอหน้า กัน

เซียซิงเฉินคิด บางที…เมื่อตนผ่านช่วงฝึกงานไป ก็ใช่ว่า จะพบเขาได้หลังช่วงเช้า
อย่างนี้กลับดีเสียอีก ทำให้เธอจดจ่อกับการทำงานได้

แต่เพิ่งคิดได้เช่นนั้น ขณะที่เธอกำลังจะเลิกงาน หัวหน้า ฝ่ายก็มาเคาะโต๊ะทำงานเธอ “คุณล่ามเซีย คุณไปที่ชั้นบนสุด หน่อย ที่ห้องทำงานรองผู้กำกับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ