สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 185 เจ้าทุกข์ไป๋เย่ฉิง (1)



ตอนที่ 185 เจ้าทุกข์ไป๋เย่ฉิง (1)

ตกกลางคืน

ทุกอย่างเสร็จสิ้น ทีมงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ประธานาธิบดีล้วนรู้สึกโล่งใจไปอีกเปราะหนึ่ง

คืนนี้ไปเย่ฉิงตั้งใจจะกลับทำเนียบประธานาธิบดี พวกเห ลิ่งเฟยจะติดตามกลับไปด้วย แต่เขาบอกให้รีบกลับไปพักผ่อน เสีย

เขาขับรถกลับทำเนียบประธานาธิบดีคนเดียว รถยนต์ เคลื่อนผ่านตัวเมือง ดวงไฟระยิบระยับเลื่อนผ่านดวงตาทั้งคู่ เขาดูเวลาแวบหนึ่ง ห้าทุ่มกว่าแล้ว

เวลาแบบนี้ เธอกับลูกน่าจะนอนแล้วสินะ?

เมื่อคืนเขาตั้งใจแกล้งเธอ ทั้งคืนนอนไปไม่กี่ชั่วโมง วันนี้ก็ นั่งรถไฟความเร็วสูงอีกหลายชั่วโมง เวลานี้เกรงว่าคงง่วงน่าดู

ไป๋เย่นิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดหลายที แล้วโยนทิ้งลงเบาะ ข้างคนขับ สักพักก็หยิบมาไว้ในมืออีกครั้ง

ตอนนี้เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าตนต้องการจะทำอะไร เพียง รู้สึกว่าหน้าจอที่ไร้ความเคลื่อนไหว ทำให้เขารู้สึกว้าวุ่นใจ

ทันใดนั้น โทรศัพท์ในมือเขาพลันดังขึ้น ชื่อที่แผ่หลาบน จอสว่างทำให้เขานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เท้าเหยียบเบรกทันท่วงทีหน้าไฟแดง

บนจอปรากฏชื่อ เซี่ยซิงเฉิน” ที่กะพริบไม่หยุด

เขาหลุดจากภวังค์ มุมปากน่าหลงใหลยกยิ้มสูง เหมือน กำลังได้ใจอยู่บางส่วน ผู้หญิงคนนี้สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนได้

เขาไม่ได้รับในทันที เพียงแค่ปล่อยให้โทรศัพท์ตั้งอยู่ อย่างนั้น เสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดหย่อนทำให้ใจเขารู้สึกดี อย่างมาก อารมณ์ขุ่นมัวที่มีอยู่เดิมทีนั้น พลันดีขึ้นมาก

รอกระทั่งเสียงดังเป็นครั้งที่ห้า เขาค่อยๆ กดรับสายพลาง

ยก โทรศัพท์แนบชิดหู

แต่ว่า…

ในตอนนั้นเอง กลับถูกตัดสาย! ตัดสาย!!

ผู้หญิงคนนี้ ไร้ความอดทนตั้งแต่เมื่อไรกัน? เขาขมวดคิ้ว โยนโทรศัพท์กลับเบาะข้างคนขับ ไฟเขียว แล้ว เขาทำเพียงแค่ขับรถมายบัคคันนั้นจอดเทียบเข้าที่จอดรถ ข้างทาง แล้วก็รอ

ในเมื่อเขาไม่ได้รับ เธอต้องโทรมาอีกแน่ๆ!

อีกด้านหนึ่ง

เซี่ยต้าไปรอเป็นเวลานานก็ไม่มีคนรับสาย สีหน้าหม่นลง

“หม่ามี้ เสี่ยวไปไม่รับสาย
เซี่ยซิงเฉินครุ่นคิดชั่วครู่ พลิกหันกลับมาลูบหัวเด็กน้อย “ดึกขนาดนี้แล้ว ไม่แน่เสี่ยวไปอาจนอนไปแล้ว เราก็นอนเถอะ ทีม?”

“ถ้างั้นเราโทรหาเสียวไปอีกครั้งเถอะ!” เด็กน้อยชนิ้วขึ้น เป็นการร้องขอ

“ถ้าเขานอนแล้ว ตอนนี้ลูกโทรไปก็จะทำให้เขาตื่นไม่ใช่ เหรอ? อีกอย่าง…” เซียซิงเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง “พรุ่งนี้เช้า เขา เห็นเบอร์นี้ต้องโทรมาหาลูกแน่

เซี่ยต้าไปคิดตามครู่หนึ่ง ทำปากพองลม รู้สึกว่าคำพูด ของเธอมีเหตุผล

“ก็ได้ ผมจะฟังหม่า” เขาเก็บโทรศัพท์กลับที่เดิม ซึ่ง ผ้าห่ม “เรานอนกัน!!

เซี่ยซิงเฉินหัวเราะ มองโทรศัพท์แวบหนึ่ง ลังเลชั่วครู่แล้ว ก็กดปิดเครื่องเงียบๆ อย่างไรเสียกลางคืนก็ไม่มีใครโทรหาตน อีกแล้ว

สิบปีผ่านไป ไปเฉิงยังมีท่าทีสบาย

ยี่สิบวิผ่านไป ไปเฉิงยังคงรู้สึกว่าทิวทัศน์ยามค่ำคืนนอก หน้าต่างนั้นช่างน่าหลงใหล

หนึ่งนาทีผ่านไป ไป๋เย่นิ่งเก็บสายตาจากภายในรถ เหลือบมองโทรศัพท์แวบหนึ่ง โทรศัพท์ที่ไร้ปฏิกิริยาทำให้เขาขมวดคิ้วเป็นปม จัดท่านั่งใหม่อีกครั้ง สองนาทีผ่านไป โทรศัพท์ถูกเขาหยิบมาไว้ในมือแล้ว กด ใส่รหัสแล้วเลื่อนออก กดโทรไปยังเบอร์ที่ไม่ได้รับ

หนึ่งนาทีครึ่งผ่านไป สีหน้าเขาเรียบตึงทันที

เดิมที่คิดว่าต้องถูกรับสายอย่างรวดเร็วแน่แท้ แต่ผล ปรากฏว่า…

“ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกได้ทำการปิดเครื่อง โปรด โทรใหม่อีกครั้ง!” เสียงเฉยชาของระบบอัตโนมัติดังแว่วมา จากอีกฝั่งซ้ำๆ คิ้วไปเย่นิ่งกระตุก

เป็นไปไม่ได้! ตนอาจโทรผิดเบอร์

เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ กดโทรใหม่อีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้ เสียง ตอบรับจากอีกฝั่งของสายยังคงเป็นเสียงเฉยชาของระบบ อัตโนมัติ

ให้ตาย! ผู้หญิงคนนี้ปิดเครื่อง! ถ้าอย่างนั้นเมื่อครู่เธอโทร มาล้อเล่นกับตนเหรอ?

เขาโกรธ อยากจะพาเธอมาอยู่ตรงหน้าแล้วอบรมให้ชุด ใหญ่ แต่ตอนนี้จะไปพาตัวเธอจากที่ไหนกัน? สุดท้ายได้แต่ ระบายอารมณ์กรุ่นลงกับโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์ถูกเขาโยน

ไปมุมรถ

ตลอดทั้งคืนนี้ ไปเย่นิ่งนอนอยู่บนเตียงแล้วฝันยาวตลอดฝันลามก หลายรูปแบบ

หญิงสาวในฝันไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเซียซิงเฉิน ท่าที ยั่วยวนในคืนนั้นมักปรากฏในฝันของเขาไม่อาจจางหาย

หลังจากเขาตื่น สิ่งแรกที่ทำก็คือไปอาบน้ำ

คืนนั้นหลังจากที่จัดการเธอในโรงแรมก็ไม่สามารถดับไฟ ในกายของเขาลงได้ แต่กลับทำให้ไฟราคะในกายยิ่งแผดเผา ผู้เชี่ยวชาญด้านเพศศึกษาล้วนบอกว่าการเมคเลิฟจะทำให้เสพ ติด เห็นทีคงไม่ผิด

เขาอาบน้ำเสร็จเปลี่ยนชุด หยิบโทรศัพท์ขึ้นดู บนหน้าจอ ยังไร้ปฏิกิริยาใดๆ ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า ผู้หญิงคนนั้นอาจ จะยังไม่ตื่น! รออีกสักหน่อยแล้วกัน

ตอนเวลาแปดโมง เชียซิงเฉินตื่นแล้ว

เมื่อวานนั่งรถตลอดบ่าย ถ้าไปเหนื่อยแทบแย่ จนตอนนี้ ยังหลับลึกอยู่ เซี่ยซิงเฉินกลัวจะทำให้เขาตื่น จึงแอบกระชับ ผ้าห่มให้เขา หยิบโทรศัพท์พลางลุกจากเตียงไป

กดเปิดเครื่องแล้วหย่อนไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็ ออกไปยังห้องครัวที่อยู่ตรงข้ามลานบ้าน

เวลานี้ ในห้องครัวมีกลิ่นหอมตลบอบอวล เงินหมิ่นกำลัง อบแพนเค้กในห้องครัวเก่าๆ เห็นเธอจึงรีบถาม “ทำไมตื่นแล้วล่ะ? แปลกที่เหรอ?”

“เปล่าค่ะ นอนสบายมาก แต่แค่นาฬิกาในตัวมันชินแล้ว เซียซิงเฉินมานั่งเต็มปืนอยู่ข้างๆ กองไฟ

“ลูกไม่ต้องทำแล้ว เดี๋ยวก็โดนตัวเองหรอก” เงินหมิ่นจะ ลากเธอไป

“แม่ แม่อย่าเห็นลูกเป็นเด็ก ตอนนี้ลูกเป็นแม่คนแล้วนะ อีกอย่างตอนเด็กอยู่ที่นี่ลูกก็เผาปืนอยู่บ่อยๆ ไม่ต้องเป็นห่วง ขนาดนั้นหรอกค่ะ”

เงินหมิ่นมองเธอด้วยสายตาล้ำลึก อดถอนหายใจไม่ได้ ก่อนจะกล่าว “นั่นสิ ตอนที่แม่พาลูกกลับมา ลูกตัวเล็กนิดเดียว เอง พริบตาเดียวก็อายุยี่สิบสี่แล้ว…

“พากลับมาอะไร? แม่พาลูกกลับมาจากไหน?” เซี่ยซิงเฉิน เงยหน้าจากกองไฟขึ้นมองมารดา

เงินหมิ่นซะงัก บนตัวเองว่าพูดผิดคำ จากนั้นก็ยิ้มส่ายหัว กล่าว “แม่หมายถึงตอนนั้นที่คลอดลูกในโรงพยาบาลแล้วพาก ลับมา ลูกตัวแค่ฝ่ามือพ่อ…ลูกตัวเท่าฝ่ามือแม่เอง

เอ่ยถึงอดีตสามี สีหน้าเงินหมิ่นก็หม่นลงมาก รีบแก้คำ

เซี่ยซิงเฉินมองมารดาแวบหนึ่ง ดูออกว่าชีวิตสมรสที่ล้ม เหลวครั้งนั้น สําหรับเธอแล้วอย่างไรเสียก็เป็นบาดแผล ต่อให้ เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้วก็ตาม

เซี่ยซิงเฉินถอนหายใจ “ตอนลูกมา….พ่อฝากบอกแม่ว่าสุขสันต์วันเกิด ค่ะ”

เงินหมิ่นไม่กล่าวอะไร เหมือนไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น เพียงแค่ก้มหน้าอบแพนเค้กต่อแล้วถาม “เด็กตัวน้อยนั้นชอบ กินเค็มหรือหวาน?

เชียซิงเฉินก็ไม่ได้สานต่อหัวข้อสนทนาเมื่อครู่ ตอบกลับ “ยังไงก็ได้ค่ะ พ่อของเขาไม่ให้เลือกทาน เพราะฉะนั้นให้อะไรก็ ต้องทานอันนั้น”

“ที่เขาบอกว่าพ่อของเขาจะแต่งงานกับลูก เป็นเรื่องจริงไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ