ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 347 ถึงเวลาความอัปยศ เพราะหลงเซียว เครียดมาหลายปีแล้ว



ตอนที่ 347 ถึงเวลาความอัปยศ เพราะหลงเซียว เครียดมาหลายปีแล้ว

ตอนที่ 347 ถึงเวลาความอัปยศ เพราะหลงเซียวเครียด มาหลายปีแล้ว

ลั่วหานยืนอยู่บนพรมแดง พร้อมกับยิ้มแย้มเห็นฟันขาว สวย และจ้องมองหลงเซียวที่กำลังปกป้องเธออย่างเงียบๆ เหมือนดั่งเจ้าสาวที่เฝ้ารอเจ้าบ่าวท่ามกลางป่าดุร้าย

ผู้ชายคนนั้นเดินเหยียบกลีบกุหลาบบนพื้น โดยที่ทุกย่าง ก้าวเดินของเขาล้วนทำให้ผู้คนในงานรู้สึกหัวใจเต้นแรง หายใจขัดข้อง!

หลงเซียวเป็นคนสูงใหญ่ ในตอนนี้เลยดูน่าเกรงขาม ขณะ เดียวกันข้างหลังเขาก็มีกู้เยนเซิน จี้ตงหมิง เกาจิ่งอาน และ ไป์เวยสี่คน

ทั้งสี่คนสวมชุดสีดำ พร้อมกับเผยสายตาแหลมคม และมี ท่าทางเข้มคมด้วย

ทั้งสี่คนอยู่เคียงข้างหลงเซียวหล่อหลอมเป็นภาพพื้น หลังธรรมชาติ แต่ชั่วพริบตา รัศมีความแข็งกล้าสีดำที่เหมือนกับคลื่นยักษ์ก็ชัดใส่ทุกคนในงานตายทันที!

หล่อ!

หล่อเหลือเกิน!

นี่เป็นความในใจของลู่ซวงซวงและเจิ้งซิ่วหยาในตอนนี้!

ส่วนล้วหานที่ยิ้มแย้มอย่างอ่อนหวาน และเพิ่งเป็นวีรสตรี ที่เผชิญหน้าคนเดียวเมื่อกี้ ชั่วพริบตาก็เปลี่ยนเป็นสาวน้อย ผู้อ่อนแอทันที

หลงเซียวเดินมาข้างกายล้วหานด้วยสายตา นชม แล้ว ยื่นมือจับมือเธอไว้ แล้วยื่นมืออีกข้างปัดเส้นผมบนหน้า ผากไปด้านข้างด้วย จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “ที่รัก ผมมาส่ายไปหน่อย”

ลัวหานสายหน้ายิ้ม แล้วกวาดตามองรอบบริเวณ ไม่เร็ว และไม่สายเกินไป มาได้กำลังดีเลย

หลงเซียวกุมมือเธอแน่น “ทำให้คุณต้องลําบากแล้ว ต่อ ไปให้ผมจัดการแทนต่อเถอะ”
ลั่วหานยิ้มและพูดว่า “โอเคค่ะ”

เมื่อเห็นไมโครโฟนในมือของเธอ หลงเซียวก็ยักไหล่ “ที่รัก ผมยืมใช้สักหน่อยได้ไหม?”

ลั่วหานยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้น “แน่นอนค่ะ”

หลงเซียวพยักหน้าต่อตงหมิง จากนั้นเขาก็เดินพาลั่วหา นเดินไปนั่งรอบนเก้าอี้แกะสลักดอกไม้รอด้านข้าง ซึ่งบน เก้าอี้รองด้วยเบาะนั่งนุ่มๆชั้นหนึ่งด้วย

“คุณนายหญิง เชิญนั่งครับ”

ลั่วหานพูดขึ้นว่า “ขอบคุณ”

ทุกคน:”

คนในงานสองร้อยคนกว่าคน นอกจากซุนปิงเหวินที่เป็น คนพิการแล้ว ไม่ว่าจะมีฐานะทางสังคมแบบไหนล้วนยืนกัน

หมด

ส่วนล้วหานนั่งรอชมบนเก้าอี้ของจักรพรรดินี
งด้านข้างยังมี ตงหมิงและไป๋เวยที่มีหน้าตาหล่อเหลา และมีท่าทางเย็นชามาคุ้มกันด้วย

ชั่วพริบตาจากผู้เสียดายที่ถูกประณามกลายเป็นจักรพรรดิ นีผู้สูงส่งแล้ว

โม่หรูเฟยมีสีหน้าขาวซีด!

หลงเชียว….เขา เขามาที่นี่ได้ยังไง? เขากลับมาตั้งแต่ เมื่อไหร่กัน?

แล้วเขา…ได้ยินอะไรมาบ้างแล้ว?

หลงเซียวค่อยๆเดินมาด้านข้างโม่หรูเฟยที่ตกใจจนไร้ วิญญาณ แล้วเอาไมโครโฟนในมือวางทีริมฝีปาก จากนั้นก็ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “คุณโม่ครับ ผมลืมคำถามเมื่อกี้ ของคุณแล้ว ช่วยทวนคำถามอีกครั้งได้ไหมครับ?”

โม่หรูเฟยตกใจจนหมดเรี่ยวแรง จนเกือบเสียหลักล้ม ลงกับพื้น แต่โชคดีที่เพื่อนเจ้าสาวที่อยู่ข้างหลังเข้ามา ประคองตัวเธอไว้ก่อน เพื่อนเจ้าสาวไม่กล้าพูดสักคำ ขณะ เดียวกันก็เดินถอยหลังไม่กี่ก้าวต่อเนื่อง เพราะเกรงกลัวหลงเซียวด้วย

ซุนปิงเหวินเคลื่อนรถเข็นเข้ามา และเงยหน้ามองหลง เซียว ยิ้มและพูดว่า “คุณหลง ล้วนเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ไม่รู้เหมือนกันว่าพนักงานเอารูปภาพเหล่านี้มาจากไหน พวกเราเองไม่รู้

หลงเซียวเหลือบมองซุนปิงเหวิน และพูดด้วยสีหน้าไว้ อารมณ์ว่า “คุณซุนครับ คนที่ผมถามคือคุณไม่ครับ”

เพราะถูกรัศมีความน่าเกรงขามแผ่กดทับ ซุนปิงเหวินเลย ปิดปากเงียบ

โม่หรูเฟยกัดฟัน “หลงเซียว…. ”

“อืม ตกลงอยากให้ฉันยืนยันความจริงอะไรหรอ ฉันอยู่ ตรงนี้แล้ว มีอะไรก็พูดออกมาเลย”

เหล่าแขกเงียบสนิท

ฉีซีหราน มือไว้อย่างแน่น
หลงยี่กับโจวหยู่เช่นหลบอยู่ในฝูงชนเงียบๆ ไม่กล้าเอ่ย ปากพูดอะไร

เจิ้งซิ่วหยาถือแก้วไวน์อย่างแน่น เริ่มสนุกแล้วสิ!

โม่หรูเฟยมีสีหน้าขาวซีดพูดขึ้นว่า “ฉัน….ไม่ได้อยากถาม อะไรเลย เป็นแค่การ…เข้าใจผิด….เท่านั้นเอง”

เสียงของหลงเชียวดังกังวานผ่านไมโครโฟน จู่ๆน้ำเสียง นุ่มนวลก็เข้มครีมดั่งสายฟ้าผ่าขึ้น ในเมื่อเป็นแค่เรื่อง เข้าใจผิด งั้นคุณไม่ช่วยอธิบายหน่อยสิครับว่า รูปภาพของ ผมกับถั่วลั่วปรากฏงานแต่งงานของคุณได้ยังไง? ใครกันที่ แอบถ่ายพวกเรา? แล้วใครเป็นคนฉายลงหน้าจอ?”

โม่หรูเฟยกัดริมฝีปากจนเกือบแตก “พี่หลง ฉันไม่รู้ ว่า….รูปภาพเหล่านี้…..ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ใช่คนถ่าย ฉันไม่รู้ ค่ะ”

หลงเซียวเผยสายตามืดครึ้ม “ไม่ใช่เธอหรอ? งั้น….เป็น ใครกัน? คุณไม่จะเป็นคนพูดเอง หรือจะให้ผมไปสืบครับ? ผลลัพธ์ของทั้งสองมีความแตกต่างมากเลยนะครับ”
บนใบหน้าโม่หรูเฟยเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และพูดขึ้นว่า “ค่ะ…..ซีหรานเป็นคนให้ฉัน

“เธอพูดจาเหลวไหล!” ซีทรานเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบ ร้อน พร้อมชี้หน้าด่าทออย่างรุนแรงต่อไม่หรูเฟย “ไม่หรู เฟย เธออย่ามาใส่ร้ายป้ายฉันนะ! ทุกอย่างเธอเป็นคนทำ เอง!”

โม่หรูเฟยจนปัญญา ถ้าหากเธอยอมรับเพียงคนเดียวทุก อย่าง เธอคงตายในกำมือของหลงเซียวแน่!

ตอนนี้เธอต้องระบายความโกรธของหลงเซียว!

“ฉู่ซีทราน ในตอนนั้นเธอหลงรักพี่เขยของพี่สาวตัวเอง เมื่อเธอเห็นฉู่ลั่วหานแต่งงานกับเขา เธอเลยรู้สึกเคียดแค้น มาก ดังนั้นเธอจึงมาหาฉัน ขอร้องให้ฉันช่วย จำไม่ได้ หรอ?”

คำพูดของโม่หรูเฟยเหมือนกับกดดันให้ฉีซีหรานยืนอยู่ บนเหวคนเดียว!

นิ้วมือของลั่วหานดีดบนเก้าอี้เป็นจังหวะ
“ไม่จริง! เธออย่ามาใส่ร้ายป้ายสีฉัน! เพราะเธอหลงรักพี่ เขยของฉัน เธอเลยหลอกใช้ฉัน และให้ฉันเอายาใส่ลงใน แก้วไวน์ของพี่สาวฉัน! เธอนั่นแหละ! ที่เป็นคนจ้างคนมา ถ่ายพี่สาวของฉัน!”

ว๊าย!

ทำขนาดนี้เลยหรอ!

ภายในงานเกิดเสียงร้องอุทานตกใจขึ้น คิดไม่ถึงจะมีเรื่อง แบบนี้ด้วย!

น้องสาวร่วมมือกับศัตรูความรักจัดการภรรยาของหลง เชียว!

หลงเซียวจ้องมองโม่หรูเฟยด้วยสายตาเย็นชา และพูด ด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “ว่ามาพูดออกมาชัดเจน วันนี้มีคนอยู่ ในงานจำนวนมาก ฉันจะให้โอกาสทุกคนเป็นคนพิจารณา

“ไม่…ไม่ต้องหรอก….” โม่หรูเฟยกัดริมฝีปากเล็กน้อย “ฉัน…ผิดไปแล้ว…หลง หลงเซียว ฉันผิดเอง…”
เธอยื่นมือจะจับขอบชุดสูทของหลงเชียว แต่หลงเขียว กลับหลบหลีกด้วยท่าทางรังเกียจ

“ผิดหรอ? คุณโม่ช่วยบอกให้หน่อยว่า ผิดตรงไหนบ้าง?” หลงเซียวย่นไมโครโฟนในมือให้กับเธอ “คุณไม่พูดออก มาเถอะครับ”

โม่หรูเฟยถึงกับมือสั่น พร้อมกับจ้องมองหลงเซียวด้วย สายตาโศกเศร้า แต่สุดท้ายเธอก็ก้มหน้าลง และไม่กล้ายื่น มือรับ

ฉู่ซีหรานพูดขึ้นว่า “พี่เขย ไม่หรูเฟยต้องการทำร้ายพี่สาว ตั้งนานแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปีนั้นเป็นฝีมือของเธอ ทั้งหมดเลย!”

หลงเซียวกวาดตามองเธอแวบหนึ่ง วินาทีต่อมาก็เม้มปาก อย่างแน่น

โม่หรูเฟยยื่นมือจับไมค์โคโฟนด้วยท่าทางสั่นเทา พร้อม กับเผยสายตาเย็นชาขึ้น

ตอนแรกคิดอยากฉวยโอกาสตอนหลงเซียวไม่อยู่และไม่ สามารถบอกระบุเวลา สถานที่ของรูปภาพประณามลั่วหานให้ขายหน้า แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าหลงเชียว…จะ มาด้วย!

หลงจื้อถูกลักพาตัวไปแล้ว เดิมทีแผนการของพวกเขา ไม่มีช่องโหว่อะไรเลย แต่ทำไมถึงกลายเป็น…..

เธอควรทำยังไง? ทำยังไง?

“คุณโม่ ยอมรับผิดเสียดีๆดีกว่าปฏิเสธแล้วยิ่งทวีความ รุนแรง ตอนที่คุณอยู่ในคุกจำประโยคนี้ไม่ได้แล้วหรอ?” หลงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงกำลังพอดี แต่กลับทำให้โม่หรู เฟยถึงกับสะดุ้ง!

คุก!

เธอไม่อยากกลับไปแล้ว!

“ตูม!” จู่ๆโม่หรูเฟยก็คุกเข่าลงบนพื้น “ท่านหลง ปล่อยฉัน ไปเถอะ ขอร้องล่ะ! ปล่อยฉันไป! ได้โปรด!”

ทุกคนมองดูสถานการณ์ที่พลิกผันกันด้วยสายตามึนงง และรู้สึกรับไม่ได้
โม่หรูเฟยจับดึงขอบกางเกงของหลงเซียว ขณะเดียวกัน ก็คุกเข่าต่อหน้าเขาด้วยท่าทางไร้ค่า แต่หลงเซียวกลับดึง ขาออกมาด้วยท่าทางรังเกียจ จนทำให้โม่หรูเฟยฟุบลงบน พื้น

โม่ล่างคนกับฟู่เหวินฟางกระโจนเข้ามาประคับประคอง “เฟยเฟย!”

หลงเซียวพูดขึ้นว่า “โม่หรูเฟย ถ้าอยากให้ฉันปล่อยเธอ เธอก็รีบพูดมา อย่าทำให้ฉันเสียเวลา”

บนใบหน้าของโม่หรูเฟยเต็มไปด้วยคราบน้ำตา “ฉัน…ฉัน ยอมพูดแล้ว…ในตอนนั้น….คือ ฉันให้ ซีหรานเอายาผง ใส่ในแก้วไวน์ของลั่วหาน จากนั้น…ฉันก็สร้างสถานการณ์ ปลอมขึ้นมา แล้วถ่ายรูปส่งให้กับคุณ…..

เสียงผ่านไมโครโฟนดังสนั่นทั่วทั้งห้องโถง จนทำให้ทุก คนที่อยู่ในงานฟังชัดเจนทุกถ้อยคำ

หลงเซียวยกมือกอดอก พร้อมจ้องมองโม่หรูเฟยที่นั่งฟุบ บนพื้น “เกรงว่าคงไม่มีจบเพียงแค่นี้แล้วล่ะ? คุณโม่”
โม่หรูเฟยที่ก้มหน้าลงค่อยๆเงยหน้าขึ้น ปรากฏใบหน้า แต่งหน้าที่เปื้อนเลอะด้วยคราบเหงื่อและน้ำตาขึ้น “หลง เซียว ไม่มีแล้ว ฉัน……”

หลังจากนั้น เธอก็ยังคงหาเรื่องคั่วหานอีกหลายครั้ง หรือว่าต้องพูดออกมาทั้งหมดหรอ? ไม่…….ไม่เอา

หลงเซียวหยักหน้าต่อกู้เยนเซินเล็กน้อย

ไม่นาน กู้เยนเซินก็เดินพาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา ผู้หญิงคน นี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นพี่เป้ยที่กำลังตัวสั่นเทาเหมือน กัน

อดีตผู้จัดการส่วนตัวของโม่หรูเฟย

โม่หรูเฟยเผยสีหน้าตื่นเต้นขึ้น “หลงเซียว คุณ…” หลงเซียวเหลือบมองพี่เป้ยแวบหนึ่ง “พูดออกมาว่ารู้เรื่อง อะไรบ้าง”

“พี่เป้ย! พี่อย่าตกหลุมพราง อย่าหลงกลเด็ดขาด!” ไม่หรู เฟยคลานไปดึงชายกระโปรงของเธอ จากนั้นกู้เยนเซินก็ ดึงผู้หญิงถอยหลังสองก้าว
โม่หรูเฟยหลับตาด้วยท่าทางผิดหวัง……

พี่เป้ยพูดขึ้นว่า “คุณหลง ในตอนนั้น….ในตอนนั้นไม่หรู เฟยตั้งท้อง แต่ลูกในท้องของเธอไม่ใช่ลูกของคุณ ใน ตอนนั้นโม่หรูเฟยเพิ่งถ่ายละครเรื่องหนึ่งเสร็จ และแอบมี ความสัมพันธ์กับพระเอก ต่อมา….เธอให้ฉันโกหก และบีบ บังคับให้คุณแต่งงานกับเธอ เพราะเรื่องลูกในท้อง……”

ฮาฮา!

ล้วหานหัวเราะเล็กน้อย เพลิดเพลิน! เป็นการแสดงโชว์ที่ น่าตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ!

หลงเซียวยิ้มมุมปากเล็กน้อย “พูดต่อ”

“อืม ต่อมาโม่หรูเฟย ที่เธอ…แท้งบุตรก็เป็นแผนการ ของเธอเหมือนกัน เธอรู้ว่าหากเด็กคลอดออกมาต้องพูด เปิดโปง อีกทั้งเธอยังทำร้ายคุณนายหญิงตระกูลหลงด้วย เพื่อต้องการให้พวกคุณหย่ากัน…….”

ลู่ซวงซวงอ้าปากค้าง!
โอ้โห้! กล้าทำถึงขนาดนี้เลยหรอ!

เหล่านักข่าวและสื่อมวลชนถึงกับตกใจอึ้ง ไม่เคยเห็นใคร เลือดเย็นเท่านี้มาก่อนเลย เคยเห็นคนเสแสร้งมาก่อน แต่ ไม่เคยเห็นคนเสแสร้งเก่งถึงขนาดนี้เลย!

หลงเซียวพูดอึมขึ้น “แล้วยังไงต่อ?”

โม่หรูเฟยส่ายหน้า ไม่ต้องพูดแล้ว! ไม่ต้องแล้ว!”

“พูดมา!”

“ค่ะ….อันที่จริงโม่หรูเฟยอยู่กับคุณหลงไม่กี่ครั้งในตอน นั้น พวกคุณ….ไม่เคยมีอะไรกันเลย ล้วนเป็นฝีมือของโม่ หรูเฟยที่ใส่ยาในแก้วไวน์ แล้วเปลือยกายทั้งคุณและตัว เอง ทำให้คุณเข้าใจผิด ส่วนครั้งที่สอง ฉัน….เป็นคนช่วย เหมือนกัน”

ลั่วหานเบิกตากว้าง ไม่ใช่หรอกมั้ง? ไม่หรูเฟยกับหลง เซียวไม่เคยมีอะไรกันสักครั้งเดียวเลยหรอ? เธอแทบไม่ อยากเชื่อเลย!
ใช่ ลั่วหานไม่กล้าเชื่อ แต่หลงเซียวรู้ว่า เธอเคยสงสัยมา ก่อน

มีหลายครั้งที่เขากับโม่หรูเฟยเกือบจะมีอะไรกันแล้ว แต่ เขาพบว่าตอนที่ตัวเองอยู่ต่อหน้าเธอของกลับไม่แข็งเลย ตอนที่เขาโมโหเคยคิดอยากระบายลงบนตัวเธอ แต่เขาทำ ไม่ลง

เขารู้สึกกับลั่วหานเพียงคนเดียว ความจริงข้อนี้หลงเซียว จะไม่ยอมรับได้ยังไงกัน?

ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจสืบความจริงในปีนั้น ด้วยการค้น ความจริงจากพี่เป้ย

หลายเรื่องในอดีตฉวยโอกาสในตอนนี้เปิดโปงทั้งหมด

ลั่วหานลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้ามาจับมือของหลงเซียวจาก ด้านข้าง “คุณ….”

หลงเซียวโอบกอดเอวของเธอ “ที่รัก ในที่สุดผมก็ลบล้าง ความอัปยศของตัวเองแล้ว”
ลั่วหานโอบกอดเขาทั้งสองมืออย่างแน่น “ขอโทษ ฉัน เข้าใจผิดคุณ ฉันนึกว่า…..

หลงเซียวจูบบนเส้นผมของเธอ “ขอโทษ ผมเองก็เข้าใจ คุณผิดเหมือนกัน ต่อไปคงไม่แล้ว”

“ตึงตึงตึง!”

จู่ๆเสียงปรบมือได้ทำลายบรรยากาศตกใจ

เกาจิ่งอานสวมชุดสูทเดินเข้ามา “งานแต่งงานของน้อง สาวไม่ธรรมดาจริงๆ ช่างคึกคักมาก!”

โม่หรูเฟยเงยหน้ามองเขาขึ้น “พี่ชาย…หมายถึงอะไร?”

เกาจิ่งอานเดินเข้ามาจับแขนของโม่หรูเฟย “น้องสาว เมื่อ ก็เธอไม่ใช่บอกว่าไม่ได้เปิดแผ่นซีดีหรอกหรอ? แต่ฉันมี หลักฐานยืนยันความจริง อยากดูสักหน่อยไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ