ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 414 ลั่วหาน เธอเป็นสะใภ้ที่ดีจริงๆ



ตอนที่ 414 ลั่วหาน เธอเป็นสะใภ้ที่ดีจริงๆ

ตอนที่ 414 ลั่วหาน เธอเป็นสะใภ้ที่ดีจริงๆ

ภายในห้องชุดที่แสนเลิศหรู หลงเชียวนั่งอยู่บนโซฟาอย่าง ใจเย็น ข้างๆ มีกาแฟบลูเมาท์เท่นวางอยู่แก้วหนึ่ง

กลิ่นกาแฟหอมฟุ้งไปทั่วห้อง เขานั่งอยู่ท่ามกลางคว้นสีขาว ดู โดดเด่นเมื่ออยู่ท่ามกลางเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น

นิ้วมือที่เรียวยาวหยิบแก้วกาแฟขึ้นมา จิบไปหนึ่งคํา ค่อยๆ ก้มไปมองหน้าจอโน้ตบุ๊ค แล้วใช้นิ้วสองนิ้วเลื่อนเมาส์เพื่อ จัดแจงข้อมูล

หลายนาทีต่อมา ชายหนุ่มที่สวมชุดเบสบอลสีดำก็ได้เดิน ออกมาจากห้อง เดินยักไหล่มาแล้วหยุดอิงอยู่ที่ขอบประตูจาก นั้นก็นําออกมา แล้วพูดออกมาเหมือนคนขอความดีความชอบ ว่า “นายใหญ่ครับ เก็บลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้วครับครบทั้งสิบ นิ้วเลย”

หลงเซียวเหลือบไปมองเขาทีหนึ่ง “รีบเอาลายนิ้วมือเหล่านั้น มาปลดล็อกเร็ว หลักฐานการทุจริตของเจิ้งเฉิงหลินนั้นอยู่ใน มือของเจิ้งซิน ภายในโน้ตบุ๊คของเธอต้องมีเบาะแสอะไรซ่อน อยู่แน่”

ความรู้สึกที่สามารถควบคุมทุกอย่างไว้ในกำมือนั้นแผ่ซ่าน ออกมาอยู่รอบตัวเขา ทั้งๆ ที่เป็นเพียงท่าทางที่ดูไม่ค่อยใส่ใจ อะไร ทั้งๆ ที่เป็นเพียงคำพูดที่ดูเกียจคร้าน แต่มันก็ทําให้คนที่ได้ยินนั้นอยากจะทําตาม

ชายที่ยืนอิงอยู่หน้าประตูเดินมาอยู่ตรงหน้าเขา แล้วนั่งลงบน โซฟา “นายครับ ก่อนหน้านี้ผมยังถามตัวเองอยู่เลยว่าทำไม ผมถึงต้องเชื่อฟังคำสั่งของคุณ ทำตามทุกอย่างที่คุณสั่งด้วย? ค่าจ้างที่คุณให้ผมก็เหมือนจะไม่เยอะด้วย แต่ตอนนี้ผมก็ได้รู้ แล้วครับ นั่นก็เพราะว่าในตัวของนายท่านนั้นมีราศีของราชา อยู่! มันเหมือนบารมีที่สามารถสั่งให้ทุกคนคุกเข่าลงต่อหน้า ได้”

หลงเซียวหันไปยิ้มให้เขาอย่างใจกว้าง พร้อมกับแววตาที่ดู สูงส่ง “จางหย่ง หลายปีที่คุณติดตามผมมานี้ผมไม่เคยปฏิบัติ อะไรที่มันผิดต่อคุณเลยใช่ไหม? ทำไมอยู่ๆ ถึงมาบ่นเรื่องค่า จ้างกับผมแบบนี้หล่ะ?”

จางหย่งรีบส่ายหน้า แย้มปากขึ้นแล้วยิ้มไป “ไม่ใช่อย่างนั้น อยู่แล้วครับ สิ่งที่ผมนับถือในตัวท่านคือหลักการเป็นมนุษย์ ครับ ส่วนเรื่องเงินนั้น พูดแล้วสัมพันธ์ก็สั่นคลอน!”

จางหย่งนั้นคือหนึ่งในลูกน้องคนสนิทที่ไว้ใจได้ของหลงเซียว ตำแหน่งสูงพอๆ กับจี้ตงหมิง เพียงแต่จี้ตงหมิงเป็นคนที่คอย ทำงานเบื้องหน้าให้หลงเซียว ส่วนจางหย่งนั้น ทุกคนต่างรู้ดี ว่าการทำงานของหลงเซียวจะทำทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังควบคู่ กันไป แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าคนที่ทำงานในเงามืดให้เขานั้นคือ ใคร

หลงเซียวจิบกาแฟ เหมือนรสชาติของกาแฟแก้วนี้ไม่ค่อยดี เท่าไหร่ เพราะคิ้วของเขาขมวดไปทีหนึ่ง “หือ? คุณบอกว่าความสัมพันธ์สั่นคลอนอย่างนั้นเหรอ? ดูท่าต่อไปผมคงไม่ จําเป็นต้องจ่ายค่าจ้างให้คุณอีกแล้วสินะ”

จางหย่งแทบจะทรุดลงมาคุกเข่าจากโซฟาในทันที แม่ง เอ๊ย ทำตัวหัวสูงไปหน่อย “คือว่า…..นายครับ หน้าที่ที่ผมรับ จากคุณมันยากที่จะได้เจอหน้าจริงๆ ของคุณ ผมทำฉายเดี่ยว ส่วนคุณก็ทำตัวเป็นคุณชาย วันนี้อุตส่าห์ได้พบหน้ากันแล้ว คุณช่วยเลี้ยงผมหน่อยได้ไหมครับ? ในเมืองเจียงเฉิงนี้มีบาร์ดี อยู่หลายที่เลย หลากหลายรูปแบบหลากหลายสไตล์”

งานที่จางหย่งได้รับจากหลงเซียวนั้นมักจะต้องออกปฏิบัติ การในตอนกลางคืน เช่นสืบหาหลักฐานการมีชู้ของจ้าวฟาง ฟางการช่วยหลงเซียวหาข้อมูลที่อเมริกา การช่วยหลงเซียว ขโมยลายนิ้วมือของเจิ้งซินเป็นต้น

มันยากนะโว้ย!

หลงเซียวมองไปที่ข้อมือ ตอนนี้ก็ห้าทุ่มครึ่งแล้ว “ไม่ไป ภรรยาที่บ้านสั่งมา รีบนอนรีบตื่น”

จางหย่งถูกหลงเซียวเล่นซะจุกเลย “…..นายครับ……..นาย ช่าง…โอเคครับโอเค เหตุผลนี้ผมยอมรับก็ได้ แต่ว่านายครับ ผมทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จแล้วก็น่าจะมีโบนัสให้ผมอยู่ใช่ไหม ครับ? ผมเองก็ต้องเก็บตังค์แต่งงานเหมือนกันนะครับ”
หลงเซียวเม้มปาก “พูดถึงเงินไม่หยุดแบบนี้ความสัมพันธ์ไม สั่นคลอนแล้วเหรอ?”

จางหย่งเพิ่งยกหินที่ทับขาออกมาได้ แล้วตอนนี้มันก็เด้งกลับ มาหาเขาอีกครั้ง พลังในการทําลายล้างก็หนักอยู่เหมือนกัน “แหะๆ แหะ นายครับ……..หว่างเราไม่มีความสัมพันธ์อะไรให้ สั่นคลอนสักหน่อยครับ แหะๆ แหะ”

หลงเซียวยังคงก้มมองหน้าจออยู่ แววตาเรียบเฉย น้ำเสียง ผ่อนคลาย “ในเมื่อคุณบอกว่าเราไม่มีความสัมพันธ์ให้ต้องเสีย แล้ว แบบนี้ผมยังต้องให้โบนัสคุณอีกเหรอ?”

จางหย่งเป็นชายกล้ามโต อัธยาศัยดี ส่วนด้านไหวพริบนั้น เห็นได้ชัดเลยว่าเทียบกับหลงเซียวไม่ติดเลย ดังนั้นเขาถึงแพ้ ให้กับหลงเซียวไปอย่างง่ายดายเลย เขาหน้าเสียไปเลย เขา เบะปากอย่างแค้นเคือง “ไม่เล่นกับคุณแล้ว โดนคุณเล่นเข้า อีกแล้วเนี้ย!”

หลงเซียวหัวเราะออกมา “พอแล้ว งานนี้จะสำเร็จไม่ได้ถ้า ไม่มีคุณอยู่แล้ว คุณอยู่กับผมมาสิบปีแล้วใช่ไหม? ผมเคยเอา เปรียบคุณด้วยเหรอ?”

“ฮาๆฮา! ใช่ครับ! ผมรู้อยู่แล้วว่านายท่านนั้นปากแข็งแต่ใจดี งั้น….ผมไปก่อนนะครับ แต่จะว่าไป นายครับ เจิ้งซินเองก็ หน้าตาใช้ได้เลยแถมหุ่นก็ดี ยังไงพี่สะใภ้ก็ไม่อยู่ที่เมืองเจียง เฉิงอยู่แล้ว คุณคนเดียวกับค่ำคืนที่ยาวนานแบบนี้ไม่เปล่า เปลี่ยวหัวใจบ้างเหรอครับ? มีสาวสวยนอนอยู่บนเตียงแบบนี้ แล้วคุณรู้อยู่แล้วว่าควรทำยังไงจริงไหมครับ?”
จางหย่งกะพริบตาปริบๆ ยิ้มออกมาอย่างเย้ายวน

หลงเซียวเงยหน้าขึ้นมา ริมฝีปากฉีกออก “ไสหัวไป”

“ฮาๆ งั้นผมไสหัวไปก่อนนะครับ!”

พอคนไปแล้ว นิ้วของหลงเซียวก็แตะอยู่ตรงแก้วกาแฟ สิบปี แล้วสินะ…. เขาช่วย ตงหมิงกับจางหย่งเอาไว้ เรื่องในตอน นั้นยังคงชัดเจนอยู่เลย

ถึงแม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานขนาดนี้แล้วก็ตาม แต่ปัญหาเมื่อ สิบปีก่อนยังไม่คลี่คลายเลย

ดวงตาหรี่ลง หลงเซียวหายใจเข้าลึกๆ มองไปนอกหน้าต่าง แล้วหันกลับไปมองที่ห้องนอน สีหน้าดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เขาหยิบโทรศัพท์ของโรงแรมขึ้นมา “ช่วยเปิดห้องชุดให้ผม ห้องหนึ่งครับ ตอนนี้เลย”

เนื่องจากเท้าของลั่วหานได้รับบาดเจ็บ การผ่าตัดในหลาย วันนี้จึงปล่อยให้คนอื่นทำไป อาการของคนไข้หลายๆ คนใน รายการตอนนี้ก็เริ่มทรงตัวแล้ว ส่วนคนไข้ใหม่ๆ ที่เข้ามาก็ยัง ไม่เหมาะที่จะผ่าตัด
คิดแล้วมันก็บังเอิญจริงๆ เพราะถ้าเกิดว่าจู่ๆ มีเคสฉุกเฉินเข้า มาละก็ ลั่วหานเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถยืนอยู่ตรงนั้นติดต่อกัน หลายชั่วโมงได้ไหวหรือเปล่า

หลังจากตรวจตามห้องคนไข้ไปรอบหนึ่งในคืนนี้ ลั่วหานก็ขับ รถกลับไปที่วิลล่า

ช่วงหลังๆ มานี้เธอมักจะกลับบ้านช้ากว่าปกติ เพราะไม่อย่าง นั้นการอยู่ในวิลล่าหลังใหญ่แบบนั้นเพียงลำพังมันจะยิ่งทำให้ เธอคิดถึงเขามากยิ่งขึ้นไปอีก

พอรถของลั่วหานขับมาถึงหน้าประตูของวิลล่า ก็ได้มีรถลิง คอล์นคัน จอดอยู่นอกวิลล่าแล้ว แสงไฟสีส้มจากไฟข้างทาง ส่องไปยังหลังคารถ มองจากที่ไกลๆ รถคันนั้นก็ให้ความรู้สึก แบบเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูก

แต่ ลั่วหานสามารถจำมันได้ในทันที มันเป็นรถที่ถูกขับมา จากตระกูลหลง เพื่อเป็นการอวดรวยรถหลายค้นของตระกูล หลงจึงมีป้ายทะเบียนที่เรียงกันมา

67 67 68อะไรประมาณนี้ ปกติส่วนลิงคอล์นคันนี้คน หยวนชู เฟินเลขลงท้ายด้วย67

หยวนชูเฟินเธอมาทำอะไรที่นี่?

ลั่วหานขับเข้าไปด้วยความสงสัย จอดรถไว้ข้างหลังของลิง คอล์นคันนั้น แต่แล้วประตูรถก็ค่อยๆ เปิดออกมาเห็นว่าเธอมาถึงแล้ว

หยวนชูเฟินลงมาจากที่นั่งด้านหลังโดยสวมแว่นดำอันใหญ่ เอาไว้ นี่ดึกมากแล้วนะ เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีดำทั้งชุด สะพายกระเป๋าผ้าไหมสีดำเอาไว้ มันดูประหลาดๆ ยังไงไม่รู้ อย่างกับว่าจะไปร่วมงานศพใครอย่างนั้นแหละ

“แม่คะ ทําไมแม่ไม่เข้าไปหล่ะคะ? มีคนรับใช้อยู่ด้วยค่ะ”

หยวนชูเฟินไม่ได้ถอดแว่นดำออก กดเสียงให้ต่ำลงแล้วพูด ว่า “ฉันรอหนูอยู่ วันนี้ทำโอเหรอ?”

ลั่วหานรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก เนื่องจากเธอคือแม่ของหลง เซียวด้วย ให้ผู้ใหญ่มารอแบบนี้มันดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ “พอดีมีธุระค่ะ เลยกลับมาช้าหน่อย แม่คะ เข้าไปข้างในกัน”

ลั่วหานเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบสัมผัสใครมากนัก เธอจึงไม่ได้ ยื่นมือไปจูงมือหยวนชูเฟินเข้าไป ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสองคนก็ เข้ามานั่งอยู่ในห้องโถงของวิลล่าเรียบร้อยแล้ว

หยวนชูเฟินถึงได้ถอดแว่นดำออก แสงไฟที่สวยงามจากโคม ไฟที่แขวนอยู่สาดส่องลงมา แล้วลั่วหานก็ได้ตกใจกับสิ่งที่เห็น ดวงตาทั้งคู่ของเธอที่บวมแดงเหมือนลูกวอลนัต ไม่รู้เป็นเพราะ ร้องไห้หรือโดนทำร้ายมากันแน่ มันบวมจนปูดออกมาแล้ว เห็น เพียงดวงตาที่เล็กเหมือนกับเข็ม
“แม่คะ ตาของแม่ไปโดนอะไรมาคะเนี่ย? เดี๋ยวหนู ไปเอาน่า แข็งมาประคบให้นะคะ”

หยวนซูเฟินดึงมือของลั่วหานเอาไว้ อดกลั้นรอยยิ้มที่ขมขื่น เอาไว้ “เรื่องภายในครอบครัวไม่ควรให้คนอื่นมายุ่ง……. แม่ไม่ ควรมาหาหนูเลย แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว ณ ตอนนี้ นอกจาก หนูแล้วก็ไม่มีใครให้ไปหาแล้ว……วหาน ตาของแม่ พ่อของ หลงเซียวเป็นคนทำเอง เรา……เราสองคนมีปากเสียงกัน เขาก็ เลยลงไม้ลงมือกับแม่แบบนี้”

อะไรวะเนี่ย!

เป็นสามีภรรยากันมาจนอายุปูนนี้แล้วยังจะลงไม้ลงมือกันอีก! หลงเขียวแกนมันเลวได้ใจจริงๆ!

ล้วหานรู้สึกเหนื่อยใจ เห็นหน้าเธอที่กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จึงได้ถามไปอย่างเป็นห่วงเป็นใยว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ? ทําไมพ่อต้องทําร้ายแม่ด้วย?”

หยวนชูเฟินส่ายหน้าอย่างขมขื่น จากนั้นก็ใส่แว่นดำเข้าไป ดังเดิม “ช่วงนี้ เซียวเอ๋อถูกส่งไปบริษัทลูกที่เมืองเจียงเฉิง ดูผิว เผินก็เหมือนว่าจะให้เขาไปบริหารบริษัทลูก แต่ความจริงแล้ว พ่อเขาอยากจะลดทอนอำนาจในมือของหลงเซียวลงต่างหาก ตอนนี้หลงจื่อก็ได้ขึ้นมารับตำแหน่งประธานแทนหลงเอ๋อไป เป็นการชั่วคราวแล้ว หนูรู้เรื่องนี้ไหม?”

ลั่วหานหรี่ตามองเธอด้วยความสงสัย “เสี่ยวจื่อเหรอคะ? งั้นก็แสดงว่า พ่อเขาปล่อยให้ตำแหน่งของหลงเซียวว่างไปแล้ว ใช่ไหมคะ?”

ชิ! รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!

หยวนซูเฟินต้องไม่ยอมพูดมาตรงๆ อยู่แล้วว่าหลงเซียวไม่ใช่ ลูกแท้ๆ ของหลงถึง ส่วนหลงถิงเองก็เกลียดพวกต่างชาติ อย่างสุดขีด เขาถึงอยากจะกำจัดหลงเซียวออกไป แต่เธอก็ พูดไปอย่างกลางๆ ว่า “เพื่อความสําเร็จแล้วอาจต้องมีคนเสีย สละบ้าง หนูเองก็น่าจะรู้ดี ชื่อเสียงของหลงเซียวที่อยู่MBKใน วันนี้ได้กลบพ่อของเขาจนมิดแล้ว พ่อเขายังไม่อยากยกบริษัท ออกมาในตอนนี้ เขาจึงพยายามกดหลงเอ๋อเอาไว้”

พอลั่วหานฟังถึงตรงนี้เธอก็เข้าในขึ้นมาในทันที เธอจึงไม่ได้ สงสัยหรือถามอะไรต่อ “แล้วที่แม่มาหาหนูถึงที่นี่แม่อยากให้ หนูช่วยอะไรคะ?”

หลงถึงไอ้จิ้งจอกเฒ่า กับหยวนชูเฟินที่เป็นคู่ครองกันมา สามสิบกว่าปีจะสะอาดไปได้ขนาดไหนกันเชียว?

พอเห็นลั่วหานถามมาตรงๆ แบบนี้ หยวนชูเฟินจึงได้ตอบไป ว่า “หลงจื่อนั้นฟังที่หนูพูดมาโดยตลอด หนูช่วยไปเกลี้ยกล่อม เขาหน่อยนะ บอกให้เขาล้มเลิกความตั้งใจซะ เดิมทีหลงจื่อก็ ไม่ได้ชอบที่จะเป็นนักธุรกิจอยู่แล้ว หนูไปรับปากกับเขาว่า ถ้า เขายอมรามือละก็จะสร้างสถานบันเทิงที่เมืองนอกให้เขาสนุก ได้อย่างเต็มที่เลย”อ๋อ อย่างนี้นี่เอง!

ลั่วหานมองดูดวงตาที่ถูกปิดไว้ของหยวนซูเฟินคู่นั้น ทำให้ เธอนึกถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมา หลงจื่อไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเธอถ้า มีการแก่งแย่งอำนาจเกิดขึ้น แม่ของทั้งสองฝ่ายก็ต้องเข้าข้าง ลูกชายของตนเองเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

ที่เธอมาพูดอะไรแบบนี้ในวันนี้ ทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ ของตัวหลงเซียวเองทั้งนั้นแหละ

พอมองไปอีกมุมหนึ่ง หลงเซียวเขาทําอะไรผิด? แต่ว่าหลง เซียวก็แค่ถูกหลงถึงกดขี่เท่านั้น ถ้าจะบอกว่าใครน่าสงสารละ ก็ หลงจื่อยังดูน่าสงสารมากกว่าเยอะเลย…..

ทุกวันนี้แม้แต่หน้าของแม่ตัวเองยังเจอไม่ได้เลย

พอคิดได้อย่างนั้น เธอก็ทําสีหน้าให้ความร่วมมือมาก แม่ สบายใจเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูจะหาเวลาไปคุยกับเสี่ยวจื่อดูค่ะ”

“ได้จ่ะ แค่หนูรับปากมันก็ดีมากแล้ว ลั่วหาน หนูช่างเป็นลูก สะใภ้ที่ดีจริงๆ” หยวนชูเฟินกุมมือของลั่วหานเอาไว้อย่างรัก ใคร แล้วชมอย่างรักใคร่ไปอีกหนึ่งคำ

ลั่วหานยิ้มออกมา “มันเป็นเรื่องปกติค่ะ ก็หนูเป็นภรรยาของ หลงเซียวหนิคะ”

คำว่าภรรยาถูกพูดออกมาอย่างไร้ข้อกังขา
พอหยวนชูเฟินพูดเป้าหมายของตัวเองเสร็จเธอกจาก โปเลย และไม่ได้ถามไถ่ลั่วหานเกี่ยวกับเรื่องอื่นด้วย ดังนั้น…..แม่ของ คุณหลงก็ยังเป็นห่วงแค่ลูกชายของตัวเองเท่านั้นสินะ!

รถของหยวนชูเฟินถูกขับออกจากวิลล่า เธอถอดแว่นดำลง แล้วขยี้ตาอย่างปวดใจ “สุดท้ายก็ถูกฉันพูดจนยอมใจอ่อนดู ทําตาคู่นี้จะไม่ได้เจ็บฟรีจริงๆ ด้วย”

หลังจะพึมพำกับตัวเองแล้ว น้ำเสียงของหยวนซูเฟินก็ได้ เปลี่ยนไป “เดี๋ยวพอกลับถึงบ้านแล้วรู้ใช่ไหมว่าควรต้องพูดว่า อะไร?”

คนขับรถพยักหน้า “ทราบครับ ผมจะทำตามที่คุณนายสั่งทุก อย่างเลยครับ”

“ดีมาก ถ้าพูดอะไรผิดแม้แต่คําเดียว ฉันจะให้แกออกจาก ตระกูลหลงไปตลอดกาลเลยคอยดู!”

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ลั่วหานส่งหยวนชูเฟินกลับไปแล้ว โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

น่าแปลก เพราะคนที่โทรมาคือ เจิ้งซิ่วหยา

รับสาย แล้วลั่วหานก็เดินตามทางเดินของวิลล่าไป “คุณเจิ้ง คะ”
อีกฟากของโทรศัพท์ เจิ้งซิ่วหยาเหมือนกำลังยุ่งอยู่มาก เดี๋ยว ก็เสียงฉีกพลาสติก เดี๋ยวก็เหมือนมีอะไรถูกทำตก เสียงปนกัน วุ่นวายไปหมด

“อ้า! คุณหมอ คะ ช่วยคนสําคัญที่สุดค่ะ คุณรีบมาที่บ้านฉัน ได้ไหมคะ ถังจิ้นเหยียนเขา……..วร้อนมากเลยค่ะ! ร้อนมากๆ เลย ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าต้องทํายังไงแล้วค่ะ?”

ลั่วหานรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เธอพูด จิ้นเหยียนไม่ค่อยป่วย “ส่ง โลเคชั่นของบ้านคุณให้ฉันหน่อยค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลยบอก ฉันหน่อยว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง อุณหภูมิร่างกาย เท่าไหร่ ไอไหม? หายใจหอบไหม?”

“สามสิบแปดองศาค่ะ ตัวร้อนจี้เลย! เขาจะไม่ร้อนจนเอ๋อใช่

ไหมคะ?!”

จะเป็นลม! มีใครเขาพูดกับแฟนตัวเองแบบนี้ไหมเนี่ย?

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ทำให้เขาตัวเย็นลงก่อน ช่วยรอฉันก่อนนะ คะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ