ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 486 เทพธิดา จำฉันได้หรือไม่



ตอนที่ 486 เทพธิดา จำฉันได้หรือไม่

ตอนที่ 486 เทพธิดา จำฉันได้หรือไม่

ณ แผนกศัลยแพทย์หัวใจ โรงพยาบาลหวาเซีย

ลั่วหานเอามือจับต้นคอที่เจ็บเบาๆ และโยกหัวไปทางซ้าย และขวาสลับกันไปมา ในที่สุดความรู้สึกไม่สบายที่ต้นคอก็ บรรเทาลง ช่วงนี้เขาเหนื่อยมากเกินไปงั้นเหรอ

ทำไมถึงรู้สึกอ่อนล้าอยู่บ่อยๆนะ เธอสงสัย

หลังจากจัดการความเจ็บปวดของร่างกายส่วนบนแล้ว ลั่วหา นก็วางข้อมือลงบนโต๊ะเพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น และก็หันไป พูดกับหลินซีเหวินและหวาเทียน “การประชุมวันนี้ก็จบลงเพียง เท่านี้ เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นพวกคุณทั้งสองก็ช่วยดูให้เป็น พิเศษหน่อยละกัน”

หลินซีเหวินและหวาเทียนพยักหน้ารับพร้อมกัน “หมอฉู่ไม่ ต้องกังวล พวกเราจะทำให้เต็มที่”

ผู้ช่วยทั้งสองนี้มีความสามารถมาก ลั่วหานก็ค่อยๆมอบ อำนาจในมือให้พวกเขาสองคนตัดสินใจเอง ตัวเขาเองก็ได้ ผ่อนคลายลงบ้าง พวกเขาเองก็ได้ฝึกฝนได้มากขึ้น

ลั่วหาน พยักหน้ายิ้มเบาๆด้วยความพึงพอใจ “ผ่านช่วงนี้ไป สักระยะพวกคุณสองคนก็จะได้ลงมือผ่าตัดเองแล้ว ตอนนี้ก็พยายามสั่งสมประสบการณ์เล็กๆน้อยๆไปก่อนนะ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ลั่วหานพูด หลินซีเหวินก็เบิกตากว้างอย่างตื่น เต้น และพาตัวเองเดินไปหาเธอ “จริงเหรอ ฉันจะได้เป็นคน ผ่าตัดเองจริงๆใช่ไหม”

ศัลยแพทย์ทุกคนต่างรอคอยวันที่จะได้ลงมือทำการผ่าตัด ด้วยตัวเอง ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องพิสูจน์ทางความสามารถให้ เป็นที่ยอมรับแล้ว แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นอิสระด้วย จากนี้ไปก็จะไม่ใช่เด็กฝึกหัดตัวเล็กๆอีกแล้ว จะค่อยๆสั่งสม ประสบการณ์ให้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการเดิน ทางทีสดใสของศัลยแพทย์!

แต่ศัลยแพทย์หลายคนสามารถต้องผ่านการฝึกฝนวิชาเป็น เวลาหนึ่งถึงสองปี จึงจะมีคุณสมบัติที่จะลงมือผ่าตัดได้อย่าง อิสระ ซึ่งหลินซีเหวินคิดว่าเธอทำได้แล้ว

ลั่วหานยิ้ม “ได้สิ แต่คุณต้องผ่านการทดสอบของฉันก่อน ถ้า คุณผ่านการประเมิน ฉันจะให้คุณลองลงมือผ่าตัดเล็กๆไป ก่อน ในส่วนของแผนกการแพทย์เพื่อสวัสดิการสาธารณะของ เรา เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างใหญ่ ตอนนี้คุณยังทำไม่ได้”

“ว้าว! ดีจังเลย ไม่มีปัญหา ฉันเชื่อฟังการเตรียมการของคุณ คุณให้ฉันไปที่ไหนฉันก็จะไปที่นั่น!” หลินซีเหวินกำหมัดแน่น พูดด้วยความดีใจ ในสายตามีแค่ลั่วหาน จนลืมสนใจหมอคน อื่นๆที่อยู่ในห้องประชุม
หวาเทียนคลายปมคิ้ว และยิ้มด้วยความนิ่งสงบ ต้อง ขอบคุณคุณหมอฉู่เป็นอย่างยิ่ง พวกเราจะพยายามรีบทำการ ผ่าตัดให้ได้โดยเร็วที่สุด คุณก็จะผ่อนคลายลงได้บ้าง”

“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน อาจารย์อยากเกษียณก่อนอายุ ด้วย จะได้แอบขี้เกียจก่อนเกษียณสักหน่อย” ลั่วหานพูด ติดตลกกับตัวเอง

อาจารย์และศิษย์มีมิตรภาพที่หนาแน่น ซึ่งไม่มีใครมา ขัดจังหวะได้ รอจนพวกเขาคุยกันจบ ถังจิ้นเหยียนจึงพูด ต่อด้วยรอยยิ้มที่ดูสง่า “หมอหลินกับหมอหวามีการพัฒนาที่ รวดเร็วก็จริง แต่การผ่าตัดที่คุณมีส่วนร่วมอยู่ในตอนนี้ ล้วน แต่เป็นการผ่าตัดที่ยากและมีขนาดใหญ่ ยังคงต้องให้หมอฉู่ เป็นผู้นำไปก่อนนะ”

หลินซีเหวินยิ้มอย่างมีเลศนัย และใช้แฟ้มเอกสารมาบังหน้า ตัวเองไว้และแอบพูด “หมอถัง หมอฉู่ตั้งใจจะกลับบ้านไปพัก ผ่อนไวๆ ไอดอลก็เป็นผู้หญิงนะ ก็ต้องการเวลาให้สามีบ้าง คุณไม่เห็นเหรอ ช่วงนี้หมอฉี่ได้ลดเวลาเข้าเวรลงแล้ว”

สายตาที่นุ่มนวลของถังจิ้นเหยียนมองไปที่ลั่วหาน เธอกำลัง ปรึกษาหารือเกี่ยวกับแผนการผ่าตัดของคนไข้คนหนึ่งกับ แพทย์คนอื่นอยู่ คิ้วของถังจิ้นเหยียนขมวดแน่นและคลายออก ครุ่นคิดและตอบ “เช่นนี้…..อืม ก็ใช่ เธอควรจัดวางเรื่องเหล่านี้ ไว้ตารางด้วยจริงๆ”

“อืม ฉันก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน และฉันก็รอคอยที่จะได้เห็นลูกๆของหมอฉู่กับท่านเซียวเร็วๆ ลูกตัวน้อยจะต้องผสมผสาน ความงามและฉลาดออกมาแน่นอน คิดแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลย”

ถังจิ้นเหยียนคิดถึงฉากที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตและยิ้ม “อือ ต้องน่ารักมากแน่ๆ”

การประชุมของแผนกศัลยกรรมใช้เวลาไม่นาน หลังจากพูด คุยเกี่ยวกับเนื้อหาสำคัญแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงาน แต่ลั่วหานยังมีเอกสารบางอย่างที่ต้องสะสาง เขาจึงอยู่ในห้อง ประชุมต่อสักพัก

ถังจิ้นเหยียนจัดการแฟ้มผู้ป่วยและเอกสารเสร็จแล้ว ก็ย้าย ที่นั่งไปนั่งข้างลั่วหานด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสดใสที่ ต้องการพูดคุย “เมื่อกี้ที่หมอหลินบอกฉันว่า คุณได้ลดจำนวน งานที่ทำลง คุณกำลังวางแผนที่จะมีลูกกับหลงเซียวใช่ไหม”

ลั่วหานพยักหน้าตอบ “อืม ใช่ ฉันคิดไว้แบบนั้น” ขณะพูด เธอ ก็มองไปรอบๆ เมื่อไม่มีใครอยู่ในห้องประชุมแล้ว เธอก็พูดต่อ ด้วยรอยยิ้ม “ที่จริงฉันอยากมีลูกมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ความ สัมพันธ์ระหว่างฉันกับหลงเซียวค่อนข้างตึงเครียด และไม่ เคยมีโอกาส ต่อมาฉันก็คิดว่าการใช้ชีวิตอยู่กันสองคนก็ดีอยู่ แล้ว และเขาเองก็ไม่ได้เร่งรีบด้วย ดังนั้นจึงสายไปหน่อย ตอน …….อาการของแม่สามีก็ไม่ดีเลยด้วย ฉันไม่อยากให้เธอจาก ไปด้วยความเสียดาย บางทีถ้ามีหลาน เธออาจจะยืนหยัดสู้ ต่อไปได้”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าเห็นด้วย ดวงตาที่อ่อนโยนของเขาจ้อง ไปที่แก้มของลั่วหาน มุมปากเผยรอยยิ้มที่น่าอิจฉาและสง่า งาม “ลั่วหานคุณเป็นผู้หญิงที่เข้าใจความจริงของสถานการณ์ จริงๆ ถ้าแม่สามีคุณรู้ว่าคุณกตัญญูอย่างนี้ เธอจะต้องให้ความ ร่วมมือในการรักษาอย่างดีแน่นอน”

ลั่วหานจัดเอกสารวางซ้อนกันให้เรียบร้อย และพูดต่อ “ฉัน แค่ทำหน้าที่ในสิ่งที่ลูกสะใภ้ควรทำเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้แค่รอ หลงเซียวกลับมาจากสหรัฐอเมริกา”

ดวงตาที่สวยงามและสดใสของลั่วหาน ไม่ขวยเขินที่จะแสดง ความคิดของตัวเองออกมาอย่างกล้าหาญ ใช่ การมีลูกไม่ใช่ เรื่องของคนๆ เดียว แน่นอนว่าต้องรอให้ผู้ชายของเธอกลับมา

ถังจิ้นเหยียนตกใจกับความตรงไปตรงมาของเธอ มือกําหมัด อยู่ที่ปากของเขา “ลั่วหาน ขีดจํากัดของคุณดูมากไปหน่อย ไหม”

ลั่วหาน ลุกออกจากเก้าอี้ เห็นเสื้อกาวน์สีขาวหลวมๆห่อหุ้ม เรือนร่างที่ดูสง่างาม และรูปร่างสูงหุ่นดีเป็นที่สะดุดตามาก

“ฉันเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์” ลั่วหาน จึง พูดถากถางตัวเอง และถือแฟ้มเดินออกจากห้องประชุมพร้อม ถังจิ้นเหยียน

“เกี่ยวกับการเจ็บป่วยของแม่สามี อีกสองวันผู้เชี่ยวชาญก็จะมาแล้ว ตอนนั้นคงมีการตรวจแม่สามีคุณผ่านระบบ จาก นั้นจึงตัดสินว่าจะรักษาโดยการทำเคมีบำบัดหรือให้ยา คุณ เตรียมใจให้พร้อม ไม่ว่าการรักษาวิธีไหน คือมีผลกระทบ รุนแรงต่อร่างกายของผู้ป่วย สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วย ต้องมีสภาพจิตใจที่พร้อมยอมรับอย่างดี

ลั่วหาน กุมมือกอดเอกสารไว้แน่ หยุดเดินและพูด “ฉันเชื่อว่า เธอทำได้ พวกเราก็ทำได้เช่นกัน”

“คุณแน่ใจนะว่าจะปิดบังพ่อตาของคุณต่อไป ยังไงๆพวกเขา ก็เป็นสามีภรรยากัน ทำไมไม่บอกให้เขารู้ความจริงล่ะ ฉันไม่ เข้าใจพวกคุณ” ถังจิ้นเหยียนไม่เข้าใจว่าคนของตระกูลหลง ทำไมถึงได้ทำตัวแปลกๆอย่างนี้

ไหล่ที่ผอมบางของลั่วหาน ขยับขึ้นลง กระดูกไหปลาร้า ทั้งสองก็ขยับไปด้วย เธอดูผอมเอามากๆ เห็นแล้วน่าตกใจ “หลายสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเห็น อย่างไรก็ตามขอบคุณที่ ช่วยฉัน รวมถึงที่ช่วยแม่ยายฉันด้วย ถ้าหลงเซียวกลับมาแล้ว เราขอเลี้ยงข้าวคุณกับตำรวจเจิ้งนะ”

“โอเค!” ถังจิ้นเหยียนยังมีคนไข้รออยู่ เขาเดินไปที่แผนกผู้ ป่วยในต่อเลย

ลั่วหาน ก้าวขายาวๆเดินไปที่ทางเข้าลิฟต์ แผงประตูโลหะ สะท้อนเงาร่างที่สวยงามเธอ เธอถอนหายใจเบาๆ และเดิน เข้าไปในลิฟต์
ทำไมถึงให้หลงถึงรู้ไม่ได้ แน่นอนว่าไม่สามารถบอกให้เขารู้ ได้

หลงถึงในตอนนี้กำลังใช้กำลังทั้งหมดที่มีสนับสนุนหลงจื่อ และยังต้องการผลักแม่ของหลงจื่อขึ้นสู่ตำแหน่งภรรยาใหญ่ ของตระกูลหลงถ้าเขารู้เกี่ยวกับอาการของหยวนซูเฟิน เขาจะ ต้องเตรียมให้แม่ของหลงจื่อกลับประเทศจีนมาเป็นผู้ดูตระกูล หลงต่ออย่างแน่นอน

พอถึงตอนนั้นหลงเซียวกับหยวนชูเฟินคงได้หายสาบสูญไป จากตระกูลหลงจริงๆ

ภายในต้องปกปิดอาการป่วยของหยวนชูเฟิน และภายนอก ยังต้องปิดบังที่อยู่ของเธอจากหลงถึง และคุณต้องช่วยหยวน ชูเฟินไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับทางสถานีตำรวจอีก การต่อสู้ที่ ยากลําบากนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ลั่วหาน ขยี้คิ้วเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองคิดเรื่องฟุ้งซ่านอีก เมื่อ ประตูลิฟต์เปิดออก ก็ก้าวขาเดินไปในห้องทำงาน

“หมออู่ มีคนรอคุณอยู่ที่ห้องรับรองนานมากแล้ว” พยาบาล คนหนึ่งรีบมารายงานกับลั่วหาน

“ใครกำลังรอฉันอยู่เหรอ” ลั่วหาน จับที่กระเป๋า เขาไม่ได้นำ โทรศัพท์มือถือมาด้วยตอนไปประชุม หลังจากคุยกับหลง เซียวแล้วเขาก็วางมันไว้ที่ขอบหน้าต่าง แย่จริงๆ ขี้ลืมแบบนี้มี แค่เธอคนเดียว
พยาบาลส่ายหน้าพูด “ฉันก็รู้จัก แต่เธอบอกว่าพวกคุณรู้จัก กัน และรอคุณมาสักพักแล้ว”

ลั่วหาน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู แต่ไม่มีสายที่ไม่ได้รับเลย

ห้องรับรองอยู่เยื้องๆกับห้องของลั่วหาน ห่างออกไปเพียงไม่ กี่ก้าว ลั่วหาน เห็นหญิงสาวนั่งอยู่ข้างใน ผมยาวและสวมเสื้อ คลุมหลวม ๆสไตล์เกาหลี แต่งหน้าสวยดูดี ใส่รองเท้าส้นหนา ดูดีมีออร่า ดูใจดีและน่ารัก

“ดูเหมือนว่าคุณจะฟื้นตัวดีแล้ว” ลั่วหาน ยืนพิงขอบประตู และยิ้มให้หญิงสาวที่อยู่ด้านใน

หญิงสาวรีบลุกขึ้น เรียกด้วยความดีใจ “ว้าว! ในที่สุดนางฟ้า ก็ปรากฏตัว คุณจําฉันได้ไหม ฉันมาคุณที่เมืองหลวงแล้วนะ!”

ลั่วหาน สอดมือทั้งสองข้างเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกาวน์ ทำริม ฝีปากแดงก๋าแบนและพูด “จําได้สิ คนที่เกือบฆ่าตัวตายด้วย การกระโดดตึกต่อหน้าฉัน ฉันคงไม่มีวันลืมความน่าประทับใจ ที่น่าจดจําอย่างนี้ได้หรอก”

หญิงสาวเกาผมด้วยความเขิน และยิ้มพูดว่า “โอ้ คุณไม่ต้อง ทวนความจําถึงสิ่งที่น่าอับอายนี้ให้ฉันหรอก ฮ่าฮ่า…..ฉันหาย ดีแล้ว เลยมารายงานตัวที่บริษัทคุณ แต่ฉันคิดว่าฉันควรมา พบคุณก่อน”
ลําหาน ชี้ไปที่เก้าอี้บอกให้เธอนั่งลง และรินน้ำให้เธอหนึ่ง แก้ว “ฉันขอโทรศัพท์ก่อน คุณจะได้ไปที่นั่นได้ทันที”

หญิงสาวพยักหน้าขณะรับแก้วน้ำมา “โอเคโอเค”

แต่เธอเพิ่งดื่มน้ำไป ตอนนี้ไม่สามารถดื่มได้อีก

ล้วหาน โทรหาไปเวย เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นสองสามครั้งก็มี คนรับสาย

“ลั่วลั่ว ในที่สุดคุณก็นึกถึงฉันได้ ช่วงนี้คุณลืมบริษัทของคุณ เองไปแล้วใช่ไหม” ไปเวยยิ้มและตำหนิเธอ แต่ไม่สามารถ ปกปิดน้ำเสียงประหลาดใจและดีใจของเธอได้

“ฉันก็นึกถึงคุณตอนนี้แล้วไง ฉันยังไม่ลืมหรอก จำได้เสมอ ฉันหาผู้ถือหุ้นที่มีศักยภาพทางการเงินมาให้บริษัท อีกสักครู่ เธอก็จะไปรายงานตัวที่บริษัท คุณช่วยจัดตำแหน่งที่เหมาะสม ให้เธอด้วย

ไป์เวยหมุนปากกาเซ็นชื่อในมืออยู่หลายรอบ เม้มริมฝีปาก เพื่อแกล้งเธอ และพูด “ลั่วลั่ว คุณทำงานในโรงพยาบาลและ ยังมีหน้าที่จัดหาคนของบริษัทอีก ช่างน่าประทับใจมาก”

“อย่าพูดมากเลย พวกคุณคอยจับตาดูเรื่องของบริษัทไว้ ช่วงนี้ฉันคงยุ่งมาก เรื่องทางนั้นฉันคงไม่เข้าไปยุ่งแล้ว ให้คุณ รายงานงบการเงินฉันทุกเดือนก็พอ”
ไปเวยทํามือOK และพูด “ไม่มีปัญหา! ช่วงนี้เรากำลังรวบรวม ทรัพยากรของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป และช่องโหว่ก็ปิดได้เกือบ หมดแล้ว อีกไม่กี่วันฉันจะอัดฉีดเงินรอบที่สองไปที่เมืองA และ เรือเล็กๆของบริษัทฉู่ซื่อกำลังจะเปลี่ยนเป็นเรือบรรทุกเครื่อง บิน เมื่อถึงเวลานั้นอย่ากลัวฐานะของตัวเองก็แล้วกัน

ลั่วหาน ชำเลืองมองหญิงสาวที่จ้องมองมาที่เธอ และจบการ สนทนาทางโทรศัพท์ “แซงหน้าบริษัทMBKได้”เมื่อไหร่ ฉัน ต้องประหลาดใจแน่นอน และฉันจะมอบเงินปันผลสิ้นปีให้พวก คุณจนคุณต้องประหลาดใจแน่นอน

“เถ้าแก่คุณใจกว้างมาก ถ้าอย่างนั้นฉันจะตั้งใจทำงานอย่าง หนักเพื่อคุณ ผู้ถือหุ้นที่คุณหามานั้นชื่ออะไรเหรอ ฉันจะได้ แจ้งให้ HRทำแบบฟอร์มรายการการเข้าทำงาน”

ลั่วหาน ขยับริมฝีปากออกจากโทรศัพท์ ก้มหน้าลงแล้วถาม หญิงสาวว่า “คุณชื่ออะไร”

หญิงสาวยืนตรง และพูด “ฉันชื่อโจวโร่หลิน อายุ22ปี สูง165 น้ำหนัก50 ราศีมีน แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเลวแน่นอน ฉันชอบ ราชาโจรดา อินุยาฉะ เทพธิดาฮัตสึเนะ……

“โอเค! พอแล้วล่ะ” ลั่วหาน ยื่นมือออกไปเพื่อห้ามการแนะนำ ตัวเองที่บ้าคลั่งของโจวโร่หลิน และถาม”ได้ยินไหม”

ไปเวยหัวเราะเสียงดังและพูด “ลั่วลั่ว คุณแน่ใจนะเธอเป็นเป็นเป็นม้ามืดแห่งวงการการเงิน ไม่ใช่เป็นสาวน้อยหลุดมาจา กอนิเมะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ