ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 11 อยากได้หน้า ไม่มี



ตอนที่ 11 อยากได้หน้า ไม่มี

ค่ำคืนในเมืองหลวง ภายใต้โคมไฟที่สว่างไสว ทำให้ ทิวทัศน์ตอนกลางคืนดูครึกครั้น

จู่ลั่วหานถอนเสื้อกาวน์สีขาวออก แล้วกำลังถือกระเป๋าขึ้น เพื่อเลิกงานและกลับบ้าน ตอนที่พึ่งเดินออกจากประตู จ้าว เหมียนเหมียนก็ได้เรียกเธอจากข้างหลัง “คุณหมอู่ หนุ่ม หล่อคนนั้นที่เจอในวันนี้ ได้ติดต่อคุณอีกไหม?”

คำพูดของจ้าวเหมียนเหมียนให้ความรู้สึกอยากจะเม้าท์ มอยมากๆ

ไม่มีหนิ เขาไม่มีเรื่องอะไร แค่ต้องการหาเรื่องเท่านั้น ไล่ เขาไปให้ไกลๆก็พอ” จู่ลั่วหานตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็น ชา และดูเหมือนไม่สบอารมณ์ใดๆ ทำให้ฟังไม่ออกเลยว่า ตัวเองได้รู้จักกับหลงจื้อ

จ้าวเหมียนเหมียนจึงได้กระตุกมุมปากขึ้น “คุณหมอจู่ ฉัน รู้สึกว่าคุณดีหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการรู้ที่เรียนจบสูง และมีวิสัยทัศน์ที่ดีมากฝีมือ และมากความสามารถ แต่ว่าตอนที่ต้องเผชิญกับผู้ชาย ก็ต้องมีวิธีหน่อย”

คุณหมอจ้าวใช้มือทำท่าทางที่หมายความว่า “นิดหน่อย” และกำลังจะดัดนิสัยฉู่ลั่วหานที่ถูกลือกันว่าเป็นผู้ที่ไม่มี ประสบการณ์ในความรักแม้แต่นิดเดียว

“ผู้ชายชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนอยู่แล้ว นี่จึงจะสามารถ แสดงให้เห็นถึงความสามารถและฝีมือของผู้ชาย ทำให้ เห็นว่าสามารถปกป้องผู้หญิง และผู้หญิงต้องเรียนรู้ที่จะ แสดงความอ่อนโยนในระดับที่เหมาะสมออกมาจะได้ ทำให้ผู้ชายต้องการปกป้องดูแล…ทั้งสองก็ได้ขึ้นลิฟต์ ไป ในลิฟต์มีหมออีกหลายๆคนที่มาจากแผนกอื่น

จ้าวเหมียนเหมียนกดเสียงให้ต่ำลงจากนั้นก็พูดขึ้น “อย่างเช่น ต่อให้เป็นเรื่องตัวเองจัดการเองได้ คุณก็แกล้ง

ทำไม่เป็น”

ฉู่ลั่วหานหันไปมองข้างหน้าตรงๆ จึงเห็นกระจกตรงประตู ลิฟต์ที่สะท้อนให้เห็นเงาของคนห้าหกคนในลิฟต์

“จริงๆเรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้ กลับไปขอให้ผู้ชาย ช่วย แบบนี้ก็คงจะทำให้เรื่องมันคืบหน้าได้ช้า และทำให้ต้องเสียทรัพยากรอีก แบบนั้นก็คงมีแค่คนไอคิวต่ำ ทำกันเท่านั้น”

หมอหลายๆคนที่อยู่ในลิฟต์ต่างก็มองหน้ากัน

จ้าวเหมียนเหมียนถูกทำให้เครียดจนต้องจับหน้าตัวเอง ไว้ “คุณหมอจู่ของฉัน ถ้าคุณยังจะมองผู้ชายว่าต้องทำตาม กฎ AA งั้นอีคิวของก็คงต่ำไปแล้ว”

่ลั่วหานทำท่าทางที่ไม่สนใจใดๆ “ทุกคนมีนิสัยที่ต่างกัน อยู่แล้ว การทำงานที่ต่างกัน คุณจะบอกให้ฉันแกล้งอ่อน โยนฉันก็คงทำไม่ได้”

จ้าวเหมียนเหมียนรู้สึกเครียดจนต้องกำหมัดไว้แน่นๆ “คุณฉู่ลั่วหาน ยังไงคุณก็ต้องคิดเผื่อเรื่องที่ใหญ่ที่สุดของ ชีวิตนี้บ้างสิ? หรือว่าคุณอยากจะโสดตลอดชีวิต?”

พอจู่ลั่วหานครุ่นคิดถึงทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่งงาน กับหลงเซียวในสามปีที่ผ่านมา ผลสรุปที่ได้ ก็คงไม่ดีเท่า ที่ตัวเองจะใช้ชีวิตไปด้วยตัวคนเดียว ถ้าหลังจากแต่งหน้า แล้วทำให้ไม่มีความสุขงั้นชีวิตที่อิสระก็คงจะดีกว่าเยอะ ไม่ใช่หรือไง?
“โสดไปทั้งชีวิต มีอะไรไม่ดีบ้าง ฉันก็วางแผนนี้ไว้อยู่แล้ว” ฉู่ลั่วหานทำนัยน์ตาที่นิ่งเฉย น้ำเสียงนิ่งเฉย ในใจเหมือน ได้รับความสงบสุขหลังลมพายุ

“ได้ๆๆ คุณชนะ เดี๋ยวถ้าทำให้หนุ่มหล่อตกใจจนจากไป คุณก็อย่ามาร้องไห้ให้ฉันฟังก็แล้วกัน” จ้าวเหมียนเหมียน ยอมใจเธอจริงๆ หมอจู่ก็ยังคงเป็นหมอจู่วันยังค่ำ ถ้าใช้มุม ปากของคนปกติบนโลกนี้มี ก็คงทำอะไรเธอไม่ได้แน่นอน

พอเดินออกจากประตูใหญ่ของโรงพยาบาล ลมหนาวพัด ผ่านเข้ามา ทำให้ฉู่ลั่วหานต้องกอดแขนของตัวเองไว้ และ รู้สึกเจ็บตรงหัวเข่าอีกครั้ง รู้สึกเจ็บจนไม่มีอะไรที่น่าเศร้า ไปกว่านี้อีกแล้ว

เธอจึงยื่นมือไปขวางรถคันหนึ่งไว้ จากนั้นจู่ลั่วหานก็กลับ คอนโดของตัวเองโดยตรง

พอหากุญแจ ฉู่ลั่วหานที่กำลังเตรียมตัวเปิดประตู กลับ เพิ่งสังเกตเห็นว่ากุญแจเสียบไม่เข้า

เธอเลยใช้ไฟฉายของมือถือ ก็เห็นว่ารูตรงกลอนประตูนั้น อุดตัน
่ลั่วหานจึงหัวเราะด้วยเสียงเย็นชา น้ำเสียงทั้งต่ำและฟัง เหมือนชัวร้าย!

มาอุดรูของกอนกุญแจให้ตันแบบนี้ นี่กำลังจะแสดง อำนาจหรือว่ากำลังตักเตือน? หรือกำลังบอกเตือนหรือว่า ข่มขู่กันแน่?

ประตูเปิดไม่ได้ ฉู่ลั่วหานจึงได้โทรหาส่วนกลาง แล้วพูด สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านไปไม่กี่นาที คนของส่วนกลาง จึงวิ่งมา แล้วมาดูสถานการณ์ว่าเป็นแบบนี้ ส่วนกลางจึงได้ กล่าวขอโทษพลางยิ้มขึ้น “คุณผู้หญิงครับ เราจะรีบจัดการ โดยด่วน แต่ว่าถ้าจะเปลี่ยนที่ล็อก ท่านต้องแสดงหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้เรา อย่างเช่นเอกสารยืนยันบ้าน หลังนี้ของคุณ หรือบัตรประชาชนครับ”

เมื่อก็ตอนที่ฉู่ลั่วหานออกไปข้างนอก ก็เอากระเป๋าถือ ไว้แค่ใบเดียว ข้างในมีแค่ลิปสติกหนึ่งแท่ง แม้แต่กระเป๋า สตางค์ยังไม่ได้เอาด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกบัตร ประชาชนพวกนี้

“ไม่มีค่ะ ดิฉันอยู่ที่นี่จริงๆค่ะ คุณสามารถสอบถามก่อน ก็ได้ค่ะ”
พนักงานที่ดูแลคอนโดจึงกล่าวคำขอโทษถึงด้วยความ ลำบากใจ “ต้องขอโทษจริงๆ นี่เป็นกฎของทางบริษัทค่ะ ท่านต้องแสดงบัตรประชาชนของท่าน ทางเราถึงจะเปิด ประตูให้คุณได้ค่ะ”

จู่ลั่วหานรู้สึกเครียดจนต้องแสยะยิ้มขึ้น “ฉันอยู่ที่นี่เกือบ สามปีแล้ว คอนโดห้องนี้ฉันก็เป็นคนซื้อ คุณไม่รู้จักฉันหรือ ไง?”

พนักงานจึงรู้สึกสะดุ้งตกใจ เพราะสีหน้าที่เคร่งเครียด ของจู่ลั่วหาน

“ฉันไม่มีบัตรประชาชน มันอยู่ข้างในหมด คุณช่วยฉันเปิด ประตู แล้วฉันจะเอาให้คุณเอง”

ให้ตายเถอะ ทำไมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย

หลังจากที่ต่อล่อต่อเถียงกันมานาน พนักงานจึงพูดขึ้น “บัตรประชาชนของสามีคุณก็ได้ค่ะ คุณสามารถโทรหาเขา กลับมาก่อนก็ได้”

จู่ลั่วหานจึงลุกโชนเป็นไฟ จึงได้ทำสีหน้าที่หม่นหมอง “ไม่ต้องอยากจะพิสูจน์ว่าฉันเป็นเจ้าของบ้านจริงไหม คุณก็แค่ไปดูกล่องวงจรปิดก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ

ไง?”

คอนโดนี้เธอแค่เช่า แต่ถ้าเธอบอกว่าแค่เช่า พนักงานคน

นี้ก็คงจะปฏิเสธเธอโดนทันที

“แบบนี้….ก็ได้ค่ะ”

จู่ลั่วหานขอให้ไปเช็คกล่องวงจรปิด จุดประสงค์ไม่ได้มี แค่จะเปิดล็อกเท่านั้น เธออยากจะรู้ว่าคนที่คิดจะทำร้าย เธอคือใครกันแน่

ดั่งที่คาด เมื่อคืนหลังจากที่เธอจากไป ก็มีคนที่สวมใส่ เสื้อกีฬาสีดำ แล้วยังสวมใส่หมวกเบสบอล จากนั้นก็เดิน ขึ้นตึกมาอย่างลับๆล่อๆ จากนั้นก็หยุดอยู่ตรงหน้าประตู คอนโดของเธอสักพัก แล้วก็กดหมวกให้ต่ำลงและจากไป

ดูไม่ออกว่าเป็นใคร

ฝ่ามืออมชมพูของฉู่ลั่วหานจึงกำเป็นหมัดแน่นๆ “ฉัน ต้องการให้เช็คกล่องวงจรปิดตรงนอกห้องของฉัน นี่มีคน ต้องการทำลายมันชัดๆ มันกระทบกับความปลอดภัยของคนที่พักอาศัยอยู่ที่นั่นจริงๆ ถ้าไม่คิดจะจัดการให้สิ้น ซาก ฉันจะไปคอมเพลนแผนกที่เกี่ยวข้องกับส่วนนี้เอง”

พอรปภ.ได้ยินว่าจะไปคอมเพลน เขาเลยขาอ่อนไปเลย จึงตอบกลับทันที “คุณฉู่เชิญรอก่อนนะครับ ผมจะรีบไปเช็ค กล่องวงจรให้เลยครับ”

ตั้งแต่ประตูบานเดี่ยวจนถึงระเบียงทางเดินที่มีไฟ และ เดินไปถึงตรงนอกประตูของโครงการ ตาของจู่ลั่วหานก็ได้

จับจ้องอยู่ตลอดเวลา

คือเธอ!

เป็นรถเฟอรารี่สีเหลืองที่วิ่งผ่าน และป้ายทะเบียนนั้นรู้สึก คันเคยมากๆ จากนั้นก็มีรูปของคนๆหนึ่งที่อยู่ในกระจกรถ ดูคุ้นเคยมากๆ คุ้นเคยจริงๆ!

รปภ.ก็ได้จับจ้องรถคันนั้นไว้ จากนั้นก็เห็นสีหน้าที่ขาวซีด

ของฉู่ลั่วหาน จึงไม่กล้าพูดอะไรออกมา

“เอาคลิปกล่องวงจรปิดก็อปให้ฉันหนึ่งชุด”
“นี่….เกรงว่าจะไม่เหมาะสมหรือเปล่าครับ?”

“คนที่พักอาศัยอยู่ในนี้ได้รับอันตราย ไม่ว่าคุณจะใช้ กฎหมายข้อไหน พวกคุณก็ต้องรับผิดชอบผู้พักอาศัย อย่างไม่มีเงื่อนไข ถ้าไม่เข้าใจเกี่ยบกับกฎหมายพวกนี้ คุณ ก็ลองไปเสิร์ชในเน็ตดู ฉันไม่มีเวลามาอธิบายคำถามที่พบ เจอบ่อยกับพวกคุณหรอกนะ ตอนนี้เขาคลิปมาให้ฉัน”

รปภ.หลายๆคนและผู้จัดการที่ดูแลคอนโดก็ได้มองหน้า กัน จากนั้นทุกคนก็ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไง

จู่ลั่วหานจึงพูดขึ้นต่อ “ถ้าเป็นเพราะส่งเอกสารไม่ทันเวลา ที่เขากำหนด แล้วเรื่องพวกนี้นำพาซึ่งความเสียหายต่อ หลายๆคน คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ต้องรับผิดชอบด้วย เหมือนกัน”

“ได้ๆ ตอนนี้ทางเราจะให้คุณ”

พอเอาคลิปวิดีโอจากกล่องวงจรจู่ลั่วหานก็ได้ยัดใส่ กระเป๋า จากนั้นก็พูดขึ้น “หวังว่าพรุ่งนี้ก่อนแปดโมงเช้า ประตูของฉันจะเปิดได้เหมือนปกติ”
“คุณวางใจเถอะครับ วางใจเถอะ”

พูดจบ ฉู่ลั่วหานจึงออกจากท่ามกลางพนักงานผู้ชายที่ กำลังทำสีหน้าที่ตกใจและหวาดกลัว

พอออกจากประตู พัดเย็นๆก็ซัดเข้ามา ทำให้จู่ลั่วหานรู้ สึกหนาวใจเหลือเกิน ฉู่ซีหราน แกไม่มีวันทำให้ฉันมีชีวิตที่ ดีเลยใช่ไหม!

ไหนๆแกก็ไม่คิดจะปล่อยให้ฉันมีชีวิตที่ดีแล้ว งั้น เราทั้ง สองก็ไม่ต้องคิดว่าจะมีชีวิตที่ดีอีกต่อไป

เธอจึงจับแผ่นซีดีในกระเป๋า คู่ลั่วหานจึงได้พยายาม อดทนกับความเจ็บตรงหัวเข่า จากนั้นก็เดินออกจากประตู ใหญ่ของโครงการ

“พี่สะใภ้”

จู่ลั่วหานที่เตรียมตัวดักแท็กซี่ข้างถนน จู่ๆก็มีรถเบนซ์สี ขาวจอดอยู่ตรงหน้าเธอ จากนั้นกระจกลดก็ค่อยๆลดลง แล้วก็เห็นหน้าของหลงจื้อโผล่ออกมา

แสงไฟของข้างถนนที่เป็นแสงไฟที่เหลืองส้ม ทำให้ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ของหลงจื้อถูกบดบังไปเยอะ ไม่ เหมือนตอนเช้าที่ทำตัวหัวดื้อและน่ารำคาญ แต่ตอนนี้ก็ไม่ ได้ถือว่าดีกว่าตอนเช้าสักเท่าไหร่

คู่ลั่วหานจึงได้กอดอกพลางหรี่ตาลง “มีเรื่องอะไร?”

หลงจื้อไม่ได้ลงรถ จากนั้นก็ได้ผลักประตูข้างเบาะที่นั่ง คนขับออกจากข้างใน “ไม่มีอะไรก็หาพี่ไม่ได้หรอ? พี่สะใภ้ ไม่ให้หน้าฉันขนาดนี้เลยหรอ?”

ไม่ว่าสิ จู่ๆลั่วหานก็สัมผัสได้ว่าหลงจื้อรู้เรื่องเยอะเกินไป เขาไม่มีทางมาที่นี่โดยบังเอิญแน่นอน เขาต้องแอบสืบที่ อยู่ของเธอ จากนั้นก็มาหาเธอที่นี่

หลงจื้อได้แอบเช็คประวัติเธอ!

พอเธอรู้ว่าเป็นแบบนี้ ก็ทำให้ฉู่ลั่วหานรู้สึกไม่สบายใจ

มากๆ

“ถ้าคุณชายรองตระกูลหลง อยากได้หน้า ก็คงจะมาหาผิด คนแล้ว ที่ฉัน ไม่มีทางที่คุณจะได้แน่นอน” ในใจของเธอ คิดอย่างเดียวแล้วจะไปหักหน้าจู่ชีหราน ให้มองหน้ากันไม่ ติดไปเลย ใครจะมีกระจิตกระใจมาสนใจคุณชายคนนี้อีกล่ะ

หลงจื้อกลับไม่คิดจะยอมแพ้ จากนั้นก็รู้สึกอย่างไม่สนใจ “ได้ ไม่ให้หน้าก็ได้ พี่สะใภ้ งั้นพี่ขึ้นรถก่อน ฉันจะพาพี่ไปที่ แห่งหนึ่ง”

ลั่วหานจึงหัวเราะเบาๆ “ดึกๆดื่นๆขนาดนี้มานั่งรถของ น้องชายของสามีแล้วไปไหนไม่รู้? เกรงว่าคงจะไม่เหมาะ

สม”

หลงจื้อจึงพยักไหล่ “ไม่เหมาะสม? หรือคุณไม่กล้า?” เขา ทำสายตาที่ดูท้าทายเธอ แล้วทำสีหน้าดูถูก

ฉู่ลั่วหานจึงได้แสยะยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา “น้องสามีอยาก

จะหาเรื่องท้าทาย ก็คงจะหาผิดคนแล้ว ฉันยังมีธุระ คงไม่

สามารถเล่นเป็นเพื่อนน้องได้อีก”

ลั่วหานพูดไปก็ได้สาวเท้าแล้วเดินจากไป ตอนนี้ทำไม ถึงรู้สึกปวดเข่ายิ่งกว่าเดิม ทุกครั้งที่ก้าวเดินก็เหมือน กระดูกกำลังจะแตกเป็นซากๆ!

หลงจื้อจึงได้ขับรถตามจู่ลั่วหานไปด้วยความใจเย็น “พี่ สะใภ้ คืนนี้สถานที่ผมจะพาไป รับประกันได้เลยว่าพี่จะไม่มีทางเสียใจ เชื่อผม!”

ฉู่ลั่วหานจึงได้กอดอกไว้แน่นๆ เพราะว่าอากาศมันหนาว และเพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูมีอำนาจ เธอเป็นพี่สะใภ้ของ เขา กลัวว่าเด็กคนนี้จะแยกแยะความสัมพันธ์ไม่ถูก

“หลงจื้อ คุณฟังไว้ ฉันเป็นภรรยาของพี่ใหญ่คุณ คุณควร จะรักษาระยะห่างกับฉันไว้ เข้าใจไหม?”

หลงจื้อจึงเบะปากอย่างสุดคำบรรยาย “คุณเป็นผู้หญิง ของใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม?”

“เหอะ!”

“คุณไม่ใช่ว่าเป็นผู้หญิงของใครก็กลายเป็นผู้หญิงของ คนๆนั้น สิ่งแรก คุณคือผู้หญิงที่โดดเด่นคนหนึ่ง

ยัยเด็กคนนี้พูดจาเก่งจริงๆ

จู่ลั่วหานจึงได้หรี่ตาลงเล็กน้อย “ไปไหน?”
หลงจื้อจึงได้กระตุกคิ้วขึ้นอย่างได้ใจ “ขึ้นรถก่อนค่อยว่า

กัน”

สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียง เมืองหลวงเป็น เมืองที่เต็มไปด้วยความครึกครื้นจริงๆ

ทั้งถนนสายตานี้เต็มไปด้วยสถานที่บันเทิง ทุกส่วนเป็น ของตระกูลหลงหมด

ที่นี่เป็นสถานที่บันเทิงของตระกูลหลง เพราะว่าเป็นสถาน ที่ใหญ่มากๆ จึงมักจะถูกคนเรียกว่าเป็นถนนสายยาวกว่า สิบลี้

ไม่ว่าจะสถานะทางการเงิน หรือแม้แต่อำนาจ ก็สามารถ เผยให้เห็นในที่นี่อย่างสมบูรณ์แบบ

แต่ฉู่ลั่วหานก็นึกไม่ถึงว่าเธอจะได้เจอหลงจื้อในที่นี่

ริมฝีปากบางๆของหลงจื้อจึงกระตุกขึ้นเบาๆ “พี่สะใภ้ เข้า มากับผมเถอะ”

ฉู่ลั่วหานที่สวมใส่แค่ชุดลำลอง แต่ก็โดนผู้หญิงที่หน้าตา สะสวย และแต่งตัวสวยหรูมองแรงใส่ ตอนนี้เธอได้ดึงดูดสายตาคนอื่นให้มาสนใจมาเยอะ ทุกๆสายตาที่ มองนั้นเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียบหยาม และดูไม่ต้อนรับ เธอเลยสักนิด

เธอไม่ได้จะสบสายตากลับสักคน

กำลังดูถูกเธออยู่งั้นหรอ?

เธอเป็นตั้งคุณผู้หญิงที่เป็นเจ้าของในสถานบันเทิงที่แสน จะวิลิศมาหราของที่นี่!

สถานที่บันเทิงที่เป็นตึกสีขาวที่เป็นตึกสิบกว่าชั้น อีกทั้ง ยังมีน้ำพุหลากสีที่สวยงาม ในประตูใหญ่ที่ทำจากกระจก กลางห้องโถงใหญ่แขวนด้วยโคมไฟเพชรคริสทัลจาก อิตาลีที่ดูระยิบระยับและส่องสว่างเหมือนตอนนี้เป็นเวลา กลางวัน

ฉู่ลั่วหานยืนอยู่ตรงใต้โคมไฟเพชรคริสทัล และสิ่งปลูก สร้างที่สร้างกำแพงด้วยกระจก ทำให้สะท้อนแสงไฟออก มา จึงไปกระทบกับเรือนร่างของเธอ ทำให้เธอดูโดดเด่น และเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นอีก

ในห้องโถงที่มีพื้นที่ประมาณสี่ห้าร้อยตารางเมตร เต็มไปด้วยกิจกรรมที่ให้ความบันเทิงมากมาย และมีสาวสวย กำลังเต้นรำกันอย่างครึกครื้น

สายตาของจู่ลั่วหานจู่ก็ได้จับจ้องไปยังสิ่งที่เห็นอย่าง

ไม่ละสายตา

ในท่ามกลางผู้คนมากมาย เรือนร่างที่สูงใหญ่ของหลง เซียวยังคงเป็นคนที่โดดเด่นกว่าใครๆ เขาที่อยู่ในชุดสูทสี ดำ และสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว อีกทั้งยังปลดกระดุมตรงคอ ออกหลายเม็ด ทำให้เห็นถึงผิวพรรณที่ดูมีสุขภาพที่แข็ง แรง มืออันเรียวยาวได้จับไวน์แดงไว้ และทุกคนก็กำลัง ทำความเคารพเขา

ผู้หญิงคนหนึ่งแทบจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาไป ทั้งเรือนร่าง เธอที่ทำตัวเหมือนไร้กระดูกและดูอ่อนเหมือน โคลนตมที่ไม่มีเรี่ยวแรง

เหอะ!

เรือนร่างนั้นที่ดูสง่างาม การแต่งหน้าที่ดูเข้มจัด ทำให้ดู เหมือนเป็นเมียน้อยของคนอื่นจริงๆ นั่นก็คือโม่หรูเฟย!คืนนี้คงจะมีเรื่องสนุกให้ดูแล้วสิ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ