ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 200 กลิ่นแปลกๆ ในอากาศ เรียกว่า ความฟุ้ง



ตอนที่ 200 กลิ่นแปลกๆในอากาศ เรียกว่าความหึง

หลงเชียวขมวดคิ้ว คิดไปถึงเรื่องแปลกๆตั้งแต่วัน แรกที่เขาพบกับแอนน่า เสียงสองเสียงก็ดังขึ้นตีกัน ไปมาในหัว ความเป็นเหตุเป็นผลบอกกับเขาว่า ผู้ หญิงที่แสนเย็นชาไม่มีความเมตตาอ่อนโยนสักนิด คนนี้ไม่มีทางเป็นภรรยาของเขาได้

แต่ความรู้สึกกลับตะโกนบอกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ ว่าหน้าตาจะเปลี่ยนไป นิสัยจะไม่เหมือนเดิม แต่ลึกๆ แล้วเธอคนนี้ก็คือลั่วลั่วที่เขารักจนสุดหัวใจ

ชั่วขณะนึง คุณชายเขียวก็แยกไม่ออกเหมือนกัน

จี้ยงหมิงมีความเคลื่อนไหวขึ้นมาอีก เขาใช้ความ คิดอยู่ครู่แล้วพูดขึ้น “แต่ก็ไม่น่าใช่อีก ในข้อมูล บอกว่าเฉียวหย่วนฟานกับได้มิ้นภรรยาของเขามี ลูกสาวด้วยกันจริง นั่นก็คือแอนน่า ในข้อมูลเขียนไว้ ชัดเจน..”

หลงเซียวรู้ดีว่ามือของลั่วลั่วได้รับอุบัติเหตุ เธอไม่สามารถจับมีดผ่าตัดได้อีก

โลกนี้กำลังปรับองศาให้ทุกอย่างกลับมาสู่ตำแหน่ง ของมันอีกครั้ง

เรื่องนี้มันชักน่าปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ

หลงเซียวส่งเสียงอึม “ไม่ใช่เธอจะใช่หรือไม่ ข้อมูล ทุกอย่างเกี่ยวกับตระกูลเฉียวก็ต้องสืบออกมาให้ได้ ฉันต้องการรู้ความจริงให้เร็วที่สุด”

จี้ยงหมิงพยักหน้า “ครับ! เจ้านายโปรดวางใจ ผม จะคอยจับตาดูทางนั้น คุณชายกู้ก็อยู่ที่อเมริกา เรา สามารถสืบข้อมูลมาได้ไม่ยาก

“ดี ออกไปได้แล้ว”

ตงหมิงออกไป หลงเซียวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ร่างสูง เดินไปที่ระเบียง วิวตึกสูงใหญ่ไม่ต่างอะไรกับภูเขา ความคิดของชายหนุ่มล่องลอย ความทรงจำในอดีต ปรากฏขึ้น

ยังมีวิธีไหนสามารถพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของเธอ ได้อีกไหมนะ?เขาเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองรู้อะไรเกี่ยวบลิว วอยเหลือเกิน

ไป ยังมีอีกวิธีนึง รอยฟันที่หน้าอก

เช้ารุ่งขึ้น ณ วิลล่าหรูหราส่วนตัว

เพราะความเคลือบแคลงสงสัยในสถานะของแอน น่า ตอนนี้ทุกครั้งที่หลงเชียวมองเธอสายตาก็มักจะ เผลอจับผิดโดยไม่รู้ตัว เขาอยากจะเอามีดผ่าเนื้อ หนังมังสาของเธอออก แล้วดูว่าข้างในนั้นเป็นใครกัน แน่!

แอนน่าอุ้มช่อดอกไม้เดินกลับเข้ามาในห้องรับแขก บังเอิญสบสายตาของหลงเซียวเข้าพอดี “เฉือนคน ผ่านสายตาตั้งแต่เช้าเลยนะ จะทําฉันตกใจตายหรือ ไง?”

หลงเซียวเหล่ดอกไม้ในอ้อมกอดของเธอ “ฉันเคย บอกแล้วใช่ไหม อย่าเอาของที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า เข้าบ้าน โยนออกไปเดี๋ยวนี้”

แอนน่ากลับ ดอกไม้เข้าไปตรงหน้าเขาอย่างได้ใจ “มันไม่ใช่ของไม่รู้หัวนอนปลายเท้านะ แค่ตอนนี้ฉัน ยังสืบไม่ได้ก็เท่านั้น รอฉันแน่ใจแล้วจะบอกคุณ”

หลงเขียวรู้สึกว่าดอกไม้สีแดง มันบาดตาหนักกว่า เดิม นิ้วเรียวยกขึ้นนวดหัวคิ้ว เข้านี้ไม่มีอารมณ์อ่าน หนังสือพิมพ์ “ถ้าเธอชอบดอกกุหลาบ ฉันจะสั่งมาให้ ทุกวัน แต่กับดอกไม้ที่ไม่รู้ว่าแฝงอันตรายอะไรมา ด้วยหรือเปล่าแบบนี้ โยนมันทิ้งไปซะ”

กุหลาบเขาไม่ชี้วมอบให้กันหรอกนะคะ นอกซะ จากว่าให้เพราะรัก” ริมฝีปากเธอยกยิ้มสูง ตั้งใจ ท้าทายความอดทนของชายหนุ่ม

หลงเซียวไม่ใช่คนที่มีความอดทนนัก “ความรักรา คาถูกๆแบบนั้น จะไปรับให้เสียมือทำไม

“ยุ่งอะไรล่ะ”

หลงเซียวแค่นเสียงในลำคอ “ฉันจำได้ว่าเธอมีคู่ หมั้นนี่ ลับหลังคู่หมั้นตัวเองมาแอบรับดอกกุหลาบ จากคนอื่น ช่างเป็นคู่หมั้นที่ดีซะจริงเลยนะ

“ใช่สิ ฉันมันเป็นคู่หมั้นที่แย่ ว่าแต่คุณหลงเถอะ ลับ หลังคู่หมั้นตัวเองมาอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับผู้หญิง คนอื่น คุณก็เป็นคู่หมั้นที่ไม่เลวเหมือนกันนี่!

ข็งก็ราข่าก็แรง ไม่มีใครยอมใคร

ยิ่งไปกว่านั้น ลึกๆแอนน่ารู้สึกว่าดอกไม้นี่มีลับลม คมในแปลกๆ

เป็นใครส่งมากันนะ อีกไม่นานเธอก็จะรู้แล้ว

ตามคาด ยังไม่ทันจะกินข้าวเช้าเสร็จ โทรศัพท์ ดังขึ้น

แต่เธอแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นว่าเป็นเควินโทรมา

แอนน่าวางล้อมลง แล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้น “เควิน”

ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะ อาหารก็เคี้ยวอาหารแรงขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ สลัด ผักในปากถูกขบเคี้ยวราวกับเป็นสเต็กเนื้อในระดับ ความสุกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นก็ไม่ปาน เสียงฟันกระทบ นเสียงดังชัดเจน

เควินนั่งอยู่ในห้องรับแขกในวิลล่าส่วนตัวที่อเมริกา ในมือถือแก้วไวน์ ช่วงนี้เขานอนไม่ค่อยหลับ ถ้าไม่ ดื่มอะไรหน่อยคงนอนไม่สนิท เสียงของแอนน่าที่อยู่ ห่างไกลจากเขาหลายร้อยไมล์ลอยเข้าหู ความหมองคล้ำบนใบหน้าก็พลันหายไป “แอน น่า เธอแสบจริงๆ”

อ้อ?

หมายความว่าไง?”

แอนน่า อนสายตาขึ้นมองหลงเชียวที่ยังคง เอร็ดอร่อยกับอาหารเช้า แล้วเบ้ปากใส

เธอเดาได้ใช่ไหมล่ะว่าฉันเป็นคนส่งดอกกุหลาบ ให้? ยังไปกดดันพนักงานอีกนะ เธอเนี่ยน้า คงเป็น วิธีเดียวที่เธอนึกออกแล้วสินะ”

พูดๆอยู่เควินก็หัวเราะ ความทรมานเพราะคิดถึง คนรักในหลายวันนี้หายวับไปทันทีที่ได้ยินเสียงเธอ ราวกับดอกไม้บนโลกนี้อยู่ๆก็พร้อมใจกันบานสะพรั่ง

แอนน่าขมวดคิ้ว เธอไม่คิดว่าจะเป็นเควิน หรืออาจ จะคิดแต่ไม่กล้าฟันธง แต่ลึกๆแล้วเธอไม่หวังให้เป็น เขา

แต่กระนั้นเธอก็ไม่อยากประวิงเวลา จึงบอกกับเด็กส่งดอกไม้ว่าช่วงนี้เธอมีอาการแพ้ดอกกุหลาบ คงรับต่อไปไม่ได้อีก ถึงทำให้เขายอมเปิดเผยตัว ออกมา

ปฏิกิริยาแรกของแอนน่าไม่ใช่ความดีใจ แต่เป็น ความสงสัย “คุณแอบตามสืบฉันหรอ? ไม่งั้นจะรู้ได้ ไงว่าฉันอยู่ที่ไหน”

ถ้าเป็นแบบนั้น เกรงว่าเควินคงไม่รู้แค่ที่อยู่ของเธอ แต่อาจจะรู้ไปถึงว่าเธอพักอาศัยอยู่กับใครแล้วละ มั้ง?

พอคิดแบบนี้ ขนหัวก็ลุกชัน ถ้าคู่หมั้นของเธอรู้ว่า ตัวเองกำลังอาศัยอยู่กับชายแปลกหน้าด้วยกันสอง ต่อสอง เธอก็เตาได้ถึงจุดจบ

เควินเติบโตมาในตระกูลผู้ดี เขาคงรับไม่ได้และ อาจจะโกรธจนอยากจะถล่มโลกนี้ แต่นี่กลับไม่ได้ โทรมาเค้นอะไรเธอ แถมยังพูดคุยราวกับไม่รู้เรื่องรู้ ราวซะอย่างนั้น

จริงหรือเปล่าเนี่ย?

“ฉันเชื่อใจในตัวคู่หมั้นของฉัน แล้วก็หวังว่าเธอจะเชื่อใจในตัวฉัน เรื่องที่อยู่ของเธอฉันไม่ได้สืบ แต่ ได้จากครั้งก่อนที่เธอพูดกับคนขับรถแท็กซี่ ถ้าพูด แบบนี้เธอจะเชื่อไหม?

เอ่อ…

แอนน่ารู้สึกตัวว่าเธอหวาดระแวงจนเกินไป

“ขอโทษ ฉันไม่ควรสงสัยในตัวคุณ ดอกไม้สวย มากค่ะ หอมสดชื่นทุกวันเลย ขอบคุณมาก” แอนน่า มองกุหลาบในแจกัน พูดไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง

“เธอชอบก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ไม่ต้องทำเด็กส่งของ ลําบากใจแล้วนะ เอนจอยกับความโรแมนติกที่ฉัน มอบให้ก็พอ”

“ส่งมาทุกวันแบบนี้ มันจะไม่เวอร์ไปหน่อยหรอ? ฉันรู้ว่าคุณดีกับฉันมาก แต่ไม่จำเป็นต้องลำบาก ขนาดนี้ก็ได้

เควินละเมียดไวน์ในปาก “แอนน่า เธอจะเป็น ภรรยาของฉันในอีกไม่ช้า ทุกอย่างที่ฉันทำให้เธอ เป็นสิ่งที่สมควร”
หลังจากวางสายแอนนาก็รีบล้างมลทินให้กับ ดอกไม้ “คุณหลง ขอโทษทีนะคะ แต่ดอกไม้พวกนี้ เป็นคู่หมั้นของฉันส่งมา ต่อจากนี้ไปฉันคงต้องรับมัน ทุกวัน ถ้าคุณไม่ชอบเห็นมันก็เชิญทำเป็นไม่เห็นไป เถอะ แต่กรุณาอย่าพูดปูนพูด อีก”

หลงเขียวคนเจ้าอารมณ์

“ข้อเสนอของฉันยังคงอยู่เหมือนเดิม เธอควร ไตร่ตรองให้ดี แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักวันนึงก็ไม่ พ้นต้องหย่าร้าง ไม่สู้เลือกฉัน เธอจะได้มีจุดยืนเป็น ของตัวเอง แถมยังให้ความมั่นคงกับตระกูลเฉียว ได้”

เธอลังเล

หากขาดความรัก งานแต่งก็คงมีค่าแค่ผล ประโยชน์ แต่ถึงแม้จะแต่งเพราะความรัก ใครจะรับ ประกันว่าสุดท้ายจะไม่ลงเอยที่การหย่าร้าง?

“ขอโทษที แต่ฉันไม่ชอบเป็นตัวแทนของใคร”

“เธอไม่ใช่ตัวแทน”
“งั้นฉันเป็นอะไรล่ะ? คุณนายแห่งตระกูลหลง? ภรรยาของท่านซีอีโอ? ฉายาพวกนี้ดูท่าคู่หมั้นคุณ จะชอบ แต่ฉันไม่สนใจ ในเมื่อไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็ล้วนแต่ไม่ใช่เพราะรัก ทำไมฉันต้องเลือกคุณ?

คู่หมั้นเธอยังขยันส่งดอกไม้มาให้ทุกวี่วัน แต่เขา นอกจากทําหน้าเป็นตูดแล้วทําอะไรเป็น

“ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าฉันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของ

เธอ”

โรงพยาบาลหวาเซีย

“แอนน่า! แอนน่า! พ่อฉัน… จู่ๆพ่อฉันก็เลือดไหล ออกจากสมอง ตอนนี้ไม่มีหมอคนไหนว่างเลย ทำไง

ทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล แอนน่าก็ถูกลู่วงช่วง รั้งแขนไว้ ลู่ซวงซวงมีเหงื่อท่วมใบหน้าเพราะความ ร้อนรน ดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำตาคลอ เธอจับแขน แอนน่าราวกับเธอเป็นที่พึ่งสุดท้าย

“เลือดออกในสมองต้องรีบผ่าตัดด่วน พ่อเธออยู่ไหน?”

“ตอนนี้หมอทุกคน ดผ่าตัด ไม่ถึง พ่อฉันสักที แถมเมื่อกี้หมอยังบอกว่าไม่มีเตียงแล้ว ฮือๆๆ ทำยัง ไงดี? ทํายังไงดี?”

แอนน่าลูบปาเธอ ไม่ต้องร้อง ฉันจะรีบติดต่อหมอ กับเตียงคนไข้ให้เดี๋ยวนี้ อาการฟอเธอตอนนี้รอ ไม่ได้อีกแล้ว เธอกลับไปอยู่กับพ่อก่อน ตรงนี้ฉัน จัดการเอง”

ลู่ขวงซวงลนจนทำอะไรไม่ถูก สติกระเจิดกระเจิง “ได้! งั้นฉันไปก่อน ช่วยเราด้วยนะ! ช่วยเราด้วย!”

ผ่านไปสิบนาที แอนน่าได้รับอนุมัติจากเบื้องบนให้ สับเปลี่ยนวันหยุดหมอ และเรียกทุกคนกลับเข้าเวร จากนั้นรวมทีมผ่าตัดขึ้นมาใหม่ ก่อนจะนำร่างพ่อ องล่วงซวงเข้าห้องผ่าตัดอย่างราบรื่น

ลู่วงซวงกุมมือแอนนาแน่นด้วยความตื้นตันใจจน พูดไม่ออก เธอโค้งตัวแสดงความขอบคุณ ใบหน้า ขาวซีดท่วมไปด้วยเหงื่อเพราะความตกใจ

การผัดตัดใช้เวลานาน ระหว่างนั้นแม่ของลู่ซวงชวงก็มาถึง ญาติพี่น้องในตระกูลสู่ต่างพากันเข้ามา นคอที่หน้าห้องผ่าตัด

“โชคดีที่คนไข้ทําการผ่าตัดได้ทันเวลา

สถานการณ์จึงไม่เลวร้ายนัก โอกาสผ่าตัดสําเร็จ สูงมาก พวกคุณวางใจได้

คนแปลู่ห้าหกคนขอบคุณแอนนายกใหญ่ แอน น่าทำตัวไม่ถูกจึงเพียงตอบกลับว่าทำตามหน้าที่ก็ เท่านั้น

คุณนายลู่น้ำตาหยดติ้งๆ ขวงซวง หมอแอนน่า ช่วยครอบครัวเราไว้มากขนาดนี้ ยังไม่รีบไปหาน้ำ หาท่ามาให้เธออีก? ผ่าตัดมาก็ชั่วโมงกว่าๆได้แล้ว

“อ้ะ งั้นหนูไปซื้อมาให้เธอก่อน ถ้ามีอะไรแม่รีบโทร

หาหนูเลยนะ”

ลู่ซวง วงคล้องแขนแอนน่าแกมบังคับพาเธอไปยัง ร้านกาแฟในโรงพยาบาล จากนั้นก็จัดแจงกตเธอให้ นั่งลงบนเก้าอี้ “แอนน่า วันนี้ฉันจะต้องขอบคุณเธอ ให้ได้เลย ห้ามปฏิเสธนะ”

“นี่มันเป็นหน้าที่ของหมอ เธอไม่ต้องเกรงใจขนาด
สู่ขวงช่วงตัดเค้กออกมาคำนึงแล้วยื่นเข้าปากเธอ “อร่อยจริงๆนะ ฉันไม่โกหกแน่นอน”

แอนน่าหดตัวหลบไปข้างหลังเล็กน้อย ไม่กล้ากิน

ตอนที่เธอนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ต้อง ได้รับเกลือแร่กับกลูโคสผ่านสายน้ำเกลือเพื่อให้มี ชีวิตต่อในแต่ละวัน ผ่านไปนานวันเข้า จนเธอรู้สึก สะอิดสะเอียนกับของหวานสุดๆ เธอเกลียดจนถึงขั้น แค่เห็นก็อยากจะอ้วกแล้ว แต่นี่จะให้เธอกินเนี่ยนะ?

กลัวว่ากินเข้าไปแล้วจะอ้วกออกมานะสิ

“ฉันไม่ชอบกินอันนี้เธอกินเองเถอะ” แอนน่าเหนื่อย หน่ายกับความคะยั้นคะยอของลู่วงซวง

ลู่วงซวงจ้อง “อย่าเสียมารยาทสิ ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าในโลกนี้จะมีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบกินของหวาน แค่คําเดียวเป็นไง?

แอนน่าหน้านิ่วคิ้วขมวด “ฉัน…

“พูดมากจริง! อ้าปาก!”
อาจจะเป็นเพราะเธอสังเด็ดขาด จนแอนน่า ล อ้าปากตามจริงๆ รสชาติหวานสด และลายเข้ามา ในปาก กลิ่นหอมหวานของมะม่วงละมุนอยู่ในขั้น ฮอร์โมนโดพามีนหลังไปทั่วร่างกาย

นอกจากร่างกายจะไม่ปฏิเสธ แถมยังรู้สึกดีและ เพลิดเพลินไปกับรสชาติของขนมพวกนี้

เป็นไปไม่ได้

“เป็นไงเป็นไง? อร่อยใช่ไหมล่ะ?” ดวงตากลมโต ของลู่ซวง วงรอคอยคําตอบของเธอ

“รสชาติไม่เลว ไอศครีมมัทฉะนี่ ฉันขอชิมอีกนิด”

“ได้เลยๆ! เธอจะต้องชอบแน่!”

แอนน่าตกเข้าปากไปนิดหน่อย ความรู้สึกแรก คือเย็นเจี๊ยบ ถัดมาคือรสหวาน ลิ้มรสไปได้สักพัก สัมผัสได้ถึงความหอม

นี่เธอชอบรสหวานที่ตัวเองต่อต้านมาตลอดสองปี!
อร่อยจริงๆ ขอบคุณที่ให้กิน

สู่ขวงบวงกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “เย! ฉัน ว่าแล้วว่าเธอต้องชอบ! รู้อะไรไหม? เมื่อกี้หน้าเธอ ตอนที่กินของหวานโคตรจะเหมือนลั่วลั่วเลย! ถ้าไม่ นับเรื่องหน้าตา เธอคือลั่วลิ่วชัดๆเลย! รู้หรือเปล่า

เธอ…ไม่รู้ว่าตัวเองรู้ หรือว่าไม่รู้กันแน่

เกาหยิ่งจือและซุนเจียสี่หันไปมองแอนน่า ทั้งคู่ ประสานสายตากัน คำพูดเมื่อครู่ของลู่ซวงซวงดึง ความสนใจของเกาหยิ่งจื้อได้ดีสุดๆ

ซุนเจียลี่พูดเสียงต่ำ “หรือว่าแม่แอนน่าคนนี้ เกี่ยวข้องอะไรกับฉู่ลั่วหานจริง?”

เกาหยิ่งจือกําแก้วกระดาษในมือแน่น จนรูปทรง แก้วเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว “ดูท่าทางต้องพิสูจน์กันสัก หน่อย”

พิสูจน์ยังไง?”

ม็อบีบแก้วกาแฟอย่างแรง จนน้ำด้านในกระฉอกออกมาเลอะนิ้วมือ เกาห ง อสะบัด า ง ก่อนจะ ยิ้มตาหยี ” ลั่วหานกรุ๊ปเลือด ลบ หมู่เลือด หาก ยากแบบนี้ ไม่ใช่ใครจะมีก็ได้ ต้องหาทางเอาเลือด ของเธอมา แค่นี้ก็เป็นอันรู้เรื่อง!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ