ตอนที่ 224 พบปะคุณหญิงไป๋ (3)
คุณหญิงไปเพิ่งเดินออกมาจากห้องผู้อำนวยการโรงพยาบาล และกำลังจะไปเช็คร่างกายด่านแรก พลันได้ยินเสียงดังจาก ห้องพักผู้ป่วยอีกฝั่ง
เธอเบนสายตาสงสัยมองไปทางนั้น ได้ยินเพียงเสียงผู้ หญิงเสียงหนึ่งดังแหวมาก “ถ้าเธอป่วนให้ฉันกับเซียกั่วเผิงเลิก กันจริงๆ ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่!”
รบกวนพวกคุณช่วยไล่เธอออกไปทีค่ะ จากนี้ไปถ้าเห็น คนคนนี้อีกก็ไม่ต้องให้เธอเข้ามาในห้องแล้ว” อีกเสียงมาจาก หญิงสาวคนหนึ่ง แม้จะฟังออกถึงความขุ่นเคืองในน้ำเสียงแต่ ยังถือว่าควบคุมได้ดี รู้จักควบคุมได้ดีมากเมื่อเทียบกับเสียง แหลมของผู้หญิงวัยกลางคนเมื่อครู่แล้ว
คุณหญิงไป๋เป็นคนขี้สงสัยจึงเดินไปทางนั้นก้าวหนึ่ง ยื่น หน้ามองก็เห็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งถูกรปภ.ของโรง พยาบาลฉุดออกจากห้องพักผู้ป่วย อารมณ์รุนแรงอย่างบ้าคลั่ง ผมเผ้าและเสื้อผ้าบนตัวยุ่งเหยิง ใบหน้าบิดเบี้ยวแถมยัง พยายามถกเถียงกับหญิงสาวในห้องพักผู้ป่วย
สภาพนั้นดูไม่ดีมากจริงๆ
น้าหลินก็เห็นด้วยเช่นกัน จึงเอ่ย “คุณหญิง นี่คนที่พูดเหลวไหลเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ?”
คุณหญิงไปพยักหน้า “ใช่ เธอเอง
“โรงพยาบาลเป็นสถานที่ปลอดเสียง เธออยู่โวยวาย เสียงดังที่นี่มันน่าขายหน้าจริงๆ
คุณหญิงไปเกิดความรู้สึกหลากหลายขึ้นในใจ ตามองหล หลังถูกคนหิ้วปีกออกไป เธอหันไปถามคุณหมอข้างกาย “คน ที่พักอยู่ในห้องพักนั่นเป็นใคร?
“เป็นแขกพิเศษของคุณหมอฟู ส่งมาด้วยตัวเอง ผมได้ยิน คนอื่นบอกว่าอาจเป็นแม่ยายของคุณหมอฟู แต่เรื่องจริงเป็นยัง ไงพวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน
คุณหญิงขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม ไม่ว่าเฉินเป็นคนอย่างไร แต่ไม่ว่าใครที่เกี่ยวข้องกับเขาแล้วย่อมไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผล แบบนี้ หญิงวัยกลางคนคนนี้มาโวยวายเสียงดังตรงนี้ ดูออก ว่าอารมณ์ของคนคนนี้แย่แค่ไหน เฮ้อ เธอยังมีสภาพขนาดนี้ แล้วลูกสาวเธอจะดีได้สักกี่น้ำกัน
ในใจคุณหญิงไปขุ่นมัวมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดก็ไล่หลี่หลิงอีไปได้สักที เซียซิงเฉินไม่มีใจจะเก็บ เศษซากบนพื้นอีก รีบถาม “คุณหมอจึง อาการของคุณแม่ฉัน เป็นยังไงบ้างคะ?”
“เพิ่งผ่าตัดเสร็จ จึงยังตกใจมากไม่ได้ คราวหลังระวังหน่อยก็น่าจะไม่มีปัญหา” จึงอตอบเสียงเรียบ
“ขอบคุณนะคะ รบกวนคุณอีกแล้ว” ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ เซี่ยซิงเฉินถึงเบาใจ
“ไม่รบกวนหรอก” จึงอผงกศีรษะ คว้าปากกาบันทึกลง
ในใบรายงานผลอย่างละเอียด
เซียซิงเฉินหันหน้าไปมองมารดา ใบหน้าเธอยังคงซีดขาว ไร้สีฝาด ถูกหลี่หลิง รังควานเช่นนี้เธอจะอยู่รักษาอาการอย่าง สบายใจได้อย่างไรกัน? เซียซิงเฉินเป็นกังวล “แม่ สุขภาพแม่ ไม่ดี อย่าโกรธลูกเลยนะ ส่วนทางพ่อ…
“ช่างเถอะ อย่าพูดถึงเขาเลย…. เงินหมุนเอ่ยขัดลูกสาว สําหรับเรื่องของเขาเธอไม่อยากได้ยินอีกแม้แต่เพียงคำเดียว กวาดสายตามองเศษซากบนพื้นแวบหนึ่ง เกิดหลากหลาย ความรู้สึกขึ้นในใจ ความผูกพันรักใคร่ในอดีต ปัจจุบันเทียบ อะไรไม่ได้เลยแม้แต่เศษซากบนพื้นเหล่านี้
เซี่ยซิงเฉินไม่อาจเอ่ยอะไรได้อีก และไม่กล้าเอ่ยอะไร ทำ เพียงถอนหายใจก้มเก็บเศษซากบนพื้น
เงินหมิ่นมองแผ่นหลังลูกสาว กล่าวเสียงเรียบ “ตอนนี้แม่ พอจะจินตนาการออกว่าหลายปีนี้ลูกน่าจะเก็บกดจากสองแม่ ลูกนั่นไม่น้อย”
เซียซิงเฉินชะงักงัน เมื่อครู่มารดาสลบไปชั่วคราวจึงไม่ ได้ยินคำพูดที่เธอกล่าวกับบิดาทางโทรศัพท์ ตอนนี้เพราะเกรงว่าเธอจะอารมณ์พุ่งสูงขึ้นอีก เธอจึงยิ่งไม่กล้าเอ่ยถึง
ได้เพียงแต่กล่าวปลอบ “แม่วางใจเถอะ สองแม่ลูกปกติ แม้จะโอหังไปบ้าง แต่ตอนนี้พวกเธอก็ไม่กล้าทำอะไรลูกแล้ว ล่ะ”
ไปเย่ง ให้บทเรียนพวกเธอเมื่อครั้งก่อนพวกเธอย่อมต้อง ทน ครั้งนี้บิดารู้เรื่องเมื่อห้าปีก่อนแล้ว หลี่หลิงย่อมอยู่ไม่สุข
ขนาดนั้นแน่ๆ ขณะนั้นเองประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกคนกระชากออกจาก
ด้านนอก
มือที่กำลังเก็บเศษซากของเซี่ยซิงเฉินหยุดชะงัก เงยหน้า ขึ้นก่อนที่คุณหญิงสง่างามคนหนึ่งจะปรากฏขึ้นในสายตา ชุดสี ฟ้าอ่อนทั้งตัว สภาพดูแข็งแรงดี เธอเดินเข้ามา สายตาก็ส่งมา ยังเชี่ยชิงเฉินที่กำลังนั่งยองอยู่กับพื้นด้วยเช่นกัน
“คุณหญิง ไม่ทราบว่าคุณมาหาใครคะ?” เซี่ยซิงเฉินลุก ขึ้นยืนถามอย่างมีมารยาท
พยาบาลที่อยู่ด้านในได้ยินเธอถามเช่นนั้นไปจึงหันมา มองทางประตู เมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงประตู ทุกคนล้วนยืนตรง สองมือวางซ้อนอยู่ตรงหน้าท้อง โดยทันที ก้มทักทายอย่าง นอบน้อมเล็กน้อย “คุณหญิง!
จึงอวี้เอ่ยทักทายเสียงเบาด้วยท่าทีสง่า “คุณหญิง
“อืม พวกคุณก็ทำธุระของพวกคุณไป ไม่ต้องสนใจฉันฉันแค่เข้ามาดูเฉยๆ” คุณหญิงไปกล่าว เซี่ยซิงเฉินไม่เข้าใจ แต่พอจะเดาออกว่าคุณหญิงคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
คุณหญิงไปคล้ายรับรู้ถึงสายตาที่กำลังคาดเดาของเธอ ถึงได้เบนสายตาไปหาเธออีกครั้ง “เอ่อ…หนู ฉันแค่อยากถาม หนูเรื่องหนึ่ง…คนที่ถูกรปภ.หิ้วปีกไปเมื่อกี้ หนูรู้จักเหรอ?”
“ค่ะ รู้จัก” เซียซิงเฉินตอบกลับ ไม่คาดคิดว่าคุณหญิงจะ
มาเพราะหลี่หลิงอี
“ก่อนหน้านั้นเธอบอกกับฉันว่าเธอคือคุณหญิงเซีย เรื่อง
จริงหรือเปล่า?”
เซี่ยซิงเฉินไม่ได้ตอบกลับในทันที ทำเพียงแค่นั้น กลับไปมองมารดาแวบหนึ่ง เงินหมิ่นเสมองไปยังนอกหน้าต่าง ไม่เห็นอารมณ์อื่นบนใบหน้า แต่ในใจกลับขมขื่น เกรงว่าคงมี แต่เธอที่เข้าใจ เธอถอนหายใจแล้วจึงรับคำ “ใช่ค่ะ คือคุณ หญิงเซี่ย”
“ถ้าอย่างนั้นสามีของเธอก็คือนายกเทศมนตรีเซี่ยเหรอ?”
ความจริงเซี่ยซิงเฉินไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี้ต่อเท่าไร จึงได้แต่ถาม “คุณหญิง คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?
“อา ใช่” คุณหญิงก็ดูอาการไม่อยากพูดของเธอออก แต่ ก็ต้องถามให้กระจ่าง “เมื่อตอนที่ฉันอยู่ตรงประตู ได้ยินพวก คุณสองคนบอกว่าหลายปีนี้หนูทนสองแม่ลูกนั่นรังแกไม่น้อยแปลว่าลูกสาวเธอหนูก็รู้จักเหรอ?”
“ค่ะ รู้จัก” เซี่ยซิงเฉินตอบไปตรงๆ
“แล้วนิสัยของลูกสาวเธอเป็นยังไง? แต่ว่ามีแม่เป็นแบบนี้ ฉันเดาว่านิสัยก็ดีไม่ถึงไหนหรอก” ท่าทางคุณหญิงจะไม่ชอบ หลี่หลิงเสียจริงๆ แค่ได้พูดคุยและใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อย ก็สามารถดูนิสัยใจคอออกอย่างชัดเจน
เซี่ยซิงเฉินเองก็ไม่ชอบหลี่หลิง และเซี่ยงคง หากจะพูด ถึงลักษณะนิสัยของพวกเขา นั่นคงเป็นตำราเล่มโต ต้องใช้ เวลาเล่าถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม
แต่คุณหญิงตรงหน้าเป็นคนแปลกหน้า เธอไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่มองอีกฝ่ายอย่างชั่งใจ
คุณหญิงดูออกว่าเธอเตรียมรับมือกับตนไว้แล้ว จึงดึงเซี่ย ซึ่งเฉินนั่งลงบนโซฟา คล้ายต้องการพูดคุยกัน “ความจริงต้อง บอกกับหนูตรงๆ นะว่าคุณหญิงเซียคนนี้ฉันก็เพิ่งเคยเจอครั้ง แรก ลูกสาวของเธอฉันยิ่งไม่เคยเจอ
เซียซิงเฉินไม่ถามมาก เพียงแค่นั่งฟังคุณหญิงเล่าต่อไป
เงียบๆ
“แต่ว่านะ…ลูกชายฉัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ผู้หญิงในโลก นี้มีตั้งมากมาย เลือกใครสักคนตามใจเขาก็ได้ แต่เขากลับ ไม่มีแวว เหมือนถูกวางยาเสน่ห์ถึงไปถูกใจลูกสาวของเธอ!
เซี่ยซิงเฉินเข้าใจทุกอย่างแล้ว ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เซียซึ่งคงหน้าตาสะสวยแถมเรียนเต้น เรือนร่างอ่อนช้อยงดงาม แม้จะนิสัยแย่ไปหน่อย แต่ก็มีคนตามจีบมากมายมาตลอดอยู่ แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ