ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 156 ล้วหานเข้าคุก



ตอนที่ 156 ลั่วหานเข้าคุก

ได้ยินข่าว ฉู่ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมาอย่างนิ่งเฉย คราบเลือดรอยแผลที่อยู่บนใบหน้าเป็นรอยด่างเต็ม ไปหมด แต่เธอดูเหมือนลืมความเจ็บ หูสูญเสียการ ได้ยินไปก็ไม่ปาน

คราวนี้ ต่อให้เธอกระโดดเข้าไปในแม่น้ำเหลืองก็ ชาระล้างไม่สะอาดแล้ว เธอก็ไม่อยากจะล้างแล้ว เช่นเดียวกัน

ไม่มีการอธิบายอย่างสุดความสามารถ และก็ ไม่มีการหลบหนีที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ฉี่ลั่วหาน เตรียมความพร้อมที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้แล้ว ดวงตา ที่ไฟตะเกียงมอดดับไม่รู้ว่ากำลังมองไปทางไหนอยู่ ระเบียงทางเดินที่สั่นไหวไม่หยุด เสียงร้องไห้ที่สนั่น ฟ้า เสียงด่าทอที่ดังสนั่น เงาคนที่เคลื่อนไหวอยู่ด้าน หน้า ยื่นสองมือและขายาวๆมาทางที่เธออยู่

สิ่งเหล่านี้ ต่างก็กลายเป็นเงาภาพลวงตาที่เลือน ราง ระยะห่างกับเธอไปอีกโลก ห่างไกลมาก แปลก หน้ามาก แล้วก็เยือกเย็นมากเช่นเดียวกัน
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวอย่างเงียบๆ เงียบจน เหมือนภูติตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บในฝาครอบแก้ว ปล่อยให้โลกที่อยู่ด้านนอกวุ่นวายกันตามอำเภอใจ อย่างไร้ซุ่มไร้เสียง

ฟู่เหวินฟาง โม่ล่างคุน หยวนซูเฟิน แล้วก็เกาหยิ่ง คือ รีบตามเข้ามา ทั้งสี่คนก่อตัวกันกลายเป็นสมา พันธ์การแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ หากไม่ได้ถูกหมอและผู้ รักษาความปลอดภัยทั้งเอาไว้ ฉู่ลั่วหานก็จะถูกพวก เขาตบตีจนกลายเป็นชิ้นๆไปในทันที

ตอนที่ได้ยินเกาหยิ่งจือเรียกฟูเหวินฟางว่า”น้ รอง”นั้น บนใบหน้าที่ไม่มีการตอบสนองใดๆมาโดย ตลอดของฉู่ลั่วหานในวินาทีนั้นมีการเคลื่อนไหวขึ้น มาเล็กน้อย

ที่แท้ เป็นเช่นนี้เอง

ทําไมเธอถึงได้คิดไม่ถึงนะ ระหว่างโม่หรูเฟยกับ เกาหยิ่งจือ คิดไม่ถึงว่าจะมีสายสัมพันธ์แบบนี้

ถ้างั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกาหยิ่งจือทำกับเธอ ก็ สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนแล้ว
ช่างเป็นการประชดประชันจริงๆ! วนไปวนมา ใน วงเวียนนี้ต่างก็คือคนของพวกเขา เธอเหมือนกับหนู ตัวเล็กๆสีขาวตัวหนึ่งถูกวางไว้ใต้แว่นขยาย คิดว่าตัว เองสามารถอยู่ด้านนอกของเรื่องทั้งหมดได้ กลับไม่ เคยคิดถึงเลยว่า เธอไม่เคยออกไปจากสายตาของ คนเหล่านี้มาก่อน

เธอเข้าใจทั้งหมดแล้ว

รูปถ่ายร่วมกันของเธอกับถังจิ้นเหยียน รูปที่อยู่ใน ห้องอยู่เวร เธอถูกส่งไปยังหมู่บ้านผู้ติดเชื้อเอชไอวี ตำแหน่งงานของเธอถูกปลด สิ่งเหล่านี้อธิบายขึ้นมา ราบรื่นสอดคล้องไปหมด

หลังจากที่คิดจนเข้าใจ ฉู่ลั่วหานก็ไม่ได้ตะโกนร้อง โวยวาย เธอเพียงแค่ยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นเบาๆ ยิ้ม อย่างประชดประชัน และก็ค่อนข้างจนปัญญา ยิ่ง เป็นการหัวเราะเยาะตัวเอง

“ลั่วหาน! เธอฆ่าหลานของตระกูลหลง! เธอเอา

ชีวิตมา! เอาชีวิตมา! ”

ฟู่เหวินฟางพุ่งทะลุการป้องกันของเจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัย สองมือจิกไปบนคอของฉู่ลั่วหานเบิกตาโพลงทุกคำถามที่บีบเอาคำตอบต่างก็กำลัง ป๊บให้คนหมดหนทางที่จะไปต่อได้

ฉู่ลั่วหานเงยศีรษะขึ้นมาอย่างช้าๆ มองเธอด้วย ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด “ฟู่เหวินฟาง คุณ อยากจะฆ่าฉันงั้นหรอ? ลงมือส

ฟู่เหวินฟางคิดไม่ถึงว่า ลั่วหานจะพูดคำแบบนี้ออก มา กลับทำให้ตัวเองอึ้งแทนเสียด้วยซ้ำ “เธอนึกว่า ฉันไม่กล้า! ”

ในขณะที่พูด เธอหมุนตัวชักเอาแท่งไฟออกมาจาก เอวของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ชี้ไปทางอู่ วหาน “เธอนึกว่าฉันไม่กล้า! ฉันจะฆ่าเธอ! ”

“น้ารอง! อย่าวู่วามค่ะ!

เกาหยิ่งจือวิ่งเข้ามาตั้งฟูเหวินฟางเอาไว้ “น้ารอง อีกสักครู่ตำรวจก็มาแล้ว ฆ่าคนเข้าคุก จะต้องมีคน ระบายความแค้นแทนเฟยเฟยค่ะ น้ารองลงมือตอน นี้ เสียเปรียบ หนังฆาตกรคนนี้แล้ว”

ฟูเหวินฟางน้ำมูกน้ำตาไหลเต็มหน้าไปหมดร้องไห้จนใบหน้าที่แต่งด้วยเครื่องสําอางค์เลอะ เลือน ของเหลวสีดำสนิทที่อยู่บนดวงตาเปรอะเปื้อน ไปครึ่งก่อนหน้า มุมริมฝีปากกระตุกด้วยความโมโห ท่าทางดุร้ายน่ากลัวเป็นอย่างมาก

หยวนซูเฟินนวดคลึงไปที่บริเวณหัวคิ้วอย่างเจ็บ ปวด เหวินฟาง รอตารวจมาเถอะ”

ตอนที่พูดนั้น ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก ไม่หรูเฟย ถูกคนเข็นออกมาจากด้านใน นอนพักอย่างห่อเหี่ยว ไร้เรี่ยวแรง ดวงตาทั้งสองข้างหม่นหมอง น่าสงสาร เป็นอย่างมาก มือเล็กๆยกขึ้นเล็กน้อยอย่างอ่อน ปวกเปียก เรียกออกมาคำหนึ่งอย่างอ่อนแอ “คุณ

หยวนซูเฟินเข้าไปข้างหน้า คว้ามือของโม่หรูเฟ ยมาใส่ไว้ข้างในฝ่ามือของตนเอง “ป้าอยู่จ้ะ”

น้ำตาของโม่หรูเฟยเอ่อล้นออกมาจากดวงตา เอ่ย ขึ้นอย่างน่าสงสารทั้งยังเป็นผู้บริสุทธิ์ “ขอโทษนะคะ คุณป้า หนูไม่สามารถ…รักษาลูกที่มีกับพี่เซียวเอาไว้ ได้ ขอโทษนะคะ…”

ในใจของหยวนชูเฟีนโกรธแค้น บนใบหน้ากลับไม่แสดงออกถึงการตำหนิใดๆ เธอสายศีรษะ “ไป เป็นไรจ้ะ ป้าไม่หนู นี่ไม่ใช่ความผิดของหนู”

น้ำตาที่อยู่บนใบหน้าที่ซีดเผือดของโม่หรูเฟย สะท้อนเป็นแสงที่ระยิบ “คุณป้า หนู…ปวดใจมาก เด็กคนนี้ หนูรักเขามากจริงๆ จริงๆค่ะ…

สะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออก ได้แต่หลับตาลงร้องไห้ สภาพแบบนั้น ต่อให้เป็นใครก็ตามมาเห็นต่างกั สงสารจนใจสลาย

ฟู่เหวินฟางกับโม่ล่างคนก็ตามเข้ามาด้วยเช่น เดียวกัน “เฟยเฟย ไม่ต้องเสียใจ บำรุงรักษา ร่างกายให้ดี ลูกยังมีอีกได้ เชื่อฟังแม่ ดูแลตัวเองให้

นัยน์ตาของโม่ล่างคุนมีน้ำตาเอ่อล้นออกมา เขา ใช้หลังฝ่ามือเช็ดไปที่ดวงตา กัดแน่นทุกคำพูดว่า “เฟยเฟย ลูกวางใจ ความไม่เป็นธรรมที่ลูกได้รับพ่อ จะต้องเอาคืนกลับมาให้ลูกให้ได้

เกาหยิ่ง อพยักหน้าให้กับเธอ “อีกสักครู่ตำรวจก็ มา ทางนี้ส่งให้กับพวกเราจัดการ” จากนั้นเอ่ย “น้า รอง น้าเขย ไปพักผ่อนเป็นเพื่อนเฟยเฟยเถอะค่ะ”
ฟูเหวินฟางกับหยวนซูเฟินเข้าไปในห้องผู้ป่วย บน ระเบียงทางเดินเหลือเพียงแค่เกาหยิ่งจือกับโม่ล่าง คุน ทั้งสองคนมองจากข้างบนลงไปหา ลั่วหาน เตรียมความพร้อมเพียงพอที่จะผลักเธอเข้าไปใน เหวลึกโดยสมบูรณ์แบบ

ฉู่ลั่วหานนิ่งสงบมาก เพียงแต่ตอนที่เงยหน้าขึ้นมา นั้นรอยเลือดที่เต็มไปทั่วทั้งใบหน้าทำให้คนสองคน ตกใจกันไปหมด

มือที่ขีดเผือดของเธอยันเอาไว้ที่บนหัวเข่า เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “เกาหยิ่งจือ วิธีการของเธอ ช่างดีจริงๆ”

เกาหยิ่งจือกอดอก เหลือบมองฉู่ลั่วหานที่สภาพไม่ เป็นคน ยักหางคิ้วขึ้นอย่างเย้ยหยัน “โทษก็โทษได้ แค่เธอที่ตาบอดเกินไป ใครๆต่างก็บอกว่าเธอฉลาด เกินคนสติปัญญาสูง ฉันเห็นว่า จริงๆก็ไม่เท่าไร

ฉู่ลั่วหานไม่ได้โต้แย้ง เธอหัวเราะเยาะต่อ “ให้ฉัน ใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดภายในคุก วิธีการนี้ใช้ได้ดี จริงๆ”

เกาหยิ่งจือเช็ดคางหัวเราะขึ้นอย่างประชดประชัน”เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ ฉู่ลั่วหานคือคน

ฉลาด! ”

ผู้หญิงที่อยู่บนเก้าอี้ยังคงกำลังหัวเราะอย่างนิ่ง สงบ “ดีมาก สำหรับฉันแล้วที่ไหนก็เหมือนกัน ในทุก บางทีอาจจะสะอาดกว่าหน่อย”

เธอพูดดีมากติดต่อกันมาสามครั้ง เป็นเพราะตัวเอง มองดูทุกอย่างออกมาตั้งนานแล้ว รู้สึกว่าอะไรต่างก็ ไม่มีความหมายแล้วจริงๆ จะตายยังไงก็ช่าง

โม่ล่างคุนกลับไม่ได้พูดอะไรออกมา เป็นเพราะ เขารู้สึกไม่คุ้มค่าที่สนทนากับฉู่ลั่วหาน ยิ่งรู้สึกไม่คุ้ม ค่าที่จะมีส่วนร่วมใดๆกับผู้หญิงชั้นต่ำสารเลวคนหนึ่ง

“พี่สะใภ้ใหญ่! นี่เกิดเรื่องอะไรกันขึ้น? หมอ ปากมากพวกนั้นในโรงพยาบาลกำลังพูดจาไร้สาระ ใช่หรือเปล่า!

จากห้องICUมากถึงแผนกสูติ-นรีเวช ตอนที่หลง อได้ยินข่าวได้สายเกินไปหน่อยแล้ว เขาวิ่งมาถึง แผนกสูติ-นรีเวช มองเห็นเหล่าตำรวจกำลังรวมตัว กันอยู่
ลุกยืนขึ้น บนมือสวมกุญแจมือที่เย็นเฉียบ เธอ มือขึ้น เสียงกระทบกันของโลหะถูกส่งออกมา “เป็นเรื่องจริง”

หัวใจของหลง จื่อแทบจะตกใจจนแยกออกจาก กัน มุมริมฝีปากสั่นสายศีรษะอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ “เป็นไปไม่ได้ ผมเชื่อว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของผมไม่มีทาง ทําเช่นนี้โดยเด็ดขาด! ”

ในขณะที่ตะโกนร้อง หลงจื่อกระชากแขนของ ตำรวจเอาไว้ ปล่อยเธอ! พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอ คือใคร! เธอคือภรรยาของ! คือคุณหญิง ของตระกูลหลง! ”

ตำรวจไม่มีความลังเล แขนกั้นแยกหลงจื่อออก หน้าที่ก็คือหน้าที่ ไม่คำนึงถึงเลยแม้แต่น้อยว่าคู่ กรณีนั้นคือใคร นี่คือความยินยอมของหยวนซูเฟิน ไม่ต้องพูดถึงว่าคือภรรยาของหลงเชียว ต่อให้หลง เขียวมาด้วยตัวเอง เกรงว่าก็ต้องผ่านด่านแม่ของตัว เองไปก่อน

คุณชายรองหลง กรุณาหลีกทาง อย่าขัดขวาง การดำเนินงานของพวกเรา”
“ไปทํางานของพวกคุณ ! คนที่คุณจะพาไปตอนนี้

คือพี่สะใภ้ใหญ่ของผม! ปล่อยเธอ! “

ไอ้พวกสารเลว!

ฉู่ลั่วหานมองดูท่าทีที่โมโหจนแทบจะเสียสติของ หลง อด้วยความนิ่งสงบ เอ่ยปลอบใจว่า “ไม่ต้อง แล้วหลง อ พี่จะอธิบายให้ชัดเจนเอง เธอใจเย็น หน่อย ไปอยู่เป็นเพื่อนพี่ใหญ่ของเธอ แล้วก็ ตอนนี้ เขาไม่สามารถรับแรงกระตุ้นได้ จะให้เขารับรู้ข่าว สารใดๆไม่ได้ หากเป็นไปได้ล่ะก็ ปิดข่าวเอาไว้

นี่คือคำขอร้องครั้งสุดท้ายจากเธอแล้ว

หัวใจของหลงเชียวได้รับความเสียหาย สอง หากได้รับแรงกระตุ้น จะอันตรายมาก

หลงจื่อไม่ยอม หากพี่ใหญ่เป็นปกติดีอยู่ คนเหล่านี้ ลองกล้าแตะนิ้วมือแม้เพียงนิ้วเดียวดู!

อยู่ๆเขาก็รู้สึกโทษตัวเองรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่าง กะทันหัน เกลียดที่ตัวเองไม่มีความสามารถและ อิทธิพลเหมือนกับพี่ใหญ่ ไม่สามารถปกป้องคนที่ตัว เองอยากจะปกป้องได้
“พี่สะใภ้ใหญ่ ผมจะคิดหาวิธีให้ได้

โม่ล่างๆนเอ่ย “หลงจี๋อ ฉู่ ว านตั้งใจทําร้าย เฟยเฟย ทำให้เธอแห้ง ลูกของเฟยเฟยกับพี่ใหญ่ เธอไม่อยู่แล้ว ฉู่ลั่วหานมีความรับผิดชอบที่ไม่ สามารถจะปัดออกไปได้ อย่าขัดขวางการทํางาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอหลีกไปก่อน”

หลงจื่อเดินไปทางโม่ล่างๆนเล็กน้อย ยกมุมริม ฝีปากด้านนึงขึ้น หัวเราะขึ้นอย่างอันธพาลทั้งยังชั่ว ร้าย แท้งหรอ? พี่หรูเฟยโชคดีจริงๆ ต่อไปไม่ต้อง อุ้มท้องสิบเดือนล่ามากขนาดนั้น ท่านว่า เรื่องที่ดี ขนาดนี้ ดีแค่ไหนกัน

“หลงจื่อ! กล้าพูดขั้วมาอีกประโยคนึง! “ดวงตา ที่ดุร้ายของโม่ล่างคุนเบิกกว้าง สายตาดุดันที่ฉลาด ในการวางแผนคับแคบชั่วร้ายเป็นอย่างมาก

หลงจื่อหัวเราะร่า “ลุงโม ที่ผมพูดหรือว่าไม่ใช่ ครับ? อย่าวู่วาม โมโหจนเป็นอันตรายต่อชีวิต ผมก็ ต้องเข้าคุกด้วยใช่หรือเปล่า?

เกาหยิ่งจือเดินแซงขึ้นมาหนึ่งก้าว ขวางไว้ที่ด้าน หน้าของหลง อ “คุณชายรองหลง ก่อกวนโดยไร้ เหตุผลไม่มีความหมายอะไร อย่าทําตัวเป็นเด็ก ขนาดนี้”

ต่อให้เขาก่อกวนมากกว่านี้ ไร้เหตุผลสร้างความ วุ่นวายมากกว่านี้ ฉี่ลั่วหานก็ยังคงถูกพาขึ้นรถ ตำรวจอยู่ดี

บ้าจริง! คิดไม่ถึงว่าจะกล้าให้พี่สะใภ้ใหญ่ของเขา นั่งรถตำรวจ! ใส่กุญแจมือ! ไอ้พวกสารเลว!รอ รับความตายเถอะ!

หลงจื้อขึ้นลิฟต์ด้วยความโมโหจนถึงขีดสุด แต่พอ เข้ามาในลิฟต์คิดถึงคำที่ฉู่ลั่วหานพูด ก็กลัดกลุ้มจน ชกไปบนผนังเหล็กของลิฟต์ จุดที่กระดูกนูนออกมา ด้านหลังฝ่ามือมีเลือดไหลทะลักออกมา

หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น นิ้วของเขากดไปที่ชั้น24

“ถังจิ้นเหยียบ! ”

หลงจื่อเข้าประตูมาก็ร้องเรียกชื่อนามสกุลของถังจิ้นเหยียนภายในทันที “ถังจิ้นเหยียน คุณออกมาเ

ถังจิ้นเหยียนทําการผ่าตัดบวกกับตรวจห้องผู้ป่วย ในตอนกลางวัน ช่วงบ่ายเหนื่อยมากจริงๆ จึงได้นอน พักที่ห้องทํางานของตัวเองสักครู่ คิดไม่ถึงว่าคนที่ เรียกเขาตื่นจะเป็นหลงจี๋อ

“เกิดอะไรขึ้น?”

ถังจิ้นเหยียนนวดคลึงไปบนบริเวณหัวคิ้ว งานที่ ต่อเนื่องทําให้สีหน้าของเขาในตอนนี้เหนื่อยล้าเป็น อย่างมาก

หลงจื่อไม่อ้อมค้อม ไม่มีการให้เขาเตรียมใจใดๆ “พี่สะใภ้ใหญ่ของผมถูกตำรวจพาไปแล้ว”

คุณพูดอะไรนะ! ”

ขึ้นมาบนรถ หลงจื่อนำต้นสายปลายเหตุทั้งหมด ของเรื่องพูดไปจนจบหนึ่งรอบ ถังจิ้นเหยียนกำหมัด ทุบไปบนพวงมาลัยรถยนต์ด้วยความหงุดหงิดปวด

ใจ “คนโง่!
หลง อ ง งไป ขณะ ” โครโง?”

ถังจิ้นเหยียนกวาดตามองไปยังใบหน้าที่หล่อเหลา อ่อนเยาว์ของหลงจื้อ “พี่สะใภ้ใหญ่ของคุณ”

“คุณกล้าด่าพี่สะใภ้ใหญ่ของผม ! ” หลงจื่อยกมือ กระชากคอเสื้อของเขาเอาไว้จะต่อย

ถังจิ้นเหยียนออกแรงขัดขืน หลุดออกมาจากมือ ของเขาอย่างราบรื่น ไม่ใช่แค่โง่ ยังทำให้ตัวเองพัง พินาศ! ”

“คุณลองพูดอีกประโยค! ”

ถังจิ้นเหยียนไม่สนใจความโมโหของเขาอีกต่อ ไป “เวลาแบบนี้ ทางที่ดีที่สุดก็คือนิ่งเงียบ รอทนาย เข้ามาจัดการ พี่สะใภ้ใหญ่ของคุณเธอคือ…เธอคือ อยากจะเอาตัวเองส่งเข้าไปในตาราง

“คุณนี่มันพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอะไร! พี่สะใภ้ใหญ่ของผม ไม่มีทางทําแบบนี้แน่!

ช่างเถอะ ถังจิ้นเหยียนไม่อยากพูดกับเด็กคนหนึ่ง มากเกินไป
รถมาถึงสถานีตำรวจ ถังจิ้นเหยียน เสนอเข้าพบ

ฉู่ลั่วหาน

แต่ฉ่ลั่วหานปฏิเสธที่จะพบไม่ว่าใครก็ตาม

หลงจื่อร้อนรนจนใช้มือจิกหัว “พี่สะใภ้ใหญ่นี่กำลัง ทําอะไรอยู่? ทำไมไม่พบ?”

ถังจิ้นเหยียนใช้มือทาบหน้าผาก ออกแรงนวดไป บนขมับ “อีกสักครู่ทนายก็เข้ามา จะต้องรีบพบเธอ ก่อนที่พี่สะใภ้ใหญ่ของเธอจะยอมรับความผิดให้ได้ ไม่ว่าเธอจะอยากตายแค่ไหน ก็ยอมรับผิดไม่ได้เป็น อันขาด! ”

หลงจื่อมึนงงไปหมด “อะไรกับอะไร! พี่สะใภ้ ใหญ่ของผมจะอยากตายได้ยังไงกัน! คุณนี่มัน หุบปาก! ”

ทนายมาถึงสถานที่ ฉู่ลั่วหานในฐานะที่ถูกฟ้อง จําเป็นต้องเผชิญหน้ากับคำให้การตามขั้นตอนปกติ

กั้นด้วยโต๊ะยาวตัวหนึ่ง ฉู่ลั่วหานนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว บนใบหน้ายังมีรอยเลือด ริมฝีปากแห้งและซีดเผือด เส้นผมปกคลุมอยู่บนร่างกาย คนทั้งคนแห้ง

เหี่ยวราวกับผู้ลี้ภัย

ถังจิ้นเหยียนหายใจด้วยความเจ็บปวดจนหัวใจ แทบจะแตกออกเป็นสองซีด พยายามเอ่ยขึ้นอย่าง นิ่งสงบ “ลั่วหาน ผมเชื่อว่าโม่หรูเฟยไม่ใช่คุณที่จงใจ ทำร้าย ดังนั้นคุณจะยอมรับไม่ได้ หากคุณยอมรับ ก็ จะต้องใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอยู่ที่นี่จริงๆแล้ว”

ฉู่ลั่วหานเงยหน้าขึ้น ดวงตาว่างเปล่ามืดหม่น “หลง เขียวเป็นยังไงบ้างคะ? เขาไม่ได้ยินข่าวใช่หรือ เปล่า? สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ไม่สามารถรับ แรงกระตุ้นได้แม้แต่นิดเดียว ยิ่งไม่สามารถโมโห คุณรู้นะคะ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ