ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 232 เหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรง



ตอนที่ 232 เหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรง

ณ ห้องประธาน บริษัทโมชื่อ

โม่ล่างคนกับโม่หรูเฟย ต่างก็นั่งตรงข้ามกันอยู่บน โซฟา ภายในห้องรับแขกของบริษัท

ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว และผู้สืบทอด เพียงคนเดียว ของประธานบริษัทโมชื่อกรุ๊ปก็ตาม แต่โม่หรูเฟยก็ถือหุ้นเพียงส่วนหนึ่งของบริษัทโมชื่อ เท่านั้น เธอไม่เคยเข้าร่วมงานใดๆ ของบริษัทมาก่อน เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการบริหารจัดการเลยด้วยซ้ำ

แต่วันนี้ คำพูดที่โม่ล่างคุนได้พูดออกไปนั้น ทำให้ แผนที่โม่หรูเฟยวางไว้ ในอนาคตอันใกล้นี้ เปลี่ยน ไปจนสิ้น

โม่หรูเฟยคําโซฟาหนังแท้ไว้แน่น จนเล็บที่ดูใส สะอาดของเธอ เกือบจะหักสะบั้นไปด้วยแรงบีบของ เธอแล้ว เธอมองฟอตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อน จะถามเขาขึ้น “พ่อจะบอกว่า ตอนนี้พ่อจะให้หนูมา เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทงั้นหรือคะ?”
โม่ล่างๆนเองก็พยักหน้าอย่างจนปัญญา “ตอนนี้ หุ้น บริษัทฟอกีตกฮวบฮาบมาต่อเนื่องสิบวันแล้ว ถ้าหากไม่สามารถเอาเงินทุนมาจากตระกูลหลงได้ บริษัท คงต้องพบกับวิกฤตครั้งใหญ่แน่ แล้วก็อาจ จะเกิดเหตุการณ์ที่แม้แต่ลูกก็คาดไม่ถึงก็ได้ ลูกก็รู้ ว่าสิ่งที่พ่อพูดหมายความว่ายังไง”

โม่หรูเฟยไม่อยากจะยื่นมือ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการ บริหารบริษัทเลย เพราะความฝันของเธอไม่ได้อยู่ที่ นี่เสียหน่อย!

“พ่อคะ ช่วงนี้หนูคิดอยากจะกลับไปทำการแสดง ใหม่อีกครั้ง พ่อดูตอนนี้สิคะ แทบไม่มีเรื่องราวอะไร เกี่ยวกับหนูตามท้องถนนเลย ถ้าหากหนูยังนิ่งเงียบ แบบนี้ต่อไป หลังจากนี้หนูก็คงไม่มีโอกาสจะฟื้นคืน แน่ๆ แล้วที่พ่อให้หนูมาบริหารบริษัทแบบนี้ เท่ากับ ว่างานที่หนูทำก็จบลงไปด้วยนะคะ พ่อรู้ไหม?”

โม่ล่างคุนส่ายหัวถอนหายใจดังเฮือก “เฟยเฟย พ่อ รู้ว่าลูกรักงานแสดงมากแค่ไหน ลูกรักในงานของลูก แต่ขอแค่ครั้งนี้ครั้งนี้ พ่ออยากให้ลูกมาช่วยบริษัท โม่ซื่อ พ่อไม่ได้เป็นหนุ่มๆ เหมือนสมัยก่อนแล้ว มี เรื่องตั้งมากมายที่พ่อท่ไม่ไหว ลูกละทิ้งงานแสดง ไปก่อน เพื่อพ่อแม่ เพื่อบริษัทโม่ซื่อ ได้ไหมลูก?โม่หรูเฟยไม่ยอมเด็ดขาด!

ไม่หรูเฟยทั้งโกรธทั้งเกลียด จนไหล่ของเธอสั่น เทิ้มอย่างรุนแรง เธอโกรธเสียจนใบหน้าที่แต่งแต้ม ด้วยเครื่องสําอางหนาเตอะของเธอ เห็นเป็นสีแดง ถ้ำขึ้นมา อีกทั้งในแววตาก็เช่นกัน เธอหัวเราะอย่าง เยือกเย็นใส่โม่ล่างคน ราวกับกำลังจะตะโกนใส่เขา “พ่อคะ ตอนนี้หนูไม่มีอะไรเหลือแล้ว งานแต่งของ หนูก็ถูกทําลายไปแล้ว หนูไม่สามารถแต่งงานกับ ผู้ชายที่หนูรักได้ งานก็ไม่มี ไม่ว่าอะไรก็ไม่มีทั้งนั้น!

“ลูกยังมีพ่อกับแม่ ยังมีบริษัทโมชื่ออยู่นะ เฟยเฟย ในอนาคตบริษัทโมซื่อทั้งหมดก็จะกลายเป็นของลูก นะ ลูกจะกลัวอะไรอยู่อีก? บริษัทนี้เป็นทรัพย์สมบัติ ของลูก หรือว่ามันไม่คุ้มค่าเท่ากับรายได้ ที่ลูกได้ จากวงการบันเทิงนั้นหรือไง?”

โม่หรูเฟยยกมือขึ้นกุมหน้าด้วยความเจ็บปวด เธอ ร้องไห้ออกมาจนทั่วทั้งร่างกายของเธอสั่นสะท้าน อย่างรุนแรง

พลันเธอก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน และสะอึก สะอื้น “เงินหรือคะ? พ่อ นี่หนูไม่สามารถทำเรื่องที่หนูอยากทําได้เลยงั้นหรือคะ? เงินมันให้อะไรหนูได้ คะ? แค่ก้มหน้านับเงินอย่างไรประโยชน์จิ้นหรือคะ? หนูไม่ต้องการ! หนูคือไม่หรูเฟย หนูคือดาราชั้นนำ ที่ยืนอยู่เวทีระดับนานาชาติ สิ่งที่หนูต้องการก็คือ สายตาของคนนับหมื่นที่มองมาหาหนู หนูต้องการ เปล่งประกายอย่างเจิดจรัส! ไม่ใช่เงินที่จะมาซื้อ อะไรก็ได้!

สิ่งที่เธอต้องการ คือการได้ยืนอยู่บนเวที รับความ ชื่นชมและเลื่อมใสจากทุกคน อีกทั้งช่อดอกไม้และ เสียงปรบมือ อีกทั้งสายตาของคนนับแสนนับล้าน ที่ จ้องมาทางเธอด้วยความอิจฉาเท่านั้น!

ไม่ใช่การมาสวมชุดระดับสูง แล้วมานั่งแหงกอยู่ ในห้องทํางาน อ่านเอกสารหลังขดหลังแข็ง ราวกับ เครื่องจักรแบบนี้ทุกวันเสียหน่อย

เธอไม่อยากใช้ชีวิตแบบนั้น! ไม่เคยต้องการเลย!

โม่ล่างคนเข้าใจความหมายของเธอดี แต่ในสายตา ของเขาตอนนี้ เขาจําต้องทําลายความฝันที่สวยงาม ของลูกสาวอย่างช่วยไม่ได้ “เฟยเฟย พ่อให้สัญญา กับลูกได้นะ รอให้บริษัทโม่ซื่อผ่านวิกฤตเหล่านี้ไป ก่อน แล้วพ่อจะให้อิสระกับลูก ถึงตอนนั้นลูกอยากจะทําอะไรก็ได้ แล้วพ่อจะไม่มีทางขัดขวาง

ลูกแน่นอน”

ไม่หรูเฟยเงยหน้าขึ้นมอง ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย น้ำตา แล้วมันตอนไหนล่ะคะฟอ? ช่วงเวลาวัยรุ่น ของหนูมีอีกแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น! หนูอุตส่าห์ออกจาก วงการบันเทิงมาสองกว่าปี เพื่อหลงเขียวแล้ว หนูไม่ สามารถจะรอถึงอายุสามสิบ แล้วค่อยกลับเข้าไป ใหม่ได้หรอกนะคะ!”

โม่ล่างๆนขมวดคิ้วแน่น พร้อมทั้งความรู้สึกเจ็บ ปวดที่พุ่งเข้ามาในอก เขาเอนกายล้มลงไปบน โซฟา พลางใช้มือหนึ่งคว้าเสื้อสูทของเขา ที่ตรงกับ ตำแหน่งหัวใจไว้พอดี ร่างกายของเขาบิดเบี้ยวไปมา ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ

“ฟอ! พ่อเป็นอะไรไปคะ! พ่ออย่าทำให้หนูตกใจ!

โม่หรูเฟยรีบอ้อมมาอยู่ตรงหน้าเขา มือของเธอกระ สับกระส่ายไปมา เพราะไม่รู้ว่าควรจะช่วยเขายังไง ดี ตอนนี้เธอตกใจเสียจนใบหน้ายิ่งซีดเผือดเข้าไป อีก “ฟอ! หนูจะรีบเรียกรถพยาบาลนะคะ!”
อาการเจ็บปวดในหัวใจของโม่ล่างๆนตอนนี้มัน พรั่งพรูออกมา จนไม่สามารถปิดบังโม่หรูเฟยได้ แม้แต่น้อย เขาเค้นคําพูดออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง “ยา…อยู่ในลิ้นชัก…”

“ได้ค่ะ! หนูจะไปหยิบยามาให้

โม่หรูเฟยไม่รู้เลยว่าโม่ล่างๆนมีอาการโรคหัวใจ แล้วเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าอาการของเขา มันถึงขั้นรุนแรง เรียบร้อยแล้ว เป็นเพราะเขากังวลใจเมื่อครู่นี้ ทำให้ เขารู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น หลังจากกินยาไปแล้ว เขาก็ พยายามฝืนให้ตัวเองสงบลง

โม่ล่างคนเอามือกุมที่หน้าอกไว้ พร้อมทั้งสูดลม หายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วง เขาเอื้อมไปดึงมือ ของโม่หรูเฟยอย่างไรเรี่ยวแรง ก่อนจะขอร้องด้วย น้ำเสียงทุ้มต่ำ “เฟยเฟย ลูกคงเห็นสภาพของฟอ แล้วใช่ไหม ดังนั้น พ่อหวังว่าลูกจะช่วยพ่อที่บริษัท ได้ พ่อไม่เชื่อใจใครอื่นทั้งนั้น ลูกรู้ใช่ไหม?”

โม่หรูเฟยเงยหน้าขึ้น ความรู้สึกไม่เต็มใจและความ โกรธเกลียดในใจของเธอตอนนี้ มันได้สลายหายไป หมดแล้ว ทําไมถึงรอไม่ได้ ทำไมไม่ให้เธอประสบ ความสําเร็จทางวงการภาพยนตร์ก่อน แล้วค่อยให้มานั่งแหงกอยู่ในที่ทำงานแบบนี้กันนะ?

เธอก็ยังรู้สึกไม่เต็มใจอยู่ดี

แต่ด้วยสถานการณ์ของโล่ล่างๆนตอนนี้ ถ้าหาก เธอปฏิเสธไปล่ะก็ บริษัทโมชื่อต้องตกอยู่ในวิกฤต จริงๆ แน่ๆ โม่หรูเฟยจึงกัดฟันกรอด ก่อนจะพยัก หน้าไป “ค่ะ หนูจะกลับมา บริหารบริษัทให้พ่อค่ะ

ฉู่ลั่วหาน! เธอมีทั้งหน้าที่การงาน แถมยังได้กลับไป สู่อ้อมกอดของหลงเซียวอีกครั้ง ไม่ว่าอะไรเธอก็มี ทั้งนั้น!

ส่วนฉันล่ะ! ไม่ว่าอะไรก็ไม่มีเหลือเลย! ฉันไม่มีทาง ให้เธออยู่สบายแน่! ไม่มีทาง

“คุณหนูโม่หรูเฟย ดาราที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน ที่ได้รับสมญานามว่า เป็นบริทนีย์แห่งเอเชียตะวัน ออก หลังจากที่เธอได้พักการแสดงไปกว่าสองปี จู่ๆ เธอก็ประกาศข่าวออกมากะทันหัน แต่ครั้งนี้ เธอได้ กลายเป็นผู้บริหารของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป และอยู่ด้วย กันกับโม่ล่างคุนพ่อของเธอ ช่วยกันค้ำจุนบริษัทโมชื่อ และหวังอย่างยิ่งว่า บริษัทโม ชื่อจะสามารถฟื้นฟูกลับมาสง่างามเหมือนในอดีต หลังจากที่ต้องประสบพบเจอกับภาวะบบเบาแบบ

พอหลงเขียวเห็นข่าวนี้ เขาก็ขมวดคิ้ว “มาเร็วกว่าที่ คิดนะ”

จี้ตงหมิงพยักหน้า “มาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้จริงๆ ด้วยครับ ก่อนหน้านี้คุณหนูโม่กำลังเตรียมตัวหวน คืนสู่วงการอยู่พอดี แต่จู่ๆ คุณหนูโม่ก็ประกาศกลับ มาเป็นผู้บริหารของบริษัทโม่ซื่อ ซึ่งดูแย้งกับแผนที่ คุณหนูโม่วางไว้มากเลยล่ะครับ”

หลงเซียวเคาะนิ้วที่เรียวยาวลงไปบนโต๊ะ จนแทบ จะเป็นจังหวะเดียวกัน กับจังหวะการเต้นของหัวใจ “ดูเหมือนว่า โม่ล่างคุนจะเจอเข้ากับปัญหาอะไร สินะ”

“ถ้าอย่างนั้น ท่านต้องการจะทําอะไรไหมครับ?”

หลงเซียวยกกาแฟขึ้นจิบเบาๆ โม่หรูเฟยละทิ้ง ตำแหน่งการพัฒนาในวงการบันเทิง ที่เป็นตำแหน่ง ที่เธอชอบที่สุด แสดงว่ามันต้องมีเหตุผลอะไรที่เธอปฏิเสธไม่ได้อย่างแน่นอน แถมยังขัดแย้ง ที่จะยอมรับได้ของเธอด้วย “จริงๆ แล้วมันก็ เป็นเรื่องใหญ่ของตระกูลเขาล่ะนะ ส่งกระเป๋า ดอกไม้ไปให้เธอ ในนามของบริษัทซะ”

“ครับ ท่านประธาน”

เดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าว หลงจี๋ อก็มาถึงทันที

ตั้งแต่ได้กลายเป็นผู้บริหารทรัพย์สิน ของบริษัท MBK ชีวิตวันของหลงก็เหนื่อยเสียยิ่ง กว่าหมูกว่าสุนัขเสียอีก ทุกวันต้องดูสถิติ ข้อมูล แผนการเงินจํานวนมาก จนทำให้เขาแทบจะเวียนหัว ตาลาย ไร้เรี่ยวแรงไปเลยทีเดียว

เขาเดินเข้าประตูมา พร้อมกับถือเอกสารสรุปค่าใช้ จ่ายเข้ามาด้วย หลงจื่อเอนหลังพิงประตู ก่อนจะปน ออกมาด้วยความยากลำบาก “นี่พี่ใหญ่ ช่วยไปพูด กับพ่อหน่อยได้ไหม ตำแหน่งผู้บริหารนี่ผมไม่อยาก จะทำจริงๆ พี่ใหญ่ดูสิ แค่ไม่กี่วันผมก็เหนื่อยจนจะ ผอมแห้งอยู่แล้ว”

หลงเซียวเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะเซ็นชื่อลงไปในเอกสารต่อ “ผอมลงก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนี่นะ แถม ยังมีประสิทธิผลที่ดีด้วย

หลง เอกสารทั้งหมดไว้บนโต๊ะของเขา พร้อมทั้งยกแขนวางข้อศอกลงบนโต๊ะ พร้อมกับโน้ม หน้าลงไปครึ่งหนึ่งเพื่อมองเขาเ น อ “พี่ใหญ่ ไม่คิดว่าทุกวันที่นั่งดูเอกสารพวกนี้ เซ็นชื่อ ประชุม อะไรนี่มันน่าเบื่อบ้างหรือ? ทิวทัศน์ด้านนอกออกจะดู ตีแบบนี้ มีที่ให้เที่ยวเล่นตั้งมากมาย แต่กลับไปไหน ไม่ได้สักที ไม่ใช่ว่ามันน่าเสียดายออกหรอกหรือ ครับ?

พลันหลงก็หยุดนิ่งไป พร้อมทั้งเงยหน้า ขึ้นมองหลงจื่อ “นี่นายคิดว่างานเป็นอะไรที่ง่ายๆ สบายๆ งั้นหรือ?”

จะคิดยังงั้นได้ยังไงล่ะครับ? พี่ไม่เห็นหรือไง ว่า ผมเหนื่อยจนแทบจะหอบแดกอยู่แล้วนะครับ?

ในเมื่อเหนื่อย ทำไมยังมีเวลามาพูดจาไร้สาระกับ พี่อยู่ล่ะ?”

หลงจื่อมองไปบนฟ้าอย่างไร้คำจะพูด “นี่พี่ใหญ่ ผมกับพี่ใหญ่ไม่เหมือนกันจริงๆ เลยนะ นั่งดูเอกสารดูสถิติดูการเงินพวกนี้ในบริษัท มันไม่ใช่ ชีวิตที่ผมชอบเลยจริงๆ ที่ใหญ่เข้าใจใช่ไหม!”

อยากจะร้องไห้ออกมาเหลือเกิน แต่น้ำตาดันไม่ ออกเสียนี่! ตอนนั้นทำไมเขาถึงหยุดเรียนไปนะ ทำไมเขาถึงไม่ชอบการบริหารการเงินพวกนี้นะ ก็ เพราะแค่ว่าไม่ชอบยังไงล่ะ!

แต่เพียงแค่คําพูดเดียวของหลงถึง ก็สามารถคว้า ตัวเขากลับมาได้ แถมยังบังคับกดหัวให้เขามาบริ หารดูแลการเงินของบริษัทเขาอีก นี่อยากจะให้เขา ตายหรือไงกัน?

หลงเขียวพยักหน้า ด้วยแววตาที่ยังคงสงบนิ่ง การ ต่อต้านของหลงจื่อไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเขาทั้ง สิ้น “แล้วยังไงล่ะ? นายมีความสามารถจะต่อต้าน หรือว่าปฏิเสธได้หรือเปล่า?”

หลงจื่อสะอึกไปกับคำพูดเดียวของเขา พร้อมพูด

ด้วยสีหน้าระทมทุกข์ “ไม่ได้ครับ”

“ในเมื่อไม่ได้ ก็กลับไปทํางานต่อ แล้วก็อีกอย่าง ตารางที่นายให้ มาครั้งก่อน นายเขียนตัวเลขผิดไป นะ”“ครับ?”

“จะครับอะไร? นายวางจุดทศนิยมผิดตำแหน่งไ ล่ะ หมายความว่ายังไงเข้าใจใช่ไหม?”

หลงจื่ออ้าปากค้างแทบพูดไม่ออก นี่มันแตกต่างกัน สิบเท่าเลยนะ!

หลงเซียวเองก็ตบลงไปบนกองเอกสาร ขณะที่เขา กําลังอ้าปากค้างด้วยความตะลึง “ด้านในนี้ พี่หวังว่า จะไม่เห็นความผิดพลาดแบบเดียวกันหรอกนะ”

หลง อพูดอะไรไม่ออกไปทันที เขาเริ่มเลื่อมใสใน สายตาของหลงเชียวขึ้นมา “พี่ใหญ่ พี่ทำได้ยังไงกัน น่ะ? มีเอกสารตั้งเยอะแยะแบบนี้ มีตัวเลขตั้งเยอะ แบบนี้ พี่มองจุดทศนิยมที่ผิดพลาดได้ยังไงกันนะ? นี่พี่เป็นเทพหรือเปล่าเนี่ย!”

“นายไม่อยากจะมานั่งตำแหน่งของพี่หรอกงั้น หรือ?” น้ำเสียงของหลงเซียวที่ใช้พูด ดูเข้มงวดและ จริงจังอย่างมาก

หลงจื่อรีบส่ายหัวปฏิเสธทันควัน “ไม่แน่นอนครับ! ไม่คิดเลยสักนิด!
ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดัง ขึ้น หลงเซียวก็ส่งสัญญาณให้กับหลงจื่อ เพื่อให้คน ทีนั่งแทนที่ของเขา

คนที่เข้ามานั้น เป็นผู้บริหารของแผนกการตลาด ในมือของเขาถือเอกสารกองพะเนินมาด้วย “ท่าน ประธานครับ นี่เป็นรายงานของเนื้องานแผนกการ ตลาด ของครึ่งเดือนแรกครับ แล้วก็ยังมีโครงงาน ของอีกครึ่งเดือนหลังด้วยครับ”

หลงจื่อเบิกตามองอย่างเงียบๆ ให้ตายเถอะ นี่ แผนกการตลาดก็มีงานให้ทำเยอะแบบนี้เหมือนกัน เลยหรือ?

แค่งานของแผนกบัญชี เขาก็แทบตายแล้วด้วยซ้ำ นี่ทุกวันพี่ใหญ่กว่าจะได้กลับก็กี่โมงเข้าแล้วเนี่ย?

“พี่ใหญ่ ผมนี่เลื่อมใสพจริงๆ เลยนะครับ! ผม เลื่อมใสพี่ใหญ่จากใจจริงเลยล่ะ! ผมต้องยอมรับ เลยว่า ระหว่างคนเรามีข้อแตกต่างเยอะจริงๆ เอาล่ะ ครับ งั้นผมกลับไปทุ่มเททํางานต่อแล้วกันนะครับ”
หลงเซียวพลันตะโกนเรียกเขาไว้ “นายไม่ได้บอก

ว่าเหนื่อยแล้วก็น่าเบื่อมากหรือไง?”

หลง จื่อหันกลับมาพูด “อ้อ…พี่ใหญ่ไม่ได้พูดเอาไว้ หรือครับว่ามันเปลี่ยนไม่ได้น่ะ?”

“มีเรื่องบางเรื่อง ที่สามารถทำให้นายสดชื่นได้นะ”

“พูดจริงพูดเล่นครับเนี่ย?”

หลงเชียวพยักหน้า “แอนน่ากลับมาจากอเมริกา แล้ว สองวันนี้เธอเองก็ไม่ได้ทํางาน นายไปผ่อน คลายให้สบายใจกับเธอก็ได้นะ”

หลงจื่อพลันรู้สึกถึงร่างกายที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ราวกับเส้นเลือดมันสูบฉีดไปมา!

“พี่ใหญ่จะบอกว่าผมสามารถไปหาเธอได้งั้นหรือ ครับ? ไปอยู่ด้วยกันกับเธอเนี่ยนะครับ?!”

“ทําไมล่ะ? ไม่อยากหรือไง?”

“อยากสิครับ! อยากมากๆ เลยล่ะ! งั้นผมไปก่อน195063734_3124307374456826_6465621416590577567_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ