ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 70 โพล่งออกมาเป็นชื่อเธอ



ตอนที่ 70 โพล่งออกมาเป็นชื่อเธอ

ตอนที่ 70 โพล่งออกมาเป็นชื่อเธอ

มันทรงพลังขนาดไหนกัน ทำให้เด็กหญิงวัยห้าขวบ กระโดดลงไปข้างล่างอย่างไม่ระมัดระวังเลย

ความปรารถนาที่มีต่อคุณพ่อ ความผูกพันและความรัก ของพ่อได้ทำลายความกลัว ถ้าไม่มีคุณพ่ออยู่ข้างๆ ต่อไป เด็กจะเติบโตอย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่?

หัวใจเธอหนักอึ้ง หดหูอย่างอธิบายไม่ได้

ออกมาจากห้องผู้ป่วย ฉู่ลั่วหานเดินไปที่ร้านกาแฟในโรง พยาบาล นั่งเก้าอี้ข้างหน้าหน้าต่าง เงยศีรษะขึ้นไปจะเห็น ต้นไม้เขียวชอุ่มนอกหน้าต่าง

“และไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคิดยังไง เด็กอายุห้าเดือนแล้ว อยากจะเขียทั้ง! ถ้าลูกในท้องเธอเป็นผู้ชาย ทิ้งไปน่า เสียดายมาก! และเธอก็จะสามสิบแล้วด้วย ต่อไปอยากจะ ท้องอีกก็ยากแล้ว”

“คราวที่แล้วเธอมาตรวจครรภ์บอกว่าต้องคลอดลูกออก มาให้ได้ จู่ๆ วันนี้เปลี่ยนใจกะทันหัน ฉันว่าน่าจะเกี่ยวกับผู้ชายของเธอ ดูเหมือนทั้งคู่จะหย่ากัน ลูกคลอด ออกมาเธอไม่มีสิทธิ์เลี้ยงดู เลยสู้ไม่คลอดดีกว่า ในอนาคต จะได้ไม่ต้องทนทุกข์คิดถึง

แผนกเรามีเด็กคลอดทุกวัน บางคนทำแท้ง ก็มีทุกข์มี สุขมีอยู่ร่วมและพลัดพราก เหมือนการแสดงในทีวี แผนก นรีเวช ช่างเป็นสถานที่ที่วิเศษจริงๆ”

ไปกันเถอะ วันนี้ยุ่งอีกแล้ว”

แพทย์หญิงสองคนซื้อกาแฟแล้วจากไป ฉู่ลั่วหานกำแก้ว แน่น ลืมไปว่าต้องกวน

เด็กต้องการคุณพ่อ เด็กในท้องของโม่หรูเฟยก็เช่นกัน ถ้าในอนาคตเธอและหลงเชียวไม่หย่ากัน หลงเชียวก็ แต่งงานกับโม่หรูเฟยไม่ได้ เด็กก็ต้องสูญเสียพ่อแม่คนใด คนหนึ่งไป

นี่มันไม่ยุติธรรมกับเด็ก

เด็ก เป็นผู้บริสุทธิ์ เรา

ดังนั้นเพื่อเด็กคนนี้ เธอต้องหย่ากับหลงเชียวให้เร็วที่สุด

ฉู่ลั่วหานหัวเราะเยาะตัวเองที่เงาสะท้อนบนหน้าต่าง กระจก ไม่คิดว่าตอนนี้จะมีความคิดเช่นนี้

บริกรนำกาแฟมาเสิร์ฟ ฉู่ลั่วหานยื่นมือไปสัมผัส กาแฟ ร้อนมาก ร้อนจนเธอได้สติคืนมาปล่อยมือออกจากแก้ว เป่า และเม้มปาก

เปิดโทรศัพท์ดู ไม่มีคนโทรและส่งข้อความมา หลงเซียว ไม่สนใจการมีอยู่ของเธอจริงๆ

การหย่าร้างเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

เลิกงานกลับบ้าน โม่หรูเฟยกำลังยืนสั่งสอนหลิงหลิงและ ชุนชุนอยู่ในห้องรับแขก คำพูดน่าเกลียดสุดๆ การถากถาง ไม่เหมือนการปลูกฝังที่ผู้หญิงทุกคนควรมี แย่ยิ่งกว่าผู้ หญิงบ้านนอกที่สบถด่าข้างถนน

“นี่คือผ้าไหม! ผ้าพันคอผ้าไหมปราด้ารุ่นลิมิเต็ด! ซักใน เครื่องซักผ้าได้ยังไง! แกไม่เคยเห็นของดีหรือไง? ชั้นต่ำ เหมือนเจ้านายแกเลยนะ!”
“แกก็ด้วย ฉันอยากกินเห็ดหูหนูขาวซุปเม็ดบัว แกใส่ น้ำตาลเยอะขนาดนี้อยากให้ฉันตายเหรอ?! แกไม่รู้เหรอว่า กินหวานแล้วจะอ้วน? มีสามัญสำนึกสักนิดไหม! เลี้ยงพวก แกเสียข้าวสุกจริงๆ !”

“หยิบเปลือกเมล็ดทานตะวันที่พรมขึ้นมาทีละชิ้นให้ฉัน! มันคือพรมขนยาวเปอร์เซีย ใช้เครื่องดูดฝุ่นไม่ได้ใช้มือ หยิบทีละชิ้น! ถ้าทำพังแม้แต่นิดเดียว เงินเดือนพวกแกสิบ ปีก็ไม่มีปัญญาซื้อ!”

โม่หรูเฟยจงใจกินเมล็ดทานตะวันที่ห้องรับแขก โยน เปลือกเมล็ดทานตะวันลงบนพรม พรมทำมาจากวัสดุขน ยาวนุ่มๆ ทิ้งลงไปแล้วมันเก็บทำความสะอาดยากมาก เธอ ให้คนใช้เก็บขึ้นมา หลิงหลิงและชุนชุนไม่กล้าขัดคำสั่ง คุกเข่าแล้วหยิบขึ้นมาอย่างระมัดระวังบนพรม

ฉู่ล้วหานวางรองเท้าไว้ที่ชั้นวาง เงยศีรษะเห็นรองเท้าสัน สูงสีแดงสดคู่หนึ่งวางอยู่บนชั้นวางรองเท้าCaspanitinoสี ขาว ความหมายของการแย่งชิงอำนาจของโม่หรูเฟยนั้น ชัดเจน ทำตัวเป็นคุณนายของบ้านโดยตรง!

หยิบรองเท้าเธอขึ้นมา คู่ลั่วหานอยากจะโยนออกไปนอก บ้าน แต่คิดๆ แล้ว แค่ยัดไว้ชั้นล่างสุดก็พอ
ภายในห้องรับแขก โม่หรูเฟยยืนใต้แสงไฟโคมระย้า ขนาดใหญ่ที่ห้อยลงมา แสงคริสทัลส่องสว่างทำให้ผิวเธอ คู่สว่างไสว

“หลิงหลิง ชุนชุน ทำอะไรน่ะ? ถึงพรมในบ้านจะสบาย แต่ มันก็ลุกขึ้นยากใช่ไหม?” จู่ลั่วหานวางกระเป๋าลง พูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติ

หลิงหลิงมองเธออย่างอายๆ “คุณนาย คือ….คุณโม่ให้ เราเก็บเปลือกเมล็ดทานตะวัน”

“งั้นเหรอ? ใครสายตาไม่ดีโยนเปลือกเมล็ดทานตะวันลง พรม? คนไหนสายตาไม่ดีทั้งลงไปคนนั้นก็เก็บขึ้นมาเองสิ หลิงหลิง ไปรินน้ำชามาให้ฉันหน่อย”

โม่หรูเฟยกอดอกเดินไปข้างหน้าเธอทีละก้าว “จู่ลั่วหาน เพราะเธอ พี่เซียวรังเกียจจนไม่กลับมา แกยังมีหน้ากลับมา อีกนะ!”

ฉู่ลั่วหานให้หลิงหลิงไปรินน้ำชาก่อนถึงพูดตอบ “โม่หรู เฟย ทำฉันด้วยวิธีรุนแรงไม่มีประโยชน์หรอกนะ เก็บแรง ไว้เถอะ สำหรับเหตุผลที่พี่เซียวของเธอไม่อยากกลับมา เธอคิดเองก็พอ”
ฉู่ลั่วหานพูดพลางนั่งโซฟา “ซุนชุน ไม่ต้องเก็บแล้ว”

ชุนชุนไม่กล้าลุกขึ้น “คุณนาย ยัง….เก็บไม่สะอาดเลยค่ะ”

ไม่ต้องแล้ว พรมสกปรกเดี๋ยวก็เอาออกไปทั้งแล้ว”

โม่หรูเฟยสาปแช่งอย่างรุนแรง “นี่มันพรมที่ฉันเอามาจาก ตระกูลโม่นะ คู่ลั่วหานแกหมายความว่าไง! แกว่าของของ ตระกูลโม่เป็นพรมสกปรก? แล้วตระกูลจู่ของพวกแกเป็น แบบไหนกัน? เฮอะ บัญชีปลอม เลี่ยงภาษี น้องสาวแสนดี ของแกยังมีเรื่องอื้อฉาวทุกวัน ดีเสียเลยเกิน!”

สายตาฉู่ลั่วหานมองไปที่ท้องน้อยเธอ ยกแก้วชาปิดบัง ความเศร้าโศกในดวงตา “ตระกูลฉู่สู้ตระกูลโม่ไม่ได้จริงๆ แล้วยังไง? เธอมีตระกูลโม่สนับสนุนแล้วยังไง? ก็ยังเข้า ประตูตระกูลหลงไม่ได้?”

“ฉู่ ลั่วหาน แกมันปากดี! สมควรแล้วที่พี่เซียวไม่รักแก ตัว เองออกไปข้างนอกก็ยังไม่บอกแก! ฮ่าๆ พี่เซียวไปไหน ไป ทำอะไร กลับมาเมื่อไร แกไม่รู้ด้วยซ้ำ!”
เธอไม่รู้จริงๆ นั่นแหละ “เธอรู้เหรอ?”

ด้วยความกังวล เธอไม่สนว่าเธอกำลังขุดหลุมหรือไม่ กระโดดลงไปทันที

โม่หรูเฟยยืนอยู่บนจุดสูงสุด ยิ่งภูมิใจขึ้นเรื่อยๆ เธอสวม ชุดกระโปรงรัดรูป ถึงแม้จะอยู่บ้านก็แต่งตัวเหมือนเดินแค ทวอล์ค แต่งหน้าสมบูรณ์แบบตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนถึง ตอนกลางคืนนอน เตรียมพร้อมที่จะถูกนักข่าวถ่ายภาพ และได้รับการชื่นชมจากผู้ชาย

อ้อมพรม เธอนั่งโซฟา ขาเรียวยาวไขว้กัน “ฉันรู้อยู่แล้ว พี่เซียวบอกฉันตั้งแต่วันแรกที่ไป ไม่อยากให้ฉันเป็นห่วง เขา เลี้ยงลูกในท้องอยู่ที่บ้าน วันนี้ก็โทรมาบอกฉันว่าอยู่ บ้านทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง พี่เซียวก็จริงๆ เลยนะ ยุ่งขนาดนั้นก็ยังเอาใจใส่ ฉันกลัวโดนเขาเอาใจจน เสียคนจริงๆ”

ตอนหลงเซียวออกไปไม่ได้บอกใครเลย เธอโทรถามครั้ง แล้วครั้งเล่าต่างหาก ท่านเซียวขี้เกียจรับมือก็เลยตอบ

และวันนี้ โม่หรูเฟยก็โทรหาเขาหลายครั้งกว่าหลงเซียวจะรับสาย

โม่หรูเฟยเพิ่งตระหนักได้ว่าหลงเซียวใส่ใจเธอน้อยลง เธอเตือนเขาด้วยลูกก็ทำให้เขาสนใจขึ้นมานิดเดียว

แต่ความสนใจนั้น ไม่มีความอ่อนโยนเลย

อุปสรรคในใจจู่ลั่วหานถูกเธอบดขยี้ เธอมีคุณค่าน้อยมาก ในหัวใจหลงเซียว เขาไม่ปฏิบัติต่อเธอในฐานะภรรยา

ความเป็นห่วงของเขาที่มีต่อโม่หรูเฟย เธอไม่เคยได้รับ มาก่อนเลย เขามักจะหยิ่งผยองต่อเธอ ไม่มีความอ่อนโยน เลย

เจ็บมาก เสียใจมาก น้ำตาเกือบไหลออกมาอีกครั้ง แต่ เธอกลั้นไว้ “งั้นก็ดี”

พูดจบ จู่ลั่วหานก็ยกเท้าขึ้นบันไดวนคดเคี้ยวจู่ลั่วหานข นบันไดไปไม่กี่ขั้น–

ระหว่างเธอกับหลงเซียว เคยมีความรักกันจริงๆ เหรอ?
แม้แต่วันเดียว นาทีเดียว พริบตาเดียว หลงเซียวเคยรัก เธอจริงๆ ไหม?

“จู่ลั่วหาน ห้องนอนเธออยู่ชั้นหนึ่ง! ขึ้นไปทำไม? โดดตึก ที่นี่ไม่ได้นะ หรืออยากตกลงมาพิการแล้วไม่ไปจากที่นี่?”

เมื่อครู่นี้เธอใจลอยเลยขึ้นชั้นบน ถูกโม่หรูเฟยถากถา ฉู่ลั่วหานพูดขึ้นโดยไม่ได้หันศีรษะกลับไป “ฉันไปห้อง ทำงาน ไม่ต้องเป็นห่วง ห้องนอนนั้นที่มีของของเธอฉันไม่ เข้าไปเหยียบหรอก”

โม่หรูเฟยนั่งโซฟาเงยศีรษะขึ้นมาพูดดูถูก “งั้นแกคง ไม่มีโอกาสเข้าไปตลอดชีวิต! เฮอะ ห้องทำงานเหรอ? เส แสร้งให้ใครดู? เฮอะๆ ฉันเกือบลืมไป คุณหมอฉูลัมเหลว ในการคัดเลือกศาสตราจารย์นี่หน่า นี่จะทำงานหนักใน สงครามโลกครั้งที่สองเหรอ? ฮ่าๆ เปล่าประโยชน์ ชื่อเสียง ตัวเองไม่ดียังอยากจะเป็นศาสตราจารย์ ไม่ดูน้ำหน้าตัวเอง เลย!”

ลั่วหานเอานิ้วกดราวบันได เธอเกือบหักไม้แข็งแล้ว “โม่หรูเฟย พูดพอหรือยัง? พูดพอแล้วก็หุบปากซะ! ฉัน ไม่อยากทะเลาะกับเธอ ไม่อยากทำอะไรเธอด้วย ทางที่ดี ดูแลลูกในท้องตัวเองไปซะ เราอยู่ในความสงบอย่างทะเลาะกันเลย”

คืนนั้น ฉู่ลั่วหานนอนไม่หลับ เธอลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่าง ระเบียงห้องนอน นั่งเก้าอี้ริมหน้าต่างที่ยื่นออกมาจากผนัง สายลมยามค่ำคืนฤดูร้อนกำลังพัดมา พัดหน้าต่างๆ เบาๆ และพัดชุดนอนผ้าไหมของเธอ ค่ำคืนอันยั่วเย้า ความ งดงามของเธอไม่มีใครชื่นชม

ค่ำคืนแบบนี้ เธอคิดถึงเขามาก คิดถึงมากๆ! เธอคิดถึง อ้อมกอดของเขา อ้อมกอดที่เอาแต่ใจและเย็นชา แต่เธอก็ รู้ว่าไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะเลิกกันอย่างสิ้นเชิง

ในโทรศัพท์ ยังไม่มีสายและข้อความจากเขา

และเธอจะโทรหาเขาในฐานะอะไร? โทรไปก็กลายเป็น

รบกวนไหม?

ความอวดดีที่หลอมขึ้นในตอนกลางวันพังทลายลงอย่าง สิ้นเชิงในตอนกลางคืน จู่ลั่วหานรู้ตัวเองดีว่าเธอเป็นแค่

เสือกระดาษ

เพื่อบังคับให้ตัวเองหลับ เธอปิดโทรศัพท์ ดึงผ้าม่าน สักหลาดหนาปิดบังแสง เปิดเครื่องปรับอากาศให้หนาวคลุมด้วยผ้าห่มและหลับไป

และเธอไม่รู้ว่าหลงเซียวที่อยู่เมือง A ห่างไกล ขณะที่ พลิกตัวไปมา ตอนโทรศัพท์มาก็ขึ้นเตือนว่า “ปิดเครื่อง”

อยู่

ท่านเซียวหันหน้าออกจากระเบียง ในห้องสูทเพรสซิ เดนท์โรงแรมฮิลตัน รูปร่างสูงตระหง่าน กำลังคนแก้วไวน์ โคลงเคลงไปมา

เขาพบว่าหลังจากจากเธอมา ก็นอนไม่หลับเลยถ้าไม่ได้

พึ่งแอลกอฮอล์

แต่ผู้หญิงคนนั้น ตอนไม่มีเขาก็นอนหลับสบายทุกคืนเห

รอ?

ท่านเซียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งและโทรออก มีแค่ เสียงผู้หญิงในเครื่อง “ขอโทษค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่ สามารถติดต่อได้….”

และในขณะนี้ โม่หรูเฟยก็โทรมา

ท่านเซียวมองชื่อที่กะพริบอย่างรำคาญ ขมวดคิ้วแน่นคว่ำโทรศัพท์ไม่สนใจมัน

ไม่มีคนรับโทรศัพท์ เธอก็โทรครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุด หลงเซียวก็หยิบมันขึ้นมาอย่างหัวเสีย “จู่ลั่วหานเธอคิดจะ ทำอะไร?”

โม่หรูเฟยที่นอนบนเตียงตกตะลึง!

เสียงและการเคลื่อนไหวท่านเซียวเกิดขึ้นในเวลา เดียวกัน เมื่อครู่นี้เขาพูดโพล่งชื่อของเธอจริงๆ เหรอ?

ให้ตายเถอะ! เขากำลังคิดอะไรอยู่!

“พี่เซียว จู่ลั่วหานยัยผู้หญิงน่าเกลียดนั่นมารบกวนพี่อีก แล้วใช่ไหม? เธอไม่รู้เหรอว่าตัวเองเป็นใคร…”

“โม่หรูเฟย ถ้าฉันได้ยินเธอด่าเธออีก ไสหัวไปทันที”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ