ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 418 สามีอยู่ข้างนอก ฉันก็แค่ไม่สบายใจ เท่านั้นเอง



ตอนที่ 418 สามีอยู่ข้างนอก ฉันก็แค่ไม่สบายใจ เท่านั้นเอง

ตอนที่ 418 สามีอยู่ข้างนอก ฉันก็แค่ไม่สบายใจเท่านั้นเอง

ลั่วหานรู้สึกชื่นใจกับคำลงท้ายของเขาคำนั้น มุมปากอดไม่ ได้ที่จะแย้มออกมา หลอกถามแล้วแถมยังชื่นใจอีก “คุณหลง เชียวคะ คำให้การที่คุณให้มาเพียงพอแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้อง พูดแล้ว ฉันจะขับรถ ขอวางก่อนนะคะ”

หลงเซียวพยักหน้า จากนั้นก็เหลือบมองไปยังนอกหน้าต่าง สภาพอากาศของเมืองเจียงเฉิงนี่ช่างเอาใจยากจริงๆ นี่ก็ครึ้ม มาหลายวันแล้วนะเนี่ย

“ได้ครับ ขับรถดีๆ นะครับ”

“ค่ะ คุณไปประชุมต่อเถอะค่ะ”

ทั้งสองคนต่างก็แยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง ลั่วหานวาง แผนไว้ว่า พรุ่งนี้เช้าก็เก็บสำภาระที่บ้าน ออกเดินทางตอน กลางวัน พอถึงที่นั่นก็ไปที่โรงแรมของหลงเซียวได้เลย ส่วน งานเลี้ยงตอนกลางคืนก็……..

ลั่วหานใช้นิ้วเคาะๆ ที่พวงมาลัย โดยทั่วไปแล้วในงานเลี้ยง มักจะมีสาวๆ สวยๆ ไปร่วมงานเยอะด้วย อีกอย่าง….เหมือน เมื่อกี้เธอจะได้ยินอะไรด้วย?

งานเลี้ยงที่เสิ่นคั่วจัดขึ้น เสิ่นคั่วเป็นพ่อของเสิ่นเหลียว และเป็นพ่อสามีของฉู่ซีหราน เป็นสามีของจ้าวฟางฟาง คนคนน……

เธอควรจะไปเจอเขาสักหน่อยดีไหมนะ? และถือโอกาสไป เยี่ยมน้องสาวที่น่ารักของเธอสักหน่อย ฉู่ซีหรานมีลูกชายให้ เสิ่นเหลียวไปคนหนึ่ง ตอนนี้อายุน่าจะสองขวบแล้วมั้ง?

ลูกชายของจ้าวฟางฟางก็น่าจะอายุประมาณนี้เหมือนกัน ที่ สำคัญอยากรู้จริงๆ ว่าตระกูลเสิ่นจะครึกครื้นขนาดไหน

ไม่คิดให้มากความ ลั่วหานก็หยิบหูฟังไร้สายมาใส่ไว้ แล้ว กดโทรศัพท์โทรออกไป พร้อมกับขับรถไปพร้อมกัน รถถูกขับ ออกจากลานจอดรถใต้ดิน มีคนรับสายแล้ว

จี้ตงหมิงรับสายที่ล้วหานโทรมา เขาต้องรับสายด้วยความ ระมัดระวังอย่างถึงที่สุด “คุณหญิงครับ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร ให้รับใช้ครับ?”

ฟังออกเลยว่าเขากำลังตื่นเต้น ลั่วหานก็ขำออกมา “นี่คุณจะ กลัวอะไรคะเนี่ย? ระหว่างคุยโทรศัพท์กันอย่างนี้คิดว่าฉันจะ ทำอะไรคุณได้? เมื่อกี้ฉันเพิ่งโทรหาหลงเซียวมา คืนพรุ่งนี้เขา จะไปร่วมงานเลี้ยงที่ ตระกูลเสิ่น งานเลี้ยงของตระกูลเสิ่นมัน เป็นแบบไหนเหรอคะ?”

จี้ตงหมิงดึงกระดาษขึ้นมาเช็ดหน้าผากให้ตัวเอง “คือว่า…… เสิ่นคั่วเป็นคนที่ทำงานละเอียดกว่าเสิ่นเหลียวครับ ถ้าเป็นงาน เลี้ยงละก็คงจะเชิญแค่คนที่สนิทจริงๆ หรือไม่ก็คนสำคัญที่จะร่วมงานด้วยจริงๆ เท่านั้นครับ เสิ่นคั่วถือเป็นผู้น ต้นๆ ของเมืองเจียงเฉิงเลยครับ งานเลี้ยงอาจจะไม่ใหญ่แต่คน ที่ไปน่าจะเป็นคนที่มีระดับทั้งนั้นเลยครับ”

ลั่วหานทําความเข้าใจคร่าวๆ แล้วพูดต่อ “การจะไปร่วมงาน เลี้ยงนี้ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างคะ?”

“แค่เป็นคนที่ตระกูลเสิ่นเชิญก็พอแล้วครับ แต่ถ้าไม่ใช่เกรง ว่าจะไม่มีทางงานเข้างานได้เลยครับ หลังจากที่เกิดเรื่องกับ เสิ่นเหลียวพ่อของเขาก็ทําอะไรระมัดระวังตัวมากขึ้นครับ”

ลั่วหานพยักหน้า “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”

จี้ยงหมิงถามไปด้วยความไม่สบายใจ “คุณหญิงครับ คุณจะ ถามเรื่องพวกนี้ไปทำไมครับ? มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ?”

ลั่วหานตอบไปอย่างเรียบเฉย “ไม่มีอะไรค่ะ สามีอยู่ข้างนอก ฉันก็แค่ไม่สบายใจเท่านั้นเองค่ะ เข้าใจนะ”

จี้ตงหมิง ……. เขาเข้าใจไหมนะ? จะเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ “ รึเปล่านะ?

เสิ่น…..ชายแก่ที่อายุหกเจ็ดสิบปีแล้ว ก็ยังรักในความ สมบูรณ์แบบอยู่ ไม่เพียงให้จ้าวฟางฟางกำเนิดลูกชายให้ตัว เองแต่หลังจากที่ลูกชายถูกจับเข้าคุกไปเขาก็กอบกู้ ตระกูลเสื่ นกลับมาได้อย่างง่ายดาย
ลั่วหานไม่คิดอะไรมาก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาไปเวย ทันที

พอไป์เวยได้ยินว่าลั่วหานจะไปร่วมงานเลี้ยงที่ตระกูลเส็น สิ่ง แรกที่รู้สึกคือตกใจ แต่แค่แป๊บเดียวก็ตั้งสติได้แล้ว

“ฉันเคยได้ยินเสิ่นเหลียวพูดว่า วิลล่าของตระกูลเส็นอยู่ที่ ชานเมืองของเมืองเจียงเฉิงค่ะ และทำเลก็ค่อนข้างหายาก ด้วย นอกจากว่าจะได้รับเชิญจากคนในตระกูลเสิ่น ไม่อย่าง นั้นก็เป็นไปได้ยากมากที่จะเข้าไปที่นั่นได้ เดี๋ยวฉันส่งที่อยู่ให้ คุณนะคะคุณลองเอาไปดูก่อน ฉันเองก็ไม่เคยไปเหมือนกัน เลยไม่กล้ารับปากว่ามันตรงหรือเปล่า”

ทําไมต้องทําให้มันลึกลับขนาดนี้ด้วย?

“ค่ะ คุณช่วยส่งที่อยู่ให้ฉันที พรุ่งนี้หลงเซียวก็จะไปร่วมงานนี้ เหมือนกัน งานเลี้ยงที่รื่นเริงขนาดนี้ถ้าไม่ได้ไปคงน่าเสียดาย แย่เลย?” แววตาของเธอกำลังส่องประกาย ริมฝีปากค่อยแย้ม ออกมา

ไปเวยแนะนําไปด้วยความไม่สบายใจ “ไปน่ะไปได้ค่ะ แต่ว่า ต้องระวังตัวด้วย อย่างทำให้ตัวเองตัวลําบากนะคะ อีกอย่าง ที่นั่นก็เป็นถิ่นของฉู่ซีหรานด้วย ที่สำคัญคุณกับจ้าวฟางฟางก็ กำลังมีประเด็นกันอยู่ด้วย ถ้าพวกเธอสองคนร่วมมือกันมันจะ ทำให้คุณจะเสียเปรียบเอาได้นะคะ”

แต่ลั่วหานกลับรู้สึกว่าคุ้มซะอีก “คนเดียวก็ต้องจัดการ สองคนก็ต้องจัดการอยู่ดี ถ้ามาพร้อมกันสองคนแบบนี้ก็แค่จัดการ ไปในทีเดียวเลยคุ้มกว่าเยอะ ช่วยส่งที่อยู่ให้ฉันทีนะคะ แล้ว ช่วยจองตั๋วของเที่ยงพรุ่งนี้ให้ด้วยนะคะ”

“ได้ค่ะ ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันส่งข้อความไปให้ค่ะ ส่วนที่อยู่ฉัน ส่งไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วยนะคะ”

“อย่าห่วงไปเลย หลงเซียวก็อยู่ด้วย ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

ลั่วหานยังไม่ทันได้วางสายเลย หลงจื่อก็โทรแทรกเข้ามา แล้ว “ฉันขอรับสายก่อนนะคะ คุณ นไปพักเถอะค่ะ”

ตอนที่สลับมารับสายของหลงจื่อ รถของเธอก็ขับมาถึงถนน เส้นหลักที่จะขับกลับที่วิลล่าแล้ว “เสี่ยวจื่อ มีอะไร?”

รถของหลงจื่อจอดอยู่ใต้ตึกของบริษัท เขาเพิ่งประชุมเสร็จ เขากำลังจะไปหาลั่วหานที่โรงพยาบาล แต่ก็กลัวว่าจะไปเสีย เที่ยวเลยตัดสินใจโทรมาก่อน

“พี่สะใภ้ครับ พี่ยังอยู่ที่โรงพยาบาลหรือเปล่าครับ? ผมมีเรื่อง ต้องคุยกับพี่หน่อย”

หลงจื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ เรื่องตำแหน่งประธานของ บริษัทMBKเขาไม่อยากจะให้มันเกิดความเข้าใจผิดไป มากกว่านี้แล้ว

“พี่เลิกงานจนใกล้ถึงบ้านแล้ว มีเรื่องอะไรพูดมาทางโทรศัพท์เลยก็ได้

หลงจื่อกัดริมฝีปาก มือกำพวงมาลัยไว้แน่น “เดี๋ยวผมไปหาพี่ ที่บ้านนะครับ”

“.….….…….” ลั่วหานอึ้งไปเล็กน้อย “เรื่องด่วนขนาดนั้นเลยเหรอ? ก็ได้ เดี๋ยวพี่รอเธออยู่ที่บ้านแล้วกัน”

เขาทนไม่ไหวจนขนลุก เขาทนมานานมากแล้ว ในใจรู้สึก อึดอัดมากตอนนี้ ต้องจัดการให้มันแล้วเสร็จโดยเร็ว ต้อง ทำให้พี่สะใภ้สบายใจ ต้องทำให้พี่สะใภ้หายกังวลสักที

ลั่วหานกลับมาถึงบ้านแล้ว เปลี่ยนรองเท้าแตะ ส่วนคนรับใช้ ก็เตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้ว

“คุณหญิงคะ คุณจะทานอาหารตอนนี้เลยไหมคะ?”

ลั่วหานมองดูเวลา จากความเร็วที่หลงจื่อขับรถอีกไม่นานก็ คงมาถึงแล้ว “ยังก่อนค่ะ เดี๋ยวคุณชายรองจะมาที่บ้าน รอเขา มาถึงก่อนค่อยกินพร้อมกัน”

“ค่ะ”

รถของหลงจื่ออยู่บนถนนเส้นหลังแล้ว เขาเหยียบคันเร่งลง ไป รถพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง แล้วในตอนนั้นเอง มือถือ ของเขาก็ดังขึ้น
เบอร์แปลกที่โทรมาจากต่างประเทศ แผงตัวเลขที่เขาไม่คุ้น

เคย

กลัวว่าจะเป็นพนักงานระดับสูงของบริษัทโทรมา หลงจื่อชะล อรถลงใส่หูฟังไร้สาย หลังจากที่เสียงในหูฟังดังขึ้นไม่นานหลง จื่อก็ตกใจจนอึ้งไปเหมือนโดนฟ้าผ่าใส่

“สวัสดี คุณยังสบายดีอยู่หรือเปล่า?” เสียงพูดสำเนียงต่าง ชาติดังขึ้น เสียงนั้นเหมือนมันทะลุผ่านคลื่นน้ำคลื่นทะเล ผ่านเข้ามาในหูของเขาเลย มันเป็นเสียงที่ของคนที่คิดไม่ถึง เหมือนถูกจู่โจมมาถึงหน้าบ้าน

ปิ๊ง

มือของหลงเซียวกระตุก มือถือก็หลุดออกจากมือ กระแทก เข้าที่ลงอย่างแรง

ลั่วหานนั่งรออยู่เป็นชั่วโมงแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของหลงจื่อ เลย ตอนโทรไปก็ไม่มีคนรับสาย

จนสายถูกตัดเข้าไปเป็นข้อความเสียงอัตโนมัติ “สวัสดีครับ ตอนนี้ผมยังไม่สะดวกที่จะรับสายนะครับ”

หรือว่าเขาจะถูกหลงถึงตามให้กลับไปทำงานหรือเปล่านะ?
ลั่วหานวางมือถือลง แล้วนั่งกินมื้อค่ำคนเดียวอย่างง่ายๆ พอ จินตนาการว่าพรุ่งนี้ก็สามารถพบหน้าหลงเซียวแล้วหัวใจก็ รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมา เมื่อมีความหวังก็ยิ่งทำให้มีแรงผลัก ดันมากขึ้น ชีวิตคนเรา มีความหวังบ้างก็ดีกว่านะ

วันต่อมา ที่เมืองหลวงก็มีอากาศที่แจ่มใสเหมือนเคย อากาศ สดใสติดต่อกันหลายวันแล้ว ในอากาศก็อบอวลไปด้วยกลิ่น อายของไอแดด ให้ความรู้สึกเหมือนการใกล้เข้ามาของฤดู ร้อนที่กำลังจะมาถึงแล้ว ถึงกลางคืนอาจยังหลงเหลือไอร้อนที่ จางๆ แต่กลางวันกลับรู้สึกสบายเหลือเกิน

ในยามเช้าหลังขลุกอยู่ในที่นอนอยู่พักหนึ่ง ก็ลูกขึ้นมาเตรียม ตัว ตอนที่เปิดตู้เสื้อผ้าออกนั้น ก็มองเห็นตู้ฝั่งของหลงเซียวที่ เต็มไปด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว ต่อด้วยเสื้อสูทอีกหลายตัว เรียงตาม ลำดับสีไปอย่างเป็นระเบียบ

ลั่วหานจำได้ว่าหนึ่งในชุดสูทสีดำนี้เขาใส่แล้วดูดีมาก เข้าชุ ดกับเนกไทสีน้ำเงินมุขอีกเส้น แล้วบวกกับกระดุมเม็ดสีทอง พอจินตนาการถึงภาพนั้น ลั่วหานก็ถูกภาพในหัวตัวเองทำให้ ยิ้มออกมา

หลงเซียวเดินทางไม่ค่อยเอาเสื้อผ้าไปด้วยมากนัก เสื้อผ้า ทั่วไปก็ไม่เคยใส่เกินสองครั้ง แต่สำหรับชุดนี้ลั่วหานอยากเห็น เขาใส่อีกสักครั้งจังเลย

ก่อนที่จะเก็บเสื้อผ้าของตัวเอง ลั่วหานก็ได้เก็บชุดนี้ใส่ กระเป๋าลงไปก่อน วางราบลงไปในกระเป๋าเดินทาง จากนั้น ค่อยหันไปเตรียมเสื้อผ้าของตัวเอง
ในเมื่อจะไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลเส็น ดังนั้นเธอก็ต้อง

จริงจังหน่อย

“ผู้จัดการหวังครับ คุณช่วยเรียบเรียงกำหนดการอีกรอบนะ ครับ วันจันทร์ค่อยเอามาให้ผม อีกอย่าง ช่วยรวบข้อมูลของ เหล่าบริษัทที่ขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ในเมืองเจียงเฉิงให้ ผมด้วย ส่งวันจันทร์เหมือนกันครับ”

ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและฝ่ายจัดซื้อพยักหน้าอย่างมี มารยาท เป็นการแสดงการตอบรับงานที่หลงเซียวมอบหมาย ให้ก้อนหินที่อยู่ในอกถือว่าเบาลงไปบ้างแล้ว

วันเสาร์ยังต้องมาทำงานอยู่เลย มาเจอเจ้านายที่บ้างาน ขนาดนี้จะไปร้องเรียนได้ที่ไหนเนี่ย?

หลงเซียวเปิดเอกสารแผ่นต่อไป อ่านไปแป๊บหนึ่งแล้วคิ้วก็ ขมวดชนกัน “แผนกประชาสัมพันธ์ทำงานยังไงกัน? ทำไม ตอนนี้ยังมีข่าวอย่างนี้เหลืออีกครับ? ผู้จัดการเฉิน คุณจะไม่ อธิบายให้ผมฟังหน่อยเหรอครับ?”

ผู้จัดการเฉินเหงื่อไหลเต็มหน้า ค่อยๆ เปิดเอกสารออกมาดู สีหน้าค่อนข้างซีด “ผม…..คือว่าพวกนักข่าวที่อยู่ข้างนอกพวก นั้นไม่รู้ข้อเท็จจริงจึงเขียนข่าวมั่วๆ ครับ เดี๋ยวผมจะไปจัดการ เดียวนี้เลยครับ!”
ในหนังสือพิมพ์มีคนเขียนข่าวมั่วๆ ว่าหลงเซียวกับเจิ่งซินค้าง คืนที่โรงแรมด้วยกัน นี่มันโทษประหาร! โทษประหารชัดๆ!

นิ้วที่เรียวยาวของหลงเซียวเคาะอยู่ที่เอกสาร นิ้วมือกับโต๊ะ ทำงานกระทบกันจนเกิดเสียงก๊อกก๊อกก๊อก เคาะจนทำให้คน ที่อยู่ในห้องประชุมต่างพากันหางหดหมดแล้ว

“ก่อนวันตัดริบบิ้น ผมต้องการเห็นทุกอย่างเป็นไปอย่าง เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นระบบต่างๆ ของบริษัทหรือว่าจะเป็น เรื่องส่วนตัวของผมก็ตามเข้าใจไหมครับ?”

คนพวกนั้นพากันปาดเหงื่อแล้วพยักหน้าอย่างสุภาพ “ท่าน ประธานหายห่วงได้เลยครับ”

“พวกคุณเป็นอย่างนี้จะให้ผมเอาอะไรมาสบายใจครับ?”

ทุกคน

หลังการประชุมจบลง หลงเซียวนวดหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้า จากที่ทำงานถึงบริษัท การประชุมครั้งแล้วครั้งเล่า จนเวลา ล่วงเลยไปถึงหกโมงเย็นแล้ว

ร่างกายที่สูงใหญ่เดินออกจากบริษัทลูกของMBKไป ที่หน้า ตึกมีรถเบนซ์สีแดงคันหนึ่งจอดอยู่ พอเขาเดินลงบันไดมา ประตูรถก็เปิดออก
“คุณหลงเชียวคะ!”

เจิ้ง นมองมาที่หลงเซียว เขายืนอยู่ตรงบันไดที่อยู่ไกลๆ อย่างสง่าผ่าเผย รอบๆ ตัวมีออร่าที่ไม่อาจละสายตาได้แผ่ ออกมา ต่อให้มองจากที่ไกลๆ แบบนี้ ก็ยังกลัวว่าเขาจะหายไป จากสายตาเลย

ขนคิ้วที่เรียงลายอย่างงดงามของหลงเซียว มันแทบจะขด เข้าหากันแล้ว แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงที่ทุ้มลึกว่า “คุณเจิ้ง”

ใบหน้ากับเจิ้งซินที่ยากจะเก็บซ่อนความแดงของดอกท้อ กำลังเบ่งบานเอาไว้ ไม่ต้องมองก็รู้ว่าลมของฤดูใบไม้ผลิของ เธอได้พัดมาแล้ว เธอกำลังยิ้มแก้มปริ รองเท้าส้นสูงกำลัง เหยียบอยู่บนกระเบื้อง ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาหาเขา “ฉันมารับ คุณค่ะ คืนนี้เราไปที่ตระกูลเสิ่นด้วยกันนะคะ ก่อนไป เลือกชุด ก่อนสองชุดนะคะ”

มือข้างหนึ่งของหลงเซียวล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง ค่อยๆ เดินเข้าย่นระยะห่างของทั้งคู่อย่างไม่รีบร้อน “คุณขับรถนำ เลย เดี๋ยวผมขับรถตามหลังไปครับ”

“คุณนั่งรถฉันไปก็ได้ค่ะ นี่ค่ะ กุญแจรถของฉัน” เธอควง กุญแจในมือ ในกุญแจนั้นมีพวงกุญแจตุ๊กตาชาแนลที่เป็นรุ่นลิ มิเต็ดห้อยอยู่

แววตาที่แข็งกร้าวของหลงเซียว “คุณเจิ้ง ผมเป็นผู้ชายนะ

ครับ”
แค่คําเดียวทําเอาเจิ้งซินเขินจนต้องชักมือกลับ “แหแห ขอโทษนะคะ ฉันลืมคิดไป งั้น……..รถคุณไปเดี๋ยวฉันนั่งไป ด้วยได้ไหมคะ?”

หลงเซียวหันไปข้างๆ “ผู้จัดการหวัง การประชุมทางโทรศัพท์ มีตอนหกโมงขึ้นใช่ไหมครับ?”

หวังเจี้ยนชะงักไป ประชุมอะไรนะ?

“อ๋อ….ใช่ครับ! ผมลืมไปเลยไปเลยนะเนี่ย คุณมีประชุมกับ ประธานจางตอนหนึ่งทุ่ม ดูท่าคงต้องประชุมในรถแล้วหล่ะ ครับ”

หลงเซียวยิ้มอย่างเรียบๆ เป็นรอยยิ้มที่เบาบางมาก “ผมต้อง ประชุมบนรถด้วย เกรงว่าจะไม่ค่อยสะดวกนะครับ”

“ถ้าอย่างนั้น…….ฉันจะขับรถนำไป แล้วเราไปเจอกันที่ร้าน เสื้อผ้านะคะ”

หลงเซียวพยักหน้า เมื่อเห็นเจิ้งซินเดินไปแล้ว เขาก็พูดขึ้นว่า “เสื้อผ้าเตรียมเสร็จรึยังครับ?”

“เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้อยู่ในรถแล้วครับ”

“ดีมาก เดี๋ยวไปตระกูลเงินเลยครับ”
หวังเงียน งไปอีกครั้ง “ท่าน…ไม่ไปพร้อมกับคุณจึงเหรอ ครับ?”

หลงเซียวเอามือออกจากกระเป๋ากางเกง จัดเนกไทให้ตัวเอง “ผมบอกเมื่อไหร่ว่าจะไปพร้อมเธอครับ?

……ไม่เคยบอกเหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ