ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 268 ประธานอย่าดูถูกกันอีก



ตอนที่ 268 ประธานอย่าดูถูกกันอีก

ตอนที่ 268 ประธานอย่าดูถูกกันอีก

เห็นสีหน้าของตู้หลิงเซวียนเปลี่ยนไป ลั่วหานก็เอ่ยอย่างเป็น ห่วงว่า “เป็นอะไรไป?”

ความกระวนกระวายใจบนใบหน้าของตู้หลิงเซวียนชั่วขณะ ก็หายไปจนเกือบจะหมด และหันกลับไปเป็นใบหน้าที่งดงาม รอยยิ้มที่สง่าเป็นสุภาพบุรุษอย่างยิ่ง “เรื่องเล็กเท่านั้น เพียง แต่ ข้อเสนอคุณเมื่อสักครู่ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าคุณพิจารณาอีก ลักหน่อยได้ไหม?”

ล้วหานขมวดคิ้วเล็กน้อย “ต๊ะ? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า

ตู้หลิงเซวียนมองที่นาฬิกาข้อมือ “ฉันตัดสินใจเปลี่ยนตัวเป็น สองชั่วโมงหลังจากนี้ ฉันจะออกไปเมื่อเห็นคุณไปแล้ว”

ลั่วหานใบหน้าพอที่จะมีรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ตู้หลิงเซวียน ตั้งใจหรือว่าต้องการทดสอบเธอ? เปลี่ยนเวลาอย่างกะทันหัน ก็คือจะให้เธอไปส่งที่สนามบินหรอ?

จงใจเกินไปหรือเปล่า? อีกทั้งไร้เหตุผลเกินไป?
ตู้หลิงเซวียนรูปร่างผอมสูง มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง ใบหน้านั้นยิ้มจางๆ ดูดีสุภาพอย่างไร้ที่ติ

จัดการเรื่องโกหกได้แล้ว โดยไม่มีช่องโหว่ เหมาะสมจริงๆที่ จะอยู่กับเขา

“แน่นอน คุณมาที่เพื่อบอกลากับฉันโดยเฉพาะ ฉันก็เช่นกัน ฉันก็ควรจะไปส่งคุณ อีกสองชั่วโมง ฉันจะตรงไปเพื่อพบคุณ”

พูดตามปกติ เวลานี้ตู้หลิงเซวียนควรจะพูดมาสักประโยคว่า เมื่อกี้ฉันล้อเล่น แต่ไม่มีเลย

เขาพยักหน้าและยิ้มอย่างเป็นปกติมาก ดูเหมือนว่านี่จะเป็น คำตอบที่สุภาพที่สุด “โอเค ฉันจะรอคุณ”

ปากของลั่วหานแทบกระตุก รักษารอยยิ้มบนใบหน้าให้ดี ที่สุด พยายามควบคุมอารมณ์เอาไว้ “ตกลง!”

แย่จริง!

ต้องไปส่งเขาที่สนามบินจริงๆหรือ?
พูดถึงในทางทฤษฎี ไปส่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก แต่ลั่ วหานไม่ค่อยอยากอยู่กับตู้หลิงเซวียนตามลำพัง โดยเฉพาะ การไปอำลาที่สนามบิน มันง่ายจริงๆที่จะทำให้คนเข้าใจผิด เพราะว่าในใจของลั่วหาน คัดค้านอย่างมาก

“ฉันไปก่อน แล้วเราเจอกันที่สนามบิน” ตู้หลิงเซวียนมีความ คาดหวังอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับแรงกล้า เพียงแต่เมื่อสายตา กวาดไปมองที่นิ้วนางของเธอ สีหน้าก็เย็นชาเล็กน้อย

“โอเค”

แอนน่าเพิ่งจะบีบคำดีๆออกไปหนึ่งคำ หวาเทียนก็รีบวิ่งเข้า มาทันที สีหน้าบึ้งตึง ตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก ว่า “หมอฉู่ แย่แล้ว คนไข้ที่ช่วยไว้เมื่อคืนเกิดช็อกอย่าง กะทันหัน!”

“อะไรนะ?!”

ฉู่ลั่วหาน “แย่จริง” ลุกจากเก้าอี้ยืนขึ้นมา สีหน้าก็เปลี่ยนไป อย่างรวดเร็ว คนไข้เมื่อคืน! แต่เธอนั้นขายครึ่งชีวิตเพื่อรักษา ชีวิตไว้!

เควิน คนไข้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ฉันจำเป็นต้องไปจัดการสัก เล็กน้อย คุณกลับไปก่อน ฉัน…จะพยายามจัดการให้ดีที่สุดถ้ามีเวลาฉันจะไปส่งคุณ

ตู้หลิงเซวียนไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แทรกขึ้นมาแบบ นี้อย่างกะทันหัน แต่ยังคงสงบนิ่งและพยักหน้า “โอเค คุณไป ดูแลคนไข้ก่อนเถอะ”

ลั่วหานกับหวาเทียนรีบออกจากห้องทำงานไปที่วอร์ดด้วย กัน ทิ้งให้ตู้หลิงเซวียนมองไปที่ร่างสีขาวทั้งสองจากไป พิจารณาพอสังเขป

ขึ้นลิฟท์ไป ความตกใจของลั่วหานยังคงอยู่บนใบหน้า “ตกลงมันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ฉันไปตรวจที่วอร์ดยังดีๆอยู่เลย อยู่ๆทําไมถึงช็อกอย่างกะทันหัน?”

หวาเทียนกอดอกมองไปที่ล้วหาน เพราะว่าความสูงได้ เปรียบกว่า หวาเทียนมองไปที่ลั่วหานเล็กน้อย “ผู้ป่วยผ่านการ ได้รับการช่วยชีวิตจากหมอฉู่แล้ว จะช็อกอย่างกะทันหันได้ อย่างไร? แน่นอนว่าผู้ป่วยนอนสบายดีอยู่

ลั่วหานหรี่ตามอง “คุณพูดอะไร? คนไข้ไม่ได้มีปัญหาหรอ?”

หวาเทียนยักไหล่ หน้าผากเกิดรอยเส้นเพราะว่าขมวดคิ้ว “ผู้ ป่วยไม่ได้เป็นอะไร แต่ว่าฉันกลัวหมออู่จะเกิดเรื่อง”
ล้วหานเบิกตากว้างจากการหรี่ตา “คุณหมายความว่าอะไร?”

“ชัดเจนมาก วันนี้หนุ่มหล่อที่มาเยี่ยมคุณท่านนี้ อย่างไรคุณ ก็ไม่ต้องการจะเจอ ยิ่งคุณไม่เต็มใจที่จะไปส่งเขาที่สนามบิน เพียงแค่ฉันทําให้คุณไปหาไม่ได้ ตามเหตุผลของMantra”

ลัวหานได้ฟังหวาเทียนอธิบายจนจบ หน้าตาก็คลายออก ยิ้ม “มองไม่ออกเลยหวาเทียน สายตาปราดเปรียวมาก ดูเหมือน ว่าคุณจะเป็นผู้ช่วยที่ดีสำหรับฉัน”

ใบหน้ามี่สงบนิ่งของหวาเทียนนั้นก็ยังคงเย็นชาไม่สนใจสิ่ง ใด “หมูฉู่กลัวจะต้องผิดหวังขนาดนั้น ฉันไม่ได้วางแผนที่จะ เป็นผู้ช่วยของคุณตลอดเวลา ตำแหน่งนี้ฉันไม่สามารถอยู่ได้ นานเกินไป

ล้วหานสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมสีขาว ลืมตามอง ไปที่หวาเทียนที่ทำสีหน้าเฉยเมย “แน่นอนฉันรู้ว่าความ ทะเยอทะยานของคุณไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ฉันจะรอชมการ แสดงออกของคุณ”

ลิฟท์ขึ้นมาถึง ชั้นที่เธอเพิ่งกดมาถึงแล้ว ประตูลิฟท์เปิดออก แล้วปิดอีกครั้ง ทั้งสองลงไปอีกครั้ง
หวาเทียนยืนพิงลิฟท์อย่างสบาย ขายาวข้างหนึ่งยกขึ้น หากว่าไม่ใส่ชุดคลุมสีขาว มองไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าเป็นหมอ “คุณไม่อยากถามสักหน่อยหรอ ทําไมฉันถึงเลิกงานเดิมและ มาที่นี่เพื่อเป็นผู้ช่วยของคุณ?

ล้วหาน หน้าเย่อหยิ่ง “ฉันแค่ต้องการผู้ช่วยฝีมือดี ส่วนอื่นๆ ฉันไม่ได้สนใจที่อยากจะรู้

หวาเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าคุณจะเดินหมากได้ดี กว่าฉัน”

ช่างเถอะ! ลั่วหานแค่ไม่เต็มใจจะยอมรับมัน ตอนนี้เธออยาก จะรู้คําตอบอย่างมาก! หวาเทียนต้องการเป็นหัวหน้าหมอ ไม่มี อะไรผิดปกติกับเรื่องนี้ แต่เธอรู้สึกว่า มันไม่ใช่ง่ายๆแบบนี้

หวาเทียนมีความสามารถพิเศษ มีความรับผิดชอบ อีกทั้งเขา ยังฉลาดมากพอ หากคุณต้องการต่อสู้เพื่อตำแหน่งทางการ แพทย์ มันช่างง่ายจริงๆ

อย่างนั้น จุดประสงค์ของเขาคืออะไร?

เดาไม่ออก
ประตูลิฟท์เปิดออก หวาเทียนก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมา

มอง

ล้วหานโกรธจนหัวเราะออกมา ชิ! จริงๆเลย

จงใจทิ้งหลุมพรางไว้ให้เธอ อีกทั้งไม่ยอมบอก นี่ไม่ได้จงใจ ทําให้เธออยากรู้หรอ?!

มองภาพของหวาเทียน ลั่วหานคิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง กด ลิฟต์ตรงไปขึ้นชั้นบนสุด

ออกจากลิฟท์ ลั่วหานขึ้นไปชั้นบนสุดของโรงพยาบาล แล้ว โทรศัพท์ขณะยืนอยู่ที่ดาดฟ้า

โทรศัพท์ดังไม่กี่วินาทีก็ถูกรับสาย

ไป๋เวยวางหนังสือพิมพ์ในมือ หน้าหนังสือพิมพ์เขียนตัว อักษรสีดำขนาดใหญ่ “หลังจากสามปี การกลับมาของบริษัท ชื่อ”

“แอนน่า มีธุระอะไร?”

บนดาดฟ้าลมแรงมาก พัดเสื้อจนปลิว ทำให้เกิดเสียงลม ลั่วหานจึงนำผมมาทัดไว้ที่หลังหู “มีเรื่องที่ฉันอยากให้คุณทำ”

“โอเค” ทางด้านนั้นไม่ลังเลสงสัยเลยสักนิด ตอบรับอย่างไม่ อ้อมค้อม

นี่ทำให้ลั่วหานคาดไม่ถึงเล็กน้อย รับปากอย่างตรงไปตรงมา เช่นนี้เลยหรอ?

“คุณไม่ถามว่าธุระอะไรหรอ? ไม่ถามตัวเองหรอว่าทำได้ ไหม?”

นี่มันใจซะเหลือเกิน หรือเกินความสามารถไปหน่อยไหม?

ไป์เวยหัวเราะ แสดงออกผ่านการได้ยิน เพียงแต่เสียง หัวเราะของเธอ ทำให้ลั่วหานผ่อนคลายและสบายใจอย่าง แปลกประหลาด

“คุณให้ฉันทำธุระอะไร ฉันจะไม่มีวันปฏิเสธ อีกทั้ง เพราะคุณ

ยินดีที่จะให้ฉันทำ แน่นอนต้องรู้สึกว่าฉันทำได้ ดังนั้นฉันไม่ จําเป็นต้องถาม” เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ! นี่ช่างเฉลียวฉลาดจริงๆนะ
“ตอนนี้ฉันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทอู่ซื่อ เป็น ประธานกรรมการบริหารบริษัทอู่ซื่อ ดังนั้น ฉันอยากให้คุณเป็น คนบริหารบริษัทอู่ซื่อแทนฉัน

“ตกลง”

“ฉันจะแต่งตั้งให้คุณเป็นประธานของบริษัทอู่ซื้อ คุณสามารถ มีอำนาจตัดสินใจเด็ดขาดได้ทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องขอคำสั่ง จากฉัน”

ทุกเรื่อง? อำนาจตัดสินใจเด็ดขาด?

อำนาจอย่างนี้ ให้สูงเกินไปหรือเปล่า?

ไป๋เวยไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมคุณถึงเชื่อใจฉันขนาดนี้? ไม่ กลัวฉันแอบยักยอกทรัพย์สินของคุณ ค่อยๆยึดครองบริษัท ของคุณหรอ?”

ลั่วหานยิ้มเล็กน้อย เงียบไม่พูด ใช้คนอย่าสงสัย”

ก็เพียงพอ

“คุณวางใจเถอะ ฉันดูแลบริษัทอู่ซื่อได้อย่างแน่นอน ช่วยให้บริษัทอู่ซื่อเดินไปในทางที่ถูกต้อง”

“เวลานี้คนของบริษัทอู่ซื่อ คุณชำระสะสางได้ตามสบาย ขอ เพียงแต่เหลือฝ่ายการเงินไว้

ฝ่ายการเงิน นึกถึงตรงนี้ ลั่วหานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

“ทำไมล่ะ?”

“เขาเป็นคนที่สามีของฉันจัดหามา สามารถช่วยสนับสนุนคุณ ให้บริษัทบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นคนคนนี้สามารถเชื่อถือได้”

“โอเค ฉันรู้ว่าต้องทำอย่างไรแล้ว

“หลังจากนี้เรียกฉันว่าลั่วหานก็ได้ ฉันหวังว่าเราจะเป็นเพื่อน แท้กันได้”

เพื่อน?

คำคำนี้ห่างไกลไป์เวยเกินไป แต่เธอก็เฝ้ารออย่างมาก

“โอเค อย่างนั้นฉันเรียกคุณว่าถั่วลั่วได้ไหม?”
“ได้แน่นอน”

ฉากที่ดูเหมือนเมื่อวานในอดีต แต่คิดว่าไกลจนเอื้อมไม่ถึง ขนาดนั้น เวลาเป็นสิ่งน่ามหัศจรรย์จริงๆ

ลั่วหานยืนอยู่บนดาดฟ้า เหม่อมองเมืองหลวงแห่งนี้ที่เลิศ หรูราวกับฝัน สูดหายใจเข้าลึกๆ เธอสูญเสีย เธอแบกรับภาระ ตอนนี้สามารถกลับมาได้ทีละนิดทีละนิด เรียกหน้าตากลับคืน มาทีละหน่อย

คิดๆดูแล้ว ก็รู้สึกดี

จี้ตงหมิงรีบเดินเข้าไปที่ห้องทำงานของหลงเซียว ผลักประตู ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เข้าไปรายงานว่า “เจ้านาย ตู้หลิงเซวีย นกลับนิวยอร์กไปแล้ว เครื่องบินเพิ่งจะออกไป

หลงเซียวท่าทางเฉยเมยไม่แสดงออกอะไร “อึม”

คำตอบนี้มันง่ายเกินไปหน่อยหรือเปล่า? ตู้หลิงเซวียนกลับ ไปเป็นเพราะว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทหลันเทียนตรวจพบ ว่าทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง…….
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จี้ตงหมิงมักจะรู้สึกว่า เจ้านายตนเองดู เหมือนจะทำเรื่องอะไรไม่ค่อยดีนัก

“เจ้านาย ความร่วมมือของตู้หลิงเซวียนกับเกาจึงอานได้ล้ม เลิกไปแล้ว ต่อไป พวกเราให้ผลประโยชน์ต่อเกาจึงอานสัก หน่อยได้ใช่ไหม?”

ไม่อย่างนั้นจะปลอบขวัญคุณชายท่านนี้ได้ไม่ดี?

จี้ตงหมิงสังเกตจากสีหน้าและคำพูด พูดอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้เขาไม่เข้าใจเจ้านายเลยสักนิด ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่ใช่ เวลาที่จะลงมือกับตู้หลิงเซวียน ถึงอย่างไรเสิ่นเหลียวเพิ่งจะ สูญเสียเนื้อชิ้นใหญ่ไป รักษาไว้ไม่ได้จึงใส่ร้ายผู้อื่น

หากว่าตู้หลิงเซวียนเป็นสุนัขจนตรอก ถึงเวลาพวกเขาไม่ ต้องต่อสู้กันไปมาหรอ?

หลงเซียวพลิกดูเอกสาร แล้วเซ็นลายเซ็น ลายเซ็นที่สะบัด ราวกับนกอินทรีย์บินวนอยู่ “เกาจิ่งอาน? ฉันจำเป็นต้องให้ผล ประโยชน์อะไรแก่เขา?”

จี้ตงหมิงถูกเขาตอกหน้ารวดเดียว แน่นอนว่า…ไม่จำเป็น
หลงเซียวยื่นเอกสารที่เซ็นให้เขา “นี่คือใบสั่งซื้อสินค้า เครื่องจักรหนึ่งชุด คุณต้องไปเยอรมันด้วยตนเอง ตรวจสอบ ให้แน่ใจว่าเครื่องจักรจะส่งถึงโรงงานของบริษัท ชื่อภายใน สองวันนี้ เชิญกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากในประเทศ ชี้แนะให้คนงาน ของบริษัทอู่ซื่อเรียนรู้การควบคุมเครื่องจักรให้เร็วที่สุด”

“ครับ……

เจ้านายให้บริษัทอู่ซื่อกลับมาดูแลจัดการด้วยตนเองไม่ได้ หรอ? ทําไมต้องกลับมายังจุดเดิม? เป็นห่วงทำสิ่งนี้ด้วยตนเอง สิ่งที่เหมาะสมก็คือจัดการดูแลอสังหาริมทรัพย์ด้วยตนเอง!

เอาใจใส่มากกว่าบริษัทของตนเอง

จ็คตงหมิงหยิบใบรายการ จากนั้นก็เห็นจำนวนเงินทุนที่มุม ล่างซ้าย อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

“ยังมีอีกอย่าง ใบเสร็จเงินทุนวันนี้ของเงินเหลียว ให้ คุณชายกู้ใช้เงินทุนของเสิ่นเหลียวก่อนเพื่อทำรายการบัญชี ให้ออกมาดูดี เมื่อถึงเวลาอย่าเอาใบเสร็จไม่เป็นรูปเป็นร่าง ออกมา”
“ครับ ผมจะไปบอกคุณชายกู้ทันที เจ้านายจะกำชับอะไรอีก

ไหม?”

ดึงเอกสารออกมาอีกหนึ่งชุด “นี่คือรายการส่งออกสำหรับ ไตรมาสถัดไปของ MBK แบ่งให้บริษัทอู่ซื่อหนึ่งในสาม ก่อน ที่จะเริ่มผลิตสินค้าอย่างเป็นทางการ รับประกันการทำงานปกติ ของบริษัท ซื่อ”

“ครับ”

เจ้านาย คุณเข้าข้างคนอื่นมากไปหรือเปล่า? แทบอยากจะโอนMBKส่งให้กับบริษัทอู่ซื่อแล้ว “ไม่มีอะไรแล้ว ออกไปเถอะ”

“ครับ”

จี้ตงหมิงออกจากห้องทำงานโดยถือเอกสารสองชุด ยัง ไม่ทันได้ปิดประตู ก็ได้ยินเจ้านายคุยโทรศัพท์

“แอนดี้ คืนนี้สองทุ่มจองที่นั่งให้ฉันด้วย ใช่ ห้องอาหาร ฝรั่งเศสชั้นบนสุดของอาคารหัวชิว”
จี้ตงหมิงเหลือกตามองบน เจ้านาย…..นี่คือต้องเปลี่ยนนิสัย เลยหรอ?

กิจการงานก็ช่วยเหลือ การดำรงชีวิตยังเอาใจทุกอย่าง ท่าทางทาสเมียคนนี้ แต่ก่อนมีท่าทีสักนิดที่ไหน?

“ผู้ช่วยจี้ คุณทำอะไรอยู่?

จี้ตงหมิงยังอยู่ในจินตนาการ ทันใดนั้นเสียงก็ดึงความคิดของ เขากลับสู่ความเป็นจริง

“ท่านประธานกรรมการ? ท่านมาได้อย่างไร?”

เชี่ย! คุณพ่อมาเยือนกะทันหันหมายความว่าอย่างไร?

“ฉันมาไม่ได้หรอ?”

หลงถึงสีหน้าหมองคล้ำ น้ำเสียงยิ่งเย็นชาขึ้นไปอีก

“ไม่ใช่อย่างแน่นอน เชิญท่านประธานกรรมการ ท่านประธาน ก็อยู่ที่ห้องทำงาน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ