ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 337 หลอกลวงหลงยี่ หลงเซียวปกป้องภรรยา



ตอนที่ 337 หลอกลวงหลงยี่ หลงเซียวปกป้องภรรยา

ตอนที่ 337 หลอกลวงหลงยี่ หลงเซียวปกป้องภรรยา

อาหารเสฉวนเหรอ?

พอได้ยินคำว่าอาหารเสฉวนหลงจื้อก็ได้ขำออกมา แล้วยิ่งมา ได้ยินว่าหลงยี่บังคับให้ลั่วหานกินมันคนเดียว หลงจื้อก็ไม่ยอมนิ่ง เฉยแล้ว

เขาค่อยๆ เดินไปข้างๆ ของหลง หลงจื้อแล้วพูดออกมาว่า “พี่ครับ พี่ทำอย่างนี้ผมว่ามันไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ? ผมเอง ก็ชอบกินอาหารเสฉวนเหมือนกันนะ ถ้าพี่ให้พี่สะใภ้กินหมด แล้ว ผมจะกินอะไรหล่ะครับ?”

หลงยี่หายใจหนักหน่วง “เสี่ยวจื้อ แกอย่ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง นี่มัน เป็นเรื่องของฉันกับเธอคนนี้

“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งแล้วครับพี่ชาย ตอน นี้พี่ชายไม่อยู่บ้าน คนเป็นน้องชายอย่างผมก็จำเป็นต้องอยู่เคียง ข้างพี่สะใภ้สิครับ ถ้าพี่ อยู่ร่วมกับพี่สะใภ้ไม่ได้ งั้นพี่ก็อยู่ร่วมกับ ผมไม่ได้เหมือนกันครับ” หลงจื้อเด็ดองุ่นออกมาลูกหนึ่งแล้วโยน เข้าปากไป ยิ้มอย่างกวนๆ และจริงจัง

พอลั่วหานเห็นว่าหลงจื่อออกตัวปกป้องตัวเองขนาดนี้ เธอก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที แต่เธอก็ไม่อยากทำให้หลงจื้อกับหลงยี่เกิด การบาดหมางกัน หลังจื้อใสซื่อเกินไป ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงยี่ ให้เขาทําตัวเป็นกลางน่าจะดีกว่า

“ที่พี่พูดมามันก็มีเหตุผลเหมือนกัน อีกอย่างฉันเป็นคนขอให้พี่ สะใภ้ทำอาหารเสฉวนเอง ฉันจึงต้องรับผิดชอบในการกินมันให้ หมดอยู่แล้วค่ะ” เธอพูดออกมาอย่างเรียบๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจใน สิ่งที่พูดออกมาเลย

หลงจื้อกระตุกแขนเสื้อของลั่วหาน “พี่สะใภ้ครับ พี่จะบ้าเหรอ? นั้นมันพริกแดงนะ ถ้าพี่กินหมดมีหวังตายแน่

แล้วลั่วหานก็ยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเลศนัย “มีอะไร ให้กลัว? คิดว่าเรื่องแค่นี้พี่จะจัดการไม่ได้เลยเหรอ?”

หลงถึงพูดเสริมขึ้นมาอย่างเบื่อหน่าย ไม่มีใครแย่งเธอกิน หรอก เชิญกินไปคนเดียวเลย

หยวนชูเฟินรู้สึกไม่สบายใจจึงได้เตือนสติลั่วหานไปว่า “อย่า ทำให้ตัวเองหมดทางเลือกอย่างนั้นสิ แค่ยอมรับผิดมันก็ไม่ เป็นไรแล้ว นี่หนูตั้งใจจะกินพริกทั้งหมดนั้นเข้าไปจริงๆ เหรอ?”

“ที่แม่พูดมามันก็ถูก แต่ตอนนี้ต่อให้ขอโทษก็คงไม่ทันแล้ว”
ในขณะที่ทางนี้กำลังขัดแย้งกันอยู่ อาหารจานแรกก็ถูกยกออก มาจากห้องครัวแล้ว

ไก่ผัดพริกที่กลิ่นแรงมาก พออาหารมาถึงกลิ่นของมันก็ทำให้ ทุกคนในห้องอาหารต่างพากันแสบคอไปหมดแล้ว หลงถึงกับ คนอื่นๆ ต่างก็เอามืออุดจมูกเอาไว้ แล้วมองหน้าจั่วหานอย่าง เคียดแค้น

หลงจื้อหยิบตะเกียบขึ้นมา “พี่สะใภ้ครับ ไก่ผัดพริกที่อร่อยขนาด นี้ อย่ามาแย่งผมกินนะ ผมอยากกินเยอะๆ เลย!

พูดว่าจะกินเยอะๆ ตะเกียบของหลงจื้อก็แทงลงไปในทันที มอง ดูกองพริกที่แดงแจ๋ คิ้วของเขายังไม่ขยับเลยสักนิด

ล้วหานเอามือมาขวางไว้ “เสี่ยวจื้อ ถึงอาหารจะดี แต่ถ้าพี่สะใภ้ เกิดใส่เครื่องปรุงผิดขึ้นมาพอกินเข้าไปแล้วเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เธอไม่กลัวหรือไง?

“ไอ้หยา จริงด้วย! ผมเกือบลืมไปแหนะ พี่เขาเป็นถึงนายหญิงผู้ สูงส่งที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย จึงเป็นไปได้ยากว่าจะไม่ผิดพลาด

หลงยี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับหน้าซีด “พูดอะไรเพ้อเจ้อ! เช่นเช่น อุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจทำอาหารเหล่านี้ให้เธอ แต่เธอกลับมาพูดจา ใจจืดใจดำแบบนี้ได้ยังไง!
ล้วหานคําออกมา “พี่คะ ฉันเคยถูกคนแกล้งจนอกสั่นขวัญหาย มันก็เป็นธรรมดาที่ฉันต้องระวังตัวอยู่แล้วสิคะ ใครกล้ารับประกัน หล่ะคะว่าอาหารนี้มันจะปลอดภัยจริงๆ ใช่ไหม? หรือพี่ทำได้?

“มันก็ต้องได้อยู่แล้วสิ!

“หือ? พี่เอาอะไรมายืนยันเหรอคะ? หรือพี่เคยกิน?”

“ไม่เคยกิน! แต่ฉันจะยืนยันให้เห็นเดี๋ยวนี้! ลั่วหาน เธอเพิ่งตาดู ซะ!”

“ได้ค่ะ ฉันกำลังดูอยู่เลย”

หลงยี่ทิ่มตะเกียบลงไปแล้วก็คีบไก่ผัดพริกชิ้นใหญ่ขึ้นมา ป้อน เข้าปากไปแล้วเคี้ยวอย่างจริงๆ จังๆ รสชาติที่เผ็ดร้อนสุดขีดของ พริกวิ่งทะลุผ่านเข้าไปในกระเพาะ หลงเผ็ดจนเหงื่อออกท่วมตัว ไปหมด

เพื่อต้องการแก้เผ็ดลั่วหาน เห็นได้ชัดว่าโจวหยู่เช่นตั้งใจเพิ่ม พริกเข้าไปมากกว่าปกติหลายเท่านัก คำเดียวที่กินเข้าไปทำให้ กระเพาะของหลงแสบร้อนจนตาแดงไปหมด

เสียงซี้ดๆ ซาดๆ ถูกส่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไร!”

หลงจื้อขำจนท้องแข็ง “พี่ครับ อร่อยไหมครับ? อาหารที่พี่สะใภ้ ลงมือทําครัวด้วยตัวเอง รสชาติเป็นยังไงบ้างครับ?

“มันก็ต้องอร่อยอยู่แล้ว! อาหารของเช่นเช่นอร่อยมาโดย ตลอด!”

“ถ้าอร่อยขนาดนั้นแล้วทำไมพี่กินแค่คำเดียวแล้วไม่กินต่อแล้ว หล่ะครับ? อย่าใส่ใจกับสิ่งที่ผมพูดเลยครับ พี่สะใภ้เขาอุตส่าห์ ตั้งใจทำมาให้ ผมกินน้อยลงหน่อยก็ได้ครับไม่เป็นไร พี่อย่าฝืนใจ ตัวเองเลยนะครับ กินเยอะๆ กินเยอะๆ

ว่าแล้ว อาหารจานที่สองก็กำลังถูกยกออกมา ปลาราดพริกสี แดงแจ๊ด มองไปเห็นแต่สีแดงเต็มไปหมด แค่เห็นก็แสบตาแล้ว

“พี่คะ อาหารจานนี้ ฉันดูแล้ว……….ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่นะ คะ”

“ฉู่ลั่วหานเธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่!
“พี่ไม่ลองชิมดูก่อนเหรอคะ? ฉันไม่ไว้ใจ กลัวว่ากินเข้าไปแล้ว

หลงเผ็ดจนปากแดงปากเจ่อแล้ว กัดฟันแล้วพูดไปว่า “คอยดู

ไว้นะ!”

พูดจบตะเกียบก็ทิ่มลงไปอีกรอบ เสียงเคี้ยวของเขาดังจนทำให้ คนที่รอดูเหตุการณ์ทั้งหลายถึงกับกุมขมับ

เห็นได้ชัดว่าหลงยี่ถูกลั่วหานแก้เผ็ดแล้ว!

อาหารจานที่สามมาอีกแล้ว มีอาหารอยู่ด้วยกันทั้งหมดหกอย่าง บนโต๊ะถูกปูด้วยพรมด้วยสีแดงเต็มไปหมด มองผ่านๆ ก็สวยงาม ดี!

อาหารทุกจานค่อยๆ ถูกหลงชิมจนครบ ปากของเขาบวมจน กลายเป็นไส้กรอกแล้ว เสียงซี้ดๆ ซาดๆ ดังอยู่ตลอด เขากัดฟัน อย่างเคียดแค้น “อาหารทุกอย่างไม่มีปัญหาแล้ว! น้องสะใภ้เชิญ ทานได้

โจวหยู่เช่นที่เพิ่งทำอาหารเสร็จก็ได้เดินออกมาจากห้องครัว พอ เห็นสามีที่ปากบวมเป่งแต่ลั่วหานกลับไม่เป็นอะไรเลย เธอจึงรีบ ไปตักน้ำมาให้เขา “คุณคะทำไมคุณถึงกินมันเข้าไปหล่ะคะ!”
หลงถวิลสะบัดมือ “ช่างน่าขายหน้าจริงๆ! ยังไม่รีบจัดการอีก!”

หลงเซิ่งที่เห็นลูกชายถูกลั่วหานจัดการไปแล้ว ก็ยิ่งโกรธเข้าไป ใหญ่ “หลงยี่! วางตะเกียบลงเดี๋ยวนี้!”

“โอ๊ย……………….…….. หลงเอามือกุมท้องแล้วร้องโอด ครวญออกมา น้ำตาไหลนองเต็มหน้า หลังจากกินไปหลายคำ คน ที่ปกติไม่ค่อยจะกินเผ็ดอย่างหลงจะไปทนไหวได้ยังไง ทั้งเผ็ด ทั้งแสบ ในกระเพาะตอนนี้คงกำลังปั่นป่วนไปหมดแล้ว

หลงเซิ่งเห็นอาการของลูกชายไม่สู้ดี จึงไม่สนใจอะไรรีบตะโกน ขึ้นว่า “รีบไปตามหมอเร็ว!

ลั่วหานเดินขำเข้าไปอย่างช้าๆ “คุณลุงคะ ฉันไงคะหมอ ไม่ต้อง

ไปตามแล้ว”

กับการรักษาให้หลง ลั่วหานก็ได้จ่ายยาและพูดอย่างจริงจังว่า “พวกนี้คือยารักษากระเพาะ ลดอาการอักเสบของลำไส้แต่ว่าโรค กระเพาะนั้นไม่ควรทานยาในปริมาณมากๆ ถึงฤทธิ์จะน้อย แต่ผล ข้างเคียงก็น้อย พี่ทานไปก่อนสองเม็ด แล้วตอนสี่ทุ่มค่อยตามอีก สองเม็ดนะคะ”

หลงยี่ปวดจนจะร้องหาแม่แล้ว จะเอาสติที่ไหนมาแยกแยะอีก รีบเทน้ำเร็วเข้า เอายามาเดี๋ยวนี้”

ในที่สุดสงครามห้องอาหารก็สิ้นสุดลง อาหารจากห้องครัวก็ถูก ยกออกมาหมดแล้ว

ล้วหานพูดขึ้น “คุณลุงคะ พี่สะใภ้ อาการปวดท้องของพี่ชายนั้น อาจจะทรุดลงได้ตลอด ถ้าหากฉันกินอาหารบนโต๊ะเข้าไปแล้ว เกิดอาการของพี่เขา

หลงเซิ่งกัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยว “บัดซบ! เก็บอาหารพวกนี้ไปให้ หมด!”

ล้วหานแอบขาอยู่ในใจ

วันนี้เธอกินอาหารเย็นอย่างมีความสุข ลั่วหานอารมณ์ดีเป็น อย่างมาก

หลังอาหารเย็นหลงจื้อก็ถามลั่วหานไปด้วยหัวใจที่เต้นตุบตับๆ เพราะความกลัว “พี่สะใภ้ครับ พี่นี่ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ เลย พี่ชาย เขาหน้าเสียหมดเลยนะครับ”

“เป็นห่วงเหรอ?”

“ไม่ๆ ผมจะไปเป็นห่วงเขาทำไม! แต่ว่าพี่ครับ ทำไมพี่ถึงมียาติดตัวอยู่พอดีเหรอครับ?” หลงจื้อถามไปด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์

วนานยิ้มออกมาอย่างสุขุม “ยา…..ใช่มันคือยา แต่ไม่ใช่ยา รักษา พอๆ ไปพักผ่อนได้แล้ว”

“ไม่ใช่ยารักษาเหรอครับ? ผมรู้แล้ว! พี่ครับ ยาที่พี่ให้ไปคงไม่ใช่ ยาถ่ายใช่ไหมครับ?

หลงจื้อฮีๆ ฮี ขำออกมาอย่างมีความสุข

ล้วหานไม่ได้ตอบ “ยังไม่ไปนอนอีก! หรือเธออยากกินพริก

ไง?”

“ฮาๆ ฮา! ผมไม่เอาด้วยหรอก! ไปนอนละครับ!”

ในกลางดึกคืนนั้น ล้วหานนอนอยู่บนเตียง เพราะเตียงใหญ่เกิน ไปเลยทำให้อ้างว้าง ถ้าจะบอกว่าไม่ถูกการกระทำที่ดุเดือดของ สองคนนั้นรบกวนจิตใจนั้นมันไม่จริงเลย และในตอนนี้ยิ่งทำให้ เธอคิดถึงเขามากยิ่งขึ้นไปอีกแล้ว คิดถึงลมหายใจของเขา อ้อม กอดของเขา ทุกอย่างที่เป็นเขา

ในคนที่สอง……
ยังดีที่คืนนี้ไปมีคนมาแสดงละครเวทีที่ดุเดือดแล้ว

เธอดึงหมอนมากอดไว้ในอก ลั่วหานค่อยๆ แย้มปากขึ้น

จู่ๆ ชั้นบนก็มีเสียงเท้าที่เร่งรีบดังขึ้น จากนั้นก็คือเสียงเปิดปิด

ประตู

ลั่วหานมองขึ้นไปข้างบน ยาที่กินไปออกฤทธิ์เร็วดีนะ!

ดูท่าวันนี้หลงคงจะปีนขึ้นเตียงไม่ไหวแล้วหล่ะ

สหรัฐในเวลาเดียวกัน

หลงเซียวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างหน้าต่างที่มีแสงแดดสอง ผ่านเข้ามา มือถือก็ดังขึ้น

“พี่ครับ ผมมีอภิมหาข่าวดีจะมาเล่าให้พี่ฟังครับ รับรองเลยว่ารู้ แล้วพี่

หลงจื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างสองวันนี้ในบ้านตระกูลหลง ให้หลงเซียวฟังอย่างละเอียดยิบด้วยความกระตือรือร้น แล้วยัง ปิดท้ายไปอีกคำว่า “พี่สะใภ้เท่รึเปล่าครับ? วันนี้ตอนที่พี่สะใภ้ให้พี่ชาย กินพริกเข้าไปนั้นเธอดูเท่มากเลยนะครับ!

หลงเซียวยกกาแฟขึ้นมาจิบ ยิ้มออกมาอย่างสุขุม “เมียของฉันก็ ต้องเท่อยู่แล้วสิ

บนหน้าจอมือถือ หลงจื่อส่งรูปภาพที่แสนจะคุ้นเคยมาให้ ลั่วหา นดูทำทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย ตลอดการปฏิบัติการช่างดูสบาย ผ่อนคลายเหลือเกิน

รูปถ่ายแต่ละใบถูกเลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ หลงเซียวมองดูใบ หน้าของลั่วหานที่แสนดูดีที่อยู่ในรูป แววตาแสดงความรักใคร่ ออกมา

แล้วทันใดนั้นรอยยิ้มนั้นก็ได้หายสาบสูญไปเปลี่ยนเป็นแววตาที่ แสนโหดเหี้ยม

หลงยี่กับโจวหยู่เช่นชักจะใจกล้าเกินไปแล้ว กล้ารังแกลั่วหานอ ย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้

อยากตายสินะ!

พอเขาไม่อยู่ พวกมันก็ได้ใจกันขนาดนี้เลยเหรอ ฮึ!

หลงเซียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดไปที่เบอร์ของตงหมิง

“นายครับ ทางอเมริกามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?

“ไม่ใช่ที่อเมริกาแต่เป็นที่บ้าน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้อนไป คุณช่วย ไปรับส่งนายหญิงให้ทีนะ

“ได้ครับ”

“อีกอย่าง ตอนที่ไปช่วยเอาดอกไม้ไปด้วยช่อหนึ่ง

“ได้ครับ นายยังมีอะไรให้รับใช้อีกไหมครับ?”

“หลงเซียวขมวดคิ้ว “ซื้อเตียงไปให้หลงขี่หลังหนึ่ง แล้วบอกเขา ว่าอย่ารบกวนการพักผ่อนของภรรยาของฉัน”

สองเรื่องแรกจี้ตงหมิงยังพอรับได้ แต่เรื่องสุดท้ายนี่สิ นี่เขา คิดมากไป? หรือเขาคิดมากไปจริงๆ นะ

“ได้ครับนาย

หลงเซียวใช้นิ้วเคาะโต๊ะรัวๆ “ซื้อหนังสือพิมพ์ร้อยกิโลไปให้โจ วหยู่เช่นด้วย บอกเธอว่าถ้าว่างนักก็ให้ฉีกหนังสือพิมพ์เล่นแล้ว กัน บอกไปอย่างนี้เธอก็จะเข้าใจความหมายของผมเอง
จี้ตงหมิงรู้สึกว่ายิ่งฟังยิ่งประหลาดเข้าไปทุกทีเนี่ย? นี่เจ้านายสั่ง ให้ซื้อแต่อะไรวะเนี่ย?

“ได้ครับนาย

พอหลงเซียวสั่งงานเสร็จก็มองดูเวลา

ได้เวลาออกไปเจอหน้าอาจารย์คนนั้นของถั่วคั่วแล้ว

โรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์สีดำคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้านพักตาก อากาศที่อยู่ชานเมือง

เห็นแล้วรู้สึกที่นี่ช่างคล้ายกับบ้านที่ลั่วหานเคยชวนเขาไปดูเลย แต่มันเป็นแค่เป็นขนาดที่ขยายขึ้นเท่านั้นเอง

มันถูกสร้างจากไม้ล้วน มีสวนดอกไม้เล็กๆ ในสวนมีแต่สมุนไพร ที่ถูกปลูกไว้ รอบๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพร

หลงเซียวก้าวเท้าลงมาจากรถ ชุดสูทที่สมส่วนของเขายิ่งเสริม ราศีของเขามากยิ่งขึ้นไปอีก ขายาวๆ ของเขาก้าวขึ้นบันไดหินไป สมุนไพรที่เจริญงอกงามอยู่สองข้างทางแทงขากางเกงของเขา เป็นระยะๆ ชุดสูทสีดำดูโดดเด่นท่ามกลางดอกไม้ใบหญ้าหลากสี สภาพอากาศในชานเมืองช่างทำให้คนรู้สึกสดชื่นแจ่มใสเหลือเกิน

ลานหน้าบ้านค่อนข้างดูเงียบสงบ ที่ลานว่างก็มีสมุนไพรถูกตาก เอาไว้จำนวนมาก ในโพรงจมูกเริ่มมีกลิ่นขมเบาๆ แล้ว

หลงเซียวขมวดคิ้วเบาๆ แค่เห็นการตกแต่งของลานหน้าบ้านก็ รู้แล้วว่าเจ้าของบ้านน่าจะเป็นคนสูงวัยที่ไม่ชอบคลุกคลีกับใคร แน่นอน

เขายื่นมือขึ้นมาเคาะประตูไม้ ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากภายใน หลงเซียวขมวดคิ้ว ไม่อยู่เหรอ?

“มาหาใคร?”

มีเสียงที่ฟังดูเบื่อหน่ายดังขึ้นจากด้านหลัง เป็นเสียงที่แฝงด้วย ความรำคาญแล้วไม่ปลื้ม

หลงเซียวหันกลับไปมองที่เจ้าของเสียง เขาอายุประมาณหก สิบห้าบวกลบ เขาสวมชุดคลุมตัวใหญ่ที่ทำจากผ้าฝ้าย ในมือคีบ บุหรี่เอาไว้ และกำลังดูดบุหรี่อยู่ อีกมือก็ถือกาน้ำชาที่ทำจากดิน เผาเอาไว้ ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าคนๆ นี้เป็นคนที่มีความสามารถคน หนึ่ง
“คุณคือ…..

แพลัง!

หลงเซียวยังไม่ทันพูดจบ กาน้ำชาในมือของชายชราก็หล่น ลงพื้น มันแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำชาที่อยู่ภายในก็กระจัดกระจายไป ทั่วพื้น!

“คุณ……………………เป็นเหรอ? คุณ…นี่ยังมีชีวิตอยู่เห รอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ