ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 441 งั้นมาอาบน้ำด้วยกันเถอะดีไหม



ตอนที่ 441 งั้นมาอาบน้ำด้วยกันเถอะดีไหม

ตอนที่ 441 งั้นมาอาบน้ำด้วยกันเถอะดีไหม

วินาทีที่ขึ้นเครื่องบิน ลั่วหานก็รู้อ่านความคิดของหลงเซียวได้ ทันที

เครื่องบินส่วนตัวคันหรู ภายในออกแบบห้องนอนและห้อง รับแขกอย่างมีมาตรฐาน มีเครื่องประดับสไตล์ตะวันตกครบ ครันนับตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน บนตู้หนังสือยังมีหนังสือทางการ แพทย์ที่เธออ่านเป็นประจําวางอยู่ด้วย ส่วนแถวข้างล่างวาง หนังสือนิยาย

ด้านข้างมีตู้ไวน์ขนาดเล็กหนึ่ง แถมยังมีโต๊ะกระจกสไตล์ ตะวันตกตัวหนึ่งด้วย ข้างบนยังวางดอกกุหลาบและดอกพุด ซ้อนสดวางอยู่ด้วย ซึ่งสร้างบรรยากาศน่าผ่อนคลายมาก

ข้างนอกเพียงพอสร้างความสะดุดตาแล้ว แต่ข้างในมีความ ลึกลับและโดดเด่นกว่า

“ไม่ทราบว่าคุณ…..จัดเตรียมตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว? ของเหล่า นี้ คุณจัดเตรียมนานแล้วหรอ?” ลั่วหานตรวจดูรายละเอียด ทุกอย่างข้างในอย่างละเอียด ทุกมุมห้องล้วนซ่อนความ เซอร์ไพรส์ต่อเธอเป็นอย่างมาก

สมบูรณ์แบบ ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ!
หลงเซียวกุมมือเธอไว้ แล้วจูงมือเธอเดินมานั่งบนเก้าอี้ จาก นั้นนั่งลงข้างเธอ

“จัดเตรียมมาไม่กี่วันมานี้เอง”

เขายิ้มแย้มอย่างอ่อนโยน และพูดว่า “ผมพลาดนัดไปเที่ยว กับคุณมาโดยตลอด เพิ่งจะมาทำสัญญาวันนี้ ดังนั้นหากมี อะไรขาดตกบกพร่องต้องขออภัยด้วย”

ขออภัยหรอ?

ต้องขออภัยตรงไหนกัน?

ยังไม่ทันเดินทางเลยก็ทำให้เธอรู้สึกตกใจแล้ว

“โอเค เดียวฉันจะค่อยๆขุดคุ้ยข้อผิดพลาดเอง แล้วจะรีบ บอกคุณทันทีเลย” ลั่วหานทำปากมุ้ย และพูดขึ้น

หลงเซียวพูดขึ้นว่า “โอเค ผมพร้อมน้อมรับครับ และพร้อม แก้ไขตลอดเวลาด้วยครับ”

ลั่วหานเม้มริมฝีปากแดงก่ำเล็กน้อย

เธอเคยวาดฝันภาพที่เธอและเขาไปเที่ยวด้วยกันมาก่อน

จะจูงมือกันตลอดทั้งวันเหมือนกับคู่รักทั่วไปดีไหม หรือจะแอบจูบกันระหว่างทางเหมือนคู่รักผู้ใหญ่ หรือว่าก่อนวินาที หนึ่งโต้เถียงกัน วินาทีต่อมากลายเป็นศัตรูกันแล้ว

หรือจะแบบเดินเที่ยวเล่นข้างนอก และชี้ทิวทัศน์ที่สวยที่สุด ที่ตัวเองเห็นให้เขาดู จากนั้นฝ่ายตรงข้ามก็หันหน้ามองตัวเอง ด้วยสายตาภาคภูมิใจ

แต่ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดฝันแบบไหน ลั่วหานล้วนคาดเดา หมดแล้ว และรู้ด้วยว่าการเที่ยวครั้งนี้ของพวกเขาจะเริ่ม ต้นแบบนี้

ถึงแม้จะเป็นภาพวาดฝัน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าจะดีขนาดนี้

ตอนที่เครื่องบินทะยานขึ้นระดับความสูงหมื่นเมตรนั้น ปีก ของเครื่องบินก็เสียดสีกับก้อนเมฆ ฝูงก้อนเมฆลอยอยู่เบื้อง หน้า โดยทุกก้อนโบยบินอย่างมีความสุข

ลั่วหานกลั้นยิ้มไม่ได้ “ทำไมถึงนึกอยากเที่ยวล่ะ? ฉันจำได้ว่า คุณเป็นพวกบ้างาน”

หลงเซียวเปิดตู้ไวน์ และหยิบไวน์องุ่นระดับแอลกอฮอล์ต่ำ ขวดหนึ่งออกมา จากนั้นก็เทไวน์ลงแก้วไวน์คริสตัล

“พักผ่อนเพื่อเก็บเรี่ยวแรงทำงาน แต่สิ่งที่พวกเราคิดตอนนี้ ไม่ใช่สิ่งเหล่านั้น ในระหว่างการเดินทางต้องเก็บโทรศัพท์ ปิด การติดต่อสื่อสาร โทรทัศน์ และอยู่นิ่งๆกันดู” เขายื่นแก้วไวน์ ใบหนึ่งให้กับเธอ “เป็นไวน์ที่ผมให้นักปรุงไวน์ของประเทศฝรั่งเศสรังสรรค์โดยเฉพาะ รสชาติเลิศมาก ระดับ แอลกอฮอล์ ด้วย คุณอยากลองชิมไหม?”

ลั่วหานเหลือบมองขวดไวน์องุ่นแวบหนึ่ง และไม่เห็นป้าย สินค้า แต่เมื่อมองดูการออกแบบของขวดไวน์ก็รับรู้เลยว่า ราคาไม่ธรรมดาแน่นอน แต่ในสายตาของหลงเซียวแล้ว ราคา เป็นแค่ตัวเลขเท่านั้น!

แต่สําหรับเธอ เบื้องหลังตัวเลขเป็นความรักที่จริงใจ

ลั่วหานจิบไวน์แดงหนึ่งคำ และพบว่ารสชาติเลิศมาก อีก อย่างสัมผัสลิ้นรู้สึกสบายมากด้วย “ไวน์เลิศ! สมกับเป็น รสนิยมของคุณจริงๆ ”

“ไม่ใช่รสนิยมของผม แต่เป็นรสชาติที่คุณชื่นชอบ คุณลอง ชิมดูอีกสิ”

“จริงหรอ?”

ลั่วหานจิบอีกคำ พร้อมกับสัมผัสรสชาติบนลิ้น คิดไม่ถึงว่าจะ มีกลิ่นดอกพุดซ้อนจางๆด้วย แต่ดอกพุดซ้อนไม่สามารถกินได้

“ไม่ทราบว่าใส่ดอกพุดซ้อนลงไปด้วยหรอ?” ลั่วหานดมอย่าง ละเอียด

หลงเซียวคลี่ปากยิ้มด้วยความพึงพอใจ “ครับ เป็นดอกพุดซ้อน พวกเราใช้เวลาเกือบห้าปีในการทำการวิจัยเอาเกสรดอก พุดซ้อนที่สามารถกินได้มาผสมกับไวน์ รสชาติแรกจะเป็นก ลิ่นองุ่น และรสชาติสุดท้ายจะเป็นกลิ่นดอกพุดซ้อน อีกอย่าง ตอนได้ยินมาว่า ตอนสะอึกจะมีกลิ่นดอกพุดซ้อนฟุ้งกระจาย ออกมาด้วย อันนี้ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ”

ลั่วหานคิดว่าเขาพูดไร้สาระ “เป็นไปไม่ได้ ในฐานะหมอ หาก พูดในมุมทางการแพทย์แล้ว กลิ่นดอกไม้ไม่สามารถแต่งเติม ในไวน์ได้ เพราะจะทำลายรสชาติหวานดั้งเดิมของไวน์ แถม ยังเปลี่ยนปฏิกิริยาทางเคมีเป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย”

หลงเซียวอมยิ้มกับสิ่งที่เธอวิเคราะห์อย่างเชี่ยวชาญ “ดังนั้น คุณกำลังหมายความว่า ในไวน์มีสารที่อันตรายต่อร่างกาย หรอ?”

ลั่วหานอมยิ้ม “ฉันไม่ได้อยากทำลายบรรยากาศ แต่….ใช่

หลงเซียวพยักหน้าเล็กน้อย และยื่นมือหยิบแก้วไวน์ของเธอ แล้วดื่มไวน์ในแก้วทั้งหมด จากนั้นก็โน้มตัวหาเธอ และจูบบน ริมฝีปากของเธอ พร้อมกับปล่อยไวน์ที่อยู่ในปากใส่ปากของ เธออย่างช้าๆ

“อืม….”

ในปากของลั่วหานเต็มไปด้วยความหวานของรสชาติแอลกอฮอลล์ เธอลืมตาขึ้น จากนั้นก็เบิกตากว้างสุดๆ

หลงเซียวเอาไวน์ป้อนใส่ในปากของเธอทั้งหมด ก่อนปล่อย ตัวเธอ “ดื่มอย่างสบายใจเถอะ ผมได้ทำการฆ่าเชื้อแล้ว”

ลั่วหานกลืนหนึ่งคำด้วยความขืนข่ม

“คุณนี่….ป่าเถื่อนจริงๆ”

“ใช่ ผมป่าเถื่อน”

“เห่อ! ยังกล้ายอมรับอีกหรอ?”

“แน่นอน ผมรับปากคุณแล้ว ผมจะแก้ไขให้ตลอดเวลา”

ล้วหานแค่นเสียงหัวเราะประชดขึ้น

มีคนพูดว่า ผู้ชายเหมือนกับหนังสือ ผู้ชายหล่อเหลาคือ หนังสือปกสวย มักจะสะดุดตาผู้คน แต่ผู้ชายที่สุขุมเหมือนกับ หนังสือคลาสสิก มีเรื่องราวใหม่ๆน่าตื่นเต้นตลอดเวลา

ส่วนหลงเซียว เขาเหมือนกับพระคัมภีร์ไบเบิลที่มีความลึกลับ และสติปัญญา ทุกหน้าล้วนแฝงเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ไม่อาจ คาดเดาได้ ตอนแรกอ่านอาจจะทำความเข้าใจยาก แต่เมื่อ อ่านอย่างละเอียดจะพบว่าทุกคำและทุกประโยคแฝงด้วย เนื้อหาที่กินใจ
ซึ่งนี่เป็นหนังสือที่เธอต้องวิจัยตลอดชีวิต

เครื่องบินยังคงโผบิน สถานีแรกของพวกเขาคือแคนาดาเรื่อง ราวของใบต้นเมเปิ้ล

“ทําไมถึงไปที่นี่ก่อน?” ลั่วหานไม่เคยบอกกับเธอเลยว่า ตัว เองชื่นชอบสวนต้นเมเปิ้ล อันที่จริงเธอเคยไปแคนาดามา หลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะรัฐโทรอนโต

เมื่อก่อนเพราะชอบใบต้นเมเปิ้ลมาก ทุกครั้งที่ถึงเวลาที่ใบไม้ สีแดงร่วงหล่นเธอจะไปดูตลอด

หลงเซียวยื่นมือปิดดวงตาของเธอ พร้อมเตือนให้เธอนอน หลับพักผ่อน “ตอนที่กินข้าวครั้งก่อน ผมจําสายตาที่คุณมอง ใบต้นเมเปิ้ล ถ้าหากทุกเรื่องต้องให้คุณบอกผมถึงจะรู้ ผมคง ล้มเหลวในการทําหน้าที่ของสามี?”

ลั่วหานปิดตาทั้งสองข้าง ขนเรียวยาวเสียดสีกับฝ่ามือของ เขาเล็กน้อย “เป็นเพราะอย่างนี้หรอ?”

“ยังต้องการเหตุผลมากกว่านี้หรอ?”

ใช่สิ แต่ไม่ต้องการแล้ว ถึงแม้เธออยากบอกว่า หนังสือที่เธอ เคยดูเมื่อก่อน อันที่จริงแล้วนางเอกกับพระเอกไปฮันนีมูนกันที่ แคนาดา ดังนั้นสําหรับเธอแล้ว ที่นี่มีความหมายที่แตกต่าง
หลังจากเดินทางระยะไกลทางเครื่องบินเสร็จ พวกเขาก็มาถึง

เมืองมอนทรีออลที่มีฉายาว่า “เมืองปารีสขนาดเล็ก”

มนต์เสน่ห์ของที่นี่ทำให้พวกเขาหล่อหลอมท้องฟ้าทะเลสี เขียวครามธรรมชาติ

พวกเขาไปเดินชมโบสถ์ St.Joseph’s Oratory แล้วกิน เบคอน เบเกิล จากนั้นก็เดินจูงมือกันชมใบต้นเมเปิ้ลร่วงหล่น

“หลงเซียว คุณช่างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเอาใจผู้หญิง ไม่ว่า ผู้หญิงคนไหนก็ล้วนพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์เงินตราของคุณ” เธอพูด หยอกเขาด้วยท่าทางมีความสุข

หลงเซียวหันหน้ามองเธอ และยื่นมือชี้ตรงหัวใจของตัวเอง “คุณไม่เหมือน ผมใช้ตรงนี้แลกกับคุณ”

“ไม่เพียงมีความเชี่ยวชาญด้านเอาใจผู้หญิงแล้ว ยังมีความ เชี่ยวชาญด้านพูดหว่านล้อมด้วย คุณนี่ราชาปีศาจตัวจริง เสียงจริงเลย!”

หลงเซียวดึงเธอเข้ามาโอบกอด และยิ้มอย่างเอ็นดู “ใช่ ผม เป็นราชาปีศาจ ส่วนคุณคือซาตาน”

“ฮ่าฮ่า! มีการเปรียบเทียบแบบนี้ด้วยหรอ?”

“ฮ่าฮ่าผมเปรียบเทียบแล้วไม่ใช่หรอ?”
หลังจากไปจากเมืองมอนทรีออล พวกเขาก็ไปกรุงเวนิส พวก เขาล่องเรือ “กอนโดลา” และจ้องมองเงาสะท้อนที่กลับหัวบน ผิวนํ้าต่อกัน จากนั้นก็จูบกันอย่างเร่าร้อน

หลังจากไปจากกรุงเวนิส พวกเขาก็ไปดำน้ำที่ประเทศ ฮอนดูรัส พวกเขาสวมชุดดำน้ำจูงมือ และโอบกอดกันอย่าง อบอุ่นใต้ผิวน้ำ

จากนั้นก็ไป Sri Lanka ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่ ฮันนีมูนที่ดีที่สุดในประเทศโคลอมเบีย แล้วต่อด้วยแคว้นโพร วองซ์ Te Waipounamu ที่ตอนใต้ของประเทศนิวซีแลนด์.……

เครื่องบินส่วนตัวพาหัวใจสองดวงที่ห่อหุ้มด้วยความรักบิน ผ่านก้อนเมฆ ซึ่งกลางอากาศมีเพียงเส้นทางแห่งความรักของ พวกเขา

ครึ่งเดือนต่อมา

พวกเขาเดินทางมาถึงรัฐลาสเวกัส

ตลอดครึ่งเดือนมายังไม่มีใครมารบกวนเลย พวกเขาทอดทิ้ง โลกเก่า และดำดิ่งลงสู่โลกที่ใหญ่กว่าเดิม

ลั่วหานจากความรู้สึกที่ตื่นเต้นมีความสุขค่อยๆเปลี่ยนเป็น ความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะครึ่งเดือนมานี้หลงเซียวไม่ ติดต่อกับบริษัทเลยสักครั้งเดียว และไม่สนใจข่าวเศรษฐกิจอีกทั้งยังไม่รับสายจากกู้เยนเชินกับจี้ตงหมิงด้วย

นี่…มันไม่ปกติเลย!

หลังจากเข้าพักโรงแรมฮิลตัน ตอนกลางคืน ลั่วหานก็ทนไม่ ไหว เธอรับปากกับเขาแล้วว่าจะไม่เปิดโทรทัศน์ดูข่าว แต่เธอ รู้สึกมีลางสังหรณ์ลางๆว่าในเมืองหลวงเกิดเรื่องขึ้น

ลั่วหานกัดริมฝีปาก และฉวยโอกาสตอนที่หลงเซียวอาบน้ำ เปิดโทรทัศน์

เธอเพิ่งหาช่องข่าวเศรษฐกิจเจอ ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ลั่วลั่ว พวกเราสัญญาอะไรกัน? ไม่สามารถสนใจเรื่องข้าง นอก อย่าให้ใครสามารถรบกวนอารมณ์การเที่ยวของคุณ

หลงเซียวคลุมผ้าขนหนูยืนพิงข้างประตูห้องน้ำ โดยที่บนตัว มีเม็ดนํ้าเต็มไปหมด และเม็ดน้ำยังไหลลงมาบนกล้ามเนื้อที่ ชัดเจนของเขาด้วย

ลั่วหานพยายามฝืนใจตัวเองไม่มอง “แต่ผ่านมานานแล้วนะ ค่ะ คุณไม่กังวล MBK กับบริษัทฉู่ซื่อสักนิดเลยหรอ?”

หลงเซียวเดินมาแย่งรีโมทจากในมือของเธอ แล้วกดปิด โทรทัศน์ “ที่รัก ถ้าหากคุณไม่เชื่อฟัง แล้วจุดหมายต่อไปของ พวกเราที่จะไปทะเลทรายทวีปแอฟริกาจะเป็นยังไง?”
“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมจู่ๆถึงหาย หรือ ว่า บริษัทเกิดเรื่องขึ้น?” ลั่วหานจับแขนของเขาไว้ พร้อมจ้อง มองเขา และพยายามมองหาคำตอบในดวงตาของเขา แต่เขา ปกปิดได้ดีมากมองไม่เห็นอะไรเลย

หลงเชียวหยิกแก้มของเธอ “อดทนก่อน ผมจะพาคุณไปเที่ยว ก่อน”

ลัวการจับมือของเขาไม่ยอมให้เขาอาบน้ำ “ยิ่งคุณไม่ยอม บอก ฉันยิ่งเป็นห่วง ฉันอยากฟังความจริง ถ้าคุณไม่บอก ฉัน จะไม่ไปไหนแล้ว ฉันจะกลับประเทศ”

เธอนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางเด็ดเดี่ยว พร้อมกับปากมุ้ย เหมือนเด็กผู้หญิงกำลังงอนเขาอยู่

หลงเซียวเห็นสภาพเธอแบบนี้รู้สึกขำ และพูดว่า “อยากรู้

จริงๆหรอ?”

“ใช่ ฉันอยากรู้ ผมซ่อนความลับไว้เยอะมาก ผมอยากแบ่งปัน ให้กับคุณ แต่ผมกลัวคุณรู้ไส้รูพุงผมหมด”

“ฮ่าฮ่า! โอเค! ผมจะบอกคุณ” เขานวดคิ้วที่ขมวดของเธอ เบาๆ “ช่วงเวลาที่พวกเราไปจากเมืองหลวง MBK กำลังเผชิญ กับวิกฤติที่อันตรายที่สุด อีกอย่างนอกจากผมแล้วไม่มีใคร สามารถแก้ปัญหาได้

เขาตอบด้วยสายตาเหม่อลอย เหมือนกับไม่สนใจเรื่องนี้เลย

ลั่วหานรีบพูดขึ้นว่า “ร้ายแรงขนาดนี้เลยหรอ? พวกเรารีบ กลับประเทศกันเถอะ! รีบกลับไปจัดการ!”

“ที่รักจะรีบร้อนทำไมกัน? ตอนนี้คนที่ต้องรีบร้อนไม่ใช่ผม แต่ เป็นคนเหล่านั้น โอเค งั้นผมไปอาบน้ำต่อล่ะ”

หลงเซียวลุกขึ้นยืน แต่มือถูกจับไว้

“ที่รัก MBK เป็นบริษัทของตระกูลหลง คุณคงทนดูมันพัง พินาศไม่ได้หรอกใช่ไหม?” ลั่วหานแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย นับ ตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินจนเดินทางมาครึ่งเดือน

“ภรรยาของผมฉลาดหลักแหลมจริงๆ มันคือบริษัทตระกูล หลง ผมจะทนดูมันพังพินาศได้ยังไงกัน ดังนั้น…..ที่รักมาอาบ น้ำด้วยกันไหม เดียวผมอาบน้ำพลาง บอกเหตุผลพลาง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ