ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 154 คนแรกที่อยากเจอเมื่อฟื้นขึ้นมา



ตอนที่ 154 คนแรกที่อยากเจอเมื่อฟื้นขึ้นมา

เธอสายศีรษะอย่างไร้เรี่ยวแรง ทั่วทั้งร่างกายสั่น สะท้าน

“ในปีนั้น เขาไม่ได้ทิ้งข้อมูลส่วนตัวใดๆเอาไว้ รอ จนกระทั่งตอนที่ฉันถูกคนช่วยชีวิตจนฟื้นขึ้นมา เขา ก็ได้จากไปแล้ว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยปรากฏ ตัวออกมาอีก…”

เธอนึกว่าตัวเองกับชายหนุ่มคนนั้นจะเป็นอย่างสง่า งามไปจนสุดขอบฟ้านับตั้งแต่นั้น ไม่มีวาสนาได้พบ กันอีก

ทว่าเธอตายก็คิดไม่ถึงว่า คนคนนั้นก็อยู่ที่ข้างกาย ของตนเอง ตลอดระยะเวลาสามปีกว่า วันเวลาที่ต่อ ปากต่อคํากัน วันเวลาที่ทําสงครามเย็น วันเวลาที่ ถูกทิ้งอย่างกับภรรยาที่ถูกสามีทอดทิ้งก็ไม่ปาน วัน เวลาที่นอนอยู่ด้วยกัน…..

ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางคิดถึงได้เลยว่า ผู้ชายที่ตัว เองช่วยชีวิตเอาไว้จนนับแต่นั้นไม่สามารถหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาได้อีก ผู้ชายที่เปลี่ยนแปลงชีวิต อาชีพของเธอ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนคนเดียวกับ เปลี่ยนแปลงวิถีเส้นทางชีวิตของเธอ

โชคชะตาหมุนวนไปรอบๆ แทบจะเป็นวิธีการที่ ประชดประชันนำพวกเขามัดรวมเข้าไว้ด้วยกัน

ฉู่ลั่วหานแหงนศีรษะขึ้น สิ่งที่เวียนวนซ้ำแล้วซ้ำ เล่าภายในจิตใจต่างก็กลายเป็นหยาดน้ำตา เธอ พิจารณาตัวเองว่าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง พิจารณา ตัวเองว่ายืนได้ด้วยตัวคนเดียวมาตั้งนานแล้ว เพียง แต่อยู่ต่อหน้าของหลงเซียว น้ำตาของเธอก็มักจะ บางเบาขนาดนี้ ไม่ระวังก็ไหลทะลักลงมา

ถังจิ้นเหยียนกอดหญิงสาวที่อ่อนแอจนสุดที่จะทน เอาไว้แน่น นําศีรษะของเธอแนบลงบนอ้อมอกของ ตนเองด้วยความสงสารจับใจ คิดไม่ถึงว่าไม่รู้จะพูด อะไรไปชั่วขณะ

ปล่อยให้ร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของตนเอง รอเธอ ร้องจนสะใจ

“ลั่วหาน ผ่านไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะดีหรือจะร้าย ต่าง ก็ผ่านไปหมดแล้ว ลืมสิ่งเหล่านี้ เริ่มต้นใหม่ ให้โอกาสกับตัวเองสักครั้ง ปล่อยตัวเอง ผมไม่อยาก เห็นคุณเหนื่อยขนาดนี้อีก ใช้ชีวิตดีๆ ได้ไหมครับ?”

ทุกประโยคของเขา เหมือนเป็นการอ้อนวอน ขอร้อง

ดวงตาทั้งสองข้างของฉู่ลั่วหานบวมแดงอย่างสุดที่ จะรับได้ ตอนนี้ได้รู้ความจริงๆ กลับยิ่งทำให้เธอใจ สลายจริงๆเสียด้วยซ้ำ เธอแหงนใบหน้าที่ห่อเหี่ยว จนไม่เหลือเค้าเดิมขึ้น “ถังจิ้นเหยียน รอหลงเชียว ฟื้นขึ้นมา ฉันค่อยดูเขาเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็จะ ไปจากที่นี่ ไปจากที่นี่ตลอดกาล”

พูดจบ เธอก็หลับตาลง ราวกับลูกโป่งที่ถูกล้วงเอา พลังงานสูบเอาอากาศออกจนหมด เหี่ยวเฉาอยู่ใน อ้อมแขนของเขาโดยสมบูรณ์แบบ

รอบดวงตาของถังจิ้นเหยียนเจ็บปวดด้วยความ แสบร้อน น้ำตาเอ่อล้นออกมา ฝ่ามือที่อบอุ่นแข็ง แรงประคองแผ่นหลังของเธอเอาไว้ “ครับ ไปจากที่ นี่ตลอดกาล ไปในที่ๆไม่มีใครทําร้ายได้อีก เริ่มต้น ใหม่อีกครั้ง”

น่าหญิงสาวที่อ่อนปวกเปียกไปทั่วทั้งตัววางกลับลงบนเตียงใหม่อีกครั้ง ใส่สายน้ำเกลือให้กับเธอ กําชับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า ” ลั่วหาน คุณ เป็นผู้หญิงที่ฉลาดคนหนึ่ง อย่าทำเรื่องโง่ๆอีก แล้วก็ ไม่ต้องทรมานตัวเองอีกต่อไปแล้ว”

คุณทรมานตัวเอง ที่เจ็บไม่ใช่แค่ตัวเอง รู้หรือ เปล่า?

ฉู่ลั่วหานหลับตาเอาไว้ ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เรี่ยวแรงทั้งหมดของเธอต่างก็ใช้ไปจนหมดแล้ว

ตอนนี้ปิดตาลง ภาพสโลว์โมชั่นและภาพการ เคลื่อนไหวเร็วเปลี่ยนสลับกันไปมาภายในสมอง คิด ย้อนถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องผ่าตัดเมื่อห้า ปีก่อนอย่างบ้าคลั่ง

มีดผ่าตัดแทงลงบนฝ่ามือข้างขวาของเธอในแนว นอน…เลือดที่พรั่งพรูออกมา…ชีวิตที่กำลังจะตาย ของคนไข้…ความดันหัวใจที่ลดต่ำลงไม่หยุดบน มอนิเตอร์…ข้างใบหูมีคนพูดโน้มน้าวให้ยอมแพ้ไม่ หยุด…มีคนตะโกนด่าเธอ พยายามต่อไปก็จะเสียมือ ไปแล้ว… มีเพียงเธอแค่คนเดียวที่พยายามจะทําการผ่าตัด ให้เสร็จ ถึงแม้ไม่มีคนสนับสนุน เธอก็ทุ่มสุดชีวิตที่

จะพยายาม

ในเวลานั้น เป็นพลังอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอไม่หยุด ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นจะต้องช่วยชีวิตคนขึ้นมาให้ได้? เป็นพลังอะไรกันแน่?

เพราะว่ายังเด็กเกินไปไม่อยากยอมแพ้งั้นหรอ?

เพราะว่าไม่อาจคนเห็นคนสูญเสียชีวิตไปงั้นหรอ?

เธอพูดไม่ออก แต่เธอไม่อยากให้คนคนนี้ตาย

ในความเคลิบเคลิ้ม ในที่สุดฉู่ลั่วหานก็ตกสู่นิทรา

เห็นเธอนอนหลับ ถังจิ้นเหยียนก็สูดหายใจเข้าเต็ม ปอด นิ้วมือที่เรียวยาวไล่ไปตามเส้นผมที่อยู่บนหน้า ผากของเธอ ถึงได้พบว่าบนหน้าผากของเธอได้ซึม ไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ละเอียด

เขาหยิบผ้าขนหนูที่สะอาดขึ้นมาผืนหนึ่งเช็ดเหงื่อ ให้กับเธอ นิ้วมือไล่ไปตามหน้าผากแก้มของเธอลง ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่บนหน้าผาก เหงื่อที่อยู่ในซอกออกกําลังลุกลามไปอย่างช้าๆ

เพียงแค่ นิ้วมือหยุดชะงัก บนซอกคอของเธอ กลับไม่กล้าที่จะไปต่อ ได้แต่นำผ้าขนหนูรองไว้ที่ ด้านล่างลำคอของเธอ ซับเอาไว้ จุดที่ปกคอเสื้อเปิด ออกเล็กน้อย มองเห็นสายรัดสีขาวอย่างเลือนราง

ใจของถังจิ้นเหยียนสั่นเล็กน้อย ตอนที่เธอมาหา เขากลางดึกช่วงหน้าอกมีรอยเลือด จุดที่เป็นแผลก็ อยู่ประมาณบริเวณหน้าอก

เพียงแต่เขาคิดไม่ออก ทําไมเธอถึงได้มบาดเจ็บมา ถึงตรงนี้?

หลับคราวนี้ เพราะว่าเหนื่อยมากเกินไป ดังนั้นเวลา ในการนอนหลับยาวนานมาก หญิงสาวอยู่ในความ ฝันแทบจะไม่ยอมตื่นขึ้นมาอีก เธออยากหลับต่อไป

ตลอดกาล

เพราะว่าในความฝัน มีหลงเขียว

ในความฝัน เธอกลับไปถึงตอนที่เจอกับหลงเซียว อย่างเป็นทางการครั้งแรกอีกครั้ง เธอโน้มตัวฟังเสียงการเต้นของหัวใจของเขา เขายิ้มขึ้นอย่างชั่ว ร้าย

เนิ่นนานขนาดนั้น สวยงามขนาดนั้น

ฝันมาถึงตรงนี้ ฉู่ลั่วหานที่อยู่ในการนอนหลับสนิท มีนํ้าตาทะลักออกมาจากบริเวณหางตา

ห้องผู้ป่วยพิเศษ

หลังพระอาทิตย์ตกก่อนที่ฟ้าจะมืด ในที่สุดหลง เซียวก็ฟื้นขึ้นมาจากอาการหมดสติ

ในระหว่างที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้น เขาร้องเรียก วหานออกมาคำหนึ่งอย่างเลือนราง แต่คนที่กุมมือ เขาเอาไว้อยู่นั้น กลับเป็นโม่หรูเฟยและหยวนชูเฟิน

หยวนซูเฟินดีใจจนน้ำตาไหลออกมา “เซียวเอ๋อ ใน ที่สุดลูกก็ฟื้น ลูกทําแม่ตกใจจะแย่

โม่หรูเฟยเช็ดน้ำตาที่อยู่บริเวณปลายหางตาออก “พี่เซียว พวกเราต่างก็เป็นห่วงพี่มาก พี่ฟื้นขึ้นมาช่าง ดีมากจริงๆ
หลงเชียวพยายามหมุนคอมองไปรอบๆห้อง แต่เขา ไม่เห็นเงาร่างของคนที่ตัวเองคิดถึง

“เซียวเอ๋อ ลูกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? แม่ให้ หมอเข้ามา” หยวนชูเฟืนเช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้า ลุกขึ้นจะไปส่งคนให้ไปหาหมอ

นิ้วมือของหลงเซียวดึงเข้ามาเบาๆ หยุดยั้งการ เคลื่อนไหวของเธอเอาไว้ “ลั่วหานล่ะครับ? ผม ต้องการพบเธอ”

โม่หรูเฟยกัดฟันอย่างเงียบๆ แต่กลับไม่กล้าส่ง เสียง

ลูกชายเพิ่งจะฟื้น หมอบอกว่าไม่อาจรับแรงกระตุ้น ได้ หยวนซูเฟืนก็ไม่ได้พูดจนไม่น่าฟังมากเกินไป แต่ โทนเสียงไม่พอใจอย่างชัดเจน “แม่ก็หวังเหมือนกัน ว่าเธอจะสามารถเป็นเหมือนกับภรรยาคอยอยู่ที่ข้าง กายของลูก แต่ลูกดูสิ ลูกต่างก็เป็นแบบนี้แล้ว เธอ แม้แต่เงาก็มองไม่เห็น ยังคงเป็นหรูเฟยที่รู้เรื่องรู้ราว ตัวเองเป็นคนท้อง ยังได้รับบาดเจ็บ ยังจะยืนกราน เฝ้าลูกอยู่ที่นี่ทั้งวัน”

หลงเชียวไม่อยากได้ยินสิ่งเหล่านี้ ขมวดคิ้วขึ้นสะบัดมือของไม่หรูเฟยออก มองยังไม่มองเธอเลย แม้แต่น้อย “ออกไปเถอะ ผมอยากอยู่เงียบๆ

หยวนซูเฟินกับโม่หรูเฟยอยู่ใกล้ที่สุด บนโซฟาที่ อยู่ด้านหลังยังมีหลงจื่อกับกู้เยนเซิน จี้ตงหมิงต่างๆ นั่งอยู่

เขาบอกว่าเขาอยากอยู่เงียบๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ อยากได้ยินเสียงของผู้หญิง

หยวนซูเฟินพยักหน้า “ได้จ้ะ แม่ออกไปก่อน ลูกมี อะไรต้องการบอกผู้ช่วยหลี่ เยนเซินก็อยู่”

เพียงคนเดียว ไม่เอ่ยถึงหลงจื่อสักคำ

โม่หรูเฟยยังคงอาลัยอาวรณ์ที่จะจาก ยื่นมือออก ไปจัดการเส้นผมที่อยู่บนหน้าผากให้กับหลงเซียว หลงเซียวเอียงศีรษะ หลีกเลี่ยงมือของเธอออกด้วย ความรังเกียจ “ออกไป

สองคำที่ไม่ได้โมโหแต่กลับแฝงไปด้วยความน่า

เกรงขามพูดออกมาจากปากของหลงเชียว ความ รังเกียจที่มีต่อโม่หรูเฟย ไม่ต้องมีคำบรรยายที่ โอเวอร์อะไรอีกจริงๆ
ผู้หญิงสองคนต่างคนต่างความคิดออกไปจากห้อง ผู้ป่วย คนหนึ่งปีติ ยินดี ส่วนอีกคนกำลังวางแผนการ ร้าย

ภายในห้อง

หลงจื่อและคนต่างๆเดินเข้าไป เห็นคนฟื้นขึ้นมาก็ วางใจลง

กู้เยนเป็นลูบจมูกของตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ “ผมว่านะคุณท่านหลง คุณท่านมีอะไรที่คิดไม่ตกจน คิดไม่ถึงว่าจะไปชนต้นไม้ คำนึงถึงความรู้สึกของ ต้นไม้ใหญ่บ้างหรือเปล่าครับ?”

กู้เยนเซ็นกำลังเตรียมตัวบินกลับอเมริกา พอได้ยิน ข่าวของหลงเซียวก็แคนเซิลเที่ยวบิน จากนั้นถึงได้ รีบร้อนเข้ามา

ใบหน้าทั้งสองข้างของหลงจื่อถูกตบจนยังไม่หาย บวม ท่าทางค่อนข้างน่าสังเวชใจ “พี่ใหญ่ พี่คราวนี้ ก่อเรื่องไปไม่เบาจริงๆ ที่บ้านต่างก็อยู่กันไม่เป็นสุข แล้ว พี่ต้องรีบอาการดีขึ้นมาเก็บกวาด ผมไม่ช่วย หรอกนะ”
หลงเขียว นมือดังหน้ากากออกซิเจนออก บน ใบหน้าที่ขีดเผือดไม่มีสีเลือด ดวงตาที่ล้ำลึกหลัง จากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ดูเหมือนได้ฝังเข้าไปด้าน ในรอบดวงตา ยิ่งล้ำลึกจนไม่อาจจะคาดเดาได้ ยิ่ง เป็นมิติมากขึ้นเรื่อยๆ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? หน้าแกไปโดนอะไรมา?

หลงจื่อแทบจะซาบซึ้งจนน้ำตาไหล พี่ใหญ่ต่างเป็น สภาพแบบนี้แล้วคิดไม่ถึงว่ายังมีอารมณ์เป็นห่วง ใบหน้าของเขา “ผมไม่เป็นไร แต่พี่สะใภ้ใหญ่…

จี้ยงหมิงกระทุ้งข้อศอกของเขา บอกเป็นนัยให้เขา อย่าพูดถึงเรื่องของฉู่ลั่วหานในเวลานี้

ดวงตาของหลงเซียวออกแรงหรี่ลงเล็กน้อย “เธอ เป็นยังไงบ้าง? เธออยู่ที่ไหน?

ก่อนหน้าที่จะหมดสติ เธอถูกเขากัดจนเป็นแผล ต่อ มาฝนตกหนัก เธอจะไปที่ไหนได้?

หลงจื่อกลืนน้ำลายลงไป ท่าทีไม่จริงจังขึ้นมาใหม่ อีกครั้ง “เธอจะมีเรื่องอะไรได้? พี่สะใภ้ใหญ่ของผมองอาจห้าวหาญขนาดนั้น ใครจะสามารถทำอะไร เธอได้? เธอมีธุระนิดหน่อย อีกสักครู่ก็มาแล้ว”

ได้ฟังมาถึงตรงนี้ หัวคิ้วของหลงเขียวก็ถือว่าผ่อน คลายลงไปเล็กน้อย

จากนั้นมองไปทาง ตงหมิง “บริษัททางนั้นล่ะ?”

จี้ยงหมิงรายงานตามความเป็นจริง “ตอนที่ คุณไม่ได้สติ NCถือโอกาสตอนที่วุ่นวายก่อ โจรกรรม วางแผนหวนกลับมามีอำนาจใหม่อีก ครั้งโจมตีMBKอย่างรุนแรง ดีที่เมื่อก่อนคุณเสนอ แผนการรับมือล่วงหน้าออกมา เพียงแต่ไม่ได้เซ็นชื่อ ตอนที่ผมมาหาคุณคุณกำลังไม่ได้สติอยู่ คุณหญิง เซ็นชื่อแทน ผมถึงมีสิทธิ์ในการดำเนินการ โชคดี เป็นอย่างมาก สงครามนี้พวกเราสู้ชนะแล้ว

ความรู้สึกที่อยู่บนใบหน้าของตงหมิงผ่อนคลาย ลงไปไม่น้อย ข่าวดีนี้จะต้องทำให้บอสอารมณ์ดีขึ้น มานิดหน่อยได้แน่ล่ะมั้ง?

แต่จุดสนใจของหลงเซียวกลับไม่ได้อยู่ที่สู้ชนะ หรือไม่เลยแม้แต่น้อย แต่ย้อนริมฝีปากถามกลับไป โดยตรง “คุณบอกว่าลั่วหานเซ็นชื่อ?”
จี้ยงหมิงพยักหน้าด้วยความมั่นใจ “คุณหญิงใน เวลานั้นพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า เธอเซ็นชื่อ เกิด เรื่องอะไรขึ้นเธอก็จะแบกรับความรับผิดชอบ คุณ หญิงช่าง…เผด็จการจริงๆ!

หลงจื้อลูบปลายจมูก “คุณพูดว่าอะไรนะ! ”

หลงเซียวเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “แกหุบปาก

ก็ได้ หลงจื่อหุบปากอย่างเชื่อฟัง

กู้เยนเซ็นเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ “ตอนนี้แกฟื้นแล้ว ฉันก็ วางใจบินกลับอเมริกาได้ หากไม่กลับไปอีก คุณท่าน ของตระกูลพวกฉันก็จะคลุ้มคลั่งแล้วเช่นเดียวกัน”

หลงเซียวกลับไปสนใจเลยแม้แต่น้อย เอ่ยขึ้นด้วย น้ำเสียงที่เฉียบขาด “เรื่องที่ฉันให้แกตรวจสอบ ตรวจสอบพบแล้วหรือยัง? ตรวจสอบไม่พบ ไม่ อนุญาตให้กลับไป ฟอของแกทางนั้นฉันจะอธิบาย ด้วยตัวเอง แต่เรื่องของฉัน แกจําเป็นต้องตรวจสอบ ให้ชัดเจน”

WTF! มีที่เผด็จการขนาดนี้ด้วยหรอ?
ก็ได้ มีจริงๆ อีกทั้งเป็นคนที่เขาไม่สามารถที่จะ ปฏิเสธได้

สามปีกว่าแล้ว ไม่ง่ายเลย” กู้เยนเซ็นถอนหายใจ “ ยาวออกมา อารมณ์ไม่ค่อยจะสวยงามนัก

“พี่คะ หลงเซียวฟื้นขึ้นมาแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่สุด ฉันจะต้องรีบจัดการฉู่ลั่วหานนังผู้หญิงสารเลว คนนี้ให้ได้ก่อนที่เขาจะฟื้นตัวขึ้นมา”

ร้านกาแฟโอเซี่ยง ที่นั่งโซฟาบริเวณมุมทางเลี้ยว เกาหยิ่งจือกับโม่หรูเฟียนั่งหันหน้าเข้าหากัน

เกาหยิ่งจือพยักหน้า “ฉันจะเตรียมความพร้อม ลด อันตรายที่มีต่อเธอให้น้อยที่สุด แผนกสูติ-นรีเวช ของโรงพยาบาลทางนี้เป็นสถานที่รวมตัวกันของ หมอไพ่ใบเอกในเมืองหลวง รับประกันได้อย่างแน่ใจ ว่าเธอจะปลอดภัย”

โม่หรูเฟยจิบกาแฟเข้าไปคำหนึ่ง ดวงตาที่ พรรณนาอย่างประณีตส่องสะท้อนประกายที่ เหี้ยมโหดออกมา “ฉู่ลั่วหานนังผู้หญิงสารเลวคนนั้นอยู่ที่ไหนคะ?”

เกาหยิ่งจือบีบแก้วกาแฟแน่น ไฟโกรธที่อยู่ในใจ พุ่งตรงมาถึงกะโหลก แทบจะพุ่งทะลุกระดูกบนจุด สูงสุดของศีรษะระเบิดออกเป็นหลุมดำใหญ่

“มันอยู่ที่โรงพยาบาล อยู่ในห้องพักผ่อนของถังจิ้น เหยียน! “ทีละคําทีละประโยค ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เธอตอนนี้แทบอยากจะกระชากลั่วหานออกมาจาก ห้องของถังจิ้นเหยียน ผลักให้ตกตึก!

โม่หรูเฟยยิ้มขึ้นอย่างเยือกเย็น “งั้นก็ช่างดีจริงๆ เลยค่ะพี่ ตอนนี้ก็คือเวลาที่ดีที่สุด” เธอวางแก้วลง ยืดครึ่งตัวบนแล้วเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆว่า “ยังมีเรื่อง อะไร ที่มีแรงจูงใจยิ่งไปกว่า …ถูกคนจับปู่บนเตียงได้ อับอายจนกลายเป็นความโกรธพยายามที่จะฆ่าคน ล่ะคะ?”

ดวงตาของเกาหยิ่งจือหดตัวลงเล็กน้อย สุดท้าย แสงความน่ากลัวที่รวบรัดก็เอ่อล้นออกมา “เฟยเฟย เธอนับวันยิ่งฉลาดมากขึ้นเรื่อยๆ

โม่หรูเฟยอุทานเบาๆออกมา “ฉู่ลั่วหานหนึ่งวันไม่ไป ฉันก็หนึ่งวันไม่สงบสุข หยวนซูเฟืนเพิ่งจะไปที่โรงพยาบาล คืนนี้เธอเห็นหลานของตัวเองถูกคนที่ ตัวเองเกลียดมากที่สุดทําร้ายจนตายกับตา….. ฉัน รอคอยมากว่าเธอจะมีการตอบสนองยังไง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ