ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 477 คุณอยู่ทางนั้นสบายดีไหม



ตอนที่ 477 คุณอยู่ทางนั้นสบายดีไหม

ตอนที่ 477 คุณอยู่ทางนั้นสบายดีไหม

หยวนชูเฟินเหล่ตามองมือของเขา “กี่วัน? หลายปีมานี้ฉัน ไม่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เลย คุณว่ากี่วันถึงจะพอ? ลูกชายฉัน เกือบจะถูกคนเป็นหมื่นเป็นพันชี้หน้าด่า คุณให้ฉันคิดยังไงใน ฐานะแม่คนนี้?”

หลงถึงขมวดคิ้ว “อาเฟิน คุณหมายความว่าอะไร?”

หยวนชูเฟินขยับออกจากโซฟาทางด้านนั้น หลุดออกจากมือ ของเขา “ไม่ได้หมายความว่าอะไร ในเมื่อครอบครัวนี้ไม่ได้ ต้อนรับฉัน ฉันไปที่อื่นก็ได้ ฉันตัดสินใจแล้ว ก็ไปวันนี้ ส่วนทาง บ้าน คุณคิดว่ายังไงก็ทำอย่างนั้น ฉันจะไม่เกะกะขวางหูขวาง ตาแล้ว”

หลงกิงได้ฟังเธอพูดแบบนี้ ฉับพลันก็โกรธขึ้นมาในชั่วพริบตา “อาเฟิน! คุณมันก่อเรื่อง!”

หยวนซูเฟินเชิดหน้ามองไปที่เขาอย่างไม่ลดละ “ใช่ ฉันมัน ก่อเรื่อง! เมื่อสามสิบปีก่อนฉันก็ก่อเรื่องจึงเป็นอย่างนี้ หลงถึง พวกเราเล่นละครกันมาหลายปีขนาดนี้ คุณไม่เหนื่อยหรอ? ฉันเหนื่อยแล้ว”

ดวงตาของหลงถึงมีริ้วรอยนิดๆ เขามองไปที่หยวนชูเฟิน อย่างอื่นๆ ลึกๆในดวงตาดูเหมือนต้องการให้เธอเห็น เงามืดดำ ที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและความดุร้ายอย่างช่ำชอง”คุณพูดอะไร?”

พูดสองสามคำอย่างช้าๆ อย่างช้าๆ ทุกๆ เป็นการสยบด้วย

อำนาจ

ทว่าหยวนชูเฟินยิ้มอ่อนๆเหมือนหัวเราะเยาะตัวเอง สายตา ที่แฝงไปด้วยความอัปยศที่ผ่านมาหลายสิบปี เหนื่อยล้ามาก ลึกซึ้งมาก เธอก็มองไปทางเขาอย่างนี้ เส้นปากงดงามมีเสน่ห์ รอยยิ้มราวกับดอกคาร์เนชั่นที่กำลังผลิบาน “หลงถิง สามสิบปี แล้ว ในเวลานั้นมีเรื่องมากมาย คุณลืมไปแล้วหรอ?”

มือใหญ่ของหลงถึงดึงเข้ามาราวกับกำหมัด สูดลมหายใจเข้า ออกอย่างแรง “คุณอยากจะพูดอะไร? ท้ายที่สุดแล้วคุณจะพูด อะไร?”

การดูแลร่างกายของหยวนชูเฟินดีที่สุดแล้วทว่ามือยังคงมี ริ้วรอย สะบัดอย่างอ่อนโยนมาหลังมือของเขา น่ามือที่มีแหวน แต่งงานมาวางบนมือเขา กดมืออย่างไม่หนักไม่เบา พอดิบ พอดีกับแหวนที่เขาสวม แหวนของทั้งสองคนอยู่แนวเดียวกัน หลงอิง เราแต่งงานกันมากี่ปีแล้ว?”

หลงถึงหรี่ตาลง แววตารวมความเยือกเย็น แต่ยังคงร่วมมือ อย่างมากในการตอบคําถามเธอ “อีกห้าเดือนก็สามสิบปีเต็ม

เบ้าตาของหยวนซูเฟินเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนผ่าวของเหลวข้างในแทบจะไหลออกมา อารมณ์สับสนวุ่นวายไป มาในใจฉัน ความรู้สึกเกิดขึ้นมาพร้อมๆกัน เหมือนพายุเฮอริ เคนพัดผ่านหัวใจ พัดดอกไม้ต้นไม้แรกเริ่มเดิมทีจนใบไม่มี หลงเหลือ

“สามสิบปี……

หยวนซูเฟินหัวเราะ บ่นพึมพำกับตัวเอง “สามสิบปีแล้ว..

ทั้งหมดต้องลืมว่าตนเองทนความเจ็บปวดทรมานในตอน แรกมาได้อย่างไร จวนจะเกือบลืมไปแล้วว่าตนเองต้านทานที ละก้าวทีละก้าวมาได้อย่างไร เธอเดินทุกๆเส้นทางด้วยความ มุมานะ นึกไม่ถึงว่าจะผ่านไปแล้วเป็นเวลาสามสิบปี

กาลเวลาไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ

หลงถึงสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของ เธอ ลงนั่งข้างๆเธอ มือใหญ่จับมือของเธอ กุมไว้แน่นให้อยู่ ในมือตนเอง “อาเฟิน คุณไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น สามสิบปีก็ สามสิบปี เรื่องก่อนหน้านี้ลืมไปหมดแล้ว

หยวนชูเฟินเงยหน้าอย่างอ่อนแรง “ลืม? คุณคิดว่าฉันจะลืม ได้ไหม? หึม ก็ถูก คุณพูดก็ถูก ฉันควรจะลืม

เธอพยายามเอามือของหลงถึงออก ทว่าถูกเขาจับไว้แน่นยิ่งขึ้น
“อาเฟิน หลายปีมานี้ฉันปฏิบัติอย่างไร ฉันยังปฏิบัติต่อคุณ ไม่ดีหรอ?” หลงถึงน้ำตานองขอบตาแดงก่ำ สายตาจ้องมอง หยวนชูเฟินด้วยความร้อนรน สีหน้าเปลี่ยนไปตามทุกๆสีหน้า ท่าทางที่เปลี่ยนไปของเธอ

หยวนซูเฟินหัวเราะแล้วพูดว่า “ดี คุณปฏิบัติต่อฉันดีมาก โดย เฉพาะตอนที่เซียวเอ๋อยังเด็ก คุณปฏิบัติต่อฉันดีมาก”

หลงถึงผ่อนมือลง แววตาจ้องมองไปที่เธอ “อาเฟิน คุณเป็นผู้ หญิงฉลาด ฉันเชื่อว่าคุณจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ”

“หรอ? ฉันฉลาดหรอ? หึหึ อาจจะนะ” เธอพูดจบ สุดท้ายยัง คงดึงมือออกจากเขา “ฉันคิดว่าความรู้สึกในช่วงหลายปีที่ผ่าน มาสามารถเปลี่ยนคุณได้ ทําให้คุณกลายเป็นคนมีเลือดเนื้อมี อารมณ์ความรู้สึก ดูเหมือนว่าฉันคิดผิด ฉันใช้เวลาไปสามสิบ ปี สุดท้ายไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคุณได้ กลับกันตัวฉันเองยัง กลายเป็นคนก็ไม่ใช่คนผีก็ไม่ใช่ผี เปลี่ยนไปจนไม่เหมือนตัว ฉันเองแล้ว”

เธอพูดจบ มองไปที่ห้องนอนชั้นสอง มองไปรอบๆคฤหาสน์ ขนาดใหญ่ทั้งหมด “เราอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่า 20 ปี เรานอนเตียงเดียวกันมาเกือบ 30 ปี ตลอดทางฉันไม่เคย เข้าใจคุณเลย”

พูดจบ เธอดูเหมือนผิดหวังอย่างมาก ก้าวขึ้นบันไดอย่างอ่อน แรง “ขอให้ฉันสงบสติอารมณ์สักเดือนหนึ่ง บางทีหนึ่งเดือน หลังจากนี้ฉันยังจะกลับมา บางทีอาจจะไม่กลับมา แต่เป็นเช่น นั้นก็ดี คุณจะได้ไปรับแม่ของหลงจื้อกลับมา นั่นคือสิ่งที่คุณอยากเห็นที่สุดไม่ใช่หรอ?”

หลงถึงรู้สึกสับสนมากขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขารีบจับมือหยวน ชูเฟินไว้ “อาเฟิน ไม่ได้ คุณผู้หญิงของบ้านนี้มีคุณเพียงคน เดียวเท่านั้น!”

“ช่างเถอะ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกว่า คุณสามารถทํากับหลงเอ๋อ ขนาดนั้นได้ ก็สามารถใช้วิธีเดียวกันทำกับฉัน!”

ภาพบุคคลที่ซึมเศร้าจับราวบันไดเดินขึ้นไปทีละขั้นๆ ฝีก้าว ช้ามาก เสียงฝีเท้าหนักอึ้งด้วยความอึดอัดใจ ดูเหมือนเสียง ฝีเท้าจะเกี่ยวพันกับเรื่องภายในใจกับอดีตที่ผ่านมามากเกิน ไป จมลงไปแล้วก็ถูกลากขึ้นมา

หยวนชูเฟินก้าวขึ้นบันไดไปขั้นที่ห้า ชั่วพริบตาเดียวที่เงย หน้าขึ้นน้ำตาก็เปียกไปทั้งหน้าแล้ว

เร็วจริงๆ น่ากลัวจริงๆ สามสิบปี!

เธอพยายามปกป้อง คิดอยากจะให้รอดพ้น พยายาม ทะนุถนอม มันกลายเป็นฝันร้ายในที่สุด

และความฝันนี้ควรสิ้นสุดลงด้วยความตายของตนเอง นึกไม่ ถึงว่าทํามา 30 ปีแล้ว

หลงถิงยืนอยู่ห้องโถงใหญ่ ในเวลาเดียวกันก็กำหมัดทั้งสอง จนแน่น มองร่างของหยวนชูเฟินด้วยสายตาเยือกเย็นทันใดนั้นก็นึกถึงฉากเมื่อไม่กี่ปีก่อน ดูเหมือนเวลาซ้ำซ้อนครึ่ง หนึ่ง ทําให้พอที่จะกระจายอดีตอยู่ตรงหน้าเขา

สมควรตาย!

ลั่วหานใช้เวลาช่วงเที่ยงเพื่อไปที่ศูนย์ดูแลสุขภาพ ตั้งใจ มองสิทธิพิเศษทางนั้นให้หยวนชูเฟินทำการตรวจสอบ ในคืน เดียวกันมีรายงานการแพร่กระจายเซลล์มะเร็งออกมา

รับผลตรวจมา ลั่วหานนั่งอยู่ในห้องทำงานของหัวหน้าแผนก โลหิตวิทยาของศูนย์ประสบการณ์โดยไม่พูดจาเป็นเวลานาน

หัวหน้าแผนกดันแว่นบนตั้งจมูก พูดอย่างกังวลว่า “หมอฉี่ ผล

ลั่วหานหลับตาลง ไม่เต็มใจที่จะฟังคำพูดของเขาอีก “ฉันรู้ ผลลัพธ์นี้แย่กว่าที่เราคาดการณ์ไว้ เซลล์มะเร็งของแม่สามีฉัน แพร่กระจายไปยังระบบประสาททั้งหมด”

หัวหน้าแผนกพยักหน้าอย่างแรง เอาหลังมือของตนเองกลับ มาถูอย่างเคร่งเครียด “หมอฉู่ จากประสบการณ์หลายปีของ ฉัน เวลาของคุณหญิงเหลือไม่มาก แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับผลก ระทบโดยตรงจากอาการในขณะนี้ก็ตาม แต่โรคของเธอคือ มะเร็งต่อมใต้สมองชนิดฉับพลัน กรณีที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันจริงๆ….ไม่มีวิธีแล้ว”

ลั่วหานรู้ถึงสถานการณ์อย่างนี้ แม้ว่าผู้ป่วยจะถูกมะเร็ง รุกรานในระยะเริ่มต้น แต่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง ดูแล้ว ไม่ต่างจากคนปกติ แต่ขอเพียงเชื้อปะทุออกมา ก็สามารถพัง ทลายลงได้ทันทีทันใด

ชนิดนี้น่ากลัวกว่าการกัดกร่อนเรื้อรัง ไม่มีใครรู้ว่าจะสามารถ เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่

“หัวหน้าแผนกรู้จักผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่สะดวกเกี่ยวกับ เนื้องอก ฉันอยากจะรบกวนคุณเพื่อช่วยฉันติดต่อผู้เชี่ยวชาญ อาวุโสสองสามคนทั้งในและต่างประเทศ พยายามเต็มที่ที่จะ รักษาให้แม่สามีมีชีวิตรอด คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย”

หัวหน้าแผนกรับโบกมือ “เรื่องค่าใช้จ่ายฉันรู้อยู่แล้ว ตอนนี้ ประเด็นสำคัญไม่ใช่เงิน แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ใน ปัจจุบัน โรคแบบนี้…..

“ฉันรู้ แต่ว่าฉันอยากให้เธอมีเวลาอีกสักหน่อย” ลั่วหานอดก ลั้นความฝืดเคียงในคอ สองเท้าของเธอพยุงตัวไว้ไม่อยู่ อยาก จะยืนขึ้นแต่ไม่มีแรงเลยสักนิด

“คุณวางใจเถอะ ฉันทำได้”

“อืม…..ขอบคุณค่ะ”
หัวหน้าแผนกพูดอย่างหนักแน่นว่า “หมอฉี่ สถานการณ์ ปัจจุบันของแม่สามีคุณ ฉันหวังว่าคุณจะบอกความจริงกับเธอ ในกรณีที่เธอเกิดเหตุฉุกเฉิน…..แม้แต่คำสั่งเสียก็พูดไม่ได้ จะ ทําให้ผู้ป่วยเสียใจไปตลอดชีวิต”

ลั่วหานวางผลรายงาน สองมือวางบนโต๊ะหน้าผากของ ตนเอง “ให้ฉันคิดสักหน่อยเถอะ ฉันไม่สามารถบอกให้เธอรู้ได้ ในขณะนี้ เรื่องนี้กระทบกระเทือนเธออย่างมาก ฉันกลัวว่าเธอ จะแบกรับไม่ไหว”

“ฉันเข้าใจความรู้สึกคุณ แต่ถ้าให้คนไข้รู้เร็วหน่อย บางทีเธอ ยังมีชีวิตอยู่ในช่วงสุดท้าย ไม่ได้ทำเรื่องที่จะทำ เกรงว่าเธอจะ จากไปด้วยความเสียใจ คุณรู้สึกว่าอย่างไรล่ะ?”

ความหมายของหัวหน้าแผนกชัดเจนมาก ในใจของลั่วหานก็ เข้าใจมาก

เพียงแต่ว่า ต้องบอกความเป็นจริงอันโหดร้ายกับผู้ป่วย อย่า พูดว่าเป็นญาติสนิทของตน ถึงแม้ว่าจะเป็นหมอบอกกับผู้ป่วย ก็จําเป็นต้องพิจารณาครั้งแล้วครั้งเล่า

“ฉันจะหาโอกาสบอกกับเธอ รบกวนคุณหัวหน้าแผนก ฉัน กลับไปก่อน”

“หมอ…..คุณต้องรักษาสุขภาพตนเองด้วย ฉันดูสีหน้าคุณ ไม่ค่อยดี มิเช่นนั้น คุณกลับไปก็ตรวจหน่อยเถอะ ภายใต้ สภาวะปกติ การตรวจร่างกายครึ่งปียังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่
“อืม”

เธอยังมีอารมณ์และจิตใจคิดเรื่องเหล่านี้ที่ไหนกัน!

ออกจากศูนย์ประสบการณ์ ลั่วหานรับโทรศัพท์ของหยวนชุ เฟิน

ใส่ผลรายงานไว้ในรถ ปิดลิ้นชัก ลั่วหานสูดหายใจลึกๆ “แม่ ด้านนั้นดีแล้วใช่ไหม?”

ล้วหานเงยหน้าขึ้น ไม่อยากจะร้องไห้ ไม่อยากให้เธอสังเกต เห็น แต่ ตาอุ่นๆยังคงไหลรินอาบใบหน้าของเธอ

หยวนชูเฟินยิ้ม พูดด้วยความรักใคร่เอ็นดู “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันอาศัยอยู่กับพ่อของคุณมา 30 ปีแล้ว นี่เชื่อถือได้แน่นอน พูดดีแล้ว หนึ่งเดือนไม่ใช่ปัญหา คุณมารับฉันเถอะ”

ลั่วหานถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดเรื่องหนึ่งก็ราบรื่น “โอเค ฉันจะไปรับคุณทันที

วางสายไป หยวนชูเฟินมองไปรอบๆห้องนอนของตนเอง เตียงที่เคยนอน ระเบียงที่ยืนนับครั้งไม่ถ้วน วิวทิวทัศน์ที่เคย มอง โต๊ะเครื่องแป้งที่เคยใช้ นิ้ววางอยู่บนรูปถ่ายหน้าโต๊ะ เครื่องแป้ง ในภาพคือหลงเซียววัยแปดขวบ หนุ่มน้อยยิ้มให้ กล้องอย่างมีความสุข
หลงเซียวตอนแปดขวบ ยิ้มเห็นฟัน รอยยิ้มที่ไร้เดียงสา ทําให้คนที่เห็นรู้สักมีความสุขมาก

มือหนึ่งเขาถือรถของเล่นไว้ อีกมือหนึ่ง มือหนึ่งจับมือหญิง สาวคนหนึ่ง

ผู้หญิงในชุดเดรสยาวสีขาว ผมปลิว ใบหน้ายิ้มแย้มราวกับ ดอกไม้

พวกเขาในตอนนั้นยังคงมีความสุขอย่างไม่มีอะไรมารบกวน ใครจะสามารถรู้เส้นทางที่เดินมา ไม่ทันได้รู้สึกว่าฝุ่นได้เกาะ เต็มตัว ทั้งตัวเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและรอยแผล

หยวนซูเฟินหมุนไปฝากรอบรูปด้านหลังที่ทำจากไม้ ภายใต้ รูปภาพนี้ เผยให้เห็นรูปถ่ายที่เก่าจนเหลืองแล้ว

ในรูป ผู้ชายสวมแว่นสายตาสั้นกรอบลวดทอง มีเสน่ห์สง่า งามและมีเกียรติแม้จะผ่านไปนานแล้วก็ตาม ยังคงดูดีที่สุด เหมือนกับว่าต้องการจะข้ามกระดาษเดินออกมา

หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆผู้ชาย ในมือของผู้หญิงถือพู่กัน วาดรูปหนึ่งด้าม ด้านหน้ามีขาตั้งภาพหนึ่งอัน เธอหันกลับมา ยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม

แสงแดดส่องผ่านต้นหลิวและหญ้าริมฝั่งแม่น้ำ สิ่งก่อสร้าง แปลกตาของต่างประเทศตั้งอยู่ไกลๆ
ทุกอย่างดูเหมือนเมื่อวาน หนุ่มสาวไม่แก่ กาลเวลาไม่แยก จากกัน พวกเขาเดินจูงมือกันก็สามารถข้ามผ่านอุปสรรคไป

ได้

แปะ——

น้ำตาหนึ่งหยดหยดลงบนรูปถ่าย ตกลงมาอย่างหนักแน่น……

หยวนชูเฟินสัมผัสชายในรูปถ่ายอย่างนุ่มนวล อดทนต่อ ความเศร้าและเจ็บปวดใจ พูดอย่างเบาๆว่า “เส้าเอ็น…..คุณอยู่ ทางนั้นสบายดีไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ