ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 163 ความลับในเลือด



ตอนที่ 163 ความลับในเลือด

ตอนที่ 163 ความลับในเลือด

“ท่านรองคณบดี ! แย่แล้ว ! แย่แล้ว ! ผู้ป่วยตั้งครรภ์เลือดออกเยอะมาก ใกล้จะ

ไม่ไหวแล้ว ! ”

“อะไรนะ ! รีบไปเร็ว ! ”

ผู้ป่วยตั้งครรภ์เลือดออก ! ? หรือว่าจะ เป็นคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งฉลองไปเมื่อครู่ กัน?

ฉู่ลั่วหานได้ยินเสียงตะโกนดังมาจาก ข้างนอก เธอผลักประตูออกตามพวกทีม แพทย์ไปยังบ้านผู้ป่วย อุปกรณ์ทางการ แพทย์ที่นี่ง่ายมาก ถ้าไม่ได้นำอุปกรณ์ที่ จําเป็นมาจากจีน พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

ว่าจะมีคนตายอีกกี่คน การที่ผู้ตั้งครรภ์ตกเลือด หากไม่มีพวก เขาคอยดูแลอยู่ข้างๆ คงไม่ต้องพูดถึงสิ่ง ที่ตามมา

ถังจิ้นเหยียนก้มตัวเข้าไปในบ้านผู้ป่วย เนื่องจากทางบ้านที่ค่อนข้างต่ำ เพียงพอ แค่คนในครอบครัวอาศัยเท่านั้น

ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง เลือดสีแดงสด ไหลออกมาเต็มเตียง ! เสื้อผ้าของเธอ เปียกปอน บนเตียงเต็มไปด้วยเลือดคาว คลุ้งอีกทั้งบนพื้นเช่นกัน น่าตกใจจริงๆ !

ในห้องที่คับแคบคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาว ผสมกับกลิ่นอับ ทำให้ผู้ที่สูดดมเข้าไป แทบเป็นลม

ผู้ป่วยมีโรคประจําตัวคือหัวใจ การให้ กำเนิดบุตรจากเดิมก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงอยู่ แล้ว แต่คนในท้องถิ่นนี้ไม่มีความรู้ความ เข้าใจพอ พูดเพียงแต่ว่าการที่เธออดทน จนถึงวันคลอดได้นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ แล้ว

เด็กเพิ่งจะลืมตามาดูโลก แม่เอง สลบไสลยังไม่ฟื้น ถึงตอนนี้เองเธอก็ยัง ไม่ได้ลืมตามามองแม้แต่หน้าของลูก

“สูดหายใจ ! หายใจสิ ! อย่าลืม หายใจ !

“มห้ามเลือด ! เร็วเข้าเราต้องห้าม เลือดก่อน ! ”

“ผู้ป่วยมีเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจไม่เพียง พอ เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ และ ผู้ป่วยใช้แรงไปมาก เมื่อสักครู่พวกเรา พยายามห้ามเลือดแต่ไม่เป็นผล

“ผมเอง ! ถังจิ้นเหยียนยื่นมือไปตบหน้าผู้ป่วยพูด ว่า “อย่าหลับนะครับ นึกถึงลูกเข้าไว้ เขา พึ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลก เขาต้องการแม่ ได้ยินไหม?”

ถังจิ้นเหยียนพูดภาษาท้องถิ่นได้อย่าง คล่องแคล่ว ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาเคยเข้าร่วมอาสาสมัครรักษาพยาบาล ในแอฟริกาและปัญหาการสื่อสารกับ คนในพื้นที่แทบจะเป็นศูนย์

ผู้ป่วยพยายามฝืนและพยักหน้า มือทั้ง สองข้างคําผ้าปูที่นอนไว้แน่น น้ำตาไหล ริน

สีหน้าของผู้ป่วยแย่ลงทุกทีๆ เนื่องจาก การตกเลือดทําให้เธอรู้สึกหมดแรงและ หายใจรวยริน “ผู้ป่วยสูญเสียเลือดมากเกินไป ต้องได้ รับเลือดเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นไม่รอดแน่ ถังจิ้นเหยียนตัดสินใจพูดออกมา แต่ทีม แพทย์ทุกคนกลับนิ่งเฉย

“ท่านรองฯ ผู้ป่วยกรุ๊ปเลือดB Rh Negative ไม่สามารถใช้เลือดกรุ๊ปอื่นได้ พวกเราถึงได้เป็นกังวลอยู่นี่ไง ! ”

B Negative ! ?

เมื่อพูดจบถังจิ้นเหยียนก็หยุดการกระทำ นั้นลง มือของเขาตกลงไปทันที ส่วนฉู่ลั่ วหานที่ยืนอยู่บริเวณประตูนั้นตัวสั่นเทา !

เธอเลือดกรุ๊ปนี้ !

ถ้าเป็นแบบนี้หมายความว่า เธอเป็น เพียงคนเดียวที่จะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วย รายนี้ไว้ได้ ! ? ทําไมถึงเป็นแบบนี้กัน ! ?

ถังจิ้นเหยียนเองก็นึกได้เช่นกัน เขาจำตัว อักษรในผลตรวจเลือดนั้นได้ดี เขียนไว้ว่า เธอกรุ๊ปเลือดอะไร แม้จะรู้สึกประหลาดใจ ที่เธอมีเลือดกรุ๊ปนี้ แต่โรคร้ายบนผลตรวจ นั้นนําให้เขาลืมมันไป

เขานึกขึ้นมาได้แวบหนึ่งจากนั้นมองไป ยังฉู่ลั่วหานที่ยืนอยู่ แม้พวกเขาจะสบตา กันเพียงวินาทีเดียวก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่าย หนึ่งต้องการสื่ออะไร

“ท่านรองฯ ผู้ป่วยสลบไปแล้ว ! ”

ถังจิ้นเหยียนรีบดึงสติกลับมา แต่ผู้ป่วย ไม่ได้สติเสียแล้ว “ให้ออกซิเจน vinCPR !” หมอทั้งสองคนพยายามช่วยกันสุดความ สามารถ แต่ชีพจรของผู้ป่วยแผ่วเบาลง เรื่อยๆจนแทบจะไม่มี หัวใจของผู้ป่วยตอน นี้แทบจะไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงเนื่องจาก เสียเลือดมาก ถ้าหากไม่รีบให้เลือด เกรง ว่าจะอยู่ต่อได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง !

“ตบ !

“ดุบ ! ”

สามีและแม่ของผู้ป่วยคุกเข่าลงบนพื้นที่ แข็งนั้น แม้ว่าพวกเขาจะฟังไม่เข้าใจในสิ่ง ที่แพทย์พูดกัน แต่ใครก็ดู ออกจากเลือดที่มองไปทั่วห้องแบบนี้ ช่าง น่ากลัวจริงๆ

ทั้งสองคนกอดขาของถังจิ้นเหยียนไว้ และก้มหัวอ้อนวอน พวกเขาพูดร้องขอ ออกมาไม่หยุดปากด้วยใบหน้าที่เต็มไป ด้วยน้ำตา

บ้านนี้มีทารกเพิ่งจะคลอดออกมา จะขาด แม่ขาดภรรยาไปไม่ได้

ถังจิ้นเหยียนกุมมือหญิงชราไว้แน่น เขา พยายามจะพยุงหญิงชราอายุกว่าเจ็ดสิบ ปีนี้ขึ้นมา แต่เธอก็พยายามคุกเข่าวอนขอ

ไม่หยุดปาก

เสียงร้องไห้ดังไปทั่วห้อง เสียงร้องไห้ ของผู้ใหญ่สลับกับเสียงทารกแรกเกิดดัง กังวาน ทั้งสองเสียงประสานกันคล้ายแผ่น ดินจะถล่มอย่างไรอย่างนั้น

ถังจิ้นเหยียนตาแดง “คุณยายครับ ไม่ใช่ ว่าพวกเราไม่ต้องการช่วยเหลือ แต่กรุ๊ป เลือดของผู้ป่วยค่อนข้างพิเศษ พวกเราไม่ ได้เตรียมเอาไว้เลย เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงชราก็ยื่นมือออกไป “เอาเลือดฉัน ! เอาเลือดฉันไป ! ”

ชายหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นก็พูดว่า “ขอร้อง เถอะ ช่วยภรรยาผมด้วย ! ผมขอร้องนะ ครับ ! ”

ฉู่ลั่วหานหันหลังกลับ น้ำตานองหน้า

ที่จริงเธอสามารถช่วยพวกเขาได้ ฉู่ลั่วหานมองดูเส้นเลือดบนแขน ของตัวเอง ถ้าหากเป็นไปได้เธอยินยอม ให้เลือดนี้ครึ่งหนึ่งแก่พวกเขา แต่เธอทำ ไม่ได้ ! หากใช้เลือดของเธอ จะยิ่งทำให้ ผู้ป่วยต้องทรมานมากขึ้น

“ผู้ป่วยฟื้นแล้ว ! ท่านรองฯ ผู้ป่วยฟื้น แล้ว ! “ ถังจิ้นเหยียนรีบวิ่งเข้าไปตรวจดูสีหน้า ฟังเสียงหัวใจจับชีพจร ถังจิ้นเหยียนวางหู ฟังลงอย่างไร้เรี่ยวแรง

เขาหันหลังกลับไปบอกกับพยาบาลด้วย เสียงแผ่วเบาว่า “ไปอุ้มเด็กมา ให้เธอได้ เห็นหน้าลูกของเธอสักครั้ง”

พยาบาลสาวร้องไห้ “ไม่มีทางช่วยจริงๆ เหรอคะ?ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาลคนไข้ ที่เสียเลือดมากกว่านี้มีมากมายังช่วยเอา ไว้ได้ ทําไม………ไมครั้งนี้ไม่ได้ ฮือๆ เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยนี้ล้ำหน้า ไปตั้งเยอะแล้ว ทําไมยังต้องมีคนตาย

แพทย์คนอื่นๆก็พากันร้องไห้ไปตามๆ กัน พวกเขาเข้าใจดีว่าผู้ป่วยมีโรคหัวใจอยู่ แล้วอีกทั้งตอนนี้เสียเลือดมากประกอบกับ ไม่สามารถให้เลือดได้ จะมีหนทางรอดได้ ยังไง? ถังจิ้นเหยียนคําหมัดแน่น พูดอีกครั้งว่า “ไปอุ้มเด็กมาได้แล้ว”

พยาบาลพยักหน้า เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอ ก็พบกับฉ่ลั่วหานที่ปิดหน้าด้วยผ้ามา เธอ ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “ทำไมต้องมีคนตาย ด้วย?”

เมื่อเธอร้องไห้ขึ้น ฉู่ลั่วหานเองก็อยาก ร้องตาม

เมื่อผู้ป่วยได้เห็นลูกของเธอ ใบหน้า ซีดเซียวนั้นคล้ายกับมีรอยยิ้มบางๆ น้ำตา ทั้งสองข้างไหลออกมาเป็นสาย เธอนำมือ ไปลูบกับมือน้อยๆของลูก เธอพูดไม่ออก ถึงความรู้สึกที่น่ายินดีอันแสนเศร้านี้ สร้าง ความประทับใจแก่ทุกคนในที่นั้น

ฉล้วหานมองดูไม่ได้อีกต่อไป เธอหัน หลังกลับไปและร้องไห้ออกมา “คุณหมอ ช่วย……ช่วยให้ฉันมีชีวิตอยู่ ต่ออีกหนึ่งวันได้ไหม……แค่วันหนึ่งวัน หนึ่งก็ยังดี” คุณแม่มือใหม่ งชายเสื้อของ ถังจิ้นเหยียนไว้ เลือดสีแดงสดแปดเปื้อน ไปที่เสื้อคลุมสีขาว เสียงของเธอแผ่วเบา คล้ายกับพยายามต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย

ไม่มีคำพูดใดจากปากของถังจิ้นเหยียน เขาไม่รู้จะพูดอย่างไร จึงจับมือเธอไว้แน่น “มองดูลูกของคุณให้ดี

“สักหนึ่งวัน……ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไร

ก็ตาม ขอให้ฉันมีชีวิตต่ออีกสักวัน……….. อยาก……อยากเห็นหน้าลูก อีกสักหนึ่งวัน”

เธอไม่ยอมละทิ้งความพยายาม แม้ลม หายใจเธอจะรวยริน ปริมาณเลือดลดลง เหลือเพียง30 70 อีกวันหนึ่ง ขอแค่อีกสักวันหนึ่ง เธอ ยินยอมแลกด้วยทุกสิ่งอย่าง

ฉล้วหานหันหลังกลับมา สบตากับถังจิ้น เหยียนอีกครั้งหนึ่ง จริงไหม…… หรือ? ทำได้จริง

หากรับเลือดที่มีเชื้อHIVเข้าไป อาจ ทําให้เธอมีชีวิตรอดได้อีกสักวัน แต่ มันจะ มีประโยชน์อะไรกัน !

“ขอร้องละ…….คุณหมอ…… ขอร้องละ

ฉู่ลั่วหานคํามือแน่นและเดินไปทาง หน้าต่าง “ถังจิ้นเหยียน คุณช่วยแปลให้ ฉันที”

เธอกระซิบลงข้างหู เสียงนี้ได้ยินกัน เพียงแค่สามคนเท่านั้น “ฉันเลือดกรุ๊ป เดียวกับคุณ แต่……คุณรู้จักโรคเอดส์ ไหม? เลือดของฉันมีเชื้อHIV” ฉู่ลั่วหา นพูดพลางน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง !

ถังจิ้นเหยียนทําหน้าที่แปลให้เธอฟัง เมื่อฟังจบสีหน้าเปลี่ยนไป

HIV เชื้อที่ได้รับเข้าไปแล้วไม่ต่างอะไร กับตายทั้งเป็น

ฉู่ลั่วหานน้ำตานองหน้า “ถ้าเป็นแบบนี้ คุณจะยอมไหม?”

ผู้ป่วยสีหน้าตกใจ เธอมองดูฉู่ลั่วหาน และไม่พูดอะไรออกมา

ฉู่ลั่วหานทําท่าลุกขึ้นจากเตียง เธอจะ ยอมได้อย่างไร? หากได้รับเชื้อนี้ ก็ไม่มี หวังเหมือนกัน

ผู้ป่วยมองไปที่ลูกน้อยแล้วยิ้มออกมา “ฉัน…….ตกลง ขอเพียงแค่มีชีวิตอีกสักวัน หนึ่ง……ฉันยอม”

“..หา…………….” ถังจิ้นเหยียนดึงข้อ มือฉู่ลั่วหานไว้ “ถ้าคุณทำแบบนี้ เรื่องนี้ทุก คนจะรู้หมดนะ คุณรู้หรือเปล่า?”

ฉู่ลั่วหานยิ้ม “ถ้าทําให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ อีกสักวัน ฉันจะต้องไปกลัวอะไร?รีบถ่าย เลือดเร็ว”

“คุณคิดดีแล้วใช่ไหม?”

ล้วหานพยักหน้า “เร็วเข้าเถอะค่ะ เธอ รอไม่ไหวแล้ว”

เมื่อได้รับการอนุญาตจากญาติแล้ว เลือดที่ติดเชื้อHIVของผู้หญิงคนนี้ก็ถูก เปิดเผยบัน เลือดไหลออกมาจากตัวเธอเข้าสู่ผู้ป่วย ผู้หญิงทั้งสองนอนมองหน้ากัน วินาทีนี้ ชีวิตของพวกเธอทั้งสองแทบหลอมรวม เป็นหนึ่ง

ผู้ป่วยพ้นขีดอันตราย ฉู่ลั่วหานเนื่องจาก ให้เลือดมากเกินกำหนดทำให้เป็นลมไป

ทำไมโง่แบบนี้นะ?” ถังจิ้นเหยียนปวดใจ แทนเธอ เขาลูบผมเธอเบาๆ ผู้หญิงคนนี้ โง่และบ้าจริงๆ

ฉู่ลั่วหานนอนหลับอยู่หนึ่งวันเต็ม สีหน้า เธอดีขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าอันผอมเรียวของ เธอยิ้ม “ฉันก็โง่แบบนี้ คุณเพิ่งจะรู้เหรอ?”

เขายิ้มอย่างอ่อนโยน เดินไปหยิบถ้วย โจ๊กมาเป่าแล้วส่งให้ “กินโจ๊กก่อน เด็ก ดื้อ” “อีกสักสองสามวัน……ลองทําการ ทดสอบเลือดของเธอดูนะคะว่าต้านไวรัส ได้ขนาดไหน

“คุณให้คนอื่นทําการทดสอบ ทำไมตัว เองไม่ยอมทํา?นับจากวันที่ได้ผลตรวจ สุขภาพ คุณก็ไม่เคยคิดจะทำการทดสอบ เลย”

“คุณอยากได้ยินความจริงไหม……ฉัน ไม่กล้า ฉันกลัว…….ผลตรวจสุขภาพของ โรงพยาบาลเราได้รับมาตรฐานสูงสุดใน เมืองหลวง จะให้ฉันไปทำการทดสอบ ที่ไหนคะ?อีกอย่างโรคนี้ จะทดสอบหรือ ไม่ทดสอบมันมีอะไรแตกต่างกัน?หากพบ เชื้อเร็วก็รักษาได้งั้นเหรอ? เหอะๆๆๆ” เธอ หัวเราะอย่างเย็นชา

คําพูดที่เก็บไว้ในใจได้พูดออกมาแล้ว ใช่ ทําไมไม่ทําการทดสอบล่ะ? ไม่กล้าเผชิญ หน้ากับความจริงอย่างนั้นเหรอ?กลัวที่จะ ได้ยินผลตอกย้ำเสียมากกว่า……เธอไม่ กล้าจริงๆ

ถังจิ้นเหยียนไม่พูดอะไรอีก เขาป้อนโจ๊ก ให้เธอต่อไป

เขาหยิบชามเปล่าเดินออกไปจากห้อง ถังจิ้นเหยียนไม่สามารถทนต่อน้ำตาได้อีก ต่อไป

หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์

ณ คฤหาสน์ตระกูลหลง

เพียะ ! เพลง !!! ”

เสียงวัสดุตกหล่นลงพื้นแตกกระจายดัง มาจากห้องทางชั้นสอง หยวนซูเฟ้นและ บรรดาคนใช้ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น มอง

“ไสหัวไป ! ”

หลงเซียวกวาดทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าลง ไปที่พื้น รูปที่ถังจิ้นเหยียนและฉู่ลั่วหาน ท่าทางสนิทชิดเชือกันจนทําให้เขาคิดไป

ไกล

“นายท่าน พวกนี้……บางทีอาจต้องได้ รับการตรวจสอบ”

“ไสหัวออกไป !

“ตุ๊บ ! ” เสียงปากกาดกลงสู่พื้นอย่าง ตั้งใจ คุณชายหลงเวลาโมโหอาจพลั้งมือ ฆ่าใครก็ได้ !

จ้องหมิงเดินออกมาจากห้องทํางาน ใน ห้องเงียบสงัด เหลือเพียงลงเซียวที่นำ มือทั้งสองกุมขมับด้วยความเจ็บปวดใจจน แทบระเบิด !

ผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรกันแน่? ต้องการลงโทษเขา?แก้แค้นเขา?ทำไมไม่ ทําต่อหน้าเขาตรงๆ? !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ