ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 121 ใครกัน ยื่นมือเข้ามาบงการเรื่อง นี้



ตอนที่ 121 ใครกัน ยื่นมือเข้ามาบงการเรื่องนี้

“ว่าอะไรนะ! แกจะขายคฤหาสน์ทิ้งงั้นเหรอ?! ฉู่ลั่วหาน เธอใจกล้ามากนะที่กล้าขับไล่ฉันของจาก บ้านตระกูลฉู่! ”

ฟางหลิงหยู้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอเหมือนเสีย สติบ้าคลั่งดึงคอเสื้อของฉู่ลั่วหานขึ้นมา จ้องเธอ ด้วยสายตาอาฆาตแค้น “นังผู้หญิงสารเลว ฉันเป็น ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของพ่อแกนะ ฉันเป็น คุณนายฉู่ แกกล้าดียังไงไล่ฉันออกจากบ้านหลัง นี้!

ฉู่ลั่วหานมองไปที่ใบหน้าอันเห็นแก่ตัวของเธอ ยิ้ม ด้วยสายตาดูถูกแล้วพูดว่า “คุณนายฉ่งั้นเหรอ? ฟัง แล้วดูดีนะคะ แต่น่าเสียนะคะคุณนายฉู่ คฤหาสน์ หลังนี้เป็นของฉัน ฉันมีสิทธิ์จะให้ใครอยู่หรือไม่ใคร ไปก็ได้”

ฉู่ซีหรานตะเกียกตะกายขึ้นมาจากเตียง ชี้ไปที่ หน้าฉู่ลั่วหานแล้วด่าว่า “ฉู่ลั่วหาน นังทรยศ แกมี สิทธิ์อะไรขายคฤหาสน์นี้? ก่อนหน้านี้แกเป็นคน ออกไปจากที่นี่เอง เป็นคนสละสิทธิ์หุ้นของตระกูลฉู่เอง ตอนนี้ยังมีหน้ากลับมาทำตัวเป็นแม่พระอะไร

อีก? ”

หึหึ!

แม่พระ? ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เธอไม่เคยคิดว่าตัว

เองเป็นแม่พระมาก่อน

“ฉ่ซีทรานเพิ่งผ่าตัดอยู่ในช่วงพักฟื้น ทางที่ดี ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอ เราจะส่งเรื่องให้บริษัท อสังหาริมทรัพย์เป็นคนจัดการ โดยจะดำเนินการ ขายออกไปให้เร็วที่สุด ส่วนพวกคุณก็เก็บข้าวของ

ย้ายออกไปซะ!

ฟางหลิงหยู้คว้ามือเธอไว้ ท่าทางจะบดขยี้ฉู่ลั่วหา นให้แหลกถึงกระดูก “แกตั้งใจให้พวกฉันไม่มีแม้ กระทั่งที่อยู่! สารเลว! ”

พูดไปแล้วก็ช่างน่าสงสารจริงๆ

ฉู่ลั่วหามบิดข้อมือเพื่อที่ให้หลุดพ้นจากการจับของ ฟางหลิงหยู แล้วนําด้วยความเยือกเย็นว่า “หลายปี มานี้ตระกูลฉี่มีรายได้เท่าไหร่ คิดว่าฉันไม่ รู้จริงๆงั้นเหรอ? ต่อให้ไม่มีคฤหาสน์นี้ พวกคุณจะ

ไร้ที่อยู่จริงๆ? จะลำบากจริงๆงั้นเหรอ”
ย้อนไปเมื่อหลายปีนี้ ฉู่ลั่วหานจำไม่ได้แล้วว่าเธอ เอาเงินส่วนตัวไปให้พวกเขาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เงิน เก็บของเธอถูกพวกผลาญจนหมดสิ้น ตัวเธอเองไม่มี แม้กระทั่งเงินซื้อบ้านเล็กๆสักหลัง

มานึกดูแล้วช่างโง่จริงๆ ทำไมตอนนั้นเธอถึงได้ ยอมเชื่อพวกเขากันนะ!?

สองแม่ลูกฉู่ซีหรานมองหน้ากัน ภายในใจคิดเป็น เสียงเดียวกันแล้วพูดว่า “แกหมายถึงเอาเงินที่ขาย คฤหาสน์นี้มาลงทุนกับบริษัททั้งหมดนั้นเหรอ?

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เงินจำนวนนี้ก็ยังถือว่าอยู่ในกำ มือพวกเธอ

ฉู่ลั่วหานเข้าใจในสิ่งที่ทั้งสองพูด เธอยิ้มอย่าง เยือกเย็นแล้วพูดว่า “เธอคิดว่าไง?

คำตอบของเธอคลุมเครือ แต่ฉู่ซีหรานรู้ดีว่าฉู่ลั่วหา นไม่สนใจเรื่องของการจัดการธุรกิจ ชีวิตนี้เธอเพียง ต้องการเป็นแพทย์รักษาผู้ป่วยเท่านั้น

ฟางหลิงหยู้ยิ้มแล้วยื่นมือมาจับมือเธอไว้ แต่ถูก เธอสะบัดหนี สายตามองมาด้วยความน่าขัน “นี่ลั่ วหาน เธอเป็นเด็กดีเข้าใจในหลายๆเรื่องนะ ตระกูล ฉู่เจอปัญหาอยู่ตอนนี้ ถ้าเธอขายบ้านที่พ่อทิ้งไว้ให้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ วาง เจเถอะนะ พวกเราจะ ย้ายออกไปให้เร็วที่สุด วิกฤตของตระกูลฉู่เป็นเรื่อง สําคัญกว่า เธอควรรีบจัดการให้เร็วที่สุด

ต่าช้า! สกปรกที่สุด!

ฉู่ลั่วหานเบื่อที่จะสนใจพวกเขา เธอหลับตาลงแล้ว พูดว่า “ในเมื่อมันใกล้เข้ามาแล้ว ก็ย้ายออกไปเสีย ตอนนี้เลยสิ! อีกสักพักจะมีคนจากหน่วยงานเข้ามา ดูบ้านแล้วละ”

ฉ่ซีทรานกัดฟัน “ตอนนี้เลยเหรอ?

“ทําไมคะ? ไม่อยากได้ตระกูลฉู่แล้วเหรอ?

ฟางหลิงหยู้จ้องไปที่ลูกสาวเขา “ตกลง พวกเราจะ ย้ายออกให้เร็วที่สุด คืนนี้ทุกอย่างจะเรียบร้อย เธอ รีบจัดการขายคฤหาสน์นั้นซะ ตระกูลฉี่ไม่รอใคร นานหรอกนะ”

นักข่าวที่ด้านนอกประตูถูกตำรวจที่ฉู่ลั่วหานเชิญ มาไล่ออกไปข้างนอกหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงรถ ของบริษัทขนย้ายบ้านรอต่อแถวยาว

ฉู่ลั่วหานยิ้มยะเยือก พวกเขาเตรียมตัวย้ายจริงๆ นะ ถ้าหาได้คงเอาบ้านไปด้วยแล้ว!
“ฉู่ซีหราน ฉันอยากรู้จริงๆเธอใช้นามตระกูลฉ่ซื้อ บ้านหลังขนาดไหนกัน ของมากมายขนาดนี้ไม่กลัว จะใส่ไม่ไหวหรือไง?

ฉู่ซีหรานแสยะยิ้ม “ไม่ใช่เรื่องของเธอ!

นี่ยังไม่ได้แยกขาดจากกัน ก็ตัดขาดแล้วเหรอนี่

แน่นอนว่าฉู่ซีหรานต้องการให้พวกเขาย้ายออกไป ให้หมดโดยเร็ว ในบ้านนี้มีเฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้โรส วูดคุณภาพสูง ไม้จันทน์และมะฮอกกานีซึ่งพ่อของ เธอกับอาจารย์ผู้มีความสามารถทั้งหลายประมูลมา ได้

ฉู่ลั่วหานไม่ต้องการให้พวกเธอนำสิ่งเหล่านี้ไป หากสิ่งของเหล่านี้คงอยู่ ความทรงจำของพ่อแม่เธอ ก็ยังคงอยู่ หากไร้สิ่งของพวกนี้ความทรงจำก็ คงค่อยๆหายไปด้วย

“เดี๋ยวก่อน!

ฉู่ลั่วหานยื่นมือมากันไว้ที่หน้าประตู “เอาของส่วน ตัวของพวกคุณไปให้หมด แต่ห้ามเอาเฟอร์นิเจอร์ ไป ฉู่ซีหรานเธอโง่หรือไงกัน! ถ้าเอาของพวกนี้ ออกไปหมด บ้านก็ขายไม่ได้ราคาซิ ฉันจะเอาเงิน

ที่ไหนไปชดเชยให้ตระกูลฉู่? ”
พูดจบ เธอก็เอื้อมมือไปหยิบเก้าอี้หวายมา นั่ง ตอนเด็กๆนั้นเธอก็ชอบนั่งอยู่ตรงนี้ฟังพ่อ อ่าน (Andersen’s Fairy tales) ด้วยตัวเอง ของแท้ ทํามือจากเยอรมัน ราคาแพงมากทีเดียว แต่ความ ทรงจำนั้นช่างมีค่ากว่านิยายหลายเท่านัก

หากเปรียบเทียบความสามารถในทุกๆด้านกันแล้ว เกรงว่าฟางหลิงหยู้และฉู่ซีหรานรวมกันยังไม่ใช่คู่ ต่อสู้ของเธอ

พวกเขาย้ายบ้านจนกระทั่งกลางดึก สื่อข่าวต่างๆ ได้แพร่กระจายไปทั่วเมือง

แม้ว่าเธอจะห้ามไว้แล้ว แต่สองแม่ลูกคู่นั้นยังแอบ นำภาพวาดกับเครื่องลายครามสะสมไปด้วย ยังดีที่

เฟอร์นิเจอร์ทิ้งไว้ครบทุกชิ้น

เมื่อทุกคนย้ายออกไป บ้านก็โล่งโปร่ง ในที่สุดบ้าน หลังนี้ก็กลับมาอยู่ในอ้อมอกของเธออีกครั้งหลังจาก ถูกแย่งชิงไปหลายปี

แต่มันจะเป็นของเธออยู่อีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

เอง

เธอนั่งอยู่บนโซฟาไม้จันทน์ที่ห้องนั่งเล่น ความทรง จำเกี่ยวกับพ่อกับแม่เธอยังจดจำได้อย่างชัดเจน ฉู่ลั่แทบหมดสิ้น

ฉู่ลั่วหานเปิดไฟในคฤหาสน์หมดทุกดวง เธอค่อยๆ เดินเข้าไปแต่ละห้อง ห้องรับแขก ห้องครัว ห้อง อาหาร ห้องหนังสือ ห้องนอน.

เท้าของเธอเหยียบไปบนพื้นที่เคยวิ่งเล่นในสมัย เด็กๆ คล้ายกับช่วงเวลานั้นหวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

เรื่องราวต่างๆเชื่อมต่อกับความเป็นจริงในปัจจุบัน

ฉากความทรงจำเกี่ยวกับพ่อและแม่ปรากฏขึ้นมา แทบทำให้สติเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เจ้าหน้าที่จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์เดินทางมาถึง ในเวลากลางดึก พวกเขาทำการประเมินราคาของ คฤหาสน์หลังนี้ สุดท้ายทั้งสองฝ่ายได้ตกลงเจรจา ราคากันจนเป็นที่พอใจ

“รบกวนทางบริษัทขายออกไปในเวลาเร็วที่สุดนะ คะ”

“วางใจได้คุณฉู่ ตำแหน่งที่ตั้งและดีไซน์ของ คฤหาสน์หลังนี้ยอดเยี่ยมมาก ต้องมีคนอยากซื้อ นอน”

เมื่อเธอปิดไฟลงทีละดวง สุดท้ายเหลือเพียงไฟในหองรบแขกอนกว้างขวางทเธอนั่งอยู่เพียงลาพง

เธอนั่งบนโซฟานั้นโดยไม่ได้มองดูเวลา เมื่อรู้ตัวอีก ทีก็ยามฟ้าสาง

ในขณะนี้ มือถือของเธอมีการแจ้งเตือนข่าวสารขึ้น

“การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในชั่วข้ามคืน ผู้ ถือหุ้นของบริษัทอู่ซ่อรวมตัวกันขายหุ้น บริษัทอู่ซื่อ ตกอยู่ในวิกฤต!”

เมื่อเลื่อนลงอ่านเนื้อหา ฉู่ลั่วหานลุกขึ้นจากโซฟา อย่างรวดเร็ว!

เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร!

บริษัทฉู่ซื่อจบสิ้นแล้ว? ด้วยเวลาอันสั้นนี้? !

ผู้ถือหุ้นรวมตัวกันขายหุ้นทิ้ง เพื่อจัดการสภาพ คล่องและเงินทุนสำรองทั้งหมดของบริษัทอู่ซื่อ บริษัทกำลังเผชิญกับวิกฤตหนี้ครั้งใหญ่ หากไม่ สามารถรับจัดการปัญหานี้ได้ พวกเขาต้องประกาศ ล้มละลายทันทีและนำทรัพย์สินไปจำนองกับ

ธนาคาร

สิ่งที่เหนือความคาดหมายของฉู่ลั่วหานก็คือบริษัท อสังหาริมทรัพย์โทรติดต่อเธอแต่เช้าว่ามีคนซื้อบ้านเธอเรียบร้อยแล้ว

ในราคาที่เธอต้องการ

รวดเร็ว กะทันหันแบบที่เธอไม่ทันคิดมาก่อน

สิ่งที่ทำให้ฉู่ลั่วหานตกใจอีกนั่นคือเมื่อเธอเปิด ประตูออกไป ก็พบว่าผู้ถือหุ้นหลายสิบคนรวมตัวกัน อยู่ด้านนอก!

“เอาเงินที่หามาด้วยความยากลำบากของพวกเรา

คืนมา”

“บ้านตระกูลฉู่ คืนเงินพวกเรามา!! ”

“เลือดต้องล้างด้วยเลือด!

ป้ายประท้วงมากมายอีกทั้งบรรดาผู้ถือหุ้นชูมือ

ตะโกนส่งเสียงดัง

“โผละ! ”

ไข่ไก่ฟองหนึ่งถูกปามาที่หัวของฉู่ลั่วหาน เธอ ขาอ่อนเสียจนแทบล้มลง

“คืนเงิน คืนหยาดเหงื่อของพวกเรามา!
ตระกูลฉี่ขี้ขลาด! พอเกิดเรื่องก็มุดหัวไม่กล้า เผชิญหน้า แน่จริงออกมาสิ! ”

คำพูดจาดูถูกเหยียดหยามต่างๆนานาได้ยินไม่ ขาดสาย

ฉู่ลั่วหานคนเดียวต้องเผชิญหน้ากับผู้คนมากมาย ทั้งชายหญิง บางคนในมือถือผักและไข่ไก่

เมื่อมองออกไปรอบๆคฤหาสน์ สถานการณ์ตอนนี้ คล้ายมีกองไฟสุมทั่ว หากเธอเดินออกไปเพียงก้าว เดียวคงไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาอีก

เธอเดินผ่านฝูงชนที่รวมตัวกันด่าทอต่อว่าเธอ แล้ว หยุดยืนอยู่กับที่

“ทุกคนฟังให้ดีนะคะ ขอให้วางใจว่าหนี้สินทุกบาท ทุกสตางค์ที่บริษัทติดค้างกับพวกคุณไว้ เราจะ ชดใช้ให้อย่างแน่นอน ฉันได้ขายคฤหาสน์หลังนี้ เรียบร้อยแล้ว เมื่อได้รับเงินจะรีบดำเนินการชดใช้ แก่พวกคุณในเวลารวดเร็วที่สุด ขออภัยที่ทำให้ทุก คนต้องลำบากนะคะ”

ด้านหลังบรรดาผู้ถือหุ้นเต็มไปด้วยนักข่าว พวก เขาเก็บภาพการแสดงความขอโทษที่ต่ำต้อยของฉู่ลั่

วหานไว้
เธอเคงตาลง เบคานบทุกคน เมื่อเงยหน้าขนกพูด ต่อว่า “ฉันจะพยายามแก้ไขวิกฤตนี้และทำให้ธุรกิจ ดำเนินต่อไปให้ดีที่สุด หวังว่าทุกท่านจะวางใจและ ให้การสนับสนุนตระกูลฉู่ต่อไป”

เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ยินเสียง เอะอะโวยวาย พวกเขารีบวิ่งแยกย้ายการประท้วง ของผู้ลงทุนและผู้สื่อข่าวที่กำลังก่อปัญหา ใช้เวลา เพียงครึ่งชั่วโมงก็จัดการได้เรียบร้อย แต่สำหรับฉู่ลั่ วหานนั้นเหมือนกับผ่านไปเวลาสามวันสามคืน

ร่างกายเธออ่อนแรง เธอไม่ได้พักผ่อนเลยทั้งคืน และไม่ได้กินอะไร ไม่รู้ว่าแรงบันดาลใจอะไรทำให้ เธอสามารถอดทนมาได้ถึงตอนนี้

เธอใช้มือปาดสิ่งสกปรกที่ถูกโยนใส่เมื่อครู่ ขณะ เดียวกันผู้จัดการของบริษัทก็เดินทางมาถึง

สัญญาตกลงจะซื้อขายทั้ง 2 ฉบับไม่ปรากฏชื่อ ของอีกฝ่ายหนึ่ง

ทำไมกันคะ? –

ผู้จัดการตอบว่า “ผู้ซื้อไม่ต้องการให้บุคคลอื่น ทราบถึงชื่อของเขา แต่คุณฉู่วางใจได้ เงินทั้งหมด ถูกโอนไปยังบัญชีของคุณเรียบร้อยแล้ว รบกวน เซ็นชื่อตรงนี้นะคะ”
เธอกำปากกาไว้ รู้สึกว่าแขนของเธอในตอนนี้ช่าง หนักมากจนแทบจะไม่มีแรงยกขึ้น หากเธอลงนาม เรียบร้อยแล้ว สถานที่แห่งนี้จะไม่ใช่ของเธออีกต่อ

เธอหันกลับไปมองที่บ้านนั้นอีกครั้ง ความทรงจำ ต่างๆยังคงย้อนกลับมา ที่นี่ เธอจะเสียมันไปแล้ว จริงๆเหรอ

เธออดทนกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วเซ็นชื่อ

ลาก่อน คงไม่มีโอกาสพบกันอีกแล้ว

เธอนำร่างและจิตใจอันเหนื่อยล้าเดินกลับไปที่รถ ฉู่ลั่วหานสั่งให้ฝ่ายการเงินของบริษัทจัดการกับเงิน ทั้งหมดให้กับผู้ถือหุ้นในเวลาเร็วที่สุด และในที่สุด สงครามการต่อว่าก็สิ้นสุดลง

แต่……!

ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ บริษัทฉู่ชื่อในตอนนี้จะ แก้ไขอย่างไร? อย่าว่าแต่คฤหาสน์หลังนี้ ต่อให้ ขายทั้งบริษัททิ้งก็ยังไม่สามารถชดเชยได้

ฉู่ลั่วหานไม่มีเวลาใส่ใจกับกลิ่นเหม็นบนร่างกาย ของเธอ เมื่อขึ้นรถเธอก็รีบตรงไปที่ธนาคาร ขณะเดียวกัน มือถือของเธอก็ส่งเสียงดังขึ้น

ฟางหลิงหยู้โทรมาหาเธอ ผู้หญิงคนนี้ยังมีหน้าโทร หาเธออีกเหรอ!

เมื่อเธอรับสายเสียงของฝั่งตรงข้ามก็ดังขึ้น “ฉู่ลั่ วหาน! เธอพอใจแล้วหรือยัง! ผู้ถือหุ้นของบริษัทฉู่ ชื่อเปลี่ยนคนแล้ว พอใจแล้วใช่ไหม! ผู้ถือหุ้นราย ใหญ่ของบริษัทฉู่ซื่อเปลี่ยนไป ทำให้เธอมีความสุข มาก นะ!”

“คุณจะมาโวยวายอะไรเนี่ย!” ฉู่ลั่วหานขึ้นเสียง กลับ ในเวลานี้เธอไม่มีเวลามาใส่ใจฟังเรื่องไร้สาระ จากผู้หญิงคนนี้

ได้ยินเสียงเหมือนของหล่นแตกจากสายของฝ่าย ตรงข้ามจนแก้วหูเธอแทบแตก และตามด้วยเสียง ของฟางหลิงหยู้ว่า “อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง แกเป็น คนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ใช่ไหม!

“โธ่เอ๊ย นี่คุณพูดอะไรของคุณเนี่ย! พูดให้ชัดเจน หน่อยได้ไหม!

“ฉันพูดอะไรอยู่งั้นเหรอ! ฉันบอกว่าแกมันทรยศ แกบงการให้คนมาซื้อหุ้นของบริษัทไปใช่ไหม! ตอนนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่ใช่ตระกูลฉู่! เข้าใจหรือ
ยัง! ! ต่อไปนี้ประธานกรรมการของบริษัทจะ ไม่ใช่ฉัน และไม่ใช่คนในตระกูลฉู่! ”

อะไรนะ! ?

ฉู่ลั่วหานนิ่งเงียบไป เธอเองก็ตกใจจนพูดไม่ออก เมื่อรู้เรื่องราวนี้ บริษัทอู่ซื่อจะเปลี่ยนผู้ดูแล? เป็นไป ไม่ได้!

ไม่…..…… อาจเป็นไปได้ มีคนมากมายคอยหา โอกาสนี้รังแกบริษัทอู่ซื่อในตอนที่อ่อนแอเช่นนี้

ฉู่ลั่วหานรวบรวมสติกลับมา “เป็นใครกัน? ชื่อ อะไร? ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ขอร้องคุณอย่าพึ่ง โวยวาย บอกฉันทีว่าใครเป็นคนซื้อหุ้นไป

ฟางหลิงหยู้โมโหจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ “คนที่ซื้อหุ้นไป ชื่อว่า PETER ฉันไม่รู้จักเขา เราพยายามหาข้อมูล เกี่ยวกับเขาแต่อีกฝ่ายไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ถ้า ไม่ใช่แกทำแล้วใครจะทำหะ? แกนั่นแหละ! แก อยากแย่งบริษัทอู่ซื่อจากฉันไป แกต้องการแย่งทุก อย่างจากฉัน! ”

บ้าจริง! โมโหอย่างกับคนสติเสีย! !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ