ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 224 เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ ได้



ตอนที่ 224 เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้

รถยนต์ยี่ห้อมาเซราติสีขาวปรากฏตัวในคฤหาสน์ ตระกูลเฉียวตรงเวลา คนขับรถของตู้หลิงเซวียน เปิดประตูรถยนต์ข้างหลังด้วยท่าทางต้อนรับ และ พูดว่า “เชิญคุณ แอนน่าขึ้นบนรถครับ”

แอนน่าก้มตัวโค้งเพื่อเตรียมขึ้นรถ แต่จู่ๆเธอก็ได้ กลิ่นดอกกุหลาบจางๆขึ้น เมื่อขึ้นบนรถก็พบว่า ตรง ที่นั่งข้างหลังมีดอกกุหลาบหลายดอกวางอยู่ ซึ่งเป็น พันธุ์เดียวกับที่เธอได้รับที่อเมริกา

ดูเหมือนช่วงนี้เควินจะชอบเซอร์ไพรส์ดอกกุหลาบ แล้ว สงสัยคิดว่าเธอคงชอบมาก

คนขับรถขับรถอย่างนิ่งเงียบตลอดทาง แต่ระหว่าง ทางก็เปิดเพลงเบาๆ ขณะเดียวกันกลิ่นดอกกุหลาบ ก็อบอวลไปทั่วคันรถ จนแอนน่าที่อยู่ข้างหลังรู้สึก รื่นรมย์อยากหลับแล้ว

ครึ่งชั่วโมงต่อมารถยนต์ก็จอดลง แอนน่าที่ลืมตา อย่างพร่ามัวก็เห็นเควินสวมชุดสูทสง่างามยืนรออยู่บนขั้นบันได เขาเดินลงมาเปิดประตูรถยนต์ด้วยตัว เอง แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนพูดว่า “เหนื่อยไหมครับ?”

นั่งรถแค่ครึ่งชั่วโมงแค่นี้ก็คิดว่าเหนื่อยแล้วหรอ? ฉันไม่ออเซาะสักหน่อย

“ไม่ค่ะ”

เมื่อกวาดตามองรอบบริเวณสักพัก แอนน่าก็รู้ทันที ว่าที่นี่คือที่ไหน ตอนที่เธอเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างๆกับ เควิน เขามักจะมาแต่งหน้าและแต่งตัวที่นี่เสมอ ที่นี่ ถือเป็นสถานที่ที่แต่งตัวของตู้หลิงเซวียนและเสื้อผ้า เครื่องประดับ การแต่งตัวล้วนเป็นฝีมือของมืออาชีพ ของนิวยอร์ก แอนน่ายังจําได้ตอนที่เธอมาที่นี่ครั้ง แรก หลังจากแต่งหน้าเสร็จ เธอแทบไม่อยากเชื่อ เลยว่าคนที่อยู่ในกระจกคือตัวเอง

เข้าไปกันเถอะ”ตู้หลิงเซวียนยื่นมือโอบเอวบาง ” ของแอนน่าเล็กน้อย จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไป ด้วยกัน

พนักงานสิบกว่าคนเดินเข้ามาล้อมรอบพวกเขาทั้ง สองคน ผู้รับผิดชอบหลักสอบถามขึ้นว่า “คุณเควิน วันนี้คุณอยากแต่งตัวแบบไหน? ไม่ทราบว่าเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบไหน?”

แอนน่าเหลือบมองประเมินเควินและรอฟังคําตอบ ของเขา จากนั้นเขาก็ตอบอย่างชัดเจนและกระจ่าง ว่า “งานเลี้ยงครอบครัวเป็นทางการ และเข้าร่วมกับ ว่าที่คู่แต่งงานด้วย”

“โอเค! ฉันเข้าใจแล้ว”

แอนน่าขมวดคิ้ว และพูดแทรกนักออกแบบที่กำลัง ดำเนินการว่า “ไม่ต้องทำให้ยุ่งยากก็ได้ เอาแต่เรียบ ง่ายก็เพียงพอแล้ว ช่วงนี้ผิวหน้าของฉันค่อนข้าง โทรม ไม่เหมาะแต่งงานจัด”

พูดจบ แอนน่าก็หันหน้ายิ้มต่อเควินอย่างมีมารยาท

“โอเค เอาตามที่เธอต้องการเลย แต่งหน้าอ่อนๆ พอ” หลังจากที่พูดกับนักออกแบบจบเควินก็ซักถาม เธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เรื่องชุดแต่งงาน คุณมี ไอเดียอะไรอยากเสนอพวกเขาบ้าง คุณเป็นตัวหลัก พวกเขาจะรับผิดชอบให้

แอนน่าอยากพูดตามความจริงแบบนี้ว่า อย่าเสียเวลาเลย

พวกเขาล้วนเป็นนักออกแบบระดับสูง ฉันไม่กล้า ” ละลาบละล้วงหรอกค่ะ ฉันเชื่อว่าพวกเขาเข้าใจ ความต้องการของฉันอยู่แล้วล่ะค่ะ”

แอนน่ายิ้มเล็กน้อย เพราะในใจมีความรู้สึก หวาดระแวง ไม่ว่าเควินพูดอะไร เธอต้องไตร่ตรอง อย่างละเอียด จนตอนนี้เธอรู้สึกเลอะเลือนแล้ว

“ดีครับ อันที่จริงผมเองก็ไม่ค่อยชอบให้คุณแต่ง หน้า เดี๋ยวจะดูโอเวอร์เกินไป อีกอย่างเดิมทีคุณก็ เป็นคนสวยอยู่แล้ว สวยแบบธรรมชาติด้วย”

เมื่อได้ยินเควินพูดแบบนี้ แอนน่าก็ทำได้เพียงยิ้ม ตอบรับ เพราะได้ยินหลายครั้งมากแล้ว เลยไม่ค่อย รู้สึกสักเท่าไหร่

เมื่อก่อนตอนได้ยินรู้สึกซ้ำซาก แต่เมื่อฟังตอนนี้ รู้สึกน่าสงสัย

อืม ตกลงเควินคนนี้ชอบเธอด้วยความจริงใจหรือ แค่ต้องการอยากแต่งงานกับเธอเท่านั้น หรือมี เจตนาอย่างอื่นแอบแฝง
เมื่อทําตามความต้องการของแอนน่าการแต่งหน้า และแต่งตัวก็เรียบง่ายทันที ส่วนทรงผมทําเป็นลอน ปลายปาดบนไหล่ และปาดปิดผิวหนังขาวเนียนแผ่น หลังด้วย ซึ่งดูแล้วน่าหลงไหลมาก

ขณะที่เควินจะเอ่ยปากพูด แอนน่าก็รีบพูดขึ้นว่า ใกล้ถึงเวลาแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”

เควิน ไม่เผยสีหน้ารําคาญและไม่พอใจออกมาเลย แต่จ้องมองเธอด้วยสายตาชื่นชม “ยังมีเวลาอยู่อีก สักหน่อย ไม่ต้องรีบ เดียวค่อยพักผ่อนระหว่างทาง

ช่างพักผ่อนเถอะ ตอนนี้สภาพจิตใจของเธอสับสน และคลุ้มคลั่งเหมือนอยู่สวนสัตว์

หลังจากที่หลงเซียวออกจากคฤหาสน์ก็เห็นหยัง เซินยืนรออยู่นอกรถยนต์ “ท่านประธาน สวัสดีครับ

หลงเชียวพยักหน้าเล็กน้อย แล้วขึ้นบนรถยนต์ จากนั้นหลงเขียวก็หลับตาลง ดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยเมื่อหยังเซินเห็นเจ้านายมีอาการเหนื่อยเพลียจาก กระจกส่องข้างหลัง ก็ชักถามอย่างเป็นห่วงว่า “ท่าน ประธานครับ หรือว่าจะหยุดพักที่นี่สักครู่ก่อน แล้ว ค่อยออกเดินทาง?”

*ไม่ต้องหรอก ไปบริษัทเลย”

เขานวดขมับเล็กน้อย สภาพของเขาในตอนนี้ดูแย่ มาก เหมือนกับไม่ได้นอนมาทั้งคืน แล้วมีกระจิตกระ ใจได้ยังไงกัน

“หยิบตารางมาให้ฉันหน่อย”

หยังเขินยีนตารางงานให้กับเขา ตารางงานของ สองวันนี้อยู่ในนั้นครับ เชิญท่านประธานดูเลยครับ”

หลงเชียวตอบอืม แล้วเริ่มเพ่งสมาธิอ่านตารางงาน

เรียกประชุมตั้งแต่เช้าเลยหรอ คนพวกนี้ว่างมาก นักหรอ!
เอกวาดตามองข้างล่าง หลงเขียวก็ยังคงขมวด คิ้วไม่คลาย เพราะตารางงานสุดท้ายของวันนี้เขาไม่ ค่อยโอเค

ส่วนบรรทัดสุดท้าย กำกับบุคคล สถานที่ เวลา อย่างชัดเจนเหมือนกับป้องกันไม่ให้เขาปฏิเสธ

งานเลี้ยงตระกูลโม่กับตระกูลหลงจัดขึ้นที่คฤหาสน์ ของตระกูลหลง และเรื่องที่คนของทั้งสองตระกูลจะ พูดคุยกันนั้น ไม่ต้องบอก หลงเซียวก็รู้

แทบไม่คำนึงต่อความต้องการของเขาเลย หีม!

ได้ ในเมื่อพวกเขาคิดจะแสดง เขาก็พร้อมแสดง สมทบกับพวกเขา

รถยนต์ขับมาถึงตึก MBK หลังจากจัดระเบียบ เสื้อผ้าเสร็จ เขาก็เดินเข้าประตูกระจกหมุน ขณะ เดียวกันหลงจื่อก็เดินตามไปด้วย

“พี่ใหญ่!”

เมื่อได้ยินเสียง หลงเซียวก็หันหลังมอง และเห็น หลงจื่อ วันนี้หลงจื่อดูไม่เหมือนกับปกติ
เมื่อก่อนต่อให้มาทํางานที่บริษัท เขาก็จะแต่งตัว สบายๆ อย่างเช่นสวมกางเกงยีน เสื้อเชิ้ต รองเท้า ผ้าใบสีฟ้า แต่วันนี้เขากลับแต่งเป็นชุดสูท ซึ่งดูอ่อน วันมาก อีกอย่างเขาแต่งตัวเหมือนเด็กที่ไม่เหมาะสม แต่งตัวเหมือนกับผู้ใหญ่ แต่ต้องยอมรับว่าเขาดูโต ขึ้นไม่น้อยเลย

หลงเขียวพยักหน้าเล็กน้อย “วันนี้ถือว่ามาตรงต่อ

เวลา”

เมื่อก่อน หลงจื้อจะไม่มาทํางานก่อนเวลาสิบเอ็ด โมง และต้องเลิกงานก่อนห้าโมงเย็น เขามาทํางานที่ นี่เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่กลับเหมือนกับเขา มาพักร้อน และหัวหน้าแผนกที่เขาทำงานก็ไม่กล้า ทําหนิด้วย

หลงจื่อทําปากมุ้ย และยักไหล่ด้วยท่าทางไม่ค่อย ยอมรับ “ผมเองก็ไม่อยาก….” เขาหาหนึ่งที และพูด ต่อว่า “ผมถูกพ่อบังคับมาครับ”

ห่ะ?

ไม่เพียงเรียกประชุมตั้งแต่เช้าแล้ว ยังบีบบังคับให้ หลงจื่อมาทํางานเช้าครั้งแรกด้วย เดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลงเซียวพอคาดเตาแล้ว

“ในเมื่อมาแล้วก็ต้องยืนหยัดจนถึงที่สุด ไม่ควรหนี ระหว่างทาง”

หลง อ าเส้นผมไว้ และเผยสีหน้าไม่ค่อยยินยอม ขึ้น “พี่ใหญ่ พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบทำเรื่องที่น่าเบื่อแบบ นี้ พี่ช่วยบอกพ่อหน่อยได้ไหมว่า ไม่เอาผมไปทำงาน สำนักงานใหญ่ ปล่อยให้ผมทํางานสาขาย่อยก็ได้ ให้ผมทำงานตำแหน่งนายทุนยิ่งดีเลย”

หลงเซียวเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “หยุดพูดไร้สาระ ได้แล้ว นายเป็นคุณชายรองของตระกูลหลง ใน อนาคตต้องทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ เข้าใจไหม

ไปกันเถอะ”

คณะกรรมการมาประชุมตรงต่อเวลา พวกเขาสิบ กว่าคนนั่งอย่างเป็นระเบียบอย่างนิ่งเงียบ

หลงถึงเดินมาพร้อมผู้ป่วยและเลขามาที่ห้อง ประชุม แล้วนั่งลงตรงที่นั่งคณะกรรมการบริหาร ด้านขวาของเขามีหลงเซียวนั่งอยู่ ส่วนด้านซ้ายเป็น หัวหน้าแผนกการเงินของMBK นั่งอยู่ แต่ทั้งที่ทุกคน ก็มาถึงกันหมดแล้ว แต่มีอยู่ที่นั่งหนึ่งว่างเปล่าอย

ไม่นาน หลง อก็เดินเข้ามา

นี่เป็นการเข้าร่วมการประชุมครั้งแรกของเขา เมื่อ ก่อนระดับการศึกษาของเขายังไม่เพียงพอเลยไม่มี ตำแหน่ง ดังนั้นการมาครั้งนี้ของเขาสร้างความตื่น ตระหนกไม่น้อย

แต่เมื่อมีหลงถึงและหลงเซียวอยู่ ต่อให้ทุกคนไม่ พอใจหรือข้องใจก็ต้องปิดปากเงียบ

ภายใต้สายตาที่ข้องใจของทุกคน หลงจื่อเดินมา นั่งที่นั่งตรงข้ามกับหลงเซียว หลงจื่อยังเด็กมาก เมื่อนั่งรวมกับคณะกรรมการวัยกลางคน เหมือนกับ ต้นไม้เล็กที่ถูกห้อมล้อมด้วยต้นไม้เก่าแก่กว่าร้อยปี

หลงเชียวไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่นั่งไขว้ขาอยู่บนเก้าอี้ ของตัวเองอย่างนิ่งเงียบ ขณะเดียวกันก็พลิกอ่าน เอกสารด้วยสายตาปกติ

หลงถึงเหลือบมองหลงเซียว และกวาดตามองเหล่า คณะกรรมการ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ทุกท่านต่างรู้ดีว่า ลูกชายของผม หลงจื่อตอนนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่ MBK ระยะหนึ่ง….”

หลังจากพูดเกริ่มอย่างเรียบง่ายเสร็จ หลงถึงพูด แสดงความคิดเห็นของตัวเองว่า “นับตั้งแต่นี้เป็นต้น ไป หลงจื่อจะมารับหน้าที่ตำแหน่งผู้จัดการแผนก การเงิน”

หลงเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้จัดการแผนกการ เงิน ฟังดูแล้วตำแหน่งไม่ได้สูงมาก แต่แผนกการเงิน ถือเป็นแผนกศูนย์กลางของบริษัท เป็นแผนกที่ต้อง ดูแลชีวิตของบริษัท อีกอย่างผู้จัดการแผนกการเงิน สามารถเลื่อนขั้นเร็วที่สุด และสามารถไต่เต้าเป็นผู้ บริหารระดับสูงได้อย่างง่ายดายด้วย

เจตนาของหลงถึงชัดเจนมาก

หลงจื้อเองก็ถึงกับตกใจเหมือนกัน แค่หลงถึงให้ เขาเข้าร่วมการประชุม เขาก็มึนงงแล้ว แต่กลับมอบ ตำแหน่งผู้จัดการแผนกการเงินให้เขาอีก!

ทุกคนต่างพากันสบสายตากัน หลังจื่ออายุน้อย ขนาดนี้ จะมอบตำแหน่งสำคัญขนาดนี้ให้รับผิดชอบ ได้ยังไงกัน?อีกอย่างหลงเงไม่ให้ทุกคนลงคะแนนโหวตด้วย แต่เขามาประกาศซึ้งๆหน้า โดยไม่รับฟังความคิด เห็นของคนอื่น

หลงเขียวปรบมือขึ้น ในขณะที่ทุกคนนิ่งเงียบ และ สังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของเขา และอยากเห็น เขาระเบิดอารมณ์ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะปรบมือ แทน!

หลงจื่อหันหน้ามองพี่ชายด้วยสายตาไม่อยากจะ

เชื่อ

ในฐานะผู้อำนวยการ หลงเซียวจำเป็นต้องพูด บางอย่าง “ถึงแม้หลงจื่อจะยังอายุน้อย แต่เป็นคน มีพรสวรรค์ และมีประสบการณ์ด้านการดูแลการ เงินมากด้วย ในอนาคตเขาจะแสดงความสามารถที่ ทําให้ทุกคนพึงพอใจครับ”

หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ท่านหลงก็รีบเดินกลับ ห้องทํางานของตัวเอง หลังจากที่หลงจื่อกล่าวอ้าลา กับพ่อของตัวเองเสร็จก็รีบเดินไปที่ห้องทํางานของ หลงเชียว

“พี่ใหญ่ นี่ไม่ใช่ความต้องการของผม ผมไม่อยากเป็นผู้จัดการแผนกการเงิน ก็รู้ว่าความปราณนา ของผมไม่ได้ต้องการบริหารบริษัท

หลงจอกลัวพี่ใหญ่จะเข้าใจผิดว่า ที่ตัวเองเข้าร่วม การประชุมเพื่อต้องการตำแหน่งผู้จัดการแผนกการ เงิน และค่อยๆไต่เต้าทีละขั้นทีละขั้น จนสุดท้าย กลายเป็นคณะกรรมการบริหาร หรืออาจเป็นผู้ อ่านวยการ

หลงเชียวพยักหน้าเล็กน้อย แล้วยังไงต่อ?”

หลงจื่อมึนงงเล็กน้อย “ยังไงต่ออะไร?”

หลงเซียวพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ตำแหน่งของนายคือผู้ จัดการแผนกการเงิน จะว่าไปแล้วตำแหน่งใหญ่ก็ ไม่ใหญ่ เล็กก็ไม่เล็ก แต่ในอนาคตหน้าที่รับผิดชอบ ของนายมากขึ้น และจะเผชิญกับปัญหามากขึ้น ฉัน ไม่อยากให้นายเริ่มรู้สึกไม่สนใจงานตั้งแต่เพิ่งรับ

ตําแหน่ง

หลงเขียว : “…..”

หลงเชียวเปิดประตูห้องทำงาน และพูดขึ้นว่า “อีก อย่างแผนกการเงินมีการประเมินที่เข้มงวดมากงาน ยุ่ง นายควรเตรียมใจให้พร้อม ฉันไม่สามารถ ไม่ตกเตือนให้นายท่าผิดหรอก”

หลงจื่อรู้สึกมึนงง “พี่ใหญ่ คุณไม่ได้พูดจริงจังใช้ ไหม?”

หลงเซียวหันหลัง และพูดว่า “ฉันเหมือนคนพูด

หยอกเล่นหรอ?”

“ไม่เหมือน”

หลง อพยักหน้าด้วยความกังวล “ผมจะพยายาม

พูดจบ หลงจื่อก็ไม่รีบเกินจากไป แต่เผยสีหน้า เคร่งเครียดและครุ่นคิดสิ่งที่จะเกิดขึ้น

เมื่อหลงเซียวเห็นเขายังยืนอยู่ในห้องก็พูดขึ้นว่า ”

หลงจื้อกัดริมฝีปากเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ แล้ว แอนนา…..ไม่สิ เรื่องของพี่สะใภ้….”

คําขอโทษยังคงพูดไม่ออก เพราะในใจยังไม่ ยอมรับว่าตัวเองผิด และไม่ยอมรับว่าการชอบ แอน196556980_481936902891359_6718371172466424345_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ