ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 419 ที่แท้ตระกูลเสิ่นก็เป็นอย่างนี้นี่เอง



ตอนที่ 419 ที่แท้ตระกูลเสิ่นก็เป็นอย่างนี้นี่เอง

ตอนที่ 419 ที่แท้ตระกูลเสิ่นก็เป็นอย่างนี้นี่เอง

ณ ใจกลางย่านการค้าCBD ถนนที่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ถนน ยกระดับหมุนวนอยู่เหนือเมืองใหญ่ พอถึงเวลาเลิกงานรถก็ติด จนไม่กระดิกเลย

ตอนที่เพิ่งออกจากบริษัทรถยังพอวิ่งได้อยู่เลย แต่พอวิ่งไป สักพักรถก็เริ่มติดแล้ว รถต่อแถวกันอย่างยาวเหยียด มองไป ไกลห้าร้อยเมตรก็ยังมองเห็นแต่รถยนต์

รถของเจิ้งซินหลงเซียวขึ้นด้านหน้ารถของหลงเซียว ขับไป ขับมาข้างหน้าก็ไม่ขยับแล้ว ถ้ารอให้ถนนโล่งละก็อย่างน้อยก็ ต้องหนึ่งชั่วโมง ถ้าเป็นอย่างนี้คงไปไม่ทันแน่

เจิ้งซินกัดฟันแน่น “เปี้ย! ” ตบเข้าที่พวงมาลัยอย่างแรง บ้าเอ๊ย ทำไมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย น่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เธอก็รีบร้อนที่จะมาเจอหน้าหลงเซียวมากเกินไปจนลืม เรื่องรถติดไปเลย

ช่วยไม่ได้ คงต้องโทรบอกหลงเซียวแล้ว แต่โทรศัพท์ของ เขาก็สายไม่ว่าง จริงสิ เขาประชุมอยู่นี่นา

ถ้าไม่รีบก็จะไม่มีเวลาแต่งตัวแล้ว หรือว่าคืนนี้เธอต้องไปร่วม งานทั้งอย่างนี้เนี่ยนะ ไม่มีทาง
หลังส่งข้อความให้หลงเซียว เจิ้งซินก็ขับรถออกไปบนทางคู่ ขนาน แล้วหาซอยอ้อมไปยังร้านเสื้อผ้า

หวังเจี้ยนที่อยู่ข้างหลัง พอเห็นสภาพการจราจรข้างหน้าแล้ว ก็หันไปถามว่า “ท่านครับ ทำยังไงดีครับ? ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เราจะไปสายเอาได้นะครับ”

หลงเซียวมองไปข้างหลัง “ไม่เป็นไรครับ กลับรถไปวิ่งไป ตามถนนเส้นหลักซีเจียง แล้วขึ้นทางด่วน คุณเจิ้งไปแล้ว เราก็ ไม่ต้องรีบแล้วครับ”

“ครับท่าน”

หลงเซียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปรับโหมดให้กลับเป็นปกติ นิ้วที่เรียวงามของเขาสัมผัสไปยังแหวนที่สวมอยู่ตรงนิ้วนาง “ความสัมพันธ์ระหว่างเสิ่นคั่วกับเจิ้งเฉิงหลินเป็นยังไงบ้าง ครับ?”

“ถือว่าใช้ได้ครับ วันเกิดทุกปีของเสิ่นคั่ว ผู้อำนวยการเจิ้งก็จะ ไปร่วมทุกครั้งครับ คุณเจิ้งเองก็จะไปร่วมด้วยทุกครั้งครับ ว่า กันว่าส่วนตัวแล้ว เสิ่นคั่วกับเจิ้งเฉิงหลินพวกเขาเป็นเพื่อนกัน ครับ”

ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าธุรกิจที่สกปรกของเสิ่นคั่วคงมีเจิ้งเฉิง หลินคอยจัดการให้อยู่ข้างหลังแน่ๆ ถึงสามารถล้างเงินที่ สกปรกเหล่านั้นให้สะอาดขนาดนี้ได้ ถ้าไม่มีคนที่มีอำนาจ คอยหนุนมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
หลงเซียวเคาะนิ้วของตัวเอง “ของขวัญเตรียมมาเรียบแล้วนะ ครับ?”

“เรียบร้อยแล้วครับ ทั้งหมดสามชุด อยู่หลังรถแล้วครับ ทุก อย่างจัดตามที่ท่านสั่งเลยครับ”

“ดีมาก”

ณ โรงแรมสี่ตี้ ภายในห้องชุดชั้นบน

ลั่วหานอยู่ในชุดราตรีสีน้ำเงินมุข เป็นชุดยาวที่ลากยาวถึง พื้น เหมือนความงดงามมากมายถูกดูดมาอยู่ที่ตัวเธอแล้วเป็น ความงามอันเป็นประกายจนไม่อาจละสายตาลงได้

ร่างกายที่ผอมเพรียว สวมใส่ชุดกระโปรงที่รัดรูป เผยส่วน เว้าส่วนโค้งของเธอออกมาได้อย่างชัดเจน เดิมทีหุ่นของเธอก็ ดีมากอยู่แล้ว แค่แต่งตัวเพิ่มนิดหน่อยมันก็สามารถดึงดูดสาย ได้อย่างมากเลย

ยิ่งชุดที่ดูดีมีระดับชุดนี้ยังถูกทำขึ้นโดยนักออกแบบระดับ โลกที่มีชื่อเสียงอีกด้วย มันถูกตัดออกมาให้เข้ากับสรีระ ร่างกายของเธออย่างมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแบบหรือราย ละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ก็ถูกตัดเย็บออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด
นั่งส่องกระจกแล้วแต่งหน้าอย่างเบาบาง แล้วทาลิปสติกสี แดงกุหลาบ ใบหน้าที่ขาวนวลเหมือนหิมะ ริมฝีปากก็ดูโดด เด่นเหมือนดอกเหมยกลางหิมะขึ้นมา งดงามจนหาที่เปรียบไม่ ได้

คืนนี้ ถ้าเธอออกงานด้วยรูปลักษณ์แบบนี้ คงจะเชิดหน้าชูตา ให้หลงเซียวได้มากแน่ๆ

จากนั้นเธอก็หยิบชุดสูทที่เตรียมไว้ให้หลงเซียวออกมาจาก กระเป๋าเดินทาง แล้วเอามันใส่ไว้ในถุงใส่เสื้อใบใหญ่ ขาสอง ข้างที่เรียวยาวก้าวไปยังประตูของโรงแรม

จากเมืองหลวงมาที่เมืองเจียงเฉิง ลั่วหานไม่สามารถขับรถ มาได้ การจะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงก็เลยกลายเป็นเรื่องยาก เลย จะให้เรียกรถจากร้าน4s ก็คงไม่ทันแล้ว

ลั่วหานจึงกดเบอร์โทรหาลู่ซวงซวง เธอมักจะเข้าร่วมงาน แฟชั่นโชว์อยู่บ่อยๆ จึงมีเพื่อนอยู่ทั่วประเทศเลย โทรหาให้เธอ ช่วยตัวไม่ผิดหวังแน่ๆ

“ฮัลโหล! ที่รัก นี่เธอไม่ได้ติดต่อฉันมานานมากแล้ว ในที่สุด ก็คิดถึงฉันแล้วสินะ?” พอลู่ซวงซวงรับสายก็ทักทายเธอด้วย เสียงที่สูงลิ่ว มันแสบหูจนลั่วหานต้องเอามือถือออกห่างจากหู ทันที

พอลั่วหานพูดถึงจุดประสงค์ที่โทรหาแล้ว ลู่ซวงซวงก็ร้องไห้ เป็นการใหญ่ “ใจร้ายยยย โทรมาก็เพื่อต้องการให้ฉันช่วยหี!! รอแป๊บหนึ่งนะ ในเมืองเจียงเฉิงฉันมีเพื่อนๆที่เป็น เศรษฐีอยู่หลายคนเลย ไปรับเธอด้วยรถหรูนั้นไม่ใช่ปัญหา เลยสักนิด แต่พอกลับมาแล้วเธอต้องเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการ ตอบแทนฉันเป็นอย่างดีเลยนะ!”

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะ”

ลู่ขวงซวงถือว่าเป็นคนที่พึ่งพาได้มากจริงๆ ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็มี ไมบัคสีขาวคันหนึ่งมาจอดอยู่ข้างๆ ลั่วหานแล้ว คนทางนั้นรู้ดี ว่าเธอคือภรรยาของหลงเซียว ระหว่างทางก็สุภาพกับเธอมาก หลังส่งรถเสร็จยังพูดกับเธออย่างสุภาพว่าวันหลังต้องเชิญสั่ วหานไปดื่มมาให้ได้

ลั่วหานไม่ชอบเป็นแขกดื่มชาเป็นเพื่อนใครเท่าไหร่ แต่ถ้า เป็นรถละก็ เธอยินดี

ลั่วหานได้กรอกที่อยู่ที่ไป์เวยส่งให้ลงในgps อืม จุดหมายอยู่ ชานเมืองทางใต้ของเมืองเจียงเฉิง มันอยู่ภายในสวนส่วนตัว ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง รอบๆเป็นสนามแข่งม้าขนาดใหญ่ และยัง มีสนามกอล์ฟที่มีระดับอยู่แถวนั้นด้วย หลังผ่านสวนสนุกนอก บ้านไปหลายหลัง ก็เจอเข้ากับสถาปัตยกรรมกอทิกโบราณ หลังหนึ่ง

เจิ้งชินมาถึงก่อนหลงเซียวแป๊บหนึ่ง หลังจอดรถ เธอก็สอง เข้าไปในกระจกมองหลังเพื่อเชยชมการแต่งตัวของตัวเองเธอค่อนข้างพอใจเลย!

แขกไปใครมา เจิ้งซินมองไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง แล้ว หยิบกระเป๋าถือของตัวเองขึ้นมา ภายในกองเครื่องสำอางมี ขวดสีขาวเล็กขวดหนึ่งถูกซ่อนอยู่

หลงเซียวทำกับเธอเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เธอทนต่อไปอีกไม่ไหว แล้ว เธอต้องการเขา ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเขาจะต้องเป็นของเธอ ของเธอคนเดียวเท่านั้น

เธอต้องเอาเขามาครอบครองให้ได้ เธอไม่รออีกต่อไปแล้ว มันต้องคืนนี้แหละ

เธอปิดกระเป๋าลง สีหน้าของเจิ้งซินกลับเป็นดังเดิมอีกครั้ง อะไรที่เธออยากได้ที่ผ่านมาไม่เคยมีสิ่งไหนหลุดพ้นกำมือของ เธอไปได้เลย

ได้โครงการไปแล้วมันจะยังไง? เธอทำให้เขาได้มาก็สามารถ ทำให้เขาสูญเสียไปได้เหมือนกัน

พอเห็นรถของหลงเซียวขับมาแต่ไกล เจิ้งซินก็เดินขึ้นมาข้าง หน้าด้วยตนเอง

ไฟหน้ารถสาดส่องมายังตัวเธอ ทำเอาชุดราตรีสีชมพูที่เธอ สวมใส่สว่างจ้าขึ้นมาทันที ชุดราตรีที่แสนรัดรูปถูกเธอสวมใส่ จนดูเซ็กซี่มาก เธอเคลื่อนไหวไปอย่างน่าหลงใหล เส้นผมที่ เหมือนเกลียวคลื่นของเธอกำลังถูกสายลมพัดผ่านเส้นผมที่กำลังโบกสะบัดให้ความรู้สึกนุ่มนวลอย่างบอกไม่ถูก มือที่ เรียวยาว เอวที่บางเรียว ชั่วขณะหนึ่ง บรรดาแขกที่ยังไม่ได้ เข้างานก็ถูกความน่าหลงใหลของเจิ้งซินดึงดูดสายตาเอาไว้

“หลงเซียวคะ ฉันกำลังรอคุณอยู่เลยค่ะ ในที่สุดคุณก็มา ถึงสักที” เธอบิดเอวไม่มาอย่าภาคภูมิใจ ค่อยๆ ก้าวเท้ามา อยู่เบื้องหน้าของหลงเซียวอย่างสง่างาม แล้วค่อยๆ สอดมือ เข้าไปในแขนของหลงเซียวอย่างช้าๆ เช็ดคาที่แหลมคมของ ตัวเองขึ้น คอเชื่อเข้ากับไหปลาร้า ไหปลาร้าเชื่อมกับรอยเว้า หลากลึกลงไป แค่เพียงขยับตัวเบาๆ เกลียวคลื่นที่อวบอิ่มก็ กระพือเข้าไปกระแทกตาของผู้คนรอบๆ แล้ว

ชุดสีชมพูที่ใส่แล้วควรจะดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่นี่มันกลับกลาย เป็นความเซ็กซี่เกินไปแล้ว

หลงเซียวงอแขนเล็กน้อย เขาที่อยู่ในชุดสูทไม่ได้แสดงการ ใดๆ ออกมาทางสีหน้าทั้งนั้น เพียงแค่พยักหน้าอย่างให้เกียรติ แล้วพูดว่า “ขออภัยที่ทำให้คุณเจิ้งรอนานครับ”

“ถ้าเป็นคุณนานเท่าไหร่ฉันก็รอได้ค่ะ” มือทั้งสองข้างของเธอ จับแขนของเขาไว้อย่างอ่อนโยน แล้วขยับตัวชิดเขาเข้าไปอีก นิดหนึ่ง

กลิ่นหอมกลิ่นหนึ่งบินโชยมา แค่เพียงครู่เดียวประสาทรับ กลิ่นและพื้นที่โดยรอบก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจากตัวเธอแค่ เพียงหายใจก็รู้สึกชื่นใจแล้ว
บรรดาผู้มาร่วมงานต่างพากันเดินเข้างานไปทีละคู่ทีละคู่ วิลล่าที่หรูหราของตระกูลเสื่น การออกแบบทั้งหมดนั้นเป็น แบบชนชั้นสูงสไตล์อังกฤษที่หรูหรา

เมื่อเดินเข้ามาในห้องโถงจะมีโต๊ะยาวตัวหนึ่งตั้งอยู่ มันยาว ประมาณห้าหกเมตร ข้างบนมีโคมไฟคริสทัลแบบพระเจ้า หลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสแขวนอยู่ แสงไฟที่เหมือนเพชรสาด ส่องไฟทั่วบริเวณ ทำให้ทุกๆ มุมทุกๆ รายละเอียดในห้องโถงดู มีระดับขึ้นมาในทันที

ในมือของเสิ่นคั่วถือไม้เท้าที่ทําจากไม้แดงไว้ ผมสีขาวเงินถูก หวีมาอย่างเรียบร้อย ต่อให้ดูแลร่างกายดีขนาดไหนแต่รอย ย่นบนหน้าผากแล้วรอยย่นตรงหางตาก็ยังไม่อาจปิดบังความ ชราภาพของเขาได้

โดยเฉพาะตอนที่เขายิ้ม ทั้งหน้ามีแต่รอยย่น ยิ่งมาให้แววตา ที่ดุดันของเขาดูเลื่อนลอยมากขึ้นไปอีก เหมือนกับดวงตาของ งูพิษที่หลบซ่อนอยู่ คอยเล็งหาเหยื่อพร้อมที่จะจู่โจมทุกเมื่อ

นี่คือครั้งแรกที่หลงเซียวได้เห็นหน้าเสื่นคั่วแบบตัวเป็นๆ แววตาที่สุขุมของเขากระตุก เขาคือจิ้งจอกเถ้าดีๆ นี่เอง ทุกๆ อิริยาบถของเขาก็แสดงให้เห็นเลยว่าเขาคือขิงแก่ที่อยู่ใน ตลาดนี้มานาน

ส่วนผู้หญิงที่ใช้สองมือประคองเขาไว้ก็คือภรรยาเก่าของหวัง เคยจ้าวฟางฟางนั่นเอง ตอนนี้เธอกำลังยิ้มเหมือนดอกไม้คอย ต้อนรับแขกที่มาร่วมงานกับเสิ่นคั่วอยู่ แลดูเป็นกันเองเหมือนคนที่ใจกว้างจริงๆ ซะจริงเชียว

“คุณหลงครับ ไม่นึกเลยว่าคุณจะยอมสละเวลามาร่วมงานนี้ ด้วย ช่างเป็นเกียรติจริงๆ เลยครับ” เสิ่นคั่วแววตาที่แหลมคม เย็นเยือกมองมาทางหลงเซียวแต่ไกลอย่างไม่ละสายตา

แล้วทันใดนั้นเอง สายตาของแขกทั้งหมดในงานก็มุ่งตรงมาที่ หลงเขียวกับเจิ้งซินที่ก๋าลังควงแบนเขาอยู่

หลังเกิดความเงียบสงัดภายในห้องโถงไปพักหนึ่งเสียง ซุบซิบค่อยกันก็ดังขึ้น เกาะกลุ่มกันสองสามคนคอยซุบซิบ กันว่าหลงเซียวมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วเขากับลูกสาวของผู้ อ่านวยการเจิ้งเป็นอะไรกัน?

หลงเซียวสลัดมือของเจิ้งซินออกด้วยท่าทีที่เรียบเฉย ร่างกายที่สูงสง่าก้าวเดินมาข้างหน้า รองเท้าที่เงางามเสียดสี กับพื้นกระเบื้องจนเกิดเสียงดัง มุมปากที่แย้มออกเหมือนมี อะไรบางอย่างแอบซ่อนอยู่

“ท่านปู่เส็นครับ ผมมาโดยไม่ได้รับเชิญ หวังว่าคงไม่ทำให้ คุณตกใจนะครับ”

เสื่นคั่วความอ่ามหิตแวบหนึ่งวิ่งผ่านสีหน้าของเงินทั่วไป แล้ว เขาก็กลับมายิ้มแย้มอีกครั้ง “ไม่อยู่แล้วครับ คุณหลงเป็นถึง ประธานของบริษัทMBK ผมเองกลับรู้สึกยินดีจนหยุดไม่อยู่ แล้วครับ! คุณหลง เชิญครับ”
เจิ้งซินรีบก้าวเท้าแทรกเข้ามา แล้วเกาะแขนของเสิ่นคั่วด้วย ความรักใคร่ “คุณลุงเงินคะ หนูเป็นคนพาเขามาเองค่ะ คุณอา ไม่โกรธนะคะ ตอนนี้คุณหลงเชียวเขามาบริหารงานอยู่ที่เมือง เจียงเฉิง คุณอาเป็นผู้ทรงอิทธิพลในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ ต่อ ไปคงต้องให้คุณอาคอยดูแลคนหนุ่มสาวอย่างเราแล้วค่ะ!”

“ฮาฮา แน่นอนอยู่แล้ว! เพื่อนของเสี่ยวซิน ลุงต้องช่วยอยู่ แล้ว! ทุกคนเชิญนั่ง”

หลงเซียวใช้มือหนึ่งกดส่วนล่างของเสื้อสูทเอาไว้ แล้วนั่งลง อย่างสง่างาม สายตากำลังพิจารณาบุคคลยี่สิบกว่าคนที่นั่ง อยู่รอบๆ มีแต่พวกผู้บริหารและนักธุรกิจระดับสูงของเมือง เจียงเฉิงทั้งนั้นเลย

เจิ้งซินนั่งอยู่ข้างๆ หลงเซียว เห็นได้ชัดเลยว่าระยะห่าง ของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างชิดกว่าของคนอื่นๆ เสิ่นคั่วกำลัง พิจารณาพฤติกรรมของพวกเขาทั้งคู่ จากนั้นก็หรี่ตาแล้วถาม ขึ้นว่า “เสี่ยวซิน หนูกับคุณชายใหญ่หลงนั้นดูจะสนิทสนมกัน มากเป็นพิเศษเลยนะ ไม่คิดจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้หน่อยเห รอ?”

จ้าวฟางฟางพิจารณาหลงเซียว เธอจ้องเขาด้วยสายตาที่หิว กระหายอยู่พักหนึ่งอย่างไม่ยอมละสายตาลงเลย หลงเซียว เขาเป็นคนที่สามารถทำให้จิตวิญญาณของหญิงสาวสั่นคลอน ได้จริงๆ!

เจิ้งซินยิ้มแย้มออกมาอย่างงดงาม “คุณลุงเสิ่นคะ อานี่ชอบแกล้งหนูอยู่เรื่อยเลย อาเองก็รู้อยู่แล้ว ยังจะให้หนูพูดอีก อานี่ ละก็”

“ฮาฮาฮา! เขินเหรอ! คนก็พามาแล้ว ยังจะมาเขินอะไรอีก? ก็ได้ ถ้าหนูไม่ยอมพูด เดี่ยวอาถามคุณชายใหญ่หลงเอง..…

เสิ่นคั่วยังไม่ทันได้ถามเลย ก็มีเสียงหัวเราะที่สดใสดังมาจาก ชั้นสอง “แหม่ วันนี้นี่ช่างครึกครื้นจริงๆ เลยนะคะ! ไม่ได้มีเพียง แค่เพื่อนรักของคุณพ่อเท่านั้นที่มา แม้แต่คุณชายใหญ่ของ เมืองหลวงก็ถูกเชิญมาด้วยหรือนี่!”

หลงเซียวเงยหน้าขึ้นไปมอง

ฉู่ซีหรานเดินบิดเอวลงมาจากบันไดพร้อมกับรอยยิ้มที่เยาะ เย้ย “พี่เขย ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะ!”

พี่เขยเหรอ?

พอฉ่ซีหรานเรียกขึ้นอย่างนั้น ทั่วห้องโถงก็อึ้งกันไปหมดเลย!

ดวงตาของเจิ้งซินเบิ่งกว้างในทันที “ซีหราน เธอพูดว่าอะไร นะ? พี่เขยเหรอ?”

ฉู่ซีหรานยังคงเหลียวมองมาที่หลงเซียว นั่นยิ่งทำให้ บรรยากาศดูน่าสงสัยขึ้นไปอีก “ก็ใช่นะสิ! เขาคือพี่เขยของ ฉัน! เพียงแต่…..ฉันเองก็รู้สึกแปลกใจมากเหมือนกัน ที่พี่เขยมาร่วมงานพร้อมกับคุณเจิ้งในวันนี้นั้น มาในฐานะอะไรเหรอ คะ จะเป็นอย่างที่ฉันคิดหรือเปล่านะ?”

แก้วทรงสูงถูกนิ้วเรียวยาวของหลงเซียวควงเล่นอยู่ เหลียว มองมาที่ฉู่ซีทรานด้วยสายตาที่สุขุม รอยยิ้มอันเย็นเยือกที่ อาจจะแช่แข็งคนที่เห็นได้

“หือ? ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่?”

ฉู่ซีหรานกัดฟันในทันที “พี่เขยคะ เราต่างก็รู้ดูแก่ใจ แล้วจะ มาแฉกันทำไมคะ แฉออกมาแล้วมันจะดูไม่ดีเอานะคะ”

หลงเซียวยังคงเรียบเฉย “ดูไม่ดียังไง? พี่เขยคนนี้ไม่ค่อย เข้าใจสิ่งที่เธอต้องการสื่อสักเท่าไหร่นะ”

“พี่เลิกเล่นละครได้แล้วค่ะ! คุณเจิ้งเป็นสมบัติล้ำค่าของผู้ อำนวยการเจิ้ง อ่อนเยาว์และงดงาม พี่ก็แค่ถูกใจเธอเท่านั้นเอง ไม่ใช่เหรอคะ? ในบ้านมีเมียอยู่แล้ว จากนั้นก็หาสาวๆ สวยๆ ข้างนอก หรือ จะบอกว่ามันไม่จริงเหรอคะ! แต่น่าเสียดาย ที่มาถูกฉันเห็นเข้า! อ๋อ……..หล่ะ พี่กับพี่สาวที่น่ารักของฉัน แต่งงานกันตั้งหลายปีแล้ว คงเบื่อแล้วสินะ? ฉันรู้อยู่แล้วว่าพี่ สาวคนนั้นไม่มีทางจบอย่างมีความสุขได้หรอก!”

หลงเซียวหมุนแหวนในมือ แววตาแปรเปลี่ยนเป็นความ อำมหิตที่เย็นเยือก พุ่งตรงไปยังดวงตาของฉู่ซีหราน เขาเริ่ม พูดกับเสิ่นคั่วแต่ตากลับจ้องไปที่ฉู่ซีหราน
“ท่านปู่เสิ่นครับ ลูกสะใภ้ของคุณกำลังดูหมิ่นภรรยาของผม ดูถูกผม หลงเซียวผู้นี้นั้นโง่เขลานัก จึงอยากขอคำแนะนำจาก คุณหน่อยว่าผมควรทำยังไงดีครับ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ