ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 351 คุณชายรองหลง ฉันมาช่วยคุณแล้ว



ตอนที่ 351 คุณชายรองหลง ฉันมาช่วยคุณแล้ว

ตอนที่ 351 คุณชายรองหลง ฉันมาช่วยคุณแล้ว

เกาจิ่งอานเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก ดวงตาเฉี่ยวคมหรี่ลงจนเป็นเส้น แล้วถอนหายใจออกมา อย่างช่วยไม่ได้ “เอาเถอะ คำแนะนำของพี่ใหญ่น่ะฉันต้อง ทำให้สำเร็จโดยไม่มีเงื่อนไข และฉันจะไปโรงพยาบาล ตอนนี้”

เขาควงกุญแจรถในมือไปมาแล้วหันตัวไปหารถของตัว

เอง

“เกาจึงอาน”

ทันใดนั้นเสียงของหลงเซียวที่อยู่ด้านหลังก็ดังขัดจังหวะ การเคลื่อนไหวของเขาขึ้นมา เกาจึงอานหันหน้ากลับมา แล้วก็เพิ่มความหมดอาลัยตายอยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ขึ้นไปอีก “พี่ใหญ่ คงจะไม่มีเรื่องอะไรอีกใช่ไหม? การไป เยี่ยมโม่หรูเฟยก็เกินที่ใจผมจะรับไหวแล้ว พี่คงจะไม่ให้ ผมไปดูแลเธอที่โรงพยาบาลใช่ไหม? ”

หลงเซียวมองเขาด้วยความอดทนอย่างยิ่ง ร่างสูงโปร่งยีนล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยมือข้างเดียว และเสื้อเชิ้ต สีดำที่ประดับอยู่บนร่างกายกำยำของเขา ไปเยี่ยมไม่ หรูเฟยแล้ว นายก็ไปดูพี่สาวนายที่คุกหน่อย ฉันจะให้คน จัดการให้

กุญแจรถที่อยู่ในมือของเกาจิ่งอานก็พลันถูกเขากำเอา ไว้แน่น แผ่นหลังยืดตรงโดยไม่รู้ตัว แล้วมองหลงเซียวที่ อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร ด้วยสีหน้าท่าทางที่สงบนิ่ง เกา จิ่งอานใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่เผยความร้อนรน ของตัวเองออกไป “ครับ…ถ้าผมออกมาจากโรงพยาบาล แล้วจะไป…” ความรู้สึกผิดแล่นขึ้นมาเต็มหัวของเขา จึงหัน กลับไปตอบว่า: “ขอบคุณครับพี่ชายใหญ่”

หลงเซียวพยักหน้าเพื่อบอกให้เขานั้นรีบไป

เกาจิ่งอานพยักหน้าขอบคุณอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ ยุ่งเหยิง จากนั้นก็ยัดกายเข้าไปในรถ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วสตาร์ทรถขับออกไป

เมื่อมองดูรถของเกาจึงอานขับออกไปแล้ว หลงเซียวจึง หันไปพูดกับจี้ตงหมิงว่า “ครั้งก่อนคุณบอกว่าเกาจึงอาน วางคนของตัวเองไว้ที่ MBK และคิดที่จะขโมยข้อมูลของ MBK อย่างลับๆ ด้วย?”
จี้ตงหมิงตอบกลับ “ครับ มีคนหนึ่งในฝ่ายการเงินเป็นคน ของเกาจิ่งอานครับ พวกเขาคงคิดที่จะสืบเรื่องเกี่ยวกับ สถานการณ์การเงินของ MBK แต่ตัวตนของคนนั้นได้รับ การตรวจสอบแล้วครับ เจ้านายอยากให้จัดการยังไงครับ?

หลงเซียวไม่ได้ตอบอะไร เกาจึงอานส่งคนของตัวเองมา ไว้ข้างกายเขา หลงเซียวก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด อย่างไร เสียเมื่อก่อนเกาจิ่งอานก็คิดว่าเขาเป็นศัตรูคู่แค้น หลังจาก ที่เกิดเรื่องเกาหยิ่งจือเขาก็ยิ่งคิดว่าเขานั้นเป็นศัตรูที่หาก เขาตายตัวเองต้องมีชีวิตอยู่

แต่ว่าตอนนี้……

หลงเซียวยกยิ้มมุมปากอย่างเกียจคร้านแล้วเอ่ยว่า “ไม่ ต้องทำอะไรทั้งนั้น เกาจึงอานจะไม่ล้ำเส้น ขับรถ พวกเรา จะกลับบริษัท”

“ครับ! ‘

คนที่นี่ต่างก็ไปกันหมดแล้วเหลือแต่ไป๋เวยและหลงเซียว จะกลับไปที่บริษัทแล้ว ไป๋เวยจึงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “คุณหลง ทางด้านอู่ซีทราน ตำรวจคาดว่าคงเป็นการยากที่จะสอบถามข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เท่าที่ ทราบมาคือ เสิ่นเหลียวไม่เคยบอกเรื่องธุรกิจกับฉ่ซีหราน เลย เธอไม่รู้อะไรเลยทั้งนั้น

อย่าว่าแต่จู่ซีหรานเลย เสิ่นเหลียวก็เป็นคนน่าสงสัยมาก ที่ไม่ยอมบอกธุรกิจของตัวเองกับคนอื่นเลยไม่ว่าใครก็ตาม

หลงเซียวจัดกายให้ยืดตรง ริมฝีปากบางเผยให้เห็นรอย ยิ้มอ่อนโยนที่จะปรากฏก็ต่อเมื่อเผชิญหน้ากับเพื่อนของ ลัวหาน รอยยิ้มของเขานั้นไม่ได้ปกคลุมไปทั่วใบหน้าแต่ก็ ไม่หลงเหลือร่องรอยให้ได้ตรวจสอบ “คุณไป๋ ฉี่ซีหรานรู้ ว่าอะไรสำคัญด้วยหรอ? ถึงเธอจะไม่รู้อะไรเลย แต่สถานะ เธอคือเป็นภรรยาของเสิ่นเหลียว มันก็มีประโยชน์เหมือน กัน”

ไปเวยหมุนศีรษะไปมา แต่เธอไม่แน่ใจที่ตัวเองคิดนั้นใช่ อย่างที่หลงเซียวพูดหรือเปล่า “คุณหลงต้องการจะบอก ว่าให้ปล่อยข่าวเท็จโดยแถลงออกไปว่าจู่ซีหรานให้การ ข้อมูลเบื้องหลัง จากนั้นก็ถือโอกาสนี้ทำให้เสิ่นเหลียว ยอมรับการตรวจสอบ? ”

ในที่สุดรอยยิ้มของหลงเซียวก็แพร่กระจายทั่วใบหน้า หล่อเหลาได้รูปนั้นทันที “คุณไป์นี้สมกับที่ได้รับชื่อเสียงว่าเป็นลูกสาวคนเก่งของตระกูลไปเลยนะครับ”

ไปเวยตกใจไปชั่วครู่ก็ยิ้มออกมาทันที “ถ้าเทียบกับคุณ หลงแล้วยังห่างกันอีกไกลโขเลยค่ะ”

มองดูรถของหลงเซียวที่ขับออกไป ไป๋เวยก็ยิ้มหยันให้ กับตัวเอง ไม่เพียงแค่ห่างกันมาก แต่มันห่างไกลจนมอง ไม่เห็นฝุ่นเลย!”

ในระหว่างทาง เกาจิ่งอานโทรศัพท์หาผู้ช่วยของเขา

“ฟังนะ ตอนนี้ให้ทำตามที่ผมบอกให้เร็วที่สุด

“ท่านประธานพูดมาได้เลยครับ

เกาจิ่งอานจับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้าง สีหน้าของ เขาบิดเบี้ยวเพราะกังวลและรู้สึกผิด ให้อาเลี่ยงหยุด เคลื่อนไหวที่ MBK ทั้งหมด ไม่ต้องสืบข่าวภายในหรือ อะไรก็ตามของ MBK แล้วบอกเขาให้อยู่ที่นั่นเรื่อยๆ ให้ ผ่านช่วงหนึ่งไปก่อนแล้วหลังจากนั้นก็ลาออกจาก MBK ”

ผู้ช่วยงงงวยไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอย่างระวัง “ท่านประธานครับ ตอนนี้เขาเพิ่งจะเข้าไปในตำแหน่งหลักของ ฝ่ายการเงิน ถ้าท่านให้เขาหยุดเคลื่อนไหวตอนนี้แล้วความ พยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้จะไม่เสียแรงเปล่าเหรอครับ?

“ผมไม่ได้กำลังปรึกษาหารือกับคุณ ให้หยุดเดี๋ยวนี้! ”

“ครับท่านประธาน

หลังจากวางสายแล้ว เกาจิ้งอานพ่นลมหายใจอย่างหยาบ โลนออกมาหลายครั้ง จากตอนนั้นเกาจิ้งอานอายุแปดขวบ เขาเห็นโม่ล่างคุนบีบบังคับพ่อของเขา จนต่อมาเขาได้ ผ่านประสบการณ์การปะทะบนห้างสรรพสินค้ามามากมาย หลายครั้งจนนับไม่ถ้วน มีประสบการณ์การเรียนที่ต่าง ประเทศหลายปี คิดว่าตัวเองรู้จักคนมากมาย และคิดว่าตัว เองนั้นมองคนไม่เคยผิดพลาด

แต่ทำไมเขาไม่คิดถึงเลยว่าเขานั้นไม่รู้จักหลงเซียวด้วย

จนถึงตอนนี้เกาจิ่งอานคิดว่าหลงเซียวเป็นคนที่ชอบฆ่าให้ เรียบไม่ว่าการแข่งขันทางธุรกิจหรือว่าการปฏิบัติตัวต่างๆ แต่หลังจากที่ติดต่อกันหลายวัน เกาจึงอานก็รู้ว่า ตัวเองนั้นคิดผิดแล้ว

หลงเซียวเป็นข้อยกเว้นทั้งหมดที่เขารู้

รถของหลินซีเหวินขับตามหลังรถของเสิ่นเหลียวมาจอด ที่ลานจอดรถของโรงแรม และมองดูหลงจื้อถูกคนคน ตัวอย่างแน่นหนาเข้าลิฟต์ของ VIP ส่งจากโรงจอดรถชั้น ใต้ดินขึ้นไป

ลิฟต์หยุดที่ชั้นบนสุดของโรงแรม

คนพวกนี้จับตัวหลงจื้อไปทำไม? แล้วทำไมถึงพามาที่ โรงแรม?

หลินซีเหวินกังวลใจไปหมด แต่พอดูการแต่งกายกับ หน้าตาของคนพวกนั้นแล้วโดยภาพรวมก็มั่นใจได้ว่าไม่ใช่ คนดีอะไร

เมื่อเดินอ้อมมาถึงลิฟต์ข้างๆ หลินซีเหวินก็เข้าไปในลิฟต์ แล้วกดที่ชั้นบนสุด ลิฟต์เคลื่อนที่ขึ้นสูงด้วยความเร็วเท่าไหร่ลมหายใจของหลินเหวินก็ยิ่งหอบ กระชันเร็วมากขึ้นเท่านั้น

แต่นี่มันคือการลักพาตัวนะ! ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้าหาก จัดการไม่ดีอาจจะมีคนตายก็ได้

ปรับลมหายใจสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปลุกเร้าตัวเองไม่ หยุด และทันใดนั้นลิฟต์ก็หยุดลง

หลินซีเหมินตกใจยกใหญ่ ทำไมมาถึงเร็วขนาดนี้

หลินซีเหวินเดินออกมาจากลิฟต์อย่างระวัง แต่ยังไม่ทัน ได้ก้าวเท้าไป สายตาก็เห็นพวกคนชุดดำเมื่อกี้ออกมาจาก ห้องพอดี ล็อกประตูแล้วหยิบคีย์การ์ดออกไปด้วย

หลินซีเหวินรีบหันกลับมาทันที แล้วแสร้งทำว่าบังเอิญ เดินผ่านมา

รอให้คนชุดดำขึ้นลิฟต์ไป หลินซีเหวินก็เหลือบมอง หมายเลขห้อง 3103

หลินซีเหวินเดินกุมหัวใจไปจนถึงประตู ยื่นมือออกไปเคาะประตูห้องสองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงลอง เคาะอีกครั้ง แต่ก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม

หลงจื้อถูกมัดไว้ที่เสาแกะสลักดันใหญ่ในห้องเพรสซิเดน สูท ปากถูกปิดไว้แน่น มือและเท้าทั้งสองข้างก็ล้วนถูก มัดตรึงไว้ เขาได้ยินเสียงเคาะประตูคิดอยากจะตะโกนออก ไปแต่ไม่สามารถส่งเสียงออกไปได้!

แม่งเอ๊ย!!!

หลินซีเหวินเอาหูแนบอกประตูเพื่อฟังการเคลื่อนไหวข้าง ในแล้วเคาะประตูอีกครั้ง “คุณชายรองหลง? “

ดวงตาของหลงจื้อก็เบิกกว้างทันที เสียงของผู้หญิงแถม ยังเป็นเสียงที่คุ้นเคยมากด้วย! เสียงนี้เขาเคยได้ยินจาก ที่ไหนแน่นอน!

เดี๋ยวนะ เขาจำได้แล้ว เสียงของสาวบ้านนอก

“อื้อ…อื้อ!!! ” หลงจื้อพยายามส่งเสียงอย่างสุดความ สามารถ โคตรพ่อเอ๊ย คุณชายอยู่ข้างในนี้!!รีบมาช่วย เร็ว!!!
โอเค เขานั้นอยากตะโกนออกไปแบบนี้ แต่จะให้ทำ อย่างไรได้ในเมื่อปากตัวเองนั้นถูกปิดด้วยเทปกาวอยู่

เมื่อลองดิ้นรนอยู่หลายครั้ง รองเท้าหนังก็กระทืบพื้น เสียงดัง “ปัง”

มีเสียงจริงด้วย! เขาถูกขังไว้ข้างในจริงๆ !

หลินซีเหวินส่งเสียงถามเข้าไป “คุณชายรองหลง ใช่คุณ หรือเปล่า? ถ้าหากว่าใช่ให้กระทืบเท้าสองครั้ง

ตอนนี้หลงจื้ออยู่ในอารมณ์ที่อยากเตะเธอให้ตาย!

“ปิ๊ง! ปัง! ” หลงจื้อกระทืบเท้าสองครั้ง ตอนนี้เขาอยากจะ ฆ่าคน

หลินซีเหวินที่เครียดจะตายอยู่แล้วก็ยกมือปิดปากที่กำลัง หัวเราะอยู่ คุณชายรองหลงอ่า คุณเองก็มีวันนี้เช่นกันวันที่ กรรมตามสนอง

วันพระไม่ได้มีหนเดียว ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่เธอลืมตา อ้าปากได้สักที!
ก็ไม่แย่นะ!

แต่.

หลินซีเหวินลูบคางไปมา แม้ว่าคนจะอยู่ด้านใน แต่ว่าไม่มี คีย์การ์ดแล้วเธอจะเข้าไปได้อย่างไร?

โรงแรมแห่งนี้……. มีเครืออยู่ทั่วโลกและคนทั่วไปก็ไม่ สามารถติดต่อได้โดยตรง

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

หลินซีเหวินล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมา ในเวลาสำคัญ แบบนี้ถ้าหาเส้นสายได้ก็คงจะดีกว่า

“คุณพ่อคะ ตอนนี้หนูอยู่ที่ถนนสี่ตรงถนนเชิงหยาง หนู อยากให้คุณพ่อช่วยหนูหน่อยค่ะ” หลินซีเหวินหัวเราะ แหะๆ

ผ่านไปเพียงชั่วครู่ พ่อหลินก็ถามอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “โรงแรม? ลูกรัก นี่ลูกไปทำอะไรที่โรงแรม? พ่อให้หนูไป เป็นตัวแทนครอบครัวร่วมงานแต่งงานของลูกสาวตระกูล โม่ แล้วหนูไปถนนเชิงหยางทำไม?”
เอ่อ……

“คุณพ่อคะงานแต่งงานจบลงแล้ว หนูเลยมาเที่ยวที่นี่กับ เพื่อนหลายคน คือ…คุณพ่อ ไม่ใช่ว่าคุณพ่อรู้จักประธาน ของถนนสี่สาขาที่ประเทศจีนหรอคะ? คุณพ่อช่วยหนู ติดต่อผู้จัดการสาขานี้ให้หน่อยค่ะ เพื่อนของหนูทำคีย์ การ์ดหายเข้าห้องไม่ได้เลย”

ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งเห็นได้ชัดว่าโกรธแล้ว “เพื่อน อะไร? ผู้ชายหรือผู้หญิง? ”

“ผู้หญิงค่ะ! เป็นพี่น้องที่สนิทของหนูเอง เดี๋ยวหนูจะ แนะนำให้รู้จักนะคะ คุณพ่อคะ ตอนนี้หนูร้อนใจน่ะค่ะ คุณ พ่อช่วยรีบหน่อยได้ไหม? พอดีเพื่อนหนูดื่มมากไปหน่อย

“ลูกรัก หนูไม่เป็นอะไรนะ? หนูดื่มไปเท่าไหร่…ให้พ่อส่ง คนไปรับไหม?

หลินซีเหวินอยากจะเมาจริงๆ เลย เวลาสำคัญแบบนี้อย่า พึ่งลงรายละเอียดขนาดนี้ได้ไหม?

“คุณพ่อ หนูไม่ได้เป็นไร! คุณพ่อรีบช่วยหนูหาผู้จัดการก่อน! คุณพ่อที่รัก! ”

หลินซีเหวินรอโทรศัพท์อย่างร้อนรน ครั้งนี้คุณพ่อจะต้อง เก่งมาก!

แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากนั้นไม่นานผู้จัดการก็มา ด้วยตัวเองแล้วพูดอย่างสุภาพว่า “คุณหลิน เมื่อสักครู่คุณ พ่อ…”

“ฉันทราบแล้วค่ะ! ช่วยเปิดประตูให้ฉันเร็วเข้า!

“ได้ครับ”

ผู้จัดการหยิบคีย์การ์ดสำรองออกมารูดประตู “ขอให้คุณ หลินเข้าพักอย่างมีความสุข ฝากทักทายคุณพ่อด้วยนะ ครับ”

“ได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ คุณไปทำงานเถอะ”

เมื่อเปิดประตูห้องแล้ว หลินซีเหวินก็หมุนกายกลับมา

ล็อคประตู
ในขณะที่หมุนกายนั้น หลินซีเหวินก็เห็นหลงจื่อที่ถูกมัด จนกลายเป็นบ๊ะจ่างเนื้อ ——

“ฮ่าๆๆ ! คุณชายรองหลง แบบนี้ก็ดีนะ! เล่นแบบไหนดี? SM หรอ? ” หลินซีเหวินเดินทอดน่องไปตรงหน้าหลงจื้อ ไล่สายตาขึ้นลงมองเขาแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ !

หลงจื่อมองตาปริบๆ ลมหายใจฟืดฟัด พึมพำในลำคอ อย่างไม่ชัดเจน “ปล่อย! “

หลินซีเหวินแบะปาก “ครั้งนี้ผู้หญิงคนนี้ได้ช่วยคุณไว้ คุณ พูดมาว่าจะคิดเป็นเงินเท่าไหร่? ก่อนหน้านี้ฉันติดหนี้คุณ อย่างนั้นก็หักลบกลบหนี้เรียบร้อยแล้วใช่หรือเปล่า? “

หลงจื่อจ้องมองเธออย่างโกรธจัด นี่มันเล่นทีเผลอ

“ทำไมเหรอ? ไม่เห็นด้วย? ถ้าไม่เต็มใจก็ช่างมันเถอะ คุณ ก็อยู่ที่นี่ต่อไปนะ ฉันกลับละ” หลินซีเหวินหันตัวกลับพลาง ลอบยิ้ม จัดการลูกไก่ในกำมือ รู้สึกดีเป็นบ้า

“อื้ม! ”
หลงจื่อส่งเสียงออกมาคำเดียว เจ้านี่สมควรตาย!

หลินซีเหวินหัวเราะเบาๆ “ตกลงกันแล้วนะ ต่อไปนี้พวก เราถือว่าโมฆะทั้งหมด คุณไม่สามารถเรียกร้องให้ฉันทำ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามในฐานะเจ้าหนี้ได้อีก ถ้าเห็นด้วยให้ กระพริบตาหนึ่งที”

หลงจื้อสาบานเลยว่ามีชีวิตอยู่มายี่สิบกว่าปีเขาไม่เคยถูก คนรังแกขนาดนี้มาก่อน!

“ดีมาก! ”

แควก!

หลินซีเหวินฉีกเทปกาวออกจากปากของหลงจื้อ เขาร้อง ออกมาด้วยความเจ็บทันทีเมื่อได้รับอิสระ “เธอทำเบาๆ หน่อยไม่ได้หรือไง! “

หลินซีเหวินก้มหัวขอโทษ “อุ๊ยตายแล้วต้องขอโทษ คุณชายรองหลงด้วย หรือว่าจะให้ฉันติดเทปกาวให้อีก รอบ? เอาใหม่อีกรอบ? ”

“เธอ… แม่ง! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ”
หลงจื่อพยายามดิ้นแต่ก็ขยับตัวไม่ได้เลย

“จะปล่อยก็ได้ แต่ว่าคุณชายรองหลง คุณจะตอบแทนฉัน ยังไงหรอ? ” หลินซีเหวินมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วย แผนการอย่างเจ้าเล่ห์

หลงจื้อหรี่ตาลง “สาวบ้านนอก เธอกล้าเล่นทีเผลอหรอ?

“ยังไงหรอ? คุณไม่ชอบใจหรอ? โอเค ถ้าคุณไม่ชอบงั้น ฉันไปล่ะ”

“เดี๋ยวก่อน! ” หลงจื้อกัดฟันกรอด วีรบุรุษไม่กินการสูญ เสียที่เกิดขึ้นทันที เขาจึงยอมตกลงไปก่อน “เธอพูดมาสิว่า ต้องการอะไร? ”

หลินซีเหวินพยักหน้าเมื่อแผนสำเร็จ “ก็รู้สถานการณ์ อยากได้อะไรหรอ…ฉันยังไม่ได้คิด รอให้ฉันคิดได้แล้วจะ บอกคุณอีกที”

“เรื่องมาก! ”

“ฉันเต็มใจ”
“ไม่สน! ”

“คุณชายรองหลง คุณถูกมัดเป็นบ๊ะจ่างแบบนี้ ดูแล้วตลก มากเลย ฉันจะเก็บคุณไว้เป็นที่ระลึกดีไหมนะ? ”

“สาวบ้านนอก เธออยากตายใช่ไหม?”

ทั้งสองคนที่กำลังทะเลาะกัน หลินซีเหวินก็หามีดปอกผล ไม้มาตัดเชือกบนตัวของหลงจื้อให้ขาดออก

เมื่อหลงจื่อสลัดเชือกบนตัวออกได้แล้ว มือใหญ่ก็ยื่นไป จับไหล่ของหลินซีเหวินไว้ “เธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่? แล้ว เข้ามาได้ยังไง? พูดมาให้รู้เรื่อง

“บ้าเอ๊ย! ฉันเพิ่งจะปล่อยคุณคุณก็จะฆ่ากันเลยหรอ!”

ในขณะนั้น เสียงเปิดประตูก๊อกแก๊กก็ดังขึ้นมา สองคนเบิกตากว้างกันอย่างพร้อมเพรียง “แย่แล้ว พวก มันกลับมาแล้ว! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ