ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 417ฉันหวังว่าเธอจะไม่บินเข้ากอง ไฟนะ



ตอนที่ 417ฉันหวังว่าเธอจะไม่บินเข้ากอง ไฟนะ

ตอนที่ 417 ฉันหวังว่าเธอจะไม่บินเข้ากองไฟนะ

ผู้ชายอย่างหลงเชียวนั้นแค่ยื่นกิ่งมะกอกออกมาให้หญิงสาว เพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้หญิงสาวคนนั้นตกเป็นทาสยอม มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาแล้ว

เมื่อเจิ้งซินได้เห็นแววตาของหลงเซียวเข้า มันก็เป็นอย่างนั้น แหละ

เขาทําให้เคลิบเคลิ้มเหมือนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดีกรี ต่ำ วนเวียนอยู่ข้างหูเธอ ทุกๆ คำพูดสามารถแปรเปลี่ยนเป็น ความอบอุ่นได้หลากหลายรูปแบบ เหมือนมันสามารถพิชิต หัวใจได้อย่างง่ายได้ น้ำเสียงและแววตาของเขาสามารถ ทำให้คนที่ได้สัมผัสล่องลอยอยู่ในภวังค์

“หลงเซียวคะ คุณนี่เป็นผู้พิชิตโดยกำเนิดจริงๆ ค่ะ ผู้หญิงคน ไหนที่ถูกคุณแตะเนื้อต้องตัวเข้าจะต้องเป็นบ้าเพราะคุณแน่ๆ ค่ะ พวกเธอต้องยอมสละทุกอย่างเพื่อคุณ อาจถึงขั้นยอมบิน เข้ากองไฟเลยด้วยซ้ำ ฉันเชื่อนะคะ ว่าต้องมีผู้หญิงแบบนี้อยู่ จริงๆ ใช่ไหมคะ?”

เจิ้งซินอังแก้วชาไว้ในมือ แล้วดื่มมันเข้าไปอย่างมีความสุข ค่อยดื่มกับน้ำชาที่ไร้รสชาติ มันคือความสง่าและสูงส่งของ หลงเซียวเพียงเท่านั้น

หลงเซียวแย้มปากแล้วยิ้มออกมา “บินเข้ากองไฟเหรอครับผมว่าอย่าเลย ชีวิตมันเป็นสงสําค่า

เจิ้งซินเปิดผ้าห่มแล้วลุกขึ้น เธอยังสวมใส่ชุดของเมื่อคืนอยู่ เธอไม่ได้ถูกทําอะไรเลย ถึงว่าไง ผู้ชายระดับหลงเซียวต้อง เป็นสุภาพบุรุษแน่นอนอยู่แล้วจริงไหม?

เพราะไม่อย่างนั้นเธอจะยังนอนอยู่บนเตียงอย่างปลอดภัย อย่างนี้ได้ยังไง?

วางแก้วชาลง เจิ้งซินกางแขนออกเพื่อหวังที่จะเข้าไปกอด หลงเชียว แต่พอเธอก้าวมาข้างหน้าแค่ครึ่งก้าวก็ถูกอีกคนมอง ออกแล้วว่าเธอจะทำอะไร เขาจึงก้มลงไปเพื่อหยิบเอกสาร ทำให้การกระทำของเจิ้งซินต้องชะงักไปทั้งอย่างนั้น

เจิ้งซินต้องชักแขนกลับอย่างรู้สึกเสียหน้านิดหน่อย แต่ก็ยัง โบกไม้โบกมืออย่างไม่ยอมละทิ้งความพยายาม “แต่ว่าหลง เชียวคะ ความรักนั้นมันมีคุณค่ามากกว่านั้นนะคะ”

หลงเซียวจัดเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเองให้เรียบร้อย “คุณเจิ้ง ครับ เพื่อเป้าหมายแล้ว ยอมสละความรักและอิสรภาพได้”

พอเขาหาหลักฐานมัดตัวสองพ่อลูกเจิ้งเฉิงหลินให้ได้ก่อน เกรงว่าอิสรภาพจะกลายเป็นสิ่งที่เธอต้องการจะไขว่คว้ามาก ที่สุดนะสิ

เจิ้งซินม้วนผมตัวเองอย่างเย้ายวน ค่อยๆ เอานิ้วลูบไล้ไปตาม แขน แล้วดึงคอเสื้อลงอย่างไม่ใส่ใจ เส้นผมพาดลงมาที่ไหปลาร้าอันสวยงาม ผิวพรรณที่ผ่องใสช่างดูน่าหลงใหล เหลือเกิน

“หลงเซียวคะ คุณอย่าเพิ่งรีบไปทำงานเลยนะคะ อยู่ทานข้าว เช้าเป็นเพื่อนฉันก่อนแล้วค่อยไปก็ยังไม่สายนะคะ”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการจู่โจมของเธอมาหลายครั้ง หลง เขียวพยายามอดกลั้นความโกรธเอาไว้ “เรื่องของงานไม่มีคํ ว่าว่างครับ ผมเองก็เบื่อมากเหมือนกัน คงต้องรอให้ทุกอย่าง เสร็จสิ้นลงก่อน คุณทานอาหารให้อร่อยนะครับ”

เขายิ้มให้เธอ แต่เป็นการยิ้มที่แสดงความเห็นใจ ต่อให้รอย ยิ้มนั้นจะดูเย้ายวนใจ เห็นแล้วต้องอ่อนไหวก็ตาม

“หลงเซียวคะ พรุ่งนี้ที่ตระกูลเสิ่นมีงานเลี้ยง ฉันอยากให้คุณ ไปกับฉันด้วยจะได้ไหมคะ? งานเลี้ยงที่ตระกูลเสื่นค่อนข้าง ส่วนตัว คุณเสนคั่วเป็นคนเตรียมงานนี้เอง เพื่อเป็นการฉลอง วันเกิดให้ลูกชายของเขาที่อายุครบสองปีค่ะ อีกอย่าง…ถึง เสิ่นเหลียวจะเข้าคุกไปแล้ว แต่ฉู่ซีหรานภรรยาของเขายังอยู่ ที่ตระกูลเสิ่นอยู่ ที่สำคัญลูกชายของเธอกับเสิ่นเหลียวก็เกิด ใกล้ๆ ช่วงนี้ด้วย..….….….

เธอลองชวนดู “แค่ว่างานวันเกิดของเด็กสองคนนี้เชิญเพียง แค่คนที่สนิทเท่านั้น คุณวางใจได้เลยค่ะ ไม่มีใครกล้าพูด อะไรมั่วซั่วแน่นอน อีกอย่าง งานเลี้ยงที่ เสิ่นคั่วจัดขึ้นก็มีแต่ นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงของเมืองเจียงเฉิงทั้งนั้น มันน่าจะเป็น ประโยชน์กับการธุรกิจของคุณที่เมืองเจียงเฉิงด้วยนะคะ”
งานเลี้ยงของเส้นคั่ว……บอกตามตรงหลงเซียว ไม่ได้สนใจ มันเลย แต่ว่า เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากเกิดเรื่อง ที่บอกใครไม่ได้ของเงินเหลียวขึ้น ตอนนี้ตระกูลเสิ่นที่เคยยิ่ง ใหญ่จะเป็นยังไงบ้าง

“ได้ครับ” เขาตอบไปอย่างเรียบง่ายสองพยางค์ เจิ้งซินดีใจ จนแทบสลบแล้ว

อาหารรสจืดที่ลั่วหานเตรียมให้ถังจิ้นเหยียนมีกับข้าวสาม อย่างกับซุปหนึ่งถ้วย และมีไข่ดาวเพิ่มให้อีกสองใบ

ตอนที่ปรนนิบัติหลงเซียวฝีมือการทําอาหารของลั่วหานก็ได้ พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว กับข้าวสามอย่างถูกเสิร์ฟออกมากลิ่น หอมฟุ้งไปทั่วห้อง

“นี่ฝีมือคุณเหรอครับ? ผมคิดไม่ถึงเลยนะครับว่าฝีมือการ ทําอาหารของคุณจะดีขนาดนี้ โชคดีจริงๆ ที่มีโอกาสได้กิน อาหารรสมือคุณ เป็นบุญของผมจริงๆ”

ถังจิ้นเหยียนชมไม่ขาดปาก จากนั้นก็หยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วกินอาหารรสเลิศที่ทําขึ้นมาเพื่อเขาคนเดียวเท่านั้น

“มันก็แค่อาหารธรรมดาๆ เท่านั้นเองค่ะ ไว้วันหลังถ้าคุณพา คุณเจิ้งไปที่บ้านฉัน แล้วฉันจะจัดชุดใหญ่รอต้อนรับพวกคุณ เลยค่ะ”
บรรยากาศสบายๆ ค่อนข้างสงบ สองคนนั่งคู่กัน พูดคุยเรื่อย เปื่อย เรื่องของคนไข้ การรักษา รายการโทรทัศน์………..

เวลาได้วิ่งช้าลง ความอบอุ่นวิ่งอยู่รอบตัวทั้งคู่

ถังจิ้นเหยียนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แล้วยื่นชามของตัว เองออกมา “ผมขอดื่มซุปอีกสักชามได้ไหมครับ?”

“ได้อยู่แล้วค่ะ มันถูกเคี่ยวขึ้นมาให้คุณโดยเฉพาะเลยค่ะ” พูดจบเธอก็ตักซุปให้เขาอีกถ้วย

ถังจิ้นเหยียนใช้สองมือรับซุปมา “ขอบคุณครับ

ขอบคุณที่ทำให้คนฝันของผมเป็นจริง ทำให้ภาพที่ผมวาด ฝันมาตลอดกลายเป็นจริงขึ้นมา

ตอนนี้เขาพอใจแล้ว ไม่หวังอะไรที่มันเพ้อเจ้อ ไม่หวังอะไรที่ มันมากเกินไปอีกแล้ว

ลั่วหานหยิบตะเกียบขึ้นมา แต่ก็ไม่ค่อยได้กินอะไร พอเงย หน้ามาก็พบว่าถังจิ้นเหยียนกำลังจ้องหน้าตัวเองอยู่ “มีอะไร ติดหน้าฉันรึเปล่าคะ?”

ถังจิ้นเหยียนตอบกลับมาอย่างสดใสว่า “มีครับมี มีคำว่าศรี ภรรยาติดอยู่สี่พยางค์ครับ”
“งั้นก็ช่างมันเถอะ ฉันชอบคำว่าเอามีดผ่าท้องมากกว่าคะ

“คุณ…ฮาๆฮา”

วันนี้เป็นวันศุกร์ ตอนที่ลั่วหานมาถึงโรงพยาบาลก็เป็นเวลา สิบโมงแล้ว ลั่วหานในชุดกาวน์สีขาวเดินอยู่ในโถงทางเดิน ของโรงพยาบาล ท่าทางดูจริงจังโดยมือข้างหนึ่งล้วงอยู่ใน กระเป๋า เดินมาด้วยบรรยากาศที่สง่าปนเงียบเหงา

พวกพยาบาลต่างพากันก้มหน้าทักทาย

“คุณหมอฉู่คะ ฉันดูตัวอย่างจากรายการทีวีแล้วค่ะ มันเยี่ยม มาก!! คุณสวยมากเลยค่ะ!”

ในโรงพยาบาลหวาเซี่ยแห่งนี้ คนที่กล้าพูดกับเธอแบบนี้มีแค่ หลินซีเหวินคนเดียวเท่านั้น

ลั่วหานพยักหน้า แล้วเอารายงานผู้ป่วยสองฉบับใส่เข้าไปใน แฟ้ม “ดูเหมือนว่าคุณหมอหลินจะสนใจเรื่องอื่นมากกว่าเรื่อง คนไข้อีกนะคะ นี่ฉันควรชมหรือว่าควร………..

หลินซีเหวินรีบเอาแฟ้มมาปิดปากเอาไว้ “แหะๆเมื่อกี้ฉันไม่ได้ พูดอะไรทั้งนั้นนะคะ”
ลั่วหานกดแกร๊กปากกาลูกลืน แล้วเซ็นต์ชื่อลงในรายงานผู้ ป่วยแผ่นหนึ่งอย่างรวดเร็ว แล้วพูดขึ้นระหว่างที่ยังก้มหน้าอยู่ กำหนดการผ่าตัดลูกสาวของคุณเฉินรุ่ยอยู่วันไหนคะ?”

“อ๋อ! เวลาที่กำหนดไว้คือวันที่สิบห้าของเดือนหน้าค่ะพ่อแม่ ของเด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ยังมาดูแลเธอไม่ได้ แต่เดือน หน้าคุณหญิงเฉินสามารถนั่งรถเข็นมาดูแลเธอได้แล้วค่ะ”

“ความจริง….” ควงปากกาที่อยู่ในมือ แล้วพูดต่อว่า “ที่โรง พยาบาลที่เมืองเจียงเฉิงก็มีเครื่องมือครบเหมือนที่นี่เลยถ้าเรา ประสานงานกับทางนั้นให้เรียบร้อยเราก็สามารถยืมสถานที่ ของพวกเขาในการผ่าตัดได้ ถ้าเป็นแบบนี้คุณยายเฉินกับคุณ หญิงเฉินก็ไม่ต้องรอนานขนาดนั้นแล้ว การผ่าตัดยิ่งทำเร็วยิ่ง ดี เอาอย่างนี้ เดี๋ยวฉันจะลองคุยกับท่านผอ.ดู ถ้าท่านเห็นด้วย ฉันก็สามารถไปทําการผ่าตัดที่เมืองเจียงเฉิงได้เลย”

หลินซีเหวินตะลึงจนตาค้าง “ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย? ไอดอลคะ นี่ คุณยอมทุ่มเทแรงกายแรงใจขนาดนี้เลยเหรอคะ?! ถึงขั้นขอ ยื่นเรื่องเพื่อไปทํางานข้างนอกเลย? น่านับถือ!”

ลั่วหานเก็บปากกา คืนรายงานผู้ป่วยให้เธอไป “จรรยาบรรณ ของการเป็นหมอ คนไข้ต้องมาก่อน” แล้วยิ้มอย่างสง่าผ่าเผย แววตาเป็นประกาย

เป้าหมายจริงๆ การไปที่เมืองเจียงเฉิงไม่ใช่เพื่อการผ่าตัดอยู่

แล้ว
พอตัดสินใจได้แล้ว ลั่วหานก็เดินขึ้นไปหาผอ.ทชนบนทนท

หลังจากแจกแจงรายละเอียดให้ คณบดีเฉินทราบแล้ว คณบดีเฉินก็อนุญาตให้ลงดู

“แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ แล้วผู้ป่วยทางนี้ของคุณจะทำยังไงหล่ะ ครับ?” คณบดีเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถามดูก่อนที่จะกด เบอร์โทรไป

“ความสามารถของหวาเทียนกับหมอหลินในตอนนี้ถือว่า ไว้ใจได้เลยค่ะ การดูแลการพักฟื้นของผู้ป่วยปล่อยให้สองคน นี้ดูแลได้ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันอยากไปทำการผ่าตัดให้หลานสาว ของเฉินว่านเหนียนที่เมืองเจียงเฉิงก่อน คุณช่วยประสานงาน กับโรงพยาบาลทางเมืองเจียงเฉิงให้ก่อนนะคะ”

เถ้าแก่เนี้ยออกโรงเอง แล้วคณบดีเฉินจะกล้าขัดได้ยังไง

โชคดีที่โรงพยาบาลทางเมืองเจียงเฉิงนั่นมีห้องว่างพอดี พอ รู้ว่าเป็นหลานสาวของเฉินว่านเหนียนทางนั้นก็ดีใจกันยกใหญ่ เลย คนระดับนี้มาใช้บริการที่เมืองเจียงเฉิงใครหล่ะจะไม่ ดีใจ?

ดังนั้น พวกเขาจึงตอบตกลงในทันที

“ถ้านั้นตอบตกลงมาแล้ว แล้วคุณจะไปเมื่อไหร่เหรอครับ?”

“ยิ่งเร็วยิ่งดี พรุ่งนี้เลยแล้วกันค่ะ”
น้ำชาในปากของคณบดีเฉินแทบพุ่งออกมา “พรุ่งนี้เหรอ ครับ? ไม่รีบไปหน่อยเหรอ!”

ลั่วหานยิ้ม เธอที่อยู่ในชุดกาวน์สีขาวยิ้มอย่างมั่นหน้าโดย ทำท่าเหมือนจะสื่อว่าไม่ต้องสงสัย “รีบยังไงคะ?”

เธอถามไปด้วยเสียงที่ราบเรียบ ทำเอาคณบดีเฉินถึงกับไม่ กล้าขัดข้องเลย

“แหะๆแหะ ได้ครับ พรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้ ยังไงคนไข้ก็ต้องมาก่อน เสี่ยวจู่เอ๋ย คือว่านะ….ถึงแม้ว่างานจะสําคัญ แต่เรื่องส่วนตัว ก็สําคัญไม่แพ้กัน การเป็นหมอเดิมทีก็เหนื่อยมากอยู่แล้ว แล้ว ยังต้องมาเดินทางแบบนี้ต้องห่างเหินจากแฟนอีก มันจะดีจริงๆ เหรอครับ?” คณบดีเฉินถามไปด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง

“ผอ.ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ สำหรับฉันครอบครัวต้องมาก่อนอยู่ แล้วค่ะ”

“ฮาๆฮา ดีๆดี แบบนี้ดีแล้ว ผู้หญิงหน่ะ รักครอบครัวหน่ะถูก แล้ว”

ทั้งสองคนต่างคุยกันอย่างมีเลศนัยแล้วยิ้มให้กันอย่างเจ้า

เล่ห์

หลินซีเหวินมองดูลั่วหานที่กำลังเก็บข้าวของอยู่ แล้วตั้งใจ หลอกถามไปว่า “ไอดอลคะ ที่คุณไปเมืองเจียงเฉิงนี่ตั้งใจไปเพราะการผ่าตัดจริงๆ ใช่ไหมคะ? เหมือนฉันจะ โดยนมาวา ช่วงนี้คุณหลงเซียวก็อยู่ที่เมืองเจียงเฉิงเหมือนกันนะคะ”

ลั่วหานยอมรับมาแบบหน้า อๆ “ก็ใช่นะสิ เขาอยู่ที่เมืองเจียง เฉิง”

“ดัง….ก็เชื่อฟังสามีทุกเรื่องใช่ไหมคะ?” หลินซีเหวิน เอามือลูบหน้า ความอยากรู้อยากเห็นฟุ้งเต็มห้องไปหมด

ลั่วหานจัดเตรียมรายการผู้ป่วยเธอให้ไปส่วนหนึ่ง “เตียงสาม กับเตียงเก้าต้องทําการบันทึกอยู่ตลอด ถ้าเกิดปัญหาอะไรให้ รีบโทรหาฉันทันที ส่วนเรื่องซุบซิบอย่างอื่นนั้น คุณหมอหลิวเพ ลาๆ ลงหน่อยก็ได้ค่ะ”

“โอ้ย…นานๆ จะได้เห็นคุณวิ่งตามคุณหลงเซียวแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องให้ความสนใจอยู่แล้วค่ะ!”

การผ่านั้นๆเป็นเพียงแค่การข้ออ้างที่ฟังดูดีให้ตัวเองเท่านั้น การใช้การงานมาเป็นข้ออ้างแบบนี้ ดูไม่เป็นมืออาชีพเอาซะ เลย

แต่ พอนึกถึงหลงเซียวก็ไปที่เมืองเจียงเฉิงตั้งนานแล้ว ข้าง กายยังมีเจิ้งซินคอยหลอกล่อเขาอยู่ทุกวันแบบนี้ ลั่วหานก็รู้สึก ไม่สบายใจเอาซะเลย ไม่ว่ายังไงก็ตามต้องไปเจอหน้า เจิ้งซิน ให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!

“นี่คุณหมอหลิน จริงๆ ความสามารถของคุณยังไม่ผ่านเลยนะคะ…….คุณคิดว่า ฉันควรลงช่องประเมินคุณเพิ่มอีกสกของด ไหมคะ คะแนนความอยากรู้อยากเห็นคุณคิดว่ายังไงคะ?”

“โอ้ว!! ฉันไปแล้ว ไปแล้วค่ะ!”

ลั่วหานจัดการเรื่องที่ควรจัดการให้เสร็จแล้วก็โทรศัพท์หา หลงเขียว

หลงเซียวอาจจะกำลังยุ่งอยู่ก็ได้ เพราะในสายมักจะมีเสียง ของคนอื่นดังขึ้นมาเป็นพักๆ เหมือนกำลังปรึกษาหารืออะไร บางอย่างกันอยู่

“คุณไปทำงานก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวฉันวางสายก่อนก็ได้ หลัง เสร็จงานแล้วค่อยโทรหาฉันอีกทีก็ได้ค่ะ”

นี่มันหกโมงกว่าแล้วนะ ยังจะประชุมกันอีกเหรอ?

หลงเซียวเลื่อนเก้าอี้แล้วเดินออกจากที่ประชุมที่กำลังถูก เถียงกันอยู่ ประตูบานหนึ่งบดบังเสียงที่วุ่นวายเอาไว้ “ไม่ครับ แค่หาลือกันนิดหน่อย เลิกงานแล้วเหรอครับ?”

“เลิกแล้วค่ะ ความจริงที่โทรไปก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อยาก ถามว่าพรุ่งนี้คุณมีแผนจะทำอะไรบ้าง” ลั่วหานกำลังรู้สึกตื่น เต้น เพราะนี่คือครั้งแรกที่เธอบินไปแอบดูสามีแบบนี้เลย

หลงเซียวคิดทบทวนตารางงานของวันพรุ่งนี้ “ตอนเช้ามีประชุม ส่วนตอนเย็นก็ต้องไปงานเลี้ยงครบ

ยุ่งทั้งวันเลยเหรอ? GOD?

“งานเลี้ยงอะไรเหรอคะ? ประมาณกี่โมง?”

“เป็นงานเลี้ยงภายในครอบครัวของเส้นคั่วคร้บ งานเริ่มสอง ทุ่ม เลิกประมาณสี่ทุ่ม ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวผมจะบอกอีกทีนะ ครับ”

ลั่วหานลองคำนวณเวลาดู ต้องรอดึกเลยเหรอกว่าจะได้เจอ

เขา.

“ที่คุณไปเมืองเจียงเฉิงคุณพักอยู่ที่โรงแรมไหนนะคะ? ฉันจำ ไม่ได้แล้ว” ลั่วหานทำเป็นถามไปอย่างลอยๆ

หลงเซียวส่งเสียงหือด้วยความสงสัย “ทำไมอยู่ๆถึงถามเรื่อง

นี้หล่ะครับ?”

ลั่วหานทิ้งตัวลงบนเบาะรถอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วทําเสียง หงุดหงิดว่า “ถามไม่ได้เหรอคะ? หรือมีเรื่องอะไรที่ไม่อยากให้ ฉันรู้รึเปล่า?”

หลงเซียวทนไม่ไหวจนต้องขำออกมา “โรงแรมสี่ตี้ ห้อง2716 รหัส6790ครับ ยังมีอะไรจะถามอีกไหมครับ? คุณภรรยา”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ