ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 553 ใช่สิ ฉันเป็นบ้า



ตอนที่ 553 ใช่สิ ฉันเป็นบ้า

ตอนที่ 553 ใช่สิ ฉันเป็นบ้า

จนเวลาถึงประมาณบ่ายครึ่ง หลงเซียวกับลั่วหานจึงจะ กินข้าวเสร็จ

พอเห็นว่าเวลาไม่คอยท่าแล้ว ลั่วหานกังวลหลงเซียวว่า จะจัดการเรื่องที่บริษัทไม่เสร็จ แล้วต้องทำงานล่วงเวลา จึงรีบร้อนขึ้น “คุณไม่ต้องไปส่งฉันหรอก ไปที่บริษัทเลย ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันเรียกรถไปที่โรงพยาบาลเอง”

ถ้าหากว่าทั้งสองคนไปคนละทางล่ะก็ เขาจําต้องไปส่ง เธอก่อน เวลาจะได้ไม่ล่าช้าไปกว่านี้

หลงเชียวโอบเอวของเธอไว้เพื่ออุ้มเธอเข้าไปนั่งในรถ โดยตรง พร้อมทั้งรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอด้วย “พูดเรื่อง อะไรกัน สามีอย่างผมจะอยู่ข้างๆ คุณ ไม่มีทางปล่อยให้ คุณไปขึ้นรถชายอื่นหรอกนะ”

แต่มันก็แค่รถแท็กซี่เองนะ

ชั่วขณะนั้นลั่วหานก็พูดอะไรไม่ออก จนหลุดหัวเราะ ออกมา “ท่านเซียว ฉันนี่เลื่อมใสคุณจริงๆ เลยนะคะ”
มีลูกไม้นาๆ ชนิด แถมยังคำพูดออเซาะนั้นอีก เขานี่นะ!

หลงเขียวพูดขึ้น พร้อมกับรถที่เคลื่อนไปข้างหน้า “โกรธ ผมหรือ? ตอนในห้องทำงานของไป๋เวยน่ะ”

ลั่วหานคิดถึงตอนที่เขาถามเรื่องสรุปเงินตรา จะบอกว่า โกรธก็ไม่เชิง “ไม่นี่ เรื่องเล็กๆ แบบนั้นฉันจะไปโกรธได้ ยังไง? แต่ทำไมฉันถึงโดนหางเลขไปด้วยล่ะ? ท่านเขียว ช่างไม่อ่อนโยนเลยจริงๆ”

หลงเซียวเอียงตามองเธอ ด้วยแววตาที่ส่อประกายอ่อน โยน “ไม่ได้โกรธก็ดีแล้วล่ะ ที่ผมถามไม่ได้อยากให้คุณ ล่าบากใจสักหน่อย แต่ในเมื่อต้องทํางาน ก็ควรจะทํางาน ร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ที่ผมทำก็เพื่อพวกเขานะ

ลั่วหามเข้าใจได้ทันที ก่อนจะโน้มตัวไปคล้องแขนเขา ไว้ “สมแล้วที่เป็นแวมไพร์แห่งวงการธุรกิจ วางแผนได้ แยบยลมาก!”

หลงเซียวเอียงหัวมากระแทกกับหน้าผากของเธอ ก่อน จะยิ้มตอบ “ฟังดูเหมือนไม่ได้ชมเลยนะ”

“ฮิๆ เดิมทีก็ไม่ได้คิดจะชมอยู่แล้วล่ะ”

พอพูดถึงตรงนี้ ลั่วหานก็ถามขึ้นมาอีกว่า “ใช่แล้ว ตอนนี้หลงยี่อยู่ที่บริษัทด้วย คุณคงไม่ได้เจอเรื่องยุ่งยากใช่ ไหม?”

หลงเชียวเผยอริมฝีปากอันเรียวบางของเขาขึ้นยิ้ม “คุณ คิดว่าไงล่ะ?”

พอเห็นท่าทางที่เชื่อมั่นและภาคภูมิใจตัวเองขนาดนั้น ลั่ วหานก็วางใจลง “ถึงหลงยี่จะไม่ใช่คู่มือของคุณก็เถอะ แต่หลงถึงล่ะ? เขาให้เสี่ยวจื่อออกจากเมืองหลวงไปตั้ง นานแบบนี้ คงจะไม่ได้รามือง่ายๆ หรอกใช่ไหม?”

หลงเซียวพยักหน้าอย่างสดชื่น “ใช่ ตอนนี้หลงถึงกำลัง เร่งรีบให้เสี่ยวจื่อมาสวมรอยแทนผม ดังนั้นเขาจึงอนุญาต ให้เสี่ยวจื่อไปประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งนั่นก็น่าจะอยู่ ในแผนของเขาด้วย

แต่สำหรับแผนการจะเป็นยังไงนั้น ตอนนี้เขาไม่รู้เลยสัก

นิด

“เสิ่นคั่ว ตู้หลิงเซวียน หลงถึง คนพวกนี้เหมือนกับเสือที่ จ้องจะตะครุบเหยื่อเลย หลงเซียว คุณนี่เป็นบุคคลที่มีชื่อ เสียงเชียวนะ”

ลั่วหานใช้แววตาที่อ่อนโยน มองเข้าไปในแววตาที่เยือกเย็นของเขา
หลงเซียวลดความเร็วรถลง ก่อนจะสบสายตาแลก เปลี่ยนกับเธอ “สถานการณ์ในตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ถือว่าวิเคราะห์ได้ตรงเผงเลยนะ”

ลั่วหานถอนหายใจดังเฮือก พร้อมทั้งใช้มือลูบไปมาบน ท้องของเธอ เพื่อสัมผัสถึงลูกที่มีตัวตนอยู่ด้านใน เธอก้ม หน้ามองท้องของเธอที่ยังไม่ได้นูนป่องออกมา ก่อนจะพูด ขึ้นอย่างอ่อนโยน “ลูกรัก แม่อยากจะบอกลูกว่า ตอนนี้ พ่อของลูกพอจะพูดได้ว่ากำลังถูกศัตรูล้อมไว้ทุกทิศ พ่อ ของลูกลำบากมากเลยนะ จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?”

หลงเซียวที่กำลังขับรถอยู่ ก็พูดด้วยเสียงหัวเราะที่ทุ้ม ต่ำน่าฟัง “พ่อจะต้องจัดการปัญหาทุกอย่างให้หมดสิ้น แม่ วางใจได้เลยนะ”

หลงเซียวที่พูดโดยการเลียนแบบเสียงของเด็ก ช่างดูน่า รักมาก จนทําให้ลั่วหานหัวเราะลั่นออกมา “แสดงได้เก่ง มากเลย! ฮ่าๆ!”

ขณะนั้นเอง มือถือของหลงเซียวก็ดังขึ้น แต่มือถือของ เขาใส่อยู่ในกระเป๋ากางเกง ทำให้ไม่สะดวกที่จะรับ “ช่วย ผมรับที ”

ลั่วหานหยิบมือถือออกมาให้เขา พอเห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้ แถมยังโทรมาจากเมืองเจียงเฉิง จึง เข้าใจได้ทันที “เดี๋ยวฉันจะช่วยคุณโอนสายไปบนรถเอง นะ”

“ไม่ต้องหรอก ผมรับสายเอง”

เบอร์โทรที่ว่าหลงเซียวรู้จักดี นั่นคือเจิ้งซินนั่นเอง

“หลงเซียว นี่ฉันเองนะ”

หลังจากรับสาย เสียงของเจิ้งซินก็พุ่งเข้ามาในรถอย่าง อดใจรอไม่ไหว ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของผู้หญิง ที่ดัง ขึ้นในรถที่เงียบสงบตอนนี้

หลงเซียวทำสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าที่ เปลี่ยนไปเยือกเย็นลง “เกิดอะไรขึ้น?

ลั่วหานเปิดเสียงมือถือให้ออกทางลำโพง พอลองเทียบ น้ำเสียงของเจิ้งซินกับหลงเซียวเข้าด้วยกัน เธอก็รู้ถึง ความแตกต่างได้บางอย่าง นี่หลงเซียวทําตัวเย็นชากับ เจิ้งซินแบบนี้มาปกติเลยหรือ

เจิ้งซินไม่กล้าจะกวนใจอะไรหลงเซียวมาก จึงรีบพูดเข้า ประเด็นทันที “วันนี้เสิ่นคั่วได้ติดต่อกับทางศุลกากร เพื่อ ที่จะเอาเรือสินค้าออก ที่นั่นก็มีคนของเขาอยู่ด้วย แถมยัง จะปล่อยให้อีก ฉันไม่รู้แล้วว่าจะทำยังไงดี แล้วนายคิดว่าไงล่ะ?”

ลั่วหานขมวดคิ้วแน่น แต่ก็ยังฟังอยู่เงียบๆ

หลงเซียวส่งสายตาที่เยือกเย็นกว่าเมื่อกี้นี้ ราวกับว่าเขา กำลังเผชิญหน้ากับเจิ้งซินอยู่ “คุณเจิ้ง เรื่องแบบนี้ยังต้อง ให้ฉันตัดสินใจอีกหรือ? คุณเจิ้งก็แค่อายัดเรือสินค้าของ เสื่นคั่วเอาไว้ เพื่อตรวจสอบให้แน่นอนว่าเป็นการขนส่ง สินค้าผิดกฎหมายหรือเปล่า กฎหมายไม่ได้สอนเธอเอา ไว้เลยหรือว่าต้องทำยังไงน่ะ?”

ลั่วหานยกนิ้วทั้งสองขึ้นนวดขมับ แบบนี้เจิ้งซินที่อยู่อีก ฝ่ายคงจะกระอักกระอ่วน แล้วก็ร้องไห้ไปแล้วล่ะมั้ง?

เจิ้งซินพลันพูดออกมาอย่างยากลำบาก “นี่นายจะส่ง เสิ่นทั่วไปที่สถานีตำรวจโดยตรงเลยงั้นหรือ? เรื่องนี้มัน เรื่องใหญ่นะ มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับนายเลยด้วย

“งั้นหรือ? ดูเหมือนว่าคุณเจิ้งจะมีความคิดอื่นสินะ?” หลง เซียวแอบส่งสัญญาณให้เธออย่างไม่สนใจ พร้อมกับคอย ชักจูงเจิ้งซินไปทีละก้าว

แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ เจิ้งซินก็จับประโยคของหลง เซียว แล้ววางแผนการออกมาอย่างอดใจรอไม่ไหว “ต้อง ขออภัยไว้ก่อนที่พูดตรงๆ โครงการที่นายทำอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงตอนนี้ มีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันกับ ธุรกิจของตระกูลเส็น ถ้าหากนายฉวยโอกาสนี้ในการ ขายความสัมพันธ์กับเสิ่นคั่วไปล่ะก็ หลังจากนี้เวลาทำ อะไรก็จะสะดวกขึ้น

เฮอะ!

พลันใบหน้าที่เย็นชาของหลงเซียว ในที่สุดก็ดูดีขึ้น มานิด “ในเมื่อคุณเจิ้งมีจิตใจที่กระตือรือร้นแบบนั้น ก็ รบกวนด้วยล่ะ”

คำพูดของเจิ้งซินไปตรงกับสิ่งที่คิดอยู่ในใจของหลง เซียวพอดี! แถมเจิ้งซินยังทำการบ้านอีกไม่น้อย เพื่อที่จะ ปรนนิบัติเขาเป็นอย่างดี

“ไม่ได้เป็นการรบกวนเลย แต่ว่า…นายล่ะ? ช่วงนี้ฉัน ได้ยินมาว่าบริษัทของนายยุ่งมาก ต้องเหนื่อยแน่ใช่ ไหม?” น้ำเสียงของเจิ้งซินทั้งอ่อนโยนและหวานฉ่ำ แต่ พอเปิดเสียงมือถือไว้แล้ว มันกลับยิ่งดูเลี่ยนและน่า สะอิดสะเอียนไปแทน

ลั่วหานกุมปากตัวเองไว้ไม่ส่งเสียงออกมา เธออยากจะ หัวเราะจริงๆ!

หลงเซียวหันมามองลั่วหาน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียง เยือกเย็น “คุณเจิ้งจะพูดมากเกินไปแล้วนะ!”
พูดจบ เขาก็กดปุ่มสีแดงเพื่อตัดสายทิ้งทันที “เจิ้งซิน เป็นคนที่เป็นหูเป็นตาให้ผมในเมืองเจียงเฉิงน่ะ” เขารีบ อธิบายทันที

“แต่คุณไม่จำเป็นต้องเย็นชากับเธอมากก็ได้นะ เห็นแก่ ความพยายามทำงานทุกอย่างเพื่อคุณแบบนี้ อ่อนโยนสัก หน่อยก็ดีนะคะ” ลั่วหานฉีกยิ้มให้เขา

ในที่สุดก็มาถึงที่โรงพยาบาล พอหลงเซียวหยุดรถ ก่อน จะค่อยๆ ลงจากรถ พร้อมทั้งโอบลั่วหานที่คอยเอาแต่ พูดจาเหน็บแนมเขามาตลอดทาง แล้วบรรจงจูบลงไปบน ริมฝีปากของเธอ เป็นการทําโทษเล็กน้อย เขาซึมซับเอา ความหวานหอมจากรอยจูบนั้นอยู่นาน กว่าจะคลายเธอ ออก “ความอ่อนโยนของผมมีให้คุณคนเดียวเท่านั้น คน อื่นจะไม่ได้รับอะไรแบบนี้เด็ดขาด โดยเฉพาะผู้หญิง”

ลั่วหาน : “.….

ต้องถึงขนาดนี้เลยหรือ? แค่พูดเล่นๆ แต่กลับคิดมากขนาดนั้นเลย?

แต่ก็ดีแล้วล่ะ เธอรู้สึกทั้งดีใจและพอใจมากๆ เลยล่ะ!
ตกเย็น ณ ตึกบริษัทคู่ชื่อ

หลังจากยุ่งกับงานมาทั้งวัน โจวโร่หลินหลังจากเลิกงาน ก็ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด เธอเดินออกมาจากตึก พร้อมทั้ง แวะซื้อโอเด้งที่ขายอยู่ตามแผงลอยเล็กๆ ข้างสี่แยก มือ หนึ่งเธอถือกล่องกระดาษเอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ถือไม้ จิ้มเล็กๆ พร้อมกับลิ้มรสอาหารเลิศรสนั้นอย่างมีความสุข

พลันเสียงแตรรถก็ดังขึ้นอย่างไม่ถูกกาลเทศะ ขณะที่โจ วโร่หลินกำลังจะหันกลับไปมองนั้น รถเบนซ์สีขาวคันหนึ่ง ก็พุ่งเข้ามาหา แล้วขวางทางเธอเอาไว้

“ให้ตายเถอะ! นี่คุณคิดจะทำอะไรน่ะเกาจิ่งอาน?!” โจว โร่หลินรีบกัดลูกชิ้นปลาคำใหญ่อย่างลวกๆ พร้อมทั้งทำ แก้มปูด แล้วเดินไปกระทืบเท้าอยู่หน้ารถ

การกระทำทุกอย่างดูคล่องแคล่วเชี่ยวชาญมาก!

เกาจิ่งอานนั่งอยู่ด้านหลังของรถ เขาลดกระจกแล้วโผล่ หัวออกมา พร้อมทั้งทำแววตาโศกเศร้า ราวกับเด็กที่ไม่มี ใครต้องการ “ผมเองก็อยากกินเหมือนกันนะ คนรับใช้ตัว น้อย”
ให้ตายเถอะ!!

โจวโร่หลินก้มหน้าพูดกับเกาจิ่งอาน ทั้งๆ ที่มีลูกชิ้นอยู่ เต็มปาก “ฝันไปเถอะ!”

พอเธอพูดออกมา เศษเล็กเศษน้อยของลูกชิ้นในปาก ของเธอ ก็พุ่งเข้าใส่หน้าของเกาจิ่งอาน ใบหน้าที่หล่อ เหลาจนแทบจะกระชากวิญญาณนั้น ตอนนี้เต็มไปด้วย เศษลูกชิ้น ช่างดูสวยงามจริงๆ

“ฉิบ!”

เกาจิ่งอานรีบปิดตาลงราวกับถูกไฟช็อต พร้อมทั้งกัดฟัน เช็ดของที่อยู่บนหน้าตัวเองทิ้ง “โจวโร่หลินนี่คุณเป็นบ้า ไปแล้วใช่ไหม?”

โจวโร่หลินยักไหล่ ก่อนจะกินลูกชิ้นปลาเข้าไปอีกลูก “ใช่สิ ฉันเป็นบ้า เป็นทั้งโรคประสาท โรคเอดส์ โรคพิษ สุนัขบ้าเลยด้วย ตายแล้ว คุณต้องไปตรวจสุขภาพบ้าง นะเกาจิ่งอาน ฉันมีโรคติดต่อแบบนี้ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะ ติดเชื้อไปด้วยก็ได้นะคะ!”

เกาจิ่งอานมองดูใบหน้าน้อยๆ นั้นอย่างพึงพอใจ พลัน อารมณ์ที่คุกรุ่นในใจก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากอย่างอัศจรรย์ ก่อนที่จะมาที่นี่ เขามีเรื่องที่ถูกตามฆ่าคอยกวนใจมา ตลอด คิดไม่ถึงว่าคนปัญญาอ่อนอย่างโจวโร่หลินจะมีประโยชน์ตรงนี้ด้วย

“ผมก็มีโรคติดต่อเหมือนกันนะ คาดว่าคุณคงจะติดเชื้อ ไปแล้วล่ะ อยากรู้ไหมว่าคืออะไร?” เกาจิ่งอานแสยะยิ้ม อย่างอันธพาล

โจวโร่หลินก็พูดตัดบทเขา “ฉันไม่เป็นอะไรสักหน่อย!”

เกาจิ่งอานยื่นมือขนาดใหญ่ของเขา ออกมาคว้าแขน ของโจวโร่หลินไว้ทันที พร้อมกับดึงเธอให้เข้ามาหาตัว เอง พลันเต้าหู้ปลาที่เธอเพิ่งจะเสียบยกขึ้น ก็เข้าไปใน ปากของเขาทั้งหมด เขาไม่เคยกินของแบบนี้มาก่อนเลย ทำให้รู้สึกเหมือนว่าจะค่อนข้างชอบรสชาติเผ็ดๆ แบบนี้ แล้วสิ

“เห็นแก่ที่คุณชวนผมกินของพวกนี้ ผมจะบอกให้แล้ว กัน”

โจวโร่หลินตีแขนเขาด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “เกาจิ่งอาน! คุณมันหน้าไม่อาย!

เกาจิ้งอานอาศัยโอกาสที่เธอไม่ทันได้เตรียมตัว แย่งเอา โอเด้งจากในมือของเธอมา แล้วแกว่งไปมาในมือ “ผมก็ หน้าไม่อายแบบนี้ล่ะ แล้วยังไงล่ะ?”

โจวโร่หลินส่งเสียงหึ อ่อนต่อโลกจริงๆ!
เกาจิ่งอานผลักประตูรถเปิดออก “เข้ามาสิ ตอนเย็นยัง ต้องเปลี่ยนยาอยู่ อย่าทำให้คุณชายอย่างฉันเสียเวลา เลยน่า”

โธ่เอ๊ย!!

โจวโร่หลินอยากจะบีบคอเขาให้ตายจริงๆ! แต่หลงเซียว บอกเอาไว้แล้วว่า…

ช่างเธอ เธอจะอดทนไปแล้วกัน!

โจวโร่หลินนั่งลงห่างจากเขา เกาจิ่งอานกินไปมองเธอไป เกาจิ่งอานยิ้ม แต่เธอกลับโมโห

“ออกรถสิ รีบไปเปลี่ยนยา พอเปลี่ยนเสร็จฉันจะได้ กลับบ้านไปนอน…ฮัดเช้ย!” โจวโร่หลินอดกลั้นไว้ตั้งนาน ทำให้จามออกมาเสียงดังเป็นพิเศษ

เกาจิ่งอานขมวดคิ้ว “คุณเป็นหวัดหรือ?”

โจวโร่หลินแนบตัวติดประตูรถ เพื่อรักษาระยะห่างกับ เขา “คุณไม่ต้องมายุ่งหรอกค่ะ”

เกาจิ่งอานโน้มตัวไปหาเธออัตโนมัติ ก่อนจะเสียบปูอัด ขึ้น “ทำไมถึงไม่ให้ผมยุ่งล่ะ? ผมก็บอกไปแล้วนี่ ผมมีบางอย่างที่ทำให้คุณติดเชื้อไป คุณจำได้ไหม ว่าคืนนั้น พวกเราทำไปกี่ครั้ง?”

เกาจิ่งอานโยนปูอัดเข้าปากไป พร้อมทั้งเคี้ยวอย่าง สบายใจเฉิบ ปูอัดค่อยๆ หดตัวลงไปทีละน้อยในปากของ เขา เขากินได้คลุมเครือและน่าเกลียดจริงๆ

โจวโร่หลินกัดฟันส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา “เหอะ! คุณงั้นเหรอ? แค่ครึ่งครั้งก็ต้องยกย่องคุณแล้วล่ะนะ!

คุณมันบ้าอำนาจเกาจิ่งอาน! คุณมันบ้าอำนาจ!!!

เกาจิ่งอานเขยิบตัวเข้าไปหาเธออีก ทำให้ตัวของโจว โร่หลินแทบจะแนบติดประตูรถไปเลย เป็นเพราะเขากิน ปูอัดที่เพิ่มความเผ็ดเข้าไป ทำให้ตอนที่เขาพูดออกมามี กลิ่นความเผ็ดโชยเข้าจมูกของเธอ ทำให้ยิ่งรู้สึกคัดจมูก เป็นพิเศษ

“คนรับใช้ตัวน้อย คืนนั้นผมลำบากทั้งคืนเลยนะ แต่ใน ที่สุดผมก็เอาสายเลือดของผมให้คุณได้สำเร็จ ดีใจไหม ล่ะ?”

โจวโร่หลินหันหน้ากลับมาหาทันที ก่อนจะเบิกตาโพลง มองไปที่เกาจิ่งอานอย่างดุร้าย “นี่คุณพูดว่าอะไรนะ?!”

เกาจิ่งอานหยิบเอาเต้าหูปลาชิ้นสุดท้ายใส่ปาก ก่อนจะพูดกับโจวโร่หลินทั้งๆ ที่มีความร้อนอยู่ในปาก “ผม พูดไปชัดเจนแล้วนะ เป็นไปได้ว่าตอนนี้คุณมีลูกของผม แล้ว พลังของผมแข็งแกร่งมากนะ คืนนั้นพวกเราก็ไม่ได้ ป้องกันอะไรเลย ถึงแม้ว่าคุณจะกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไปก็คงไม่มีประโยชน์ โครโมโซมทั้ง X และ Y ต่างก็รวม อยู่ในร่างกายของคุณแล้ว เพื่อลูกแล้ว เอ้า กินสักหน่อย

“พูดไร้สาระ! ไปให้พ้น

โจวโร่หลินฉุนเฉียวเสียจนใช้มือทั้งสองผลักเกาจิ่งอาน ออกไป!

ต่อจากนั้นเธอก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา เพราะพอเธอผลักเขา ไปนั้น กล่องกระดาษในมือของเกาจิ่งอาน ที่มีน้ำร้อนอยู่ ครึ่งกล่อง ก็หกรดเต็มชุดสูทอาร์มานี่สุดแสนแพงของเขา จนเปียกโชกไปทั้งชุดทีเดียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ