ตอนที่ 192 งานแต่งงานของ ประธานาธิบดี (1)
ระหว่างพวกเขา ย้อนกลับไปเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว…
ขณะที่จูบอยู่ ดวงตาเธอก็ขึ้นด้วยน้ำใส ไม่รู้ผ่านไปนาน เท่าไร ริมฝีปากถูกชายหนุ่มกดลงอย่างแรงเหมือนลงโทษ เมื่อ ได้รับความเจ็บปวดเธอถึงได้สติ ลืมตาขึ้นมา เห็นแววตาชาย หนุ่มแฝงด้วยความต้องการบางๆ และความเย้ยหยันเล็กน้อย “จูบก็แย่ สิบปีนี้คุณไม่เคยนอนกับชายอื่น แม้แต่ประสบการณ์ จูบก็ไม่มีเลยเหรอ?”
ไปเย่ขมวดคิ้วอยากโต้กลับ แต่นอกประตูก็มีเสียงดังขึ้น อีกระลอก ได้ยินเพียงคุณหญิงเอ่ยสั่งพนักงาน ไปเอาคีย์การ์ด ห้องตรงหน้าเคาน์เตอร์มา!”
เธอขมวดคิ้ว เห็นมารดาคิดจะบุกเข้ามาแล้ว
“เอาคีย์การ์ดห้องอะไร ถ้าเกิดว่าลูกเปลี่ยนเสื้ออยู่ข้างใน ล่ะ!” เสียงคุณท่าน
“ฉันเข้าไป ไม่ได้ให้คุณเข้าไปสักหน่อย!” เห็นได้ชัดว่าคุณ หญิงไม่ค่อยสบอารมณ์ “นี่มันกี่โมงแล้ว งานแต่งงานกำลังจะ เริ่มแท้ๆ คนเป็นพี่สาวอย่างเธอกลับไม่อยู่ ทำตัวเหมือนอะไร
เสียงบุพการีทั้งสอง เหมือนน้ำเย็นถึงหนึ่งที่สาดใส่ศีรษะทำให้ไปเย่ได้สติขึ้นมาทันที
คุณหญิงต้องเข้ามาแน่นอน หากให้บุพการีทั้งสองท่าน เห็นว่าตอนนี้เธอกับเข่เซียวกำลัง
แต่ตอนนี้เยีเขียวอยากไปก็ไปไม่ได้แล้ว!
ไปเย่ลงมาจากบนเตียง สภาพย่ำแย่ไปทั้งตัว กระโปรง บนกายถูกเขาฉีกทิ้งไปก็ช่างมัน ลิปสติกก็ถูกเขาโหมจูบจน เลอะเทอะ เธอแอบเคืองในใจ ไม่มีเวลามาจัดการตัวเอง จับ แขนเขาไว้แล้วลากเขาไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อ
เย่เซียวเหมือนเสพติดรสชาติจูบของเธอเสียแล้ว มือใหญ่ กักตัวเธอไว้พลางดึงเธอเข้าหาทันที จูบถูกทาบทับลงบนริม ฝีปากเธออีกครั้ง
ไปเย่ถูกจูบจนหายใจไม่ทัน แต่สัญญาณแจ้งเตือนกำลัง ดังจากข้างนอก เธอทำได้เพียงคว้าสติเส้นสุดท้ายไว้ ผละออก จากริมฝีปากเขาทั้งยังหายใจหอบ “เยเชียว…ไปห้องเปลี่ยน เสื้อ…อย่าอยู่ตรงนี้…
“คุณกลัวอะไร? ผมเจอหน้าใครไม่ได้เหรอ?”
ใช่ เขาเจอหน้าใครไม่ได้ เรื่องที่พวกเขากำลังทำอยู่ ยิ่งเจอหน้าใครไม่ได้ ไปเย่ไม่กล้าเอ่ยต่อหน้า เพราะจะ เป็นการกระตุ้นชายผู้หลงตัวเองและหยิ่งผยองคนนี้อย่างแน่แท้
เธอเองก็ยืนตัวจากจูบของชายหนุ่มไม่ได้
“คุณหญิง ได้คีย์การ์ดแล้ว!” นอกประตูเสียงของพนักงานดงขม
ไป๋ซูเย่ถลึงตามองเย่เซียว ยกขาเตะเขา เขาจึงรวบจับ เรียวขายาวของเธอไว้ กดส่วนที่เกิดอารมณ์รุนแรงของตนเข้า กับส่วนที่อ่อนนุ่มของเธอ แววตาลึกจับจ้องเธอนิ่ง แววหม่น แผ่กระจายทำให้เดาใจไม่ออก
เธอคิดว่าผู้ชายร้ายกาจคนนี้อาจจะเหยียบย่ำเธอได้ มากกว่านี้ ในหัวเธอกำลังคิดหาวิธีให้หลุดรอดจากเขา แต่ ทันใดนั้นชายหนุ่มกลับโน้มตัวลงกัดเข้าที่เส้นเลือดตรงลำคอ เธอ
กัดแรงมาก
ฟันคมเจาะลงบนเนื้อเธออย่างไร้ความปรานี กลิ่นเลือด ตลบอบอวลไปทั่วห้อง เธอเจ็บจนตัวสั่นพลางหายใจหอบเกร็ง มือกำแน่นจนปลายนิ้วขาวซีด กลับทำได้เพียงกัดฟันแน่น ไม่ ส่งเสียงร้องแม้แต่เสียงเดียว
เธอรู้สึกได้ว่าชายผู้นี้เกลียดตัวเองจริงๆ
เกลียดจนเข้ากระดูก…
เธอจะไม่แปลกใจเลยสักนิดหากเขาจะกัดคอตนให้ขาด ปล่อยให้เธอตายไปอย่างนี้
จนถึงตอนนี้เธอยังคงรู้สึกว่าหากได้ตายในเงื้อมมือเขา เธอจะไม่เสียใจเลย
ขณะที่เธอกำลังคิดไปไกล เสียง ติ๊ดๆ ก็ดังขึ้นจากประตูไปเย่รู้สึกเพียงเจ็บปวดไปทั้งร่าง ไม่ได้ล่าถอยแต่อย่างใด เช่ เขียวกลับปล่อยตัวเธออย่างทันท่วงที เธอยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง เงยหน้ามองเขา สายตาเขาเรียบนิ่งปนด้วยความเกลียดชัง ริม ฝีปากบางแสนเซ็กซี่แต้มไปด้วยหยดเลือดแดง ทำให้เขาดู เหมือนตัวโหด** ยมที่ลิ้มลองเลือด จนคนเห็นต้องหวาดกลัว
“ซูซู” เสียงของคุณหญิงดังขึ้นอยู่ภายในห้อง ไปเย่รู้สึก เพียงตรงหน้าวูบไหวไปที เย่เขียวก้าวขายาวแล้วหมุนตัวเดิน ไปยังห้องเล็กอย่างไม่รีบร้อน
“แม่” ไปเย่ได้สติกลับมา จัดผมยาวเงียบๆ เพื่อปกปิด รอยแผลบนคอ
ชุดฉีกขาดบนกายพร้อมรอยเลอะบนใบหน้ายังไม่ทันได้ สนใจ
“ลูกเป็นอะไร? แม่เรียกลูกอยู่ข้างนอก ทำไมไม่เปิด ประตู?” คุณหญิงมองเธออย่างเป็นห่วง “สีหน้าดูแย่มากเลย นะ”
“ลูกรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย เลยนอนไปสักพัก” ไปเย่จัด เตียง พยายามทำท่าทีใจเย็น “เดี๋ยวลูกจะรีบเปลี่ยนชุด ถ้า เปลี่ยนชุดเสร็จก็จะรีบลงไปเลย
“ให้คุณหมอมาดูหน่อยไหม? ตอนนี้เขาอยู่ชั้นล่าง
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่เป็นหวัดนิดหน่อย อากาศข้างนอก มันเย็น” ไป๋ซูเย่กล่าว
กล่าวจบเธอก็ไปส่งคุณหญิงที่ประตู เดิมที่คุณหญิงอยาก ถามว่าเหตุใดชุดบนตัวเธอถึงขาดเช่นนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ ถาม ประตูห้องถูกปิดลงแล้ว
ไปเยืนพิงประตู เหม่อลอยไปสักครู่ถึงหมุนตัวเดินไป ห้องน้ำ ส่องกระจกแล้วลูบแผลบนคอไปมา เจ็บจนสูดปากเล็ก น้อยแล้วนึกถึงแววตาสุดท้ายของเยเชียวที่แสนเจ็บปวดและ เกลียดชังอย่างไม่รู้ตัว มือที่ยันแท่นกระจกไว้สั่นระริก
ยามที่เธอเดินไปหากล่องยาในห้องเล็ก เย่เซียวก็ไม่อยู่ แล้ว เธอเปิดกล่องยาออกมาแล้วหยิบน้ำยาฆ่าเชื้อมาจัดการ แผลง่ายๆ จากนั้นก็หาเทปผ้าปิดแผลเล็กๆ ปิดทับมันไว้
ทีแรกวันนี้เธอตัดสินใจจะเกล้าผมขึ้น แต่เห็นทีคงไม่ได้
เธอเปลี่ยนชุดราตรีตัวใหม่ แต่งแต้มเครื่องสำอางใหม่อีก
แล้ว!
ครั้งแล้วเดินลงไป
เยเชียวนั่งอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับคนอื่นแล้ว ถึงอย่าง นั้นใบหน้ายังคงไร้ความรู้สึก รังสีเยือกเย็นหล่อเหลานั่นดึงดูด สายตาหญิงสาวในงานให้เหลียวแลเป็นพักๆ
ยามที่ไปเย่ในชุดราตรีสีฟ้าเดินผ่านตรงหน้าเขานั้น เขา เพียงแค่กะพริบตาเบาๆ ที่หนึ่ง นัยน์ตาล้ำลึกดุจท้องมหาสมุทร ไม่ได้สั่นไหวแม้เพียงนิดเดียว ยิ่งไม่ได้พาดผ่านกายเธอเลยแม้ วินาทีเดียว อย่างกับว่าเรื่องเมื่อครู่ที่ชั้นบนเป็นเพียง ภาพลวงตาของเธอ
ฤกษ์งามยามดีมาถึงแล้ว ภายในงานแต่งงานคึกครื้นเป็น
พิเศษ
ต้องเป็นงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปีนี้แน่นอน แขก ที่มานอกจากคนตำแหน่งสำคัญของประเทศ S แล้วยังมีแขก สำคัญอื่นอีกมากมาย
เหล่านักข่าวที่แบกกล้องขนาดน้อยใหญ่ ล้วนทำการ ถ่ายทอดสดข่าวในงานอย่างแข็งขัน กลุ่มพลเมืองก็เริ่ม ห้อมล้อมเข้ามา อยากจะอวยพรท่านประธานาธิบดีพร้อมสตรี หมายเลขหนึ่งอย่างดีที่สุด
ไป๋เย่ฉิงสวมชุดสูทดำทั้งตัว ปรากฏขึ้นท่ามกลางสายตา ผู้คน เมื่อเขาปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาภายในงานได้ทันที เหล่า พลเมืองต่างร้องเฮเสียงดัง
บนใบหน้าเขายกยิ้มงามสมบูรณ์แบบ พยักหน้าเป็นเชิง ตอบรับเหล่าผู้คน ในเวลาเดียวกันเจ้าสาวก็ยืนอยู่อีกฝั่งของ พรมแดงพร้อมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ควงแขนบิดาซึ่งถั่วเหยาไว้ ค่อยๆ เดินมาทางเจ้าบ่าวตามจังหวะเพลงแต่งงานแสนโรแมน ติก
“ท่านประธานาธิบดี คุณหญิง ขอให้รักกันร้อยปี
“ต้องมีความสุขล่ะ!”
“มีทายาทไวๆ!”
เสียงอวยพรของเหล่าประชาชนทะลักเข้าหู รอยยิ้มบนใบ หน้าไปเยถึงชะงักงัน เขานึกถึงข้อความที่เซียซิงเฉินส่งให้ตน ในวันนั้น
“ท่าน ยิ้มหน่อยครับ ทุกคนกำลังมองท่านอยู่” เหลิงเฟย เอ่ยเตือนเสียงเบาอยู่ข้างๆ ใบหน้ายังประดับรอยยิ้มไว้
ไป๋เย่นิ่งไม่ได้สนใจเขา ค่อยๆ เดินไปหาซึ่งเหวย
งานแต่งงานเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติกที่เต็มไปด้วยกลีบ ดอกไม้ ซึ่งเหวยอียิ้มหวานแล้ววางมือลงบนฝ่ามือของชายหนุ่ม
อย่างเขินอาย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ