ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 542 ฉันเป็นคนรวย ส่วนคุณเป็นเต่าท้องถิ่น



ตอนที่ 542 ฉันเป็นคนรวย ส่วนคุณเป็นเต่าท้องถิ่น

ตอนที่ 542 ฉันเป็นคนรวย ส่วนคุณเป็นเต่าท้องถิ่น

” โจวโร่หลินอ้าปากค้าง เอียงหัวครึ่งแล้วจ้องไปที่ เขาโดยยิ้มแห้งๆ

เกาจิ่งอานยืดตัวที่สูงใหญ่ของเขาให้ตรง เขานั่งอยู่ตรง ที่นั่งข้างคนขับ แต่แสดงความเป็นเจ้านายออกมา” หู หนวกเหรอ? ฉันบอกว่าฉันหิว และฉันจะกินข้าว”

เชีย!

โจวโร่หลินหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา “คุณนายเกาคะ ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้า คุณกินข้าว อะไรเวลานี้?”

เกาจิ่งอานบิดคอของเขาไปมา โดยไม่สนใจท่าทางของ มือของเธอ “องค์ประกอบแรกของการกินข้าวคือความหิว มันไม่เกี่ยวกับเวลาเลย พูดสั้น ๆก็คือ ตอนนี้ฉันจะไปกิน ข้าว”

โจวโร่หลินกัดริมฝีปากบนของเธอด้วยฟันล่างอย่าง แรง และริมฝีปากสีชมพูของเธอก็ขาวซีดขึ้นมา จากการ กัดของเธอ เธอพยายามควบคุมความโกรธไว้ เธอวาง โทรศัพท์มือถือลง และตบไปที่พวงมาลัย “คุณเกาคะตอนที่ 542 ฉันเป็นคนรวย ส่วนคุณเป็นเต่าท้อง ถิ่น

ตอนที่ 542 ฉันเป็นคนรวย ส่วนคุณเป็นเต่าท้องถิ่น ” โจวโร่หลินอ้าปากค้าง เอียงหัวครึ่งแล้วจ้องไปที่ เขาโดยยิ้มแห้งๆ

เกาจิ่งอานยืดตัวที่สูงใหญ่ของเขาให้ตรง เขานั่งอยู่ตรง ที่นั่งข้างคนขับ แต่แสดงความเป็นเจ้านายออกมา” หู หนวกเหรอ? ฉันบอกว่าฉันหิว และฉันจะกินข้าว”

เชีย!

โจวโร่หลินหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา “คุณนายเกาคะ ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้า คุณกินข้าว อะไรเวลานี้?”

เกาจิ่งอานบิดคอของเขาไปมา โดยไม่สนใจท่าทางของ มือของเธอ “องค์ประกอบแรกของการกินข้าวคือความหิว มันไม่เกี่ยวกับเวลาเลย พูดสั้น ๆก็คือ ตอนนี้ฉันจะไปกิน ข้าว”

โจวโร่หลินกัดริมฝีปากบนของเธอด้วยฟันล่างอย่าง แรง และริมฝีปากสีชมพูของเธอก็ขาวซีดขึ้นมา จากการ กัดของเธอ เธอพยายามควบคุมความโกรธไว้ เธอวาง โทรศัพท์มือถือลง และตบไปที่พวงมาลัย “คุณเกาคะคุณจงใจใช่ไหม? ตอนเช้ากินข้าวไปแล้ว!”

“ตอนเช้านี้นับว่ากินข้าวด้วยเหรอ? สิ่งที่เธอทําคือข้าวเห รอ? เธออธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิ ว่าแซนวิชคือข้าวแบบ ไหน?” เกาจิ่งอานสบตากับดวงตาที่โกรธเกรี้ยวของเธอ อย่างนิ่งๆ และทั้งสองสบตากันอย่างร้อนๆหนาวๆ ระเบิด แบบยุ้งป่างๆ

โจวโร่หลินบีบกำปั้นเล็ก ๆ ของเธอ และม้วนนิ้วทั้งห้า ของเธอไว้แน่นๆ “เหอะๆ เหอะๆ! ทำไมจะไม่นับ ฉันอิ่ม มาก และฉันคิดว่าฝีมือการทำอาหารของฉันดีมาก!”

เกาจิ่งอานยิ้มแห้งๆ “เธอกินไปสองอัน ผมกินไปแค่หนึ่ง อัน เธอเป็นผู้หญิง แต่ผมเป็นผู้ชายนะบ้าเอ๊ย แน่นอนสิว่า เธอไม่หิว!”

โจวโร่หลินสาบานในใจว่า เธอจะไม่มีทางมีความ สัมพันธ์ใดๆกับเกาจิ่งอานอีก จากวันนี้ไปอย่าได้พบกัน อีก!

“ได้ จะกินข้าวใช่ไหม กินสิ กินดีๆเลย” โจวโร่หลิน สตาร์ทBenz แล้วหมุนพวงมาลัย ขับรถออกจากที่จอดรถ ไป

เกาจิ่งอานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แม้ว่าสาวใช้ตัว น้อยนี้จะโกรธง่าย แต่ฝีมือการทำอาหารของเธอไม่เลว
“ฉันเป็นคนรวยท้องถิ่น ส่วนคุณเป็นเต่าท้องถิ่น”

ณ ตึก MBK ชั้นบนสุด ห้องทำงานท่านประธาน

พิธีเซ็นสัญญาสิ้นสุดลง เส็นคั่วและคนอื่น ๆ ได้รับเชิญ ให้ไปที่ห้องทํางานของ หลงเงในฐานะแขก ให้ห้องท่า งานใหญ่ๆนั้น มีคนอยู่ทั้งหมดเก้าคน

ห้องรับแขกให้ห้องทำงานนั้น มีหลงถิง หลงเซียว หลงยี่ นั่งบนโซฟาแถวยาว ส่วนเสิ่นคั่วจ้าวฟางฟางนั่งอยู่ทางนี้ ผู้ช่วยสองคนของเสิ่นคั่วยืนอยู่ข้างๆ

จี้ตงหมิง เหลียงจ้งซุนยืนอยู่ข้างหลัง

หลงถึงเหลียงจ้งซุนหยิบแก้วชามาและรินชาลงแก้ว ชา หลงจิ่งรินลงในแก้วชา กลิ่นหอมจางๆลอยมา ชุดน้ำชา โบราณและน้ำชาที่ร้อนๆ เมื่อมองแวบแรกบรรยากาศ ของห้องรับแขกดีเงียบสงบและสวยงามมาก

หลงถึงหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมา นิ้วอ้วนๆของเขากำแก้วน้ำ ชาเคลือบสีขาวสมัยราชวงศ์ชิงที่เลอค่าไว้ มุมตาของเขา มองไปที่เสิ่นคั่วและเขาหันไปทางทวนเข็มนาฬิกาแล้ว เห็นหลงเซียว จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน และแสดง พฤติกรรมของเจ้าภาพออกมา “คุณเสิ่นและ MBK ได้ร่วมงานใหญ่ๆเป็นครั้งแรก อีกทั้งครั้งนี้คุณ เสิ่นได้แสดงให้เห็นถึงความเต็มใจที่จะร่วมมืออย่างเต็มที่ ผมชื่นชมทัศนคติของคุณมาก”

เสิ่นคั่วถือไม้เท้าไว้ในมือข้างหนึ่ง แล้วยกแก้วน้ำชาด้วย มือขวาของเขา และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหลงเชื่อใจ บริษัทเสิ่นซื่อ ซึ่งเป็นเกียรติของผมอย่างยิ่งครับ ฉันเชื่อ ว่าการร่วมมือในครั้งนี้เราจะชนะไปทั้งคู่ครับ …

เขาชะลอความเร็วในการพูด มองไปทางหลงเชียวและ พูดอย่างไม่จงใจว่า “อันที่จริงเมื่อพูดถึงเรื่องการร่วมงาน กัน MBK และ บริษัทเสิ่นซื่อก็ไม่ถือว่าเป็นครั้งแรก เพียง แค่ความร่วมมือระหว่างลูกชายของผมคุณในครั้งที่แล้ว จะดูไม่ค่อยราบรื่นซะเท่าไหร่ ลูกชายของผมคงไม่เข้าใจ กฎของเมืองหลวง จึงทำให้คุณท่านไม่สบอารมณ์ ฮ่าๆ”

หลงเซียวขยับมุมปากของเขาอย่างนิ่งๆ รอยยิ้มจาง ๆที่ ยังไม่ทันปรากฏก็ได้จางหายไปก่อน เขานั่งไขว่ห้างอย่าง เกียจคร้าน” ท่านปู่เสิ่นครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คุณพูด การร่วมงานของผมกับคุณเสิ่นผมสละผลประโยชน์ไป 10% เพราะคอยช่วยดูแลงานของน้องเขยอย่างเงียบๆ ไม่มีใครกล่าวหาว่าผมช่วยครอบครัวแล้วเพิกเฉยต่อผล ประโยชน์ทางธุรกิจ แต่ทำไมพอคุณเป็นคนพูด มันถึงดู แย่ลงล่ะครับ?”

น้องเขย?
ใบหน้าของ เสิ่นคั่วเปลี่ยนเป็นสีดำ จ้าวฟางฟางที่อยู่ ข้างๆก็ไม่รู้ควรทำไงดี เธอคอยดูอย่างระมัดระวัง ไม่กล้า พูดอะไรมั่วๆ

“ฮ่าฮ่าฮ่า มันเป็นเช่นนี้นี่เอง ผมเข้าใจผิดไปเอง แก้ว นี้ผมขอดื่มให้คุณ ลูกชายไม่รู้เรื่องอะไรแล้วก่อปัญหา ให้กับคุณ ในเมื่อคุณเป็นพี่เขย ก็ขอให้ใจกว้างๆกับเขา หน่อยนะครับ”

เจิ่นคั่วยกแก้วชาไปตรงหน้าหลงเซียว และทำท่าทีจะ

ตาของหลงเซียวก้มลงมองแก้วบนโต๊ะเล็กน้อย หากเขา ดื่มชาแก้วนี้ นั่นหมายความว่าเขายินดีที่จะยอมรับการ ขอโทษ และยอมไว้ชีวิตเสิ่นเหลียว และหากเขาไม่ดื่ม …

หลงถึงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “หลงเซียว ในเมื่อเป็น ครอบครัวเดียวกัน เรื่องอะไรก็จัดการกันที่บ้านเลย ทำไม ต้องเล่นซะจนคนอื่นเขารู้กันหมด เรื่องแย่ๆของครอบครัว ไม่ควรเอาไปให้คนนอกได้รับรู้”

หลงยี่ยิ้มและช่วยเขาพูด “หลงเซียว ยังไงก็ตาม ประธานเสิ่นถือว่าเป็นรุ่นพี่ของคุณ คุณควรดื่มชาแก้วนี้ นะ ยังไงก็ต้องไว้หน้าเขาบ้าง”
ถ้าเขาไม่ดื่ม เกรงว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูก ปิดล้อมสามด้านในเกมนี้ และดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาตกลงกันแล้วในเมื่อคืน

มือที่เรียวยาวของหลงเซียวหยิบน้ำชาแก้วนั้นขึ้นมา เขา จับๆ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “ชาเย็นไปแล้วครับ”

ทุกคน ……….

พวกเขาไม่คาดคิดว่าเขาจะเปลี่ยนประเด็น

หลงยี่รีบเอื้อมมือไปแตะมัน แต่หลงเซียวหลีกทัน ก็เลย ถือกาน้ำชาขึ้นอย่างอายๆ “ฉันจะรินให้คุณอีกแก้ว”

หลงเซียวกล่าวเบา ๆ ว่า “แม้ว่าชาจะเย็น แต่ความร่วม

มือกับคุณเสิ่นจะไม่ลดลงอย่างแน่นอน”

เขาพูดอย่างลึกลับ แววตาที่ไม่สามารถเดาความคิดได้

เสิ่นคั่วหัวเราะ และส่งแก้วน้ำชาของเขาไปใกล้ ๆ เขา มากขึ้น เมื่อสักครู่นี้เขาตกใจหลงเซียวมาก ถ้าเขาอยาก หาเรื่องจริงๆล่ะก็ กว่าเขาจะช่วยลูกชายออกมาได้ก็คง ต้องอีกยาวนาน
หลงเซียวจิบชาช้าๆ”โครงการของคุณเสิ่นมีการ มองที่ไกลมาก ฉันหวังว่าคุณจะสามารถรักษาความ กระตือรือร้นของคุณในวันนี้ไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าเราจะยัง คงให้การสนับสนุนคุณเช่นเคย อย่างไรก็ตาม การร่วม งานกันเราต้องพัฒนาร่วมกันทั้งสองฝ่าย คุณเสินห้าม สําเอียงนะครับ ”

*แน่นอนครับ แน่นอน!”

หลงถึงเหล่มองหลงเซียว เขาเองก็ลุ้นอยู่นาน เขากังวล เล็กน้อยว่าหลงเซียวจะฉีกหน้าเขาอย่างไม่สนใจผลที่ ตามมา

พวกเขายกแก้วขึ้นแล้วดื่มร่วมกัน หลังจากดื่มไปหนึ่ง แก้ว หลงถึงกล่าวว่า “ประธานเสิ่นครับ โครงการนี้ผมจะ ให้หลงยี่รับผิดชอบ ปัญหาใหญ่ๆต่างๆนอกจากหลงเซียว แล้ว เขาก็สามารถตัดสินใจได้ ”

หลงยี่ยืนขึ้นและจับมือกับเสิ่นคั่ว “คุณเสิ่นเป็นผู้อาวุโส ในวงการธุรกิจ ผมฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

“ฮิฮิ ไม่ได้ถึงขั้นฝากเนื้อฝากตัวหรอกครับ คุณหลง ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ผมชื่นชมมากครับ” เสิ่นคั่วพูดพร้อมยิ้ม

จ้าวฟางฟางอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองหลงยี่ เขาดูอายุประมาณสามสิบห้าปี และหน้าตาของเขาก็ไม่ได้ดูโดด เด่น แต่มีความมั่นใจของเหล่าตระกูลผู้ดี เรื่องหน้าตาก็ดี กว่าชายแก่สองคนของตระกูลเสิ่นไปเยอะมาก

อีกอย่าง เขามีสิทธิ์เช่นเดียวกับหลงเซียว หากต่อไปเธอ ต้องการทำธุรกิจในเมืองหลวง ความสัมพันธ์นี้เธอต้อง คว้าไว้

จ้าวฟางฟางหยิบแก้วน้ำขึ้นมา ขณะที่เธอดื่ม ดวงตา ของเธอก็ส่องประกายไปที่เขา

หลงยี่เงยหน้าขึ้นพอดี และเห็นเสน่ห์นั้นพอดี

หลงเซียววางแก้วชาลง และพูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆว่า “คุณ เสิ่นวางใจในตัวลูกพี่ลูกน้องของผมได้เลยครับ ตอน อยู่ MBK เขาทำงานเก่งมากครับ และปัจจุบันเขาเป็นผู้ จัดการการเงินของบริษัทเรา

เขาพูดคำว่า “ผู้จัดการการเงิน” อย่างแผ่วเบา ซึ่งสัมผัส กับปลายประสาทของเสิ่นคั่วได้อย่างง่ายดาย แผนกการ เงิน … นี่คือตำแหน่งสำคัญนะเนี่ย!

แน่นอนว่าสีหน้าของเสิ่นคั่วดูสุภาพมากขึ้น “ฉันเลือก ไม่ผิดคนจริงๆ ตอนอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงก็รู้แล้วว่านายมี อนาคตก้าวไกลแน่นอน !”
หลงเซียวกระตุกริมฝีปาก รอยยิ้มของเขาหายไปทันที

จี้ตงหมิงกลั้นหัวเราะไว้ เขารู้ว่าเจ้านายของเขาคิด อย่างไร เกมนี้จะน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิมน่ะสิ!

หลังจากดื่มซาจนหมด หลงเซียวก็ลุกขึ้นและติดกระดุม เสื้อสูทของเขา” พ่อครับ คุณเสิ่น พวกคุณตามสบายนะ ครับ ผมขอตัวก่อน

พวกเขามองแผ่นหลังของหลงเซียวขณะที่เขาเดินจาก ไป ทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง เสิ่นคั่วก็พูดอย่างไม่ แน่ใจว่า “ประธานหลงครับ ดูเหมือนว่าลูกชายของคุณจะ ไม่ค่อยพอใจซะเท่าไหร่ หากผมต้องการช่วยเสิ่นเหลียว ออกมา เขาจะขัดขวางไหมครับ?”

หลงถึงดึงสายตากลับมา วางมือบนที่จับของเก้าอี้ และ พูดอย่างมั่นใจ “นี่คุณเสิ่นไม่เชื่อผมเหรอ?”

เงินคั่วยังคงสับสนเล็กน้อย “ตอนนั้นเขาเป็นคนส่ง ลูกชายของผมเข้าคุก ผมเกรงว่า…”

หลงถึงหยุดเขาไว้ เขารินชาให้ตัวเอง และสูดดมกลิ่น หอมของชา “ คุณเสิ่นครับ ในวงการธุรกิจ ไม่มีพ่อลูกที่ เป็นนิรันดร์ มีเพียงผลประโยชน์ชั่วนิรันดร์ คุณและผม ต่างก็เป็นคนฉลาด มื้อเย็นเมื่อคืนนี้ คุณเสิ่นลืมไปแล้ว หรือ?”
ดวงตาที่เยือกเย็นของเสิ่นคั่วหรี่ลงอย่างร้ายๆ “ชนให้ กับผลประโยชน์นิรันดร์”

กลับเข้ามาในห้องทำงาน หลงเซียวปลดกระดุมออก นั่ง พิงที่โต๊ะทำงาน เขาเปิดเอกสารมาและพูดกับจี้ตงหมิงว่า “สถานการณ์เมื่อสักครู่นี้นายเห็นแล้วใช่ไหม?”

จี้ตงหมิงพยักหน้า “ผมเห็นแล้วครับ ต่างหาผลประโยชน์ จากอีกฝ่ายกัน

หลงเซียวฮัมเบา ๆ และทำสัญลักษณ์ไว้ที่เอกสาร ยื่อยากบินขึ้นมาที่สูง มาดูแลโครงการนี้ ดังนั้นก็ให้เขา บินสูงขึ้นอีกหน่อย ถึงตอนที่ขาตกลงมา คงไม่มีใครรับ เขาไว้ได้” “หลง

เขาเอาเอกสารที่ทำเครื่องหมายไว้ให้กับจี้ตงหมิง

หลังดูเอกสารแล้ว เขาอ้าปากค้าง “แม่…..เจ้า……

หลงเซียวปิดปากกา และสอดปากกาเข้าไปในกระเป๋า กางเกง “ทำไมเหรอ?”

จี้ตงหมิงปิดแฟ้มดังเป๊ะ และยกนิ้วโป้งให้หลงเซียว “เจ้า นายครับ ผมชื่นชมเจ้านายสุดๆเลยครับ คราวนี้หลงจะ ตกลงมาขาหักแน่ๆ”
นายพูดว่าขาหักเหรอ?

หลงเขียวกล่าวว่า: “ทางตู้หลังเซวียนให้ คุณชายกู้ไป ตาม ส่วนซุนปิงเหวินก็ต้องเตือนเขาสักหน่อยแล้ว”

จี้ตงหมิง:

บอสครับ บอสต้องรีบขนาดนี้ไหมครับ? ทักทายพร้อม กันทั้งหมดเลยเหรอครับ?

” ช่วงนี้ซุนปิงเหวินกำลังทำอะไรอยู่?”

จี้ตงหมิงส่ายหัว “ไม่ค่อยทราบครับ ตอนนี้ตระกูลซุน เป็นเหมือนง่อยไปแล้ว ทนต่อการโจมตีไม่ไหวหรอกมั้ง?”

“หือ?” หลงเซียวหัวเราะเบา ๆ

เขาเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง หลงเซียวขยี้ตรง กลางคิ้ว ฝนข้างนอกใกล้จะหยุดแล้ว ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ขึ้นมาก และทั้งเมืองก็สะอาดมาก มุมปากของเขายกขึ้น “ไปซื้อดอกกุหลาบให้ฉันสักช่อ เอาเก้าสิบเก้าดอก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ