สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 221 ครอบครัวเดียวกัน (2)



ตอนที่ 221 ครอบครัวเดียวกัน (2)

เซียต้าไปอยากมีน้องสาวไว้เล่นกับตนมากๆ เดิมทีเขาเต็มไป

ด้วยความหวัง พอได้ยินคำพูดของคุณพ่อเช่นนี้จึงผิดหวัง แต่ว่าเสียวไปเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าทั้งสองคนนอนด้วย กันก็จะมีลูกน้อย เมื่อคืนผมไม่ได้ไปรบกวนพ่อแม่นะ หมายความว่าผมถูกหลอกเหรอ?”

หมายความว่า…

เมื่อคืนเธอตั้งใจรอให้เขานอนก่อนถึงได้ไปอีกด้านหนึ่ง สุดท้ายเจ้าตัวเล็กรู้ตัวว่าเธอไม่อยู่ข้างๆ เขาอยู่แล้ว

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกอายแทบตาย

ไปเฉิงกลับกล่าว “นอนครั้งเดียวไม่พอ ต้องนอนหลาย ครั้งๆ เพราะงั้นถ้าลูกอยากมีน้องสาวมากจริงๆ วันหลังก็ต้อง ให้แม่ของลูกมานอนกับพ่อ

เว้นช่วงเล็กน้อยจากนั้นเขาก็กล่าวเสริมอีกประโยคอย่าง เน้นย้ำ “แค่พ่อกับแม่!

ผู้ชายคนนี้!

เซียซิงเฉินอยากบอกให้เขาหุบปาก ยังจะอยากทาน อาหารเช้าดีๆ กันอยู่หรือเปล่าเนี่ย?
เซี่ยต้าไปกัดตะเกียบครุ่นคิดสักพัก มองเขาด้วยท่าที สงสัย “เสี่ยวไป พ่อกำลังโกหกผมสินะ? ผมรู้สึกว่าพ่อแค่อยาก สลัดผมทิ้งเพื่อยืดหม่ามีไว้คนเดียว ก็เลยโกหกผมว่าแบบนี้ถึง จะมีน้องสาวได้

ไปเย่นิ่งพยักเพยิดหน้าไปทางอีกคนที่หมดแรงจะเอ่ย แทรก “ไม่เชื่อก็ถามหม่ามีของลูก

เซียตาไปหัน ใบหน้าเล็กมาทางเธอ เซียซิงเฉินพยายาม ตั้งสติ “อืม เสี่ยวไปโกหกลูก วันหลังคุณแม่จะนอนแค่กับลูก

“ ไม่ได้เงยหน้า กลับรับรู้ถึงสายตาแหลมคมดุจมืด

ดาบจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามได้

เธอหัวเราะ ตัดสินใจไม่สนใจเขา เซียต้าไปคิดหนักอยู่ ข้างๆ ทั้งอยากให้หม่ามนอนกับตัวเอง แต่ถ้าทั้งสองคนนอน

ด้วยกันแล้วมีน้องสาวได้จริงๆ ล่ะ?

เซี่ยซิงเฉินยืนส่งไปเย่นิ่งขึ้นรถจากไป จากนั้นก็รอคนขับ รถมารับเซียต้าไป อยู่จัดเก็บของที่บ้านสักพัก ถือเว่ยยังก็มา เคาะประตูเพื่อไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอ

ยามที่ทั้งสองมาถึงโรงพยาบาลนั้นเป็นหมื่นก็ตื่นพอดี ฉือเว่ยยังเอ่ยทักทายกับเธอเพียงครู่ วางผลไม้และดอกไม้ที่ซื้อ มาเสร็จ พูดคุยกันสักพักก็เร่งรีบไปทำงาน เวลาเก้าโมง พยาบาลได้พาเงินหมิ่นไปทำการตรวจต่างๆ ก่อนผ่าตัด หลังตรวจก็ส่งเข้าห้องผ่าตัดทันที

เซียซิงเฉินนั่งรออยู่นอกห้องผ่าตัดเพียงลำพัง รู้สึกกังวล ใจไม่น้อย แต่เฉินบอกว่าเชื่อถือคุณหมอจึงได้แน่นอน เธอ จึงพอวางใจได้

เวลาสิบโมงภายในห้องผ่าตัดยังคงไร้ความเคลื่อนไหว เซี่ยซิงเฉินไม่กล้าลุกไปไหนจึงนั่งรออยู่ตรงนั้น

“ซิงเฉิน” จู่ๆ เสียงฝีเท้าพร้อมด้วยน้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้น เธอ เงยหน้ามองเห็นเพียงบิดาเซียกั่วเผิงปรากฏตัวอยู่กลางทาง เดิน การที่เขามาเธอไม่ได้รู้สึกตกใจแต่อย่างใด

“พ่อ” เซียซิงเฉินลุกขึ้นยืน เซี่ยวเพิ่งเดินเข้าใกล้ ตามอง ห้องผ่าตัดแวบหนึ่ง ไม่ได้ถามอะไร แต่ว่าสายตานั้นได้อธิบาย ทุกอย่างแล้ว เซี่ยซิงเฉินกล่าว “คุณหมอเป็นคุณหมอที่มีฝีมือ มาก ไม่น่ามีปัญหาอะไรค่ะ

“เข้าไปนานเท่าไรแล้ว?”

“ประมาณชั่วโมงหนึ่ง น่าจะอีกนานกว่าจะออกมา

เซียกั่วเผิงพยักหน้า ยืนอยู่เพียงครู่ หันไปมองที่ห้อง ผ่าตัดอย่างเหม่อลอยอีกครู่หนึ่ง ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่ พักใหญ่ ถึงได้หลุดจากภวังค์ กล่าว “นั่งเถอะ นั่งรอ

สองพ่อลูกนั่งพร้อมกัน เชียซิงเฉินเสมองหน้าเขาแวบหนึ่ง ถึงสังเกตเห็นว่าตรงขมับเขามีผมหงอกแล้ว

“…ทำไมเขาไม่มา?” เซี่ยกั่วเผิงเอ่ยถามหลังเงียบไปครู่ใหญ่

“ใครคะ?” เซียซิงเฉินเผลอถามออกไป เมื่อเห็นแววตา หม่นหมองของเซียกั่วเผิงแล้วจู่ๆ ก็เข้าใจว่าคนนั้นที่เขาพูดถึง คือ… “สามี” ที่มารดาโป้ปดไว้ เธอรับคำยืนถึงตอบ “…น่าจะยุ่ง มาก ลูกก็ไม่ได้ถามเยอะ

เขาขมวดคิ้วเป็นปมแน่น “ต่อให้ยุ่งแค่ไหนแต่นี่มันผ่าตัด แถมยังผ่าตัดใหญ่ด้วย ทำไมไม่มาอยู่ข้างๆ

เซี่ยซิงเฉินอยากพูดอะไรสักอย่างแต่ทำได้เพียงอ้าปาก สุดท้ายก็เอ่ยไม่ออก

เซี่ยกั่วเผิงคล้ายเพิ่งรู้ตัวทีหลังว่าปัจจุบันตนไม่มีสิทธิ์จะ พูดเช่นนี้แล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแม้แต่ประโยคเดียว สองพ่อลูกจึงนั่งเงียบๆ อยู่เช่นนั้นตลอดจนเวลาผ่านไปหลาย ชั่วโมง

เดิมทีเธอคิดว่าบิดาคงรอไม่ไหว แต่สี่ห้าชั่วโมงกลับไม่มี ท่ารำคาญแม้แต่น้อย แม้จะกระวนกระวายแต่ยังคงรออย่าง ใจเย็นต่อไป

เงินหมิ่นถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัด ยังไม่ตื่นเพราะ ยาสลบ ดวงตาหลับใหลทั้งยังเสียบสายออกซิเจนอยู่ มองดู แล้วสภาพเหนื่อยล้าเหลือเกิน บนใบหน้าไม่มีสีฝาด

เซี่ยชิงเฉินก้าวเท้าไปเร็วๆ จับมือมารดาไว้ อุณหภูมิของมือเธอเย็นมาก
เซียกั่วเผิงยังยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น พักใหญ่มือที่ตกอยู่ข้างล่า ตัวถึงกำแน่น ระยะห่างที่ไม่ไกลไม่ใกล้ แววตาสับสนของเขา มองไปที่ผู้หญิงบนเตียงนั้น หลากหลายความรู้สึกก่อตัววูบไหว ในดวงตา ทั้งที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้แต่กลับรู้สึกไกลเหลือเกิน…

เสียงเตียงเป็นค่อยๆ หายไปจากบริเวณทางเดิน สุดท้าย เมื่อเข้าสู่ห้องพักผู้ป่วยระดับ VVIP เซียกั่วเผิงถึงได้รู้สึกตัว ช้าๆ

เหมือนพริบตาเดียวแต่กลับไม่ได้เจอเธอมาหลายปีขนาด นี้แล้ว.…..

เดิมทีคิดว่าความรู้สึกรักใคร่ในอดีตจะหายไปเพราะขาด การติดต่อไปหลายปี แต่ตอนนี้หัวใจดวงนั้นที่หยุดนิ่งมาหลาย ปีกลับเริ่มสั่นไหวไม่หยุดหย่อน

ภายในห้องพัก

เมื่อจัดการทุกอย่างจวบจนเซี่ยซิงเฉินฟังคำแนะนำบาง ส่วนจากจึงอเสร็จ ถึงได้รู้ว่าบิดาไม่อยู่ เธอเดินออกไปเห็นเ ยกั่วเผิงยืนอยู่ด้านนอกประตู

“พ่อ ทำไมไม่เข้ามา

“อืม พ่อไม่เข้าไปแล้วล่ะ…” เซียถั่วเผิงมองเลยผ่านหัว ไหล่ของเธอไปแล้วเก็บรายละเอียดทุกอย่างที่อยู่ในคลอง สายตา หลายปีผ่านไปแต่เงินหมิ่นยังคงเป็นอย่างในความทรง จําของเขาที่ยามหลับใหลมักจะเงียบสงบ
เซียซิงเฉินไม่ได้ฝันรั้งไว้ ความจริงมารดาจงใจหลบหน้า บิดา ตอนนี้อาการเธอไม่ดี ไม่เจอย่อมจะดีกว่า เซียกั่วเผิงกล่า ว “อย่าบอกแม่ของลูกนะว่าพ่อเคยมา

เธอพยักหน้า “ลูกรู้

เชี่ยกั่วเผิงจะกลับแล้ว เซี่ยซิงเฉินจะไปส่งเขาที่ใต้ตึกแต่ เขาไม่ยอม ให้เธออยู่ดูแลเงินหมิ่นให้ดี เซี่ยซิงเฉินเองก็ไม่ ไว้ใจมารดา จึงไม่ได้ตามไป

มองดูแผ่นหลังอ้างว้างของบิดาแล้วพลันรู้สึกวูบโหวงใน ใจ หากสามารถย้อนเวลากลับไปได้ เธอคิดว่าบิดาคงไม่มีทาง เลือกทางเดินอย่างทุกวันนี้แน่แท้ เพียงแต่ในโลกนี้ไม่มีสิ่งที่ เรียกว่า ‘หาก’ อาศัยอยู่

ความมั่นคงของบิดาไม่สามารถย้อนกลับไปได้ ชีวิตสมรส ของพวกเขาไม่สามารถย้อนกลับไปได้ ช่วงเวลาของมารดาก็ ไม่สามารถย้อนกลับไปได้เช่นกัน

หลายวันหลังจากนั้นอาการของเงินหมิ่นเปลี่ยนไปในทาง ที่ดี ความจริงเซี่ยกั่วเผิงมาบ่อยๆ แต่ทุกครั้งมักมาในช่วงที่ เงินหมื่นนอนหลับ พร้อมสำรับอาหารที่เธอชอบมาด้วย

เก็บไว้ในกล่องรักษาอุณหภูมิจึงยังร้อนอยู่

“อาหารพวกนี้ลูกทำเองเหรอ?” เงินหมิ่นชอบทานเป็น อย่างมาก เมื่อทานติดต่อกันสามวันมาก็เริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้น
เซียซิงเฉินนึกถึงท่าทางสับสนปนเสียใจของบิดายามจาก ลา ก็อดเห็นใจไม่ได้ อยากพูดอะไรแต่ก็ห้ามใจไว้ เงินหมื่น มองเธอ “เป็นอะไร? มีอะไรจะบอกกับแม่ใช่ไหม?

“ไม่มีค่ะ” เซียซิงเฉินสายศีรษะ ตัดสินใจรอให้มารดา หายดีค่อยว่ากัน กล่าวเพียง “ถ้าแม่ชอบก็ทานให้เยอะๆ วัน หลังมีให้ทานทุกวันแน่ๆ

เงินหมิ่นรู้สึกว่ารสชาติช่างคุ้นเคย เป็นรสชาติคล้าย อดีต.คล้ายมาก…

แต่ไม่ว่าอย่างไร…มันก็เป็นไปไม่ได้…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ