ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 502 ใครกล้ารังแกท่านเซียวของเรา



ตอนที่ 502 ใครกล้ารังแกท่านเซียวของเรา

ตอนที่ 502 ใครกล้ารังแกท่านเซียวของเรา

อารมณ์โกรธของพ่อ ทำให้หลงจื่ออึ้งไป

หลงจื่อเบิกตากว้าง มองหลงถึงอย่างไม่อยากเชื่อ ตาดำคู่นั้น จ้องอยู่ที่จุดหนึ่งไม่แม้แต่กะพริบตา ไม่กล้าแม้แต่ขัดใจ

เท้าที่กำลังจะก้าวก็หยุดนิ่งไป เขาอ้าปากค้าง ผ่านไปสักครู่ จึงถามขึ้น “พ่อ เมื่อกี้พ่อพูดอะไร?”

หลงถึงพ่นลมออกจากจมูก น้ำเสียงออกมาจากลำคอ แต่น้ำ เสียงเหมือนออกมาจากใต้ฝ่าเท้า “ฟังชัดแล้ว ไม่ต้องให้พ่อพูด ช้าอีก”

ไม่ใช่ ไม่ใช่ น่าแปลกมาก ทำไมถึงพูดคำพูดแบบนี้ออกมา

ได้?

เหมือนสัญชาตญาณ หลงจื่อยืนมือไปจับแขนเสื้อหลงถึงไว้ อย่างกับเด็ก ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยมองเขา “พ่อ ผู้สืบทอดMBKคือพี่ใหญ่ ไม่ว่าในอดีตหรืออนาคต หรือจะผ่าน ไปนานแค่ไหน มันก็เป็นของพี่ใหญ่”

น้ำเสียงหลงจื่อกดต่ำถึงที่สุด กลัวลุงที่อยู่ในห้องรับแขก ได้ยิน และกลัวแม่บ้านได้ยิน
หลงถึงผลักมือเขาออก พูดขึ้นอย่างเย็นชา ของพี่ชาย? ใคร บอก? ใครบอกว่า MBKเป็นของเขา? พ่อเป็นประธานบริษัท ใน มือพ่อถือหุ้นสูงสุดของบริษัท พ่อไม่พูด ใครกล้าตัดสินแทน พ่อ?”

หลงจื่อปล่อยมือ กลืนน้ำลาย “พ่อ พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง? ทุก อย่างของMBKล้วนเติบโตมาด้วยฝีมือของพี่ใหญ่ ถ้าพ่อไม่ ยกMBKกับพี่ใหญ่ คณะกรรมการบริษัทไม่ยอมรับแน่ และ เรื่องครั้งก่อน พ่อยังจำไม่ได้เหรอ? MBKขาดพี่ใหญ่ไม่ได้

หลงถิงถอนหายใจ ดึงแขนเสื้อขึ้น จัดคอเสื้อ เดินลงไปชั้น ล่าง “พูดถึงคณะกรรมการ วันนี้พี่ชายเธอจะทำการขอโทษต่อ หน้าคณะกรรมการ ลูกคงไม่ได้ลืมหรอกนะ?”

หลงจื่อกัดฟัน หน้าสลด “ผมจำได้ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไม พ่อต้องทำให้เรื่องง่ายๆ มันกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ที่จริงแล้ว มันไม่มีอะไรเลย”

หลงถิงเดินลงไปแล้ว เขาม้วนแขนเสื้อ เดินตรงไปห้องอาหาร “เรื่องที่ลูกไม่เข้าใจยังมีอีกเยอะ ค่อยๆ ฝึก สักวันจะเข้าใจเอง”

ลั่วหานตื่นมา หลงเซียวกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
เขาหันหลังให้เธออยู่ กําลังกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาว ร่าง ผอมสูงนั้นมีเงาของรุ่งอรุณ แสงส่องมาจากด้านข้างเขา สอง ทะลุเสื้อสีขาวของเขา

ลั่วหานนอนตะแคง ริมฝีปากโค้งขึ้น เหมือนกำลังชื่นชมนาย แบบ “อรุณสวัสดิ์ พ่อครัว”

หลงเซียวคิ้วโก่งหน้าบาน กลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จ หัน กลับมายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน “ตื่นแล้วเหรอ? นอนต่ออีกสัก พักไหม?” ลั่วหานส่ายหัว ลุกขึ้น “ไม่นอนแล้ว วันนี้ฉันมีคนไข้ ผ่าตัด แต่วันนี้จิ้นเหยียนเป็นคนผ่า ฉันต้องพาแพทย์ฝึกงาน ตามฝึกด้วย”

หลงเซียวเก็บชายเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเข้าไปในกางเกง รัด เข็มขัดแบบเรียบง่าย กางเกง รีดอย่างเรียบทําให้ขาของเขา ดูเรียวยาว ผอมสูง

“ช่วงนี้คุณอย่าหักโหมมาก ผ่อนคลายตัวเอง เรื่องผ่าตัด ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกเขา” เขาดึงเธอมากอด ดึงชุดนอน ของเธอ

“ช่วงนี้ก็ขี้เกียจพอแล้ว ถ้าฝึกผู้ช่วยสองคนของฉันได้แล้ว อีกหน่อยเวลาผ่าตัดก็แค่คอยดูอยู่ก็พอ ไม่ต้องยืนข้างเตียง ผ่าตัดเป็นเวลานานแล้ว ฉันหวังว่าลูกอย่ารีบเกินไป ไม่อย่าง นั้นคนไข้จะทำยังไงดี?

เธอจัดปกคอเสื้อให้เขา พูดขึ้นอย่างเป็นห่วงอีก
“ในใจหมอ ก็ยังเป็นคนไข้ที่สําคัญที่สุด” เขาจูบปากเธอ

“ตอนนี้ แม่ก็สำคัญมาก เพราะฉะนั้น…ก็ปล่อยตาม

ธรรมชาติ”

“ครับ”

หลงเซียวลดสายตา มองรอยแดงบนคอเธอ ในสายตาเต็มไป ด้วยความห่วงใย

“เมื่อคืน ทําคุณเจ็บไหม?” นิ้วอันอ่อนโยนของเขาจับที่รอย แดงบนคือเธอ เขาจําได้ว่าเมื่อคืนเขาอ่อนโยนและเบามาก แต่ ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ที่จะจูบเธอไปคลายครั้ง ท่าทางอ่อนโยน

ลั่วหานรู้สึกเขินที่จะคุยเรื่องนี้กับเขา “ไม่……

เขาเบามาก อีกอย่างไม่นอนเขาก็ปล่อยเธอแล้วกอดเธอหลับ ไป ไม่เหมือนเมื่อก่อน

“อีกหน่อยผมจะเบากว่านี้ ลูกต้องการความก่อนโยน ลูก ที่เกิดจากความรุนแรง ผมกว่าว่าเขาจะมีนิสัยรุนแรง” เขา อธิบายอย่างจริงจัง แต่พูดอย่างมีเหตุผล

หมออย่างลั่วหานถึงกับพูดไม่ออก “พูดไปเลื่อย มีแบบนี้ ที่ไหน”
“ถ้าอย่างนั้นก็มีตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป” เขาจูบหน้าผากเธอ “ผมเป็นห่วงไม่อยากให้คุณเจ็บ”

เพราะฉะนั้น คำพูดสุดท้ายคือจุดสำคัญ

ลั่วหานรู้สึกอบอุ่นในใจ “ฉันไปหาเนกไทให้คุณ อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อวานฉันเปลี่ยนชื่อคนดูแลเครือข่ายความรักเป็นชื่อฉันแล้ว นะคะ แบบนี้คนไข้จะได้ติดต่อฉันสะดวก”

“ได้ ตามใจคุณเลยครับ”

ลั่วหามหาเนกไทสีเทาเส้นหนึ่ง คล้องคอเขา แล้วช่วยเขาผูก ไว้อย่างดี “การประชุมคณะกรรมการวันนี้ สู้ๆ นะคะ”

“เหอะๆ” เขาหัวเราะ “การประชุมที่ไปให้เขาวิพากษ์วิจารณ์ จะสู้ยังไงครับ?”

“โดนวิพากษ์วิจารณ์ยิ่งต้องสู้ สู้คัดค้านพวกเขา เปลี่ยนจาก รับเป็นรบ ให้พวกเขาพูดไม่ออกเลย กล้ามารังแกท่านเซียว ของเรา เดี๋ยวโดน”

เธอตบไหล่เขาอย่างเชื่อมั่น ให้กำลังใจเขาเหมือนแม่ทัพ

กำลังจะออกรบ

“ได้ครับ” เขาจับหน้าเธอไว้ จูบไปหลายที
หลังอาหาร หลงเซียวไปทำงาน

ช่วงเช้าเวลา เก้าโมงครึ่ง การประชุมของคณะ กรรมการMBKเริ่มต้นขึ้น

บอกว่าเป็นการประชุมคณะกรรมการ ความจริงเป็นแค่การ ประชุมที่พวกคณะกรรมการรวมตัวการเพื่อมาประณามหลง เซียวนั่นเอง

คนเริ่มต้นก็คือหลงถึง

การประชุมเริ่มต้นขึ้น คณะกรรมการหลายคนก็เริ่มพูดกัน คนละคำสองคำ จากนั้นก็พูดตามขั้นตอนที่หลงถึงสั่งไว้

“ท่านประธาน พฤติกรรมบางอย่างของท่านในบริษัทช่วง นี้ เห็นจะไม่ค่อยเหมาะสม กระทบถึงผลทางธุรกิจของMBK” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น

หลงเซียวมือประสานกัน ศอกวางไว้บนโต๊ะ ไม่พูดอะไรสักคำ

“ท่านประธาน ช่วงเวลาสําคัญของบริษัท ท่านไม่อยู่บริษัท และไม่ได้บอกกล่าวกับคณะกรรมคนอื่นเลย และไม่ใช่จัดการ เรื่องงานของบริษัท แบบนี้เกรงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่?”

หลงเซียวทำปากจะยิ้มไม่ยิ้ม มีแต่สายตาคู่นั้นที่คมเข้ม มี ความน่าเกรงขามอย่างราชสีห์
“เรื่องในครั้งนี้ พวกเราคณะกรรมต้องการคำอธิบาย?”

“คำขอโทษต้องขาดไม่ได้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ไม่ เห็นความจริงใจของท่านประธาน กลัวแค่อีกหน่อยคงไม่กล้า เก็บหุ้นส่วนในมือไว้ที่ท่านประธานแล้ว”

สมาชิกในคณะกรรมการไม่น้อยที่เป็นคนเก่าแก่ของหลงถึง เชื่อใจในคำพูดของหลงถึง หลงถึงมีอิทธิพลท่ามกลางพวก เขามาก

คําพูดคล้ายกันแบบนี้ต่อเนื่องไปประมาณสิบนาที หลังจื่อ เห็นพี่ชายไม่ตอบสนองอะไรเลย เขาเริ่มนั่งไม่อยู่ หันไปมอง สีหน้าของพ่อ แล้วพูดขึ้น “ท่านคณะกรรมการทั้งหลาย พวก เขาคือแผลหายแล้วก็ลืมความเจ็บใช่ไหม? เรื่องที่เกิดขึ้นครั้ง ก่อน ทุกท่านหายดีแล้ว? พี่ชายผมเก็บเงินที่พวกท่านทิ้งไป กลับมาได้ พวกท่านก็ลืมบุญคุณคน จะเกินไปหน่อยไหม?”

พวกคณะกรรมการต่างมองหน้ากัน หลายคนที่อายุค่อนข้าง มากหัวเราะคิกๆพูดว่า “คุณชายรอง พูดแบบนี้เกรงจะไม่ค่อย เหมาะสม?มันคนละเรื่องกัน เอามูลค่าความเสียหายกลับคืน มาได้เป็นหน้าที่ของประธานบริษัทอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้คือละเลย ในหน้าที่”

หลงถิงนั่งอยู่ตำแหน่งตรงกลาง ขวามือคือหลงเซียว หลงจื่อ นั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือคนที่สาม
เขาใช้มือตบไปที่ด้ามจับเก้าอี้ พูดขึ้นเสียงต่ำ “กรรมการ จางพูดได้ถูกต้อง ถึงแม้หลงเซียวจะเป็นลูกชายฉัน และเป็น ประธานบริษัทMBK แต่ฉันเป็นคนเที่ยงตรงแยกแยะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ควรทำยังไงก็ทำอย่างนั้น ผิดกติกาไม่ได้”

หลงเซียวขยับคิ้วเรียวยาว จึงได้พูดคำแรกของวันนี้ “ดูแล้ว การประชุมในครั้งนี้อยากให้ผมเขียนหนังสือขอโทษแล้ว?”

กรรมการท่านหนึ่งพูดขึ้น “หนังสือขอโทษไม่ต้องแล้ว แต่ อย่างน้อยควรขอโทษอย่างเปิดเผย ไม่อย่างนั้นเกรงว่าคงจะ ยอมไม่ได้”

หลงถึงหลับตาเหมือนเรื่องไม่เกี่ยวกับตัวเอง รอดูเหตุการณ์

วุ่นวาย

ส่วนหลงจื่อกัดฟัน แล้วลุกขึ้นกะทันหัน “พวกท่านจะเกินไป แล้ว พี่ชายผมทุ่มเทให้กับMBKขนาดไหน ทุกท่านก็เห็นกับตา กลับเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาเอาเรื่อง มันสมควรไหม

หลงถึงขยับหนังตา พูดขึ้นเสียงเฉียบขาด “เสี่ยวจื่อ นั่งลง เดี๋ยวนี้”

“พ่อ ทําแบบนี้มันไม่มีเหตุผล ผมคัดค้าน

“บอกให้นั่งลง” หลงถึงโมโห ลูกชายไม่ฟังคำสั่ง ทำให้เขา รู้สึกโกรธ
หลงจื่ออัดอั้นความโกรธไว้ “พี่ใหญ่ พี่ไม่ต้องขอโทษ ช่วงที่ ไม่อยู่บริษัทพี่ไม่ได้ทำให้งานอะไรล่าช้าแม้แต่น้อย และไม่ได้ ทำให้บริษัทเกิดความเสียหายแม้แต่น้อย ทำไมต้องขอโทษ?”

หลงเซ๊ยวกลัดกระดุมเสื้อสูท นั่งตัวตรงบนที่นั่งตัวเองอย่าง สง่า “เสี่ยวจื่อ นั่งลง

“พี่ใหญ่..…….

“นั่งลงก่อน” น้ำเสียงไม่ได้ใหญ่นัก แต่ความน่าเกรงขาม ทําให้คนอื่นต้องทําตาม

หลงจื่อนั่งลง มองพวกคณะกรรมการด้วยสายตาเย็นชา

“ขอโทษเหรอ?” หลงเซียวยิ้มอย่างเจ้าชายที่สูงส่ง น่าเกรง

ขาม

กรรมการจางที่นั่งอยู่ซ้ายมือ “ใช่ ขอโทษ”

หลงเซียวหัวเราะ “ผมอยู่ในMBKสิบปี ตลอดเวลามามีแต่คน อื่นที่ต้องขอโทษผม ยังไม่เคยขอโทษใครมาก่อน ไม่รู้จริงๆ ว่า ต้องขอโทษยังไง ไม่ทราบว่ากรรมการท่านไหนสอนผมหน่อย ได้ไหม?”

ปากบางเขาโค้งขึ้น
“ท่านประธาน เหตุผลนี้จะฝืนเกินไปไหม” กรรมการหวังพูด เสียดสีขึ้น

“ผมอยู่ในบริษัทสิบกว่าปี รู้แค่เรื่องเดียว ก็คือช่วยทุกท่านหา กำไร เติมเต็มกระเป๋าของพวกท่าน ไม่รู้จริงๆ ว่าควรขอโทษ ยังไง รบกวนใครก็ได้ทำให้ดูเป็นตัวอย่างหน่อย ให้ผมได้เปิด หูเปิดตาบ้าง” หลงเซียวพูดจบ ก็ยิ้มอย่างมีมารยาท

หลงถึงกระแอม “ถ้าเขาต้องการคนสอน พวกท่านไม่แสดงกัน หน่อย?”

เรื่องแบบนี้มีการสอนที่ไหน? พวกคณะกรรมการไม่ได้โง่ ไม่มีคนยอมทำอยู่แล้ว

เห็นว่าไม่มีคนพูด หลงเซียวกับเนกไท แล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ “ถ้าหากพวกท่านไม่ยอมสอน อย่างนั้นผมก็จะใช้วิธีของผม ขอโทษละกัน”

พูดจบ จี้ตงหมิงก็เปิดประตูห้องประชุมเข้ามา

“บอส เตรียมเรียบแล้วครับ”

หลงเซียวพยักหน้า “พวกคณะกรรมการรอกันไม่ไหวแล้ว

เริ่มเลย

ในนี้คณะกรรมการยี่สิบสามสิบคนซุบซิบกันอย่างสงสัยอะไรเริ่มได้? ค่าขอโทษง่ายๆ เขาอยากทําอะไร?

แม้แต่หลงถึงก็น่าเสีย “หลงเซียว หมายความว่ายังไง?”

หลงเซียวพิงไปที่เก้าอี้อย่างสบาย พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงน่าฟัง “ท่านประธานใหญ่ กับคณะกรรมการ ต้องการให้ผมขอโทษ ความเข้าใจของผม ก็หมายความว่าแบบนี้ ถ้ามีอะไรไม่เหมาะ สม ขอความเห็นใจกันด้วย” พูดไปก็มองไปที่ ตงหมิง “เริ่มได้

“ครับ ท่านประธาน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ