ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 341 ตาแก่สั่งออกหน้าช่วยเหลือ



ตอนที่ 341 ตาแก่สั่งออกหน้าช่วยเหลือ

ตอนที่ 341 ตาแก่ส่งออกหน้าช่วยเหลือ

ณ โรงพยาบาลหวาเซีย คลินิกแผนกหัวใจ

“คุณหมอฉี่ มีไปรษณียภัณฑ์”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

ผู้ช่วยยื่นไปรษณียภัณฑ์ซองสีแดงฉบับหนึ่งให้กับลั่วถั่ว ซึ่งบนซองมีเพียงชื่อและที่อยู่ของลั่วหาน

หลังจากเปิดซิงจดหมายด้วยท่าทางลังเล และเห็น สิ่งของภายใน ลั่วหานก็ถึงกับเผยรอยยิ้มแห้งๆออกมา

จากนั้นเธอถืออ่านบัตรเชิญเข้าร่วมงานแต่งงานของโม่หรู เฟยกับซุนปิงเหวินอย่างเงียบๆ เวลาและสถานที่ถูกเน้นสี แดงอย่างชัดเจน ซึ่งเขียนชื่อกำกับของเธอและหลงเซียว อย่างชัดเจนด้วย

เวลาคืออีกสองวันข้างหน้า ส่วนสถานที่คือโรงแรมห้าดาว ที่เมืองหลวง
คิดไม่ถึงจริงๆ หลังจากเสียเวลากับการกําหนดหมั้น ใน ที่สุดพวกเขาสองคนก็รีบจัดการแต่งงานเสียเลย

ล้วหานวางบัตรเชิญลง และเตรียมตัวจะโทรศัพท์หาหลง เซียว แต่เมื่อดูเวลาประเทศจีนในตอนนี้คือเวลาเช้าสิบเอ็ด โมง เธอก็ล้มเลิกความคิด ไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อน ของเขา เพราะที่อเมริกาในตอนนี้เวลาคือเที่ยงคืน

“คุณหมอฉี่ มีคนไข้คนหนึ่งต้องการพบคุณค่ะ คนไข้พัก อยู่ที่ห้อง 1806 คนที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จเมื่อสามวันก่อน แต่จู่ๆ วันนี้คนไข้บอกว่ารู้สึกไม่สบาย”

“โอเค”

ลัวหานหยิบเครื่องฟังและเคสคนไข้ จากนั้นก็เดินตรงไป หาคนไข้ที่ห้อง หลังจากทำการวินิจฉัยโรคเสร็จ ก็บังเอิญ เจอกับถังจิ้นเหยียนพอดี ทั้งสองคนยิ้มต่อกันระหว่างที่ หมอและคนไข้เดินสัญจรไปมา

“จิ้นเหยียน ฉันมาคิดบัญชีกับคุณ คุณทำร้ายหมอหลิน ของฉันน่าอนาถมาก ตอนนี้เธอสีอาการเหมือนคนอกหัก เลย ไม่ยอมกินข้าวกินปลา คุณคิดว่าตัวเองควรรับผิดชอบสักหน่อยไหม?”

ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว “สองวันมานี้คุณหมอหลินหลบหน้า เวลาเจอผมตลอด อาจเป็นเพราะเธอเห็นผมกับเจิ้งซิ่วหยา อยู่ด้วยกันตอนเที่ยงเมื่อวานแน่เลย”

ลั่วหานหนีบเคสคนไข้ที่แขนอย่างแน่น “เรื่องนี้ฉันไม่ขอ ยุ่ง ผู้ช่วยที่น่ารักของฉันตอนนี้กลับใจลอยแล้ว ล้วนเป็น เพราะคุณ คุณเป็นกุญแจความทุกข์ของเธอ ดังนั้นคุณต้อง เป็นไขด้วยตัวเอง”

“ไอดอล! ในที่สุดฉันก็หาคุณจนพบ! ฉันโทรศัพท์หาคุณ ทำไมไม่รับสายค่ะ! ฉันรีบร้อนจนใจจะขาดหมดแล้ว!”

จู่ๆน้ำเสียงรีบร้อนหนึ่งก็ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบขึ้น จู่ๆ หลินซีเหวินก็โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้ขึ้น เธอโบกแฟ้ม ประวัติคนไข้และตะโกนพูดอย่างเสียงดัง

ลั่วหานจ้องมองเธอด้วยสายตาสงสัย จากนั้นก็เหลือบ มองถังจิ้นเหยียน แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น “คุณหมอหลิน มาหา ฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
เมื่อ หลินซีเหวินเหลือบเห็นถังจิ้นเหยียนอยู่เบื้อง หน้า ใบหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที และพูดจาติดขัดว่า “อืม….เออ เมื่อกี้มีคนไข้….เขาสแกนร่างกายแล้ว ผลออก มาว่า….เป็นโรคมะเร็ง”

ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าต่อเธอเล็กน้อยด้วยสีหน้าอ่อนโยน “มะเร็งตรงไหนหรอ? รีบติดต่อห้องพยาบาล ต้องรีบพา คนไข้ย้ายห้องด่วน”

เมื่อได้ยินถังจิ้นเหยียนพูดแบบนี้ ใบหน้าแดงของหลินซี เหวินก็เริ่มขาวซีดอย่างเก้อเขิน แล้วเปลี่ยนสีหน้าเขียวคล้ำ ขึ้น “คือฉัน ฉันแค่มาให้คุณหมอฉู่เซ็นชื่อค่ะ”

ลั่วหานมองดูทั้งสองคน ขณะเดียวกันก็แอบอมยิ้มด้วย “เอาใบขั้นตอนมาให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะเซ็นชื่อเอง”

“โอเค”

เธอเซ็นชื่ออย่างชำนาญ และแกล้งแสร้งพูดว่า “คุณหมอ หลิน ยังมีธุระอะไรอีกไหมคะ?”

หลินซีเหวินยิ้มปากยิ้มอย่างเก้อเขิน “ไม่มีแล้วค่ะ”
“หากไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันขอตัวพาคุณหมอถังไปก่อนนะ ค่ะ” ล้วงานเผยสายตาเจ้าเล่ห์ขึ้น

“เดี๋ยวก่อนค่ะ! พอดีฉันมีธุระกับคุณหมอถังนิดหน่อยค่ะ”

ถังจิ้นเหยียนเหลือบมองลั่วหานที่เสแสร้ง พร้อมเผย สายตามืดครึ้มเล็กน้อย “ผมมีธุระอยากคุยกับคุณหมอหลิน อยู่พอดีเลยครับ งั้นไปดื่มกาแฟด้วยกันไหมครับ”

ลั่วหานโบกมือเล็กน้อย “ไปเถอะ ยากมากที่คุณหมอถึง จะเลือกดื่มกาแฟ”

ถังจิ้นเหยียนกุมขมับเล็กน้อย พร้อมกับยิ้มด้วยสีหน้าจน

ปัญญา

หลังจากเห็นทั้งสองคนเดินไปไกล ลั่วหานก็คว้าหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมา และพบว่าไม่ได้รับสองสาย นั้นคือสายจาก หลินซีเหวินกับลู่ซวงซวง

“ซวงซวง เป็นอะไรหรอ?”

“โอ้สวรรค์! ในที่สุดนางฟ้าของฉันก็โทรศัพท์กลับมาสักที! เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! เธอยังไม่ได้ดูข่าวหรอ? โม่ หรูเฟยกับซุนปิงเหวินกำลังจะจัดงานแต่งงานแล้ว แถม ทางสื่อมวลชนบอกว่า พวกเขาลงทุนกว่าสิบล้านจัดงาน แต่งงานเหมือนภาพฝันด้วย ทำแบบนี้พวกเขาหมายความ ว่าอะไรกัน!”

ลั่วหานทนฟังเกือบหูหนวกแล้ว ที่แท้เรื่องนี้เอง

“ฉันรู้แล้ว วันนี้ฉันได้รับบัตรเชิญแล้ว ฉันคงเข้าร่วมงาน แต่งงานด้วย”

ลู่ซวงซวงพูดขึ้นว่า “ผู้ชายของเธอไม่อยู่บ้าน แล้วเธอจะ ไปหาเรื่องใส่ตัวหรอ? ไม่หรูเฟยคนอย่างเธอมีความปราณ นาดีต่อเธอหรอ? ทะนงตัวหน่อย ไม่ต้องไป!”

ลั่วหานอมยิ้มเล็กน้อย “ค่าจัดงานแต่งงานสิบกว่าล้าน หากไม่ไปสนุกสักหน่อย คงน่าเสียดายแย่แน่เลย จริง ไหม?”

ลู่ซวงซวงจนปัญญาพูดตักเตือนแล้ว สุดท้ายเธอก็พูด ขึ้นมาว่า “พวกเธอสองคนไม่มีวันคืนดีกันหรอก คงต้อง ฟาดฟันกันอีก เธอต้องระมัดระวังตัวให้มาก ทึม แต่งตัวให้ สวยๆหน่อย อย่าได้ยอมแพ้นังผู้หญิงสารเลวอย่างโม่หรูเฟยเด็ดขาด!!

“โอเค ต้องสวยอย่างแน่นอน!”

กลางคืน ก่อนนอนลั่วหานโทรศัพท์หาหลงเซียว และซัก ถามว่า ธุระทางนั้นเสร็จสิ้นเมื่อไหร่

หลงเซียวบอกว่าอย่างน้อยอีกสามวัน ลั่วหานไม่พูดต่อ แล้ว เพราะกลัวเขาเป็นกังวลและกลับมา

เช้าวันต่อมา ลั่วหานนั่งรถยนต์ของจี้ตงหมิงไปโรง พยาบาล ซึ่งระหว่างทางเธอรับสายโทรศัพท์หนึ่งขึ้น

เป็นเบอร์แปลก จากต่างประเทศ

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบใครคะ?”

“ฉันไม่ดี ไม่ดีเลย โดยเฉพาะหัวใจไม่ดีเลย”

ลั่วหานอ้าปากค้างนิ่งอึ้ง “ศาสตราจารย์สัง! เป็นคุณหรอ

ค่ะ!”
สังชิงเซวี่ยนนั่งอยู่ในห้องทำงานของลั่วหาน เขาสวม ชุดฉางเผ่ายาวสีเขียวเข้ม ซึ่งดึงดูดสายตาคุณหมอและ พยาบาลรอบข้างไม่น้อยเลย เพียงเหลือบมองแวบเดียวก็ นึกว่า เขาเป็นยัยแก่จอมหลอกลวง

แต่เพราะลั่วหานปฏิบัติเขาอย่างเกรงอกเกรงใจ ทุกคน เลยไม่มีภาพจํานั้น!

แม่เอ๊ย เกิดอะไรขึ้น!

คุณหมอฉู่เทน้ำชาให้กับยัยแก่นี้ด้วยตัวเอง แถมยังยิ้ม แย้มอย่างสนิทสนมด้วย ทุกคนเลยรู้สึกอิจฉาและไม่พอใจ ต่อยัยแก่นี้

รอยยิ้มของนางฟ้าไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถครอบครองได้ น้ำชาของนางฟ้าไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถดื่มได้เหมือนกัน!

สังชิงเซวี่ยนดื่มน้ำชาด้วยท่าทางเบิกบาน จากนั้นก็พูดขึ้น ว่า “เป็นชาหลงจิ่ง….อืม รสชาติไม่เลวเลย คิดไม่ถึงว่าลั่วลั่ วจะสามารถชงชาเป็นด้วย ผมขาดคนชงชาพอดีเลย ถั่วลั่ว ต่อไปเธอช่วยฉันชงชาเป็นยังไง?”
ลั่วหานยิ้มอย่างสงบนิ่ง และพูดต่อหน้า สังชิงเซวี้ยนด้วย ท่าทางเหมือนเด็กพูดออดอ้อนว่า “ขอเพียงศาสตราจาร สังสามารถรักษาเด็กสาวให้หายดี ต่อไปฉันจะชงชาให้ ทุกวันเลยค่ะ ยุติธรรมไหมคะ?”

สังชิงเซวี่ยนไอเห่อเห่อ “วลั่ว ไม่น่ารักเลย! คิดไม่ถึงว่า เธอจะมีข้อเสนอแบบนี้กับฉัน เธอไม่เชื่อฟังฉันเหมือนเมื่อ ก่อนแล้ว!”

ลัวหานยื่นมือแย่งถ้วยชาจากมือของเขาไปทันที “ได้ค่ะ งั้นฉันจะไม่น่ารักแล้ว ถ้าไม่ยอมช่วยเธอ ต่อไปฉันก็ไม่ ยอมชงชาให้ด้วย”

สังชิงเซวียนเตะที่ปลายจมูกเธอเล็กน้อย “สาวน้อย กล้า ไม่น้อยเลยนะ ฮ่าฮ่า ดี งั้นพาฉันไปดูอาการของเธอหน่อย”

“ค่ะ!”

สังชิงเซวียนรีบยื่นมือแย่งถ้วยชามาชิมอีกครั้ง “รสชาติไม่ เลวจริงๆ! ลั่วลั่วเป็นผู้ใหญ่แล้ว!”

ลั่วหานนิ่งเงียบ และพูดว่า “ศาสตราจารย์สัง คุณอายุปูนนี้แล้ว ฉันจะไม่เป็นผู้ใหญ่ได้ยังไง?”

“เธอนี่….” สังชิงเซวี่ยนหัวเราะฮ่าฮ่า “ปากร้ายไม่เบาเลย!”

หลังจากที่สังชิงเซวียนตรวจอาการหวังเถียนเทียนเสร็จ ก็ นิ่งเงียบอยู่ในห้องสิบกว่านาที ลั่วหานกับหวังเคยจ้องมอง เขา ทั้งสามคนต่างนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

ตอนที่บรรยากาศเริ่มอึดอัดจนทนไม่ไหว ลั่วหานก็พูด เบาๆ นว่า “ศาสตราจารย์สั่ง คุณอย่าบอกฉันนะว่า คุณเอง ก็ไม่มีวิธีการเหมือนกัน ถ้าคุณกล้าพูด ฉันจะแย่งถ้วยชา จากคุณทันที และจะไม่ชงชาให้คุณอีก แม้แต่อาหารก็ไม่ ทำให้คุณกินด้วย!”

สังชิงเซวียนเขกหัวลั่วหานเบาๆ พร้อมกับถือถ้วยชายิ่ง แน่นขึ้นด้วย “จิตใจของสาวน้อยคนนี้ช่างแกร่งกล้ามาก อืม….ใครกันล่ะทำให้ศาสตราจารย์ติดชาของลิ่วลั่ว งั้น เดียวฉันจัดการเธอเอง!”

หวังเค่ยจ้องมองลั่วหานด้วยสายตาไม่ค่อยมั่นใจ “คุณ หมอฉี คือ….ทําได้ใช่ไหมครับ?”
ลั่วหานฉีกปากยิ้มเล็กน้อย “วางใจเถอะ ยัยแก่ตอบรับ แล้วต้องไม่มีปัญหาแน่นอน ให้เขาดูแล เถียนเถียน ฉันรับ ประกันว่าคุณต้องได้ลูกสาวที่ร่าเริงกลับมาแน่”

หวังเค่ยก้มโค้งกล่าวขอบคุณเล็กน้อย “ขอบคุณ! ขอบคุณ มากครับ! ขอเพียงคุณสามารถช่วยลูกสาวของฉันได้ ฉันจะ ตอบแทนอย่างงามเลย!”

สังชิงเซวี่ยนเหลือบมองเขาด้วยสายตาภาคภูมิใจเล็ก น้อย “คุณจะตอบแทนผมยังไงหรอ? คุณชงชาเป็นหรอ? เอาล่ะ ฉันไม่คาดหวังการตอแทนกับคุณเลย”

“ขอบคุณตาแก่มากครับ! ขอบคุณมากจริงๆ!”

เมื่อ สังชิงเซวี่ยนฟังจบก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ “อะไรนะครับ? ผมแก่แล้วหรอ? เรียกผมว่าศาสตราจารย์สังก็พอแล้ว!”

“ครับ ครับ ศาสตราจารย์สัง ขอบคุณมากครับ!”

เมื่อได้ยินคำสัญญาจาก สังชิงเซวี่ยนลั่วหานก็ถอน หายใจออกเล็กน้อย
แต่เธอสงสัยมากว่า ตกลงหลงเซียวพูดเกลี่ยกล่อมเขา

ยังไงกัน?

หลงเซียวกดรหัสผ่านประตูของโรงแรมระดับสูง แล้ว ผลักประตูเข้าไป

ภายใต้แสงจันทร์มืดสลัว หลงเซียวเหลือบสังเกตเห็นใน ห้องมีคนอยู่!

“ใคร?”

หลงเซียวกดเปิดสวิทไฟขึ้น และสังเกตว่าไม่มีการ เคลื่อนไหวอะไร พร้อมหรี่ตามองเตียงใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า หน้าต่าง และพบว่าบนเตียงมีคนห่อผ้าอยู่คนหนึ่ง เขามีผิว พรรณสีขาวนวล ซึ่งเป็นผิวพรรณขาวแบบผู้หญิง

“คุณค่ะ กลับมาแล้วหรอ….”

บนเตียงมีเสียงออดอ้อนเซ็กซี่หนึ่งดังขึ้น จากนั้นก็มีกลิ่น หอมฟุ้งกระจายขึ้น ผู้หญิงดึงผ้าห่มออก และลุกขึ้นยืน ภายใต้แสงจันทร์กระทบปรากฏรูปทรงโค้งเว้าอย่าง งดงามที่กําลังเดินเข้ามา

“หยุด”

เสียงตะคอกดังสนั่นได้ทำให้ผู้หญิงสะดุ้งตกใจ จนหยุด การเคลื่อนไหวทันที จากนั้นผู้หญิงก็เอ่ยปากพูดด้วย น้ำเสียงเย้ายวนว่า “คุณค่ะ คืนนี้ฉันมาปรนนิบัติคุณโดย เฉพาะ”

หลงเซียวเผยสายตามืดครึ้มขึ้น ซึ่งแฝงด้วยสายตา แหลมคมด้วย “ผมไม่สนว่าคุณเข้ามาได้ยังไง แต่ตอนนี้ ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”

ผู้หญิงเบิกตากว้าง เพราะในความมืดแทบมองไม่เห็น สีหน้าความรู้สึกของผู้ชายเลย แต่น้ำเสียงเข้มมีเสน่ห์มาก “ฉัน…ฉันมา….”

“ออกไป ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาที รีบใส่เสื้อผ้า แล้วรีบ ออกไป”

ผู้หญิงรีบหยิบเสื้อของตัวเอง และสวมใส่อย่างยุ่งเหยิง ทันที จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน
หลงเซียวกดเปิดไฟในห้องนอนขึ้น ภายในห้องยัง คงมีกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงอบอวลอยู่ หลงเซียวรู้สึก ขยะแขยงมาก!”

เป็นใครกัน? ใครกล้าเอาผู้หญิงมาไว้ในห้องของเขา?”

เกาจิ้งอาน?

หลงเซียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “เกาจิ่งอาน คุณทําอะไร หรอ?”

เกาจิ่งอานก็พักอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้เหมือนกัน ในตอนนี้ กำลังจิบไวน์อยู่ “พี่ใหญ่ ค่ำคืนแสนเหงาแบบนี้ นอนคน เดียวคงยากแน่ หากมีสาวสวยอยู่เป็นเพื่อน อารมณ์จะได้ดี มากขึ้น!”

หลงเซียวพูดขึ้นว่า “เกาจึงอาน นายไม่รู้หรอว่า ผู้หญิงที่ นายเอามาไว้บนเตียงของฉันอยู่ที่ไหน?”

เกาจิ้งอานจิบไวน์หนึ่งคำ “ที่ไหนหรอ?”

“สสานชานเมืองตะวันตกได้ยินมาว่าหน้าป้ายศพมีหญ้ารกร้างขึ้นมา นายอยากไปช่วยเขาถอนหญ้าไหม?”

“หึม!”

เกาจิ่งอานสำลักไวน์ในปากออกมาหมดเลย “เห่อเห่อ เห่อ! พี่ใหญ่ อย่าจริงจังสิ! ผมแค่อยากให้พี่คลายเครียด บ้าง ผู้ชายก็แบบนี้แหละ….. จริงสิ พี่ใหญ่ หญิงสาวคนนั้น เป็นยังไงบ้าง? ระดับดีเลยนะครับ ผมเลือกด้วยตัวเองด้วย”

หลงเซียวดึงเนคไทออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา “งั้นฉันขอบ อกนายด้วยความเป็นห่วงว่า รีบมาเปลี่ยนผ้าปูนที่นอน อ๋อ มาเปลี่ยนด้วยตัวเองด้วยนะ”

“ไม่จริงใช่ไหม? เรียกพนักงานสิครับ”

“ฉันให้เวลานายหนึ่งนาที 59 58…”

“ครับ! ผมรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ!”

เกาจิ่งอานวิ่งกระโจนมาอย่างรวดเร็ว และพูดว่า “พี่ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะออกมาแบบนี้ เปลี่ยนมาชมสาวสวยสักหน่อยไม่ดีหรอ! มีผู้ชายที่ไหนบ้างไม่มีกิ๊ก กินแต่อาหารเดิมไม่เบื่อหรอ จริงไหม?”

หลงเซียวขมวดคิ้ว “เกาจิ่งอาน อีกสามนาที ถ้าฉันกลับมา ต้องเห็นทุกอย่างเรียบร้อย และไม่ได้กลิ่นพวกนี้ด้วย

เกาจิ่งอานพูดว่า “อ่า! แล้วพี่ใหญ่จะไปไหน?”

“โทรศัพท์หาพี่สะใภ้

“พี่ใหญ่คงไม่ใช่ว่ากลัว…..เมียหรอกใช่ไหม?

หลงเซียวเดินไปที่ระเบียง ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืน ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของนิวยอร์กสีสันฉูดฉาดมาก แต่เขา กลับรู้สึกคร่ำครวญ

ตอนนี้เป็นเวลากินข้าวเที่ยงของลัวหาน

เมื่อได้รับสายจากหลงเซียว ล้วหานทั้งตกใจและแปลก ใจมาก “สามี ดึกขนาดนี้ ทำไมคุณถึงยังไม่นอนอีก?
หลงเซียวเปลี่ยนน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น “มีใครบางคน รบกวนผมเวลานอนครับ ผมเลยมาตักเตือนเธอด้วยตัวเอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ