สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 25 ดูแลท่านประธานาธิบดี



ตอนที่ 25 ดูแลท่านประธานาธิบดี

เซี่ยซิงเฉินเข้าใจแล้วว่าเหตุใดรายงานข่าวจึงกลับคำเป็นว่า เขามิได้รับบาดเจ็บ แท้จริงแล้วเป็นเพราะสถานการณ์การเมือง ในตอนนี้ที่รุมเร้าด้วยวิกฤติจากทั้งภายนอกและภายใน

เธอผงกศีรษะ กล่าวว่า “คุณวางใจได้ ฉันจะดูแลเขาเป็น อย่างดี”

เหลิงเฟยพยักหน้า พลางเดินนำเธอเข้าไปในห้อง ภายใน ห้อง แม้มองจากภายนอกแล้วจะดูไม่ใหญ่โตอะไร แต่ภายใน นั้นนับว่ามีสิ่งของที่จำเป็นอยู่อย่างครบครัน

ทั้งข้างนอกและข้างในมีเพียงคนที่เขาไว้ใจได้อยู่เพียงไม่ กี่คนเท่านั้น บรรยากาศอึมครึมและเคร่งเครียด

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกกังวลใจอย่างมาก ถามว่า “เขาอยู่ที่ไหน

“ตามผมมา” เหลิงเฟยเซียซิงเฉินมุ่งสู่ห้องนอนซึ่งเป็น เพียงห้องเดียวของที่นี่เขายกมือขึ้นเคาะประตู พอได้ยินเสียง กุกกักจากภายใน จึงหันมากำชับกับเธอว่า “อาจจะมีเลือดนอง เต็มไปทั่ว ขอให้คุณเตรียมใจไว้ด้วย

เซี่ยซิงเฉินสูดหายใจลึก พยักหน้า เหลิงเฟยจึงผลักบาน

ประตูเข้าไป

แม้เธอจะเตรียมใจมาก่อนแล้ว อย่างไรเสีย พอได้มาเห็นสภาพภายในห้องที่เกินความคาดหมาย เซียซิงเฉินก็ยังตกใจ จนต้องผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าว

เลือดที่นองเต็มทั่วเตียง ทำให้ขาทั้งสองของเธออ่อนยวบ หัวเริ่มมีน ตาเริ่มลาย

เลือด

ทั้งบนผ้าปูที่นอน บนพื้น และบนลำตัวของเขา ล้วนแต่เต็ม

ไปด้วยเลือดแดงฉาน ดูน่าสยดสยอง

เขานอนหายใจรวยรินอยู่ตรงนั้น ที่หน้าอกมีแผล เหวอะหวะ เนื้อและเลือดและปนกันจนแยกไม่ออก แม้แต่ท่อน แขนก็ยังมีกระดูกโผล่ออกมาอีกด้วย

เซี่ยซิงเฉินได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นรู้สึกว่าแค่จะสูดหายใจก็ เริ่มทําได้ลำบากเสียแล้ว

“ทำไม…เขาถึงได้บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ?”

ว่าตามเหตุผลแล้ว มีบอดี้การ์ดคุ้มกันตั้งมากมายขนาด นั้น เขาไม่ควรจะอยู่ในสภาพนี้ได้เลย

“เพราะช่วยเหลือเด็กอายุไม่กี่ขวบคนหนึ่ง” เหลิงเฟยตอบ

อย่างไม่ใคร่ใส่ใจนัก

เซี่ยซิงเฉินเข้าใจแล้ว

ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว อำนาจที่มาคู่กับภยันตราย เขาเป็น ประธานาธิบดีมีแต่ต้องบุกน้ำลุยไฟ ไม่มีที่จะถอยกลับได้
การที่ชายผู้นี้สามารถเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุด ทั้งยังได้รับความชื่นชอบมากที่สุดได้นั้น มิใช่เรื่องบังเอิญ

ขณะที่เธอมองดูเขา ในใจก็เริ่มบังเกิดความรู้สึกพิเศษขึ้น มาอย่างไม่รู้ตัว

เป็นความรู้สึกนับถือระคนชื่นชม

เธอดีใจที่พ่อของเซียต้าไปเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ

เช่นนี้

กว่าคุณหมออี้เฉินจะจัดแจงกับบาดแผลของเขา เรียบร้อยก็เป็นเวลาพอสมควร จากนั้นจึงออกจากห้องไป เซีย ซิงเฉินรีบตามไปทันที “คุณหมอคะ อาการของเขาเป็น อย่างไรบ้าง”

“ตอนนี้สลบไปแล้ว บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ตกเย็นคงต้อง จับไข้แน่ๆ ถึงตอนนั้นจำไว้นะว่าคุณจะต้องใช้แอลกอฮอล์เช็ด ตัวเขาให้ทั่ว

“ได้ค่ะ ฉันจะทำตามนั้น ยังมีอะไรต้องระวังอีกไหมคะ”

“บาดแผลที่ลำตัวห้ามโดนน้ำโดยเด็ดขาด นี่เป็นเบอร์ โทรของผม หากว่าพรุ่งนี้เช้าไข้ของเขายังไม่ลด ให้โทรหาผม ทันที” เฉินหยิบปากกาขึ้นมาขีดเขียนหมายเลขขาวเป็น พรวน

เซี่ยซิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เหลือบมองไปทางห้องนอน ด้วยความกังวล “คุณหมอจะไม่อยู่ที่นี่ต่อหรือคะ”
เธอกลัวว่าหากบังเอิญเกิดปัญหาขึ้นมา เธอไม่รู้จะดูแล เขาอย่างไร

“ผู้บาดเจ็บที่จัตุรัสไป๋ยวยังมีอีกมาก ผมต้องไปจัดการ สถานการณ์โดยรวม อีกทั้งคนภายนอกต่างก็รู้ดีถึงความ สัมพันธ์ระหว่างผมกับท่านประธานาธิบดี หากผมหายตัวไป นาน ภายนอกนั่นจะสงสัยเอาได้

เธอกังวลใจเรื่องอาการของเขา แต่ว่าในตอนนี้ก็ไม่มีวิธี อื่นแล้วจริงๆ

หลังจากเดินกลับไปแล้ว เหลิงเฟยก็นำคน 2-3

ตามออกไปติดๆคน

ไปเฉิงยังสลบไม่ฟื้น เหลิงเฟยจำต้องปรากฏตัวผ่านสื่อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่าทหารอีกทั้งยังต้องรีบสืบหาตัวผู้ ก่อเหตุร้ายครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้น เขาก็จะยังตกอยู่ใน อันตรายอยู่ตลอดเวลา

พริบตาเดียว ในห้องก็เหลือแค่เธอกับไปเยถึงเพียงลำพัง ยังดีว่าภายนอกนั้นมีบอดี้การ์ดคอยเดินตรวจตราด้วยความ ระมัดระวังอยู่ทุกที

เซี่ยซิงเฉินสูดหายใจลึก พยายามสงบจิตใจ จากนั้นจึง ผลักบานประตูเข้าไปอีกครั้ง

ภายในห้อง เหลิงเฟยได้จัดแจงทำความสะอาดคราบ เลือดที่เลอะเปรอะบนพรมและผ้าปูเตียงเรียบร้อยแล้ว แม้ตัว เขาที่นอนบนเตียงก็พันแผลเรียบร้อยเช่นกัน สภาพโดยรวมดูแล้วไม่น่าสยดสยองอย่างเมื่อครู่

เพียงแต่ว่า…

ใจของเธอก็ยังคงวิตกกังวล ทรมานจิตใจอย่างยิ่ง

ตกเย็น

เขาไข้ขึ้นตามคาด ไข้สูงซะจนหน้าแดงก่ำ หว่างคิ้วขมวด หากันเป็นเส้นเหมือนอักษร ” เห็นได้ชัดว่าเจ็บปวดอย่างยิ่ง

เซี่ยซิงเฉินไม่นิ่งนอนใจ รีบนำผ้าขนหนูชุบน้ำ บิดแล้ววาง ประคบที่หน้าผากของเขาทว่าเมื่อมือของเธอไปสัมผัสหน้าผาก ของเขา เขาก็หายใจแรง แล้วจู่ๆ ก็เอื้อมมือขึ้นมากุมมือของ เธอเอาไว้แน่น

เหมือนว่าเขาพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี จนเธอรู้สึก ได้ถึงฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาที่พยามยามบีบอย่างสุดแรงจนมือ ของเขาเริ่มสั่น

แต่ว่า

ในเวลานี้ เขาอ่อนแออย่างมาก หากเพียงแต่เธอจะสะบัด เบาๆ เท่านั้น ก็สามารถจะสลัดให้หลุดมือได้

เพียงแต่ว่าเธอไม่กล้า กลัวจะเผลอทำให้กระเทือนถึง

บาดแผลของเขาได้

“อย่างเกร็งเลย นี่ฉันเอง คุณไข้ขึ้น ฉันจะต้องช่วยคุณเซี่ยซิงเฉินกล่าวอย่างแผ่วเบา

ไปเยฉิงยังคงสะลึมสะลือ ได้ยินเพียงน้ำเสียงอ่อนโยนกระ ซิบที่ข้างหู เสมือนหนึ่งพิรุณในวสันตฤดู ช่วยปลอบประโลมใจ คนได้อย่างง่ายดาย

ขนตาของเขากะพริบอย่างแรง เป็นเวลานานพอควรจึง ค่อยลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก ภาพตรงหน้ายังดูเลือน ลาง จนกระทั่งใบหน้าน้อยๆ ที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ค่อยๆ แจ่มชัดขึ้นมา

“คุณเองหรือ?”

น้ำเสียงของเขาแหบพร่าถึงที่สุด ริมฝีปากแห้งผากจนรู้สึก เจ็บ พอเห็นเธอแล้ว เขาผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด เซียซิงเฉินพยักหน้า “เหลิงเฟยให้ฉันมาดูแลคุณ คุณไม่

ต้องเกร็งนะ ฉันจะทำอย่างเบามือที่สุด ไม่ให้คุณเจ็บหรอก”

ขนตาของเขากะพริบปริบๆ นัยว่ารับทราบแล้ว ท่าทีของ เขาค่อยๆ ผ่อนคลายลง ฝ่ามือที่กรอบข้อมือของเธอก็ค่อยๆ คลายออก

เซี่ยซิงเฉินวางผ้าขนหนูบนหน้าผากของเขา แล้วเดินไป หยิบแอลกอฮอล์มา

เหลือบดูเขา ทันใดก็รู้สึกกระดาก แย่แล้ว! ต้องเช็ดตัวให้ เขาหรือนี่?

“เป็นอะไร?” ไปเย่นิ่งรู้สึกได้ว่าเธอไม่ได้ขยับ เขาไม่ได้ลืมตาขึ้น เพียงแต่ส่งเสียงถามอย่างอ่อนแรง

“คุณหมอบอกกับฉัน ถ้าคุณไข้ขึ้น ให้เอาแอลกอฮอล์ เช็ดตัวให้คุณ… เซี่ยซิงเฉินอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ยิ่งพูดยิ่งเบา

ไปเยถึงจึงลืมตาขึ้น มองดูเธอ ท่ากระดากอายของเธอ นั้นเขาสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

“คุณเอาแอลกอฮอล์มาให้ผมเถอะ ผมจะทำเอง…” เขาใช้ เรี่ยวแรงที่พอจะมีกลั้นใจฝืนไว้ไม่ให้ตัวเองสลบไปอีก แล้วใช้ มือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเอื้อมมาคลำหาขวดแอลกอฮอล์ มือ สะเปะสะปะไปโดนจนเปียกแฉะไปทั่ว

เซี่ยซิงเฉินเห็นแล้วก็รีบคว้ามือเขาให้หยุด พูดด้วยความ ตกใจ “คุณอย่าขยับ เดี๋ยวก็กระเทือนถึงบาดแผล คุณจะเจ็บ ได้นะ”

ไปเฉิงขยับริมฝีปากที่ซีดเผือด ตอบว่า “เจ็บแค่นี้ ไม่เท่า

ไหร่หรอก”

บาดแผลน้อยใหญ่ทั่วลำตัวของเขามีจำนวนเท่าใด แม้ เขาเองก็สุดจะนับ คนที่เติบโตมาในกองทหารตั้งแต่เด็กอย่าง เขา การฝึกที่แสนหฤโหดทั้งหลาย เขาล้วนผ่านมาแล้วทั้งนั้น

เทียบกับการฝ่าดงกระสุนที่ระดมยิงราวกับห่าฝน การโดน เฆี่ยนหรือโดนกรีดแทงแล้ว บาดแผลเหล่านี้จะเทียบอะไรได้

แม้เขาจะพูดอย่างไม่ยี่หระ แต่เซี่ยซิงเฉินฟังแล้วกลับรู้สึกปวดหัวใจจนพูดไม่ออก
“ฉันช่วยคุณเอง คุณก็แค่นอนนิ่งๆ ทำตามที่ฉันบอก อย่า ขยับตัว

ไปเฉิงขมวดคิ้ว จ้องไปที่เธอ เธอใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ ค่อยๆ ไล่เช็ดตั้งแต่ใบหูอย่างพิถีพิถัน

เช็ดลงมาเรื่อยๆ…

ลำคอ กระดูกไหปลาร้า…แผ่นอกที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

ไล่ต่ำลงไปอีก

นิ้วมือของเธอเลื่อนแตะขอบกางเกง เซี่ยซิงเฉินรับรู้ได้ถึง สายตาเคร่งขรึมและซับซ้อนของเขายังคงจ้องเขม็งมาที่เธอ แก้มของเธอก็แดงระเรื่อ

เธอกัดริมฝีปาก พูดขมุบขมิบออกมา “หลับตาลง!”

หากเขายังคงต้องเธอต่อไป เธอคงจะตายด้วยความเป็น

กระมัง?

แม้คนสองคนจะเคยมีอะไรกันมาแล้ว แต่นั่นมันก็เมื่อ 5 ปี ก่อน มิหนำซ้ำ เธอเองก็พยามยามคิดว่าเป็นเพียงแค่ความฝัน มาโดยตลอด มาย้อนนึกตอนนี้ก็เลือนลางไปหมดแล้ว เพราะ เหตุนั้น…

เธอจึงกระดากอายเป็นที่สุด!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ