ตอนที่ 161 วิธีแก้ที่ดีที่สุด (2)
เซียซิงเฉินนั่งอยู่ในรถไม่เอ่ยอะไรเลยไปพักใหญ่ เธอทำเพียง แค่มองไปนอกหน้าต่างรถ เดาไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไร หยู เจอหนุนก็ไม่เอ่ยอะไร เพียงแค่นั่งรอคอยเงียบๆ
แค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ เขาก็รู้สึกถึงความผิดหวังและความ เสียใจของเธอได้อย่างชัดเจน
“ถ้าอย่างนั้น เขาตกลงหรือยังคะ” ขณะที่คิดว่าเธอคงไม่ เปิดปากอีก เธอกลับพูดขึ้นเสียงเบา
“เท่าที่ผมรู้” หยูเจ๋อหนุนชะงักไปพักใหญ่ถึงเอ่ยต่อ “เขา ยังไม่ได้ปฏิเสธ”
แพขนตาของเธอสั่นไหวเบาๆ หยูเนื้อหนันอดสงสารไม่ได้ เขาเสริม “แต่ว่าในใจของเขาคิดยังไงก็ไม่มีใครเดาถูก คุณ ต้องรู้ว่าคนที่สามารถอยู่ในตำแหน่งนั้นได้ไม่ใช่คนที่ถูกชักจูง ได้ง่ายๆ แน่ เพราะงั้น
เซียซิงเฉินพยักหน้ายิ้มบางเบา “ฉันก็คิดแบบนั้น
คำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมากลับไม่รู้ว่าจะปลอบโยนตัวเอง ได้หรือเปล่า ไม่ใช่ไม่เชื่อในความสามารถของเขา เพียงแต่ สถานการณ์ในตอนนี้ราวกับปมที่ไร้ทางแก้
หลังเซี่ยซิงเฉินบอกลาหยูเนื้อหนัน ก็เดินขึ้นไปด้วยใจอัน
หนักอึ้ง
เธอนอนอยู่บนเตียงแต่กลับไม่ง่วงเลยสักนิด เอาแต่จ้อง มองมือถืออยู่ตลอด ระหว่างที่ใจลอยก็มักรู้สึกว่ามีเสียงมือถือ ดังขึ้น แต่ว่าพอหยิบออกจากใต้หมอนกลับกลายเป็นว่าไม่มี เสียงอะไรเลย นอนพลิกตัวไปมาบนเตียงหลายชั่วโมงกว่าจะ หลับ แต่กลับเริ่มต้นฝันเสียอย่างนั้น
ในฝัน เขาเผชิญหน้ากับคำถามและคำด่าทอของ ประชาชน สูญเสียความเคารพ ความนับถือและความเชื่อมั่น ของประชาชนที่มีต่อเขา ไปเย่นิ่งที่เป็นแบบนั้น หมดสิ้นราศีที่ เขาควรมี กลายเป็นนักโทษที่ทุกคนเกลียด ทำให้เธอปวดใจ เหลือเกิน
ภาพนั้นวนลูปอีกครั้ง เขากับซ่งเหวยจับมือกันเดินเข้า งานวิวาห์ ผู้คนดีอกดีใจ ผู้คนรักใคร่ ทั้งประเทศยินดี เขายืน อยู่บนจุดสูงสุดนั้น ยังคงสง่าเช่นเดิม ทำให้คนแหงนมองด้วย ความเลื่อมใส
“ซิงเฉิน ตื่นสิ!” เสียงฉือเว่ยยังดังแทรกเข้ามาในฝันของ เธอ ร่างเธอถูกเขย่าเบาๆ หลายที เซี่ยซิงเฉินลืมตาขึ้น ตรงอก ยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ เหมือนถูกบางอย่างกระแทกเข้าที่หัวใจ อย่างรุนแรง เจ็บจนแทบทะลุหัวใจ เธอจ้องมองเพดานขาวซีด ผ่านไประยะหนึ่ง ภาพที่เขาจับมือกับซึ่งเหวยยังคงตราตั้งอยู่ ในหัวเช่นเดิม
ต่อให้เป็นแค่ฝัน ก็รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน… เพราะฝันนั่น ช่างเหมือนจริงเสียจน…
“ฝันร้ายสินะ” คือเว่ยยังมองเธออย่างเป็นห่วง “ดีขึ้นบ้าง หรือยัง”
“อืม ไม่เป็นไรแล้ว” เซียซิงเฉินลุกขึ้น ด้านข้างเซียต้าไป ไม่อยู่แล้ว “เขาล่ะ”
“ทานข้าวเช้าเสร็จคนขับรถก็มารับเขาไปโรงเรียนแล้ว
ล่ะ”
เซี่ยซิงเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หยิบมือถือขึ้น ตอนนี้แปด โมงกว่าแล้ว เมื่อคืนตนนอนดึกเกินไป เช้านี้เลยตื่นสายเสียได้
“รีบล้างหน้าล้างตาเถอะ ลุกขึ้นมาทานข้าวเช้าเร็ว ไม่งั้น จะสายแล้วนะ” ฉือเว่ยยังเอ่ยพลางเดินออกจากห้องนอนไป
เซียซิงเฉินหยิบมือถือเดินเข้าไปในห้องน้ำ ตั้งแต่เช้าเมื่อ วานจนถึงตอนนี้ มือถือของเธอแทบจะไม่เคยอยู่ห่างกายเลย สวี่เหยียนส่งข้อความมา เป็นข้อความแสดงความเป็นห่วง เซี่ย ซิงเฉินอ่านแล้วแต่ก็ลืมเนื้อหาไปหมดสิ้น เธอรู้เพียงว่าสายที่ เธอกำลังรออยู่ ไม่ปรากฏขึ้นมาเลย
ขณะที่กำลังแปรงฟันล้างหน้า นิ้วมือก็เลื่อนดูข่าวบนเว็บ ไม่หยุดหย่อน ภาวนาให้พายุครั้งนี้ผ่านพ้นไปให้ไว แต่เห็นชัด ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ บนเว็บยังคงเป็นประเด็นร้อนแรง เสมือนว่าผู้คนไม่มีหัวข้อใหม่ๆ ให้คุย ให้ความสนใจเพียงแค่ข่าวนี้อย่างเดียว
แต่ว่ายังคงไม่เห็นการโต้ตอบจากเขา และไม่มีข่าวที่
เกี่ยวข้องกับเขาเลย
เชียซิงเฉินใช้ชีวิตอย่างยากลำบากไปอีกวัน ตกเย็น หลัง จากที่เพิ่งเก็บกวาดห้องครัวกับฉือเว่ยยังเรียบร้อย แล้วมานั่ง ทำการบ้านเป็นเพื่อนเด็กน้อย มือถือข้างตัวก็แผดเสียงดังขึ้น มา
เสตามองไป เป็นเบอร์แปลกเบอร์หนึ่ง
ความจริงไม่ได้หวังให้เป็นสายจากเขาสักนิดแล้ว แต่ว่า ยามที่เห็นเบอร์แปลกนั่น ใจก็เผลอเต้นไปที จนเมื่อกดรับสาย และได้ยินเสียงของเหลิงเฟยดังแว่วมาจากอีกฝั่งของสาย ดวงตาของเธอก็ขึ้นด้วยน้ำตาอย่างไม่เอาไหน
“คุณเซีย”
ใจเธอไม่อาจสงบลงได้ไปพักใหญ่ กำมือถือไว้แล้วสูด หายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อให้ตนใจสงบลงบ้าง แล้วจึงแนบมือ ถือข้างหูใหม่อีกครั้ง
“คุณเชี่ย?” เหลิงเฟยที่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับส่งเสียงเรียก
อีกครั้ง
“ค่ะ พูดอยู่ค่ะ” เซี่ยซิงเฉินรีบตอบ ลุกขึ้นพลางเดินไปมุม ห้อง ไม่อยากให้ลูกเห็นสภาพอ่อนแอของเธอเยี่ยงนี้
“ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณว่างไหมครับ
ว่างแน่นอนไปทันที สถานการณ์ตอนนี้ เขาอยากให้เธอทำอะไร เธอลังเลเลยกังวลทั้งใจกลับช่วยอะไรได้แบบ นี้ ช่างร้อนเสียจริง
“ถ้าสะดวก ตอนนี้คุณลงเลยครับ เหลิงเฟยเอ่ย
ถาม หม่า จะไปนอก”
อืมเซี่ยซิงเฉินหยิบเสื้อของตัวเองออกจากเสื้อผ้า มือ ลูบศีรษะเด็กน้อย ลุงเหลิงเฟยรอแม่อยู่ข้างล่าง แม่ไปแป๊บ เดียวเดี๋ยวกลับมา ทำการบ้านเสร็จก็แม่บุญธรรมตรวจ นะ จากนั้นรีบเข้านอนต้องรอแม่เข้าใจใช่
“ได้ คุณ
จะได้เจอเขาเหรอในสถานการณ์พิเศษเช่นเซี่ยซิงเฉิน แน่ใจเลยสักนิด เธอก็หวังเป็นอย่างน้อยว่า
เธอเปลี่ยนชุดๆ แล้วลงไปอย่างเร่งรีบ เห็นชัดเพื่อไม่ให้จุด สนใจ ทะเบียนเป็นเลขทั่วไป กวาดสายองก็ลืม หลบซ่อนอยู่ ท่ามกลางความมืดมิด ได้แตกต่างจากรถทั่วไป
“คุณเซี่ย เชิญขึ้นรถครับ
รุ่ยยังเปิดประตูหลังให้อย่างน้อมนอบ เซี่ยซิงเฉินขึ้นรถ ส่วนรุ่ยกังขับรถด้วยตัวเอง
ตลอดทางเธอไม่ได้ถามอะไร เพียงแค่นั่งนิ่งๆ อยู่เบาะ หลัง เธอไม่รู้ว่ารุ่ยยังจะพาเธอไปที่ไหน พบใครหรือทำอะไร เธอกลับกำลังรอคอย…ว่าจะได้พบเขา…
ต่อให้จากที่ไกลๆ เพียงแวบตาหนึ่งก็ยังดี
รถยนต์เคลื่อนตัวจนสุดท้ายก็จอดเทียบด้านนอก โรงแรม ระดับเจ็ดดาวแห่งหนึ่ง โรงแรม King มีสาขาอยู่ทั่วโลกจนเป็น ที่โด่งดังไประดับนานาชาติ ผู้ที่สามารถเข้าพักที่นี่ได้ล้วนมี ระดับ ในเวลาเช่นนี้ข้างนอกมืดลงแล้ว แต่ว่าภายในหรือ ภายนอก โรงแรมในพื้นที่หลายแปลงนี้กลับสว่างจ้าราวกับตอน กลางวัน ผู้คนที่เดินไปมาล้วนแต่สง่าผ่าเผย
เซี่ยซิงเฉินจับต้นชนปลายไม่ถูก “ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะคะ”
“คุณเซีย นี่เป็นการ์ดห้องของคุณ ข้างในบันทึกรอยนิ้วมือ ของคุณแล้ว” รุ่ยกังยื่นคีย์การ์ดให้เธอใบหนึ่ง “พอคุณเข้าไป ก็ จะมีคนพาคุณขึ้นไปเอง
เธอยังคงมึนงงอยู่ แต่ก็รับคีย์การ์ดมา ปลดสายรัดนิรภัย ออก แล้วถือคีย์การ์ดเข้าไป เป็นอย่างที่ว่าไม่มีผิด มีคนที่แต่ง ตัวเป็นพนักงานเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ เพียงแค่แวบเดียวก็ดู เธอออก นำทางเธอขึ้นไปชั้นบนสุดผ่านลิฟต์ตัวที่ถูกซ่อนไว้ อย่างระมัดระวัง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ