ตอนที่ 107 รักมากมาตั้งนานแล้ว (4)
“ลูกนี้มีมารยาทจริงๆ เลยนะ” ฉือเว่ยยังไม่รู้จะทำยังไง เลยบีบ เข้าแก้มนิ่มของเด็กน้อย “ตอนเที่ยงแม่ไม่อยู่เป็นเพื่อนพวกเธอ แล้วนะ วันนี้มีธุระสำคัญที่ต้องทำน่ะ”
“มีเรื่องอะไรสำคัญกว่าน้องไก่อีกเหรอ
“เจ้าตะกละ” คือเว่ยยังหยุดชะงักชั่วครู่ จากนั้นก็เผยยิ้ม ออกมา “แม่จะไปเดต หาพ่อบุญธรรมให้ลูกไง ที่สำคัญกว่า น่องไก่หรือยังล่ะ”
เซี่ยซิงเฉินเผลอมองไปทางฟู่เฉิน เห็นเพียงสีหน้าเขา เปลี่ยนไปเล็กน้อย ระหว่างคิ้วปรากฏความขรึมขึ้นมาบางๆ
จู่ๆ เขาก็เงยหน้าแล้วพูด “คุณเซีย พักฟื้นดีๆ นะครับ ไว้ พรุ่งนี้ผมค่อยมาหาใหม่
“อ่า ค่ะ รบกวนคุณแล้วนะคะคุณหมอฟ” เธอได้สติแล้ว พูดตอบรับเสียงเบา พลางให้คนรับใช้ไปส่งฟู่เฉิน
พอฟเฉินจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของฉือเว่ยยังทางนี้ ก็ค่อยๆ เลือนหายไป ถูกแทนที่ด้วยความเศร้าหมอง เซียซึ่ง เฉินลูบเข้าที่หัวของเด็กน้อย “ต้าไป ไปหยิบน้ำผลไม้ข้างล่าง ให้แม่บุญธรรมหน่อยสิ
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เด็กน้อยเคลื่อนตัวลงจากตักของฉือเว่ยยังอย่างทุลักทุเล วิ่งลงไปชั้นล่างเสียงดังตึงตัง เชีย ซิงเฉินที่อยู่ในห้องตะโกนบอกไปว่า “ช้าๆ หน่อย”
ภายในห้องทางนี้จึงเหลือเพียงพวกเธอสองคน คือเว่ยยัง ลุกขึ้นเดินไปยืนข้างริมหน้าต่างสักพัก รอจนรถยนต์ของเฉิน จากไปจนไม่เห็นเงาแล้ว เธอถึงได้ละสายตากลับมา ท่าทาง ใจลอยเล็กน้อย
“ไปเดตจริงๆ หรือเดตหลอกๆ” เซี่ยซิงเฉินถาม
ฉือเว่ยยังไม่ได้ตอบ จู่ๆ ก็นอนฟุบข้างเธอ หันข้างเล็กน้อย แล้วโอบกอดเธอไว้ เธอนิ่งอึ้ง คือเว่ยยังซ่อนใบหน้าอยู่ใต้ ผ้าห่มอยู่นาน เซียซิงเฉินได้ยินเพียงแต่เสียงลมหายใจอันหนัก อึ้งของเธอ แม้แต่ลมหายใจ ยังมีความเจ็บปวดปนอยู่…
เซี่ยซิงเฉินโอบไหล่เธอไว้อย่างปลอบประโลม ตบบ่า ปลอบไปมาเบาๆ เว่ยยังมีแต่รอยยิ้มอยู่ทุกวัน เป็นตัวของตัว เอง ท่าทางเหมือนนักรบสาว ไม่เคยเห็นเธอเผยมุมอ่อนแอ ขนาดนี้มาก่อนเลย
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม” เธอถามเสียงเบา
“หลายวันก่อน…ฉันเจอเขากับภรรยาของเขา… เซียซิงเฉินได้ยินก็รู้ทันทีว่า “เขา” ที่เธอพูดหมายถึงใคร
“ฉันปวดใจมากจริงๆ นะ…เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่าง สมบูรณ์แล้ว แต่ฉันกลับจมปลักอยู่ในความทรงจำไม่ยอมไป ไหน… ฉือเว่ยยังพูดน้ำเสียงคล้ายกำลังร้องไห้เบาๆ
เซียซิงเฉินดูออก คุณหมอยังไม่ได้ปล่อยวางจากเธอ จริงๆ หรอก อย่างน้อยเขาก็ยังมีความรู้สึกต่อเว่ยยังอยู่ เพียง แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ด้วยสถานะ แบบนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเขา ก็เหมือนเจอทางตัน ไม่มีทาง สานต่อได้อีก
“เว่ยยัง ปลดปล่อยตัวเองเถอะ ในเมื่อคุณหมอแต่งงาน แล้ว ก็แสดงว่าสวรรค์ยังมีแผนสำหรับเธอที่ดีกว่านี้” เซี่ยชิง เฉินพูดปลอบเบาๆ แต่เธอก็รู้ดีว่าคำพูดปลอบโยนเหล่านี้ ไม่มี ประโยชน์สำหรับคนที่ตกหลุมพรางของความรักเลยสักนิด หากถอนตัวออกมาได้ง่ายขนาดนั้น เธอจะโสดอยู่อย่างนี้ตั้ง หลายปีได้อย่างไร ไม่ว่าจะมีผู้ชายเข้าหาเธอมากเท่าไร เธอก็ ปฏิเสธไปหมดอย่างไม่ลังเล
“ฉันก็ปลอบใจตัวเองอย่างนี้แหละ” คือเว่ยยังฝืนยิ้มออก มา ยกหัวขึ้นมาจากผ้าห่ม “ซิงเฉิน เธอว่า…ฉันยังจะหารักแท้ จากคนอื่นได้อีกไหม” ถือเว่ยยังรู้สึกมาตลอด ว่าการที่ยึดติด กับฟู่เฉินมาตั้งหลายปีขนาดนี้ ทำให้เธอมอบความรักให้เขา ไปจนหมดสิ้นแล้ว…
“พยายามหาดู ถ้าหาได้ ก็ถือว่าเป็นโชคของเธอ แต่ถ้าไม่ เจอ เธอก็ไม่เสียหายอะไร
ตระกูลข่ง
เวลานี้ ทุกคนล้วนสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว ภายในบ้านตรงลานบ้านด้านหลัง มีเสียงดุดันของชายคนหนึ่งดังแว่ว มา ทำให้คนที่ได้ยินกลัวจนตัวสั่นไปหมด
ซึ่งเหวยพยุงมารดา เหมยหลิวลี่ยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้า เล็กซีดเซียวจนไร้เลือด สองขายืนสั่นระริก เหมือนพร้อมจะล้ม ลงตลอดเวลา ในใจเหมยหลิวก็กลัวเช่นกัน “ลูกนี่นะ แม่ควร ห้ามลูกตั้งแต่ตอนนั้น….
“คุณแม่ เดี๋ยวคุณแม่ต้องช่วยลูกนะ….คุณพ่อต้องฆ่าลูก แน่! ”
สิ้นเสียงซ่งเหวย ประตูบ้านที่แสนอึมครึมก็ถูกเปิดออก งถั่วเหยาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความโหดร้ายเดินออกมา ยังไม่ทันที่ซึ่งเหวยจะอ้าปากพูดอะไร ซึ่งถั่วเหยาก็ตบหน้าไป ฉาดใหญ่
เพียะ” สิ้นเสียง พวงแก้มซึ่งเหวยอีกบวมแดงขึ้นมา หยด น้ำตาเม็ดโตไหลออกมาเรื่อยๆ เธอกลัวจนตัวสั่น แม้แต่ร้องไห้ ก็ยังไม่กล้า
ซ่งถั่วเหยายังไม่หายโกรธ ยกมือขึ้นหมายตบอีกฉาด ใหญ่ เหมยหลิวรีบถลาเข้าไป พลางร้องไห้ห้าม “ถั่วเหยา คุณ มีลูกสาวแค่คนเดียวนะ! ”
“เธอยังกล้าขอร้องแทนมันอีกเหรอ! มันก็ได้เธอนี่แหละ ให้ท้าย! ” ซึ่งถั่วเหยาตวาดเสียงดัง ความเ* ยมโหดที่แผ่ ออกจากดวงตานั้นน่ากลัวมาก “เธอรู้ไหมว่าพวกคนที่มันไปหา คราวนี้ เป็นพี่น้องที่ผ่านร้อนผ่านหนาวกับฉันมาตลอดทั้งนั้น!แล้วดันถูกไปเย่นิ่งฆ่าทิ้งทีละคนๆ นี่ฉันยังต้องส่งอาวุธให้เขา แบบยินดีอีก! ”
เหมยหลิวตอบ “เหวยยังเด็ก ลูกไม่รู้อะไร คนพวกนั้น ติดตามคุณมาตั้งหลายปี ยังจะเหลวไหลไปตามลูกอีก จะโทษ ต้องโทษพวกเขาเอง…กรี๊ด…
ปืนกระบอกหนึ่งยกชิดติดหัวเหมยหลิว เหมยหลิวลี่กลัว จนล้มลงกับพื้น ไม่กล้าพูดอีกแม้แต่ประโยคเดียว ซึ่งเหวยจับ ปืนไว้ พูดโต้ขึ้นมา “คุณพ่อ ถ้าคุณพ่อจะฆ่าก็ฆ่าลูกเถอะ! ลูก เป็นคนสั่งให้คนพวกนั้นไปเอง พวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งลูก เรื่องที่พวกเขาตาย ลูกจะรับผิดชอบเอง คุณพ่อฆ่าลูกส
“ลูกอย่าพูดอีกเลย…. เหมยหลิวร้องไห้พร้อมกอดบุตร
สาวไว้
ซึ่งเหวย รู้สึกไม่เป็นธรรมจนน้ำตาไหลไม่หยุด “ลูกก็แค่ จะสั่งสอนผู้หญิงที่แย่งผู้ชายของลูกไป ทำไมลูกถึงทำไม่ได้ หล่อนมายั่วเฉิงก่อน ลูกจะสั่งสอนหล่อนก็ไม่ใช่เรื่องผิด อะไร! ”
“จะสั่งสอนผู้หญิงคนไหนฉันไม่สน! แต่ถ้าแกยังสร้าง เรื่องให้ฉันอีก ฉันฆ่าแกแน่! ”
ซึ่งถั่วเหยาเดือดพล่าน ถ้อยคำที่หลุดจากปากแต่ละคำ ราวกับก้อนหิน สายตาน่ากลัวจนเหมือนจะปลิดชีพซ่งเหวยอี อย่างไรอย่างนั้น เมื่อเขาตักเตือนเสร็จ ก็เดินอ้อมพวกเธอแล้ว จากไปอย่างเย็นชา
เหมยหลิวลี่นั่งหมดแรงอยู่บนพื้นหญ้า น้ำตาไหลไม่หยุด สำหรับผู้ชายที่เต็มไปด้วยความกระหายต่อประเทศ ในสายตา เขาก็มีแต่อำนาจสูงสุดแค่นั้น ความรักใคร่ล้วนเป็นเพียงแค่ หมากของเขา เมื่อถึงตอนที่โหด** ผมไร้ปรานีที่สุด ชีวิตของ ใครก็เอามาได้ทั้งนั้น แล้วก็สูญเสียได้ไม่ว่าใครก็ตาม
ซึ่งเหวยอีเองก็นั่งยองๆ อยู่กับพื้น สองมือปิดหน้าร้องไห้ โฮอย่างหนักหน่วง วันนี้เธอถูกเหยียดหยามมากขนาดนี้ ทำให้ ยิ่งแค้นเซียซิงเฉินมากกว่าเดิม สักวันหากเธอได้เป็นภรรยา ของประธานาธิบดีจริงๆ ล่ะก็ เธอจะไม่มีทางปล่อยหล่อนไป ง่ายๆ เด็ดขาด
ตกกลางคืน เวลาสามทุ่มกว่า ไปเย่นิ่งเพิ่งออกจาก
สํานักงาน
เหลิ่งเฟยเปิดประตูรถให้เขา พอเขาก้าวขึ้นรถแล้ว ก็ถาม เสียงเรียบ “ทางซ่งถั่วเหยาจัดการแล้วหรือยัง
“จัดการแล้วครับ ตายอย่างอนาถ
ไปเย่นิ่งไม่ถามต่อ เขาก้มมองหน้าปัดนาฬิกา ถึงทำเนียบ ก็น่าจะสี่ทุ่มกว่าแล้ว คิดว่าเซียซิงเฉินน่าจะนอน แล้ว เดิมทีเขาคิดว่าวันนี้จะได้กลับเร็วสักหน่อย แต่ว่างานช่วง นี้ไม่ว่าจะในประเทศหรือระหว่างประเทศ ก็มีเรื่องให้ต้อง จัดการอยู่เยอะมาก จนแทบปลีกตัวไม่ได้
เขากดนิ้วนวดระหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยอ่อน หลับตาแล้วจึงเบาะรถเพื่อจีบเอาแรงชั่วคราว เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตีหนึ่ง เจ็ดโมงเช้าวันนี้ก็ต้องไปสำนักงานอย่างรีบร้อนทันที หกชั่วโมง นี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้นอนเต็มอิ่มที่สุดในช่วงนี้แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ