ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 375 เอาของตัวเองกลับคืนไม่ถือว่าผิด



ตอนที่ 375 เอาของตัวเองกลับคืนไม่ถือว่าผิด

ตอนที่ 375 เอาของตัวเองกลับคืนไม่ถือว่าผิด

เอาของตัวเองกลับคืนไม่ถือว่าผิด

ผู้ตายกับคนในรูปเหมือนกันไม่มีผิด เมื่อเทียบกันแล้ว อายุก็เท่ากัน ทั้งหมดนี้ทำให้หลงเซียวแน่ใจว่า พวกเขา เป็นคนคนเดียวกัน

แต่ว่า…….

หลงเซียวจ้องดูรูปภาพ ดูคนในรูปอีกสามคน สั่งชิงเซ อี๋ยน มู่เส้าเอิน อีกคนที่ยังไม่รู้ชื่อ ในนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน?

คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวหลงเซียว เหมือนมีก้อนเมฆ ใหญ่บดบัง ยิ่งอยากมองให้ชัด ยิ่งครุมเครือ

“โคร่ง”

นอกหน้าต่างเสียงฟ้าผ่าดัง ในใจก็เหมือนเสียงฟ้าร้องไม่ หยุด ความมืดมนนอกหน้าต่าง ฝนฟ้ากระหน่ำไม่ขาดสาย สาดลงที่หน้าต่างจนเกิดเสียงดัง

สายตาหลงเซียวตอนนี้มืดมนเหมือนท้องฟ้า เขามองไป ที่ทางหนึ่ง จ้องอยู่เป็นเวลานาน

“ประธาน?” จี้ตงหมิงเห็นประธานตัวเองสีหน้าเปลี่ยน ถาม ขึ้นอย่างกังวล

หลงเซียวตอบอึมค่าเดียว จากนั้นก็พลิกมือถือวางบนโต๊ะ ทำงาน “การประชุมผู้บริหารเริ่มกี่โมง?”

“เริ่มสิบโมงครึ่ง” จี้ตงหมิงยังไม่วางใจ ตอบเสร็จก็ถามขึ้น “ประธาน ต้องการพักผ่อนสักพักไหมครับ? ถึงเวลาประชุม แล้วผมมาเรียก?

หลงเซียวส่ายหัว นิ้วยาวกดตรงขมับ สีหน้าแสดงอารมณ์ ที่ไม่มีคนดูออก พูดขึ้น “ไปเตรียมคอมเครื่องใหม่หนึ่ง เครื่องที่ฝ่ายเทคนิค เอาแบบดีที่สุด อีกอย่าง อัปโหลด โปรแกรมแอนตี้ไวรัสด้วย เตรียมเสร็จแล้วเอามา

“ครับ ประธาน”
จี้ยงหมิงออกจากออฟฟิศ หลงเซียวก็ยังขจัดความสงสัย ในใจไม่ได้ ต้องมีใครคอยควบคุมเรื่องพวกนี้แน่ ไม่ใช่เรื่อง บังเอิญแน่นอน

คนในรูป วันนี้เขารู้จักสามคน แต่สองคนตายไปแล้ว ถ้า อย่างนั้นคนที่จะถามได้ก็คือสังชิงเซวี่ยนคนเดียว

เวลาเดียวกัน แอนดี้เคาะประตูเข้ามา “ท่านประธานการ ประชุมผู้บริหารจะเริ่มขึ้นสิบโมงครึ่ง ท่านมีอะไรจะสั่งไหม ครับ?”

“เอารายชื่อให้ผม”

“ได้ครับ ท่านประธาน

แอนดี้ยื่นรายชื่อฉบับหนึ่งให้หลงเซียว พื้นขาวหมึกดำ เขียนไว้อย่างชัดเจน ผู้จัดการฝ่ายการเงิน หลงจื้อ

ดูแล้วพ่อเตรียมจะให้เสี่ยวจื้อให้ที่นั่งในกลุ่มผู้บริหารแล้ว แล้วจากนั้นละ?

หลงเซียวขยำใบรายชื่อนั้นเป็นก้อน ใช้แรงโยนทิ้งลงใน ถังขยะ
หลงจื้อเข้ากลุ่มผู้บริหารไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หลงถึงทำ แบบนี้ต้องการจ่อจงเขา ต้องการควบคุมอำนาจของเขา หรือพูดได้ว่าเขาอยากให้หลงจื้อได้อยู่ในตำแหน่งที่สูง กว่า

ยิ้มแล้วหยิบปากกาเซ็นชื่อ เซ็นชื่อตัวเองหลังเอกสาร ฉบับนั้น

ตอนนี้มีเมฆหมอกโอบล้อมเขา ความครุมเครือไม่แน่นอน แต่ก็สังเกตเห็นได้ว่า เรื่องทุกเรื่อง ล้วนมีคนอยู่เบื้องหลัง

คือใคร? เป้าหมายคืออะไร? —— “ศาสตราจารย์สัง ? ศาสตราจารย์สัง ? ”

หลินซีเหวินเรียกสังชิงเซวี่ยนไปสองครั้ง เขาเหมือนกับ หูหนวกไม่มีการตอบสนองเลย หลินซีเหวินยื่นมือไปเขย่า เขา “ตาเฒ่าน้อย คิดอะไรอยู่ ดูทีวีจนซื่อไปเลย?”

สังชิงเซวียนถึงหันกลับไป ขยับสายตาออกจากทีวี ตอน เที่ยงกินข้าวเห็นทีวีในห้องอาหารกำลังประกาศข่าวมีคน ถูกฆ่ากลางฝน สังชิงเซวี่ยนถูกผู้ตายและสาเหตุการตายปั่นป่วนความคิดเขาอยู่

“เสี่ยวหลิน มีอะไรเหรอ?”

สีหน้าสั่งชิงเซวี่ยนกลับมาเป็นปกติ แต่สีหน้าที่แปลกไป ถูกหลินซีเหวินเห็นอย่างชัดเจน

“ตาเฒ่าน้อย หนูต้องถามอาจารย์ต่างหากว่ามีอะไร หนู นั่งอยู่นี่ตั้งนานแล้ว สายตาอาจารย์ดูแต่ทีวี ไม่มองหนูสัก นิด หน้าตาหนูหน้าดูกว่าชายในทีวีอีก ก็กลับไม่ดูหนูเลย”

สังชิงเซวียนคีบผักเข้าปาก คิ้วไปสองสี ก็พูดขึ้น “เสี่ยว หลินหน้าตาดีขนาดนี้ คนแก่อย่างผมไม่ดูถือว่าขาดทุน เสี่ยวหลินมีเรื่องอะไร?”

หลินซีเหวินชี้ผู้ตายในทีวี ใช้ตะเกียบชี้ไปที่ชายคนนั้น “ตาเฒ่าน้อย คนนี้เป็นคนรู้จักเหรอคะ? ดูสีหน้าเมื่อกี้แล้ว ดู เหมือน…….เสียใจมาก”

สังชิงเซวี่ยนปฏิเสธ “เป็นไปได้ยังไง? เสี่ยวหลินอย่าล้อ เล่น คนแก่กินอิ่มแล้ว ไปสูบบุหรี่นะ”
พูดไป สังชิงเซวียนก็ลุกเดินออกไปจากห้องอาหาร ร่าง ในชุดขาวไม่นานก็เดินไปจากนอกห้องอาหาร

หลินเหวินยักไหล่ ดูรูปภาพผู้ตาย ดูอย่างละเอียด เอียง คอดูแล้วดูอีก แปลก ทำไมรู้สึกเคยเห็นคนนี้ที่ไหนแต่เธอ จําไม่ได้

สุดท้ายสรุป น่าจะเป็นคนน่าโหล เธอต้องจําผิดคนแน่

“โคร่ง โคร่ง”

ข้างนอกยังคงมีเสียงฟ้าผ่า ลมพัดแรง พัดต้นไม้ริมถนน โบกไปมา จนหักตกอยู่กลางถนน ฝนก็ยังตกมาไม่ขาดสาย ไหลลงสู่ท่อระบาย ส่วนที่ระบายไม่ทันยังคงข้างบนถนน จํานวนมาก

สังชิงเซวี่ยนลงไปสูบบุหรี่ตรงบันได ในมือถือบุหรี่อยู่มวน หนึ่ง ค่อยๆ พ่นควันออกไป และควันก็หายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นาน ควันบุหรี่ก็รอยเต็มบันได

ตายแล้ว เห้อ ตายไปแล้วจริงๆ

สุดท้ายต้องยังหนีไม่พ้นความตาย
อุบัติเหตุรถยนต์วันนั้น ถ้าไม่ใช่หวาเทียนช่วยเขาไว้ทัน เขาก็คงตายไปแล้ว มีคนไม่อยากให้พวกเขามีชีวิตอยู่ ลงมือเร็วมาก เร็วมากจริงๆ

สังชิงเซวี่ยนสูบบุหรี่เข้าไปคำหนึ่ง ถอนหายใจพูด “ยี่สิบกว่าปีแล้ว ยังไม่ยอมให้คนที่มีชีวิตอยู่ได้อยู่อย่าง ปลอดภัย? เห้อ เมื่อไหร่ถึงจะสิ้นสุด? ฆ่าคนกลุ่มนี้ให้ หมด?”

เขาสูบไปหนึ่งมวน แล้วหยิบขึ้นมาอีกหนึ่งมวน หยิบบุหรี่ ไว้ หยุดนิ่ง เขามองดูกล่องบุหรี่ บุหรี่นี้หลงเซียวเป็นคนให้ เขา สัญลักษณ์ด้านบนเหมือนบ่งบอกสถานะบางอย่าง

หลงเซียว…….

สังชิงเซวียนขายชื่อนี้ออกมา จากนั้นก็ควานหาของใน กระเป๋า จนเจอโทรศัพท์รุ่นเก่า ดูแล้วเหมือนวัตถุโบราณ

ค้นหาไปมา จนเจอเบอร์โทรของเขา

มือหยุดอยู่ที่เบอร์โทรนั้นอยู่เนิ่นนาน ไม่ได้โทรออกไป ถอนหายใจยาว “เวรกรรม เห้อ” – 11

การประชุมผู้บริหารสูงสุดใกล้จบลงแล้ว บรรยากาศใน ห้องประชุมตึงเครียด เหมือนมีอะไรเกิดขึ้นได้ตลอด ผู้ บริษัทหลายคนมองหน้ากัน แต่ไม่กล้าพูดอะไรกัน

สายตาเฉียบคมของหลงถึงกวาดมองทุกคนในห้อง น้ำเสียงเย็นชาสรุปการประชุม “เรื่องการขายหุ้นก็เป็น อันตกลงตามนี้ ผมกับหลงเซียวเอาหุ้นในมือออกมาหา เปอร์เซ็นต์ พวกคุณก็เอาออกมาสามเปอร์เซ็นต์ เงินในการ ขายหุ้นรอบนี้จะใช้ในโครงการครั้งต่อไป ทุกท่านวางใจได้ เงินที่พวกท่านลงทุน ต้องได้ผลกำไรคืนเป็นเท่าตัวแน่

ใครจะไม่รู้ ว่าเงินที่ได้กลับมา ไม่ว่าจะเยอะแค่ไหน ก็สู้ถือ หุ้นส่วนเป็นMBKในมือไม่ได้

หลงจื้อไม่มีสิทธิ์ในการออกเสียง โดนหลงถึงควบคุม ตลอดการประชุม สำหรับหลงเซียวกับคนอื่นๆก็เหมือนกัน ท่านประธานใหญ่ตัดสินแล้ว ก็ได้แต่ทำตาม ไม่มีสิทธิ์ขัด แย้ง แน่นอน เขารู้ดี ไม่จำเป็นต้องขัดแย้ง

หลงถึงมองหลงเซียว สายตาที่มองเฉียบคมเหมือนงูพิษ ตอนนี้มีความอ่อนโยนในฐานะพ่อบ้าง แต่ความ อ่อนโยนนี้เหมือนมีภูเขาน้ำแข็งกั้น ความอบอุ่นนั้นโดน ภูเขาน้ำแข็งบดบังหมดแล้ว

“หลงเซียว เธอเป็นประธานบริษัท ฉันหวังว่าเธอจะนำทีม ทำเรื่องนี้นะ เธอเป็นลูกของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะให้ความ ร่วมมือในการวางแผนของพ่อ”

หลงเซียวยิ้มจางๆ “แน่นอน”

“ดีมาก ถ้าไม่มีข้อขัดแย้งอะไร ก็เริ่มปฏิบัติวันนี้ เลิก ประชุมได้

การประชุมจบลง หลงเซียวออกจากห้องประชุมคนแรก ร่างสูงใหญ่นั้นเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ สภาพอากาศข้าง นอกกับความโกรธของเขาเทียบกันไม่ได้เลย

“พี่ใหญ่”

หลงจื้อเรียกไว้ รีบเดินตามหลงเซียวมา เขาไม่ได้หยุด เดิน แต่ควบคุมน้ำเสียงของตัวเองตอบ “อะไร?”
“พี่ใหญ่ ครั้งนี้พ่อจ่อจองทุกคนในกลุ่มผู้บริหาร เขาเอง ก็ต้องปล่อยหุ้นออกมา เพราะฉะนั้นพี่อย่าโกรธพ่อเลยนะ เดี๋ยวผมกลับไปถามพ่ออีกที”

หลงเชียวถึงหันกลับไปมองเขา เขามองเห็นความไร้เดียง สา ความเป็นอ่อนเยาว์ ความเรียบง่าย ในสายตาเขายัง ไม่มีความเฉียบคมที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่งในแวดวงธุรกิจ ในใจเขายังมีความคิดที่ว่าเธอฉันต่างคนต่างไม่รบกวนอยู่ กันอย่างสงบ แต่เขาผิดแล้ว

เขาถูกผลักดันมาอยู่จุดนี้แล้ว

“เสี่ยวจื้อ ตอนนี้ในมือนายถือหุ้นอยู่เท่าไหร่?”

เสี่ยว อบอกตัวเลขให้เขา เมื่อเทียบแล้วตัวเลขไม่สูง แต่ ถ้ารวบรวมจำนวนหุ้นที่ผู้บริหารทุกคนปล่อยออกมาในวันนี้ รวบรวมไปในมือเขา ตัวเลขก็ไม่น้อยแล้ว

เขายังดูไม่ออก หลงถึงทำแบบนี้ ก็เพื่อจะให้ลูกชายของ เขาคนนี้ยืนตำแหน่งในโต๊ะผู้บริหารอย่างมั่นคง

หลงเซียวคิดถึงเด็กผู้ชายขี้อายที่วิ่งตามหลังเขาในตอน นั้น คิดถึงสายตาของพ่อที่รักและเอ็นดู เขารู้ตั้งนานแล้วว่า ลูกชายที่ถูกพ่อเลี้ยงดูอย่างดีคนนี้ ต้องเป็นภัย กับเขา แม้แต่………

“พี่ใหญ่ หุ้นส่วนของผมน้อยมาก ผมก็แค่ได้มาทำความ คุ้นเคยในกลุ่มผู้บริหารเท่านั้น พ่อบอกว่า ผมยังอายุน้อย ให้หุ้นส่วนผมในการฝึกฝน เขาไม่ได้ให้สิทธิอะไรกับผม

หลงเซียวมองความเรียบง่ายของหลงจื้อแล้วรู้สึก เสียดาย ทำอะไรไม่ถูก “นายไม่อายุไม่น้อยแล้ว อีกหน่อย ต้องเติบโตอย่างรวดเร็ว

เห็นสายตาหลงเซียวที่มีอารมณ์ซับซ้อน หลงจื้อก็รู้สึก ใจไม่ดี ถามอย่างไม่สบายใจ “พี่ใหญ่ ผมไม่ไปกระทบ ตำแหน่งพี่แน่นอน พี่วางใจ ถึงแม้พ่อให้ผมทำ…..ผมก็ไม่

“เสี่ยวจื่อ…….เรียกชื่อเขาไปคำหนึ่ง หลงเซียวก็พูดช้าลง วินาทีนี้เขารู้สึกเหมือนกลับไปถึงเมื่อก่อน เด็กหนุ่มชุดขาว จับหัวเด็กผู้ชายอายุแปดขวบ อย่างห่วงใยและรักใคร่เขา ในฐานะพี่ชาย

ตอนนี้ สายตาหลงเซียวก็กลับไปถึงสมัยนั้น เขาพูดช้าลง “ยังจำได้ไหมว่าพี่เคยพูดอะไร? ของที่เป็นของตัวเอง เอาคืนมาไม่ถือว่าผิด

หลงจื้อไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร “พี่ใหญ่ ทุกอย่างนี้เป็นของพี่ มันเป็นของพี่ พี่ก็ต้องเอาคืนไปอยู่แล้ว”

“ใช่ไหม?” เขาถาม

“โคร่ง”

เสียงฟ้าผ่าดัง และมีแสงสายฟ้าแลบอยู่นอกหน้าต่าง พายุฝนไม่มีวี่แววจะหยุดลงเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ